ที่มา
thaifreenewsเมื่อวันที่ 25 ต.ค. นาย
อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวในรายการ “เชื่อมั่นประเทศไทยกับนายกฯ อภิสิทธิ์” ในช่วงที่นาย
สุทธิชัย หยุ่น เป็นผู้ดำเนินรายการ โดยกล่าวถึงชีวิตการเป็นนายกรัฐมนตรี โดยยืนยันว่าไม่เคยคิดว่าการเข้ามาดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเป็นการตัดสินใจ ผิด เพราะเลือกที่จะมาทำงานการเมืองเอง และสนุกกับการทำงานการเมือง เพราะนอกจากการจะต้องทำตามหน้าที่แล้วยังมีความเชื่อว่าหากจะทำอะไรได้ดี ต้องสนุกกับสิ่งนั้น ถ้าไม่สนุกก็ไม่ควรทำ เพราะจะทำได้ไม่ดี และจากที่ได้อยู่กับการเมืองมาตลอดทราบดีว่าการเมืองคือการแก้ปัญหา และไม่มีวันที่ปัญหาจะหมดไป แต่จะมีปัญหาใหม่ๆ เกิดขึ้นอยู่เรื่อยๆ จึงมีหน้าที่ที่จะต้องแก้ไขปัญหาไป
“ขณะเดียวกันก็จะไม่ให้ปัญหามาบดบังสิ่งที่ต้องการจะทำในระยะยาวด้วย ผมสนุกกับการแก้ปัญหา ความสนุกมันอยู่ตรงที่เราพยายามเปลี่ยนแปลงบ้านเมือง สังคม ให้ดีขึ้น มีหลายเรื่องที่เราใฝ่ฝันว่าประเทศไทยน่าจะต้องมี เช่น ระบบสวัสดิการที่ดี ซึ่งเราได้เริ่มไปหลายเรื่องแล้ว ทั้งระบบเงินออม เรียนฟรี เบี้ยยังชีพ ปรับปรุงระบบสุขภาพ การที่เรามีส่วนผลักดันให้มันเกิดขึ้น เมื่อเวลาผ่านไป 5-10 ปี ระบบเหล่านี้เติบโตขึ้น คนไทยมีความมั่นคง มีสวัสดิการ นี่คือสิ่งที่เราพึงพอใจ แต่การที่เราอยากจะทำนั่นทำนี่ได้มันไม่ได้อยู่ที่เราคนเดียว ผมศึกษาสนใจเรื่องการเมืองประชาธิปไตย ไม่มีแล้วที่จะคิดว่าใครคนหนึ่งจะทุบโต๊ะชี้นิ้วให้ทุกอย่างเป็นไปตามที่ ต้องการได้ ไม่ว่าจะเป็นประเทศที่เป็นหรือไม่เป็นประชาธิปไตย เพราะที่สุดแล้วถ้าเราอยากให้สิ่งที่เราอยากทำเกิดขึ้นได้เราต้องชวนคนทั้ง ประเทศ ทั้งสังคม ให้อยากได้และอยากทำด้วยกัน เป็นเรื่องที่ท้าทายดี”
ส่วนที่ต้องถูกวิพากษ์วิจารณ์ตลอดเวลานั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เป็นเรื่องต้องยอมรับว่าการเมืองเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ที่ทุกคนจะเห็น ตรงกันหมด และไม่มีใครชอบถูกวิจารณ์ แต่ก็ต้องรับฟัง หากจะถามว่าหงุดหงิดบ้างหรือไม่ บางครั้งก็หงุดหงิด ถ้าการวิจารณ์นั้นไม่อยู่กับข้อเท็จจริง ไม่มีเหตุผลเท่าใด และบางครั้งอาจมีวาระแอบแฝง แต่ถ้าเป็นการวิจารณ์ที่ทำให้มองเห็นปัญหาก็เป็นเรื่องที่ต้องขอบคุณ และบางเรื่องก็ชี้แจงว่าเป็นมุมมองที่อาจแตกต่างกัน
“ส่วนข้อสงสัยเรื่องภาวะการเป็นผู้นำนั้น ไม่ต้องการประเมินตัวเอง แต่ตลอดระยะเวลาทำงาน 10 เดือนที่ผ่านมาก็ได้พบกับหลายบททดสอบ ซึ่งไม่ใช่สถานการณ์ปกติ ส่วนที่มองว่ารัฐบาลจะไปไม่รอดก็แล้วแต่มุมมอง เวลาอยากจะบอกว่าเป็นเด็กอ่อน ไม่เข้มแข็งก็พูด แต่บางทีก็บอกเด็กดื้อ ผมก็ไม่รู้ว่าเด็กหรือเปล่า แต่เด็กเขาก็ไม่นับว่าผมเป็นเด็กเพราะอายุพอสมควรแล้ว แต่ผมก็กล้าให้เปรียบเทียบได้ว่า ถ้าบอกว่าเด็กคือไม่มีวุฒิภาวะ ตอบผมมาว่าไม่มีวุฒิภาวะเรื่องอะไร เรื่องความสามารถ จริยธรรม อารมณ์ ตรงไหนบกพร่องให้บอกมา”
ต่อข้อถามว่านายกรัฐมนตรี ถูกมองว่าไม่มีความเด็ดขาด และซื้อเวลาในบางเรื่องเพราะไม่กล้าตัดสินใจ โดยเฉพาะเรื่องการแต่งตั้งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ไม่ใช่เรื่องการซื้อเวลา เพราะได้พูดถึงจุดยืนของตัวเองชัดเจน แต่ยังมีความแตกต่างทางความคิดของคณะกรรมการนโยบายตำรวจแห่งชาติ (ก.ต.ช.) และพยายามหาทางไม่ให้เกิดความขัดแย้งรุนแรง เมื่อถามว่า มีบางเรื่องที่มีปัจจัยที่อยู่นอกเหนือการควบคุมเกี่ยวข้องหรือไม่ นายกรัฐมนตรี ยอมรับว่า มี ซึ่งเป็นเช่นนี้ทุกๆ เรื่อง เช่นกรณีวิกฤติเศรษฐกิจที่ได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจโลก ซึ่งอยู่นอกเหนือการควบคุมเช่นกัน