ที่มา ไทยรัฐ
รัฐบาล “อภิสิทธิ์” กำลังติดหล่มตัวเอง 2 รัฐมนตรีดูท่าจะรอดยาก อีก 3 รัฐมนตรีก็อยู่ในข่าย นายกฯ บอกกลับมาจากสวิสต้องคิดบัญชี “ลูกพี่” สั่งลุยทัพเสื้อแดงได้ทีชุมนุมใหญ่หวังล้มให้ได้
ข่าว “เขย่าขวด” สุดสัปดาห์นี้ดูเหมือนว่าการเมืองจะเดินเข้าสู่จุดอับอีกครั้งเมื่อกลุ่มเสื้อแดงเปิดฉากเล่นงานรัฐบาลอย่างเต็มรูปแบบ
อยู่ที่ว่าจะกะเกณฑ์กันมาร่วมมากน้อยแค่ไหนเท่านั้น เพราะมีการวางเป้าหมายชัดเจนแล้วจะไปล้อมทำเนียบฯเพื่อกดดันรัฐบาลด้วยข้อเรียกร้อง 3 ประการ
1. ให้ปลด “กษิต ภิรมย์”
2. ให้จัดการดำเนินคดีพันธมิตรฯปิดสนามบิน
3. ให้ยุบสภา
ได้มีการประกาศแล้วการชุมนุมครั้งนี้จะยืดเยื้อไม่ใช่ไปเช้ากลับเย็นอย่างที่ผ่านมา เรียกว่าให้รัฐบาลนับถอยหลังได้เลย
งานนี้ต้องบอกว่าวัดกำลังภายในหวังแพ้-ชนะกันเลยทีเดียว
หยุดตรงนี้ไว้ก่อนไปว่ากันถึงเวทีสำคัญการประชุมเวิลด์ อีโคโนมิก ฟอรัม ที่สวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งจะมีผู้นำโลก เจ้าของธุรกิจยักษ์ระดับ ผู้เชี่ยวชาญด้านเศรษฐกิจ การเงิน การคลัง
ระดับครีมของโลก...ว่างั้นเถอะ
ในการนี้ “อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ” นายกฯไทย ก็โผล่ไปร่วมประชุมด้วย นัยว่าจะแสดงวิสัยทัศน์ต่อวิกฤติเศรษฐกิจ แนวทางแก้ไข รวมถึงชี้แจงการแก้ปัญหาการเมือง-เศรษฐกิจของไทยและเน้นว่าไทยอยู่ในภาวะปกติแล้ว
สิ่งสำคัญก็คือทำอย่างไร พูดอะไรเพื่อให้นานาประเทศมั่นใจในประเทศไทยจะได้ กลับเข้ามาลงทุน เข้ามาท่องเที่ยว
เหนืออื่นใด เมื่อเวทีนี้เป็นเวทีโลก ขณะที่โลกกำลังประสบวิกฤติเศรษฐกิจอย่างรุนแรงก็ไม่ต้องแปลกใจที่สหรัฐฯถูกยำเละตามระเบียบ
ผู้นำรัสเซีย ผู้นำจีนประกาศชัดเจนสหรัฐฯคือต้นเหตุแห่งวิกฤติ
นายกฯปูติน แห่งรัสเซีย ระบุว่าวาณิชธนกิจที่เคยภาคภูมิใจของวอลล์ สตรีท ได้สูญพันธุ์จนหมดสิ้น หรือนายกฯเหวิน เจียเป่า แห่งจีนอัดสหรัฐฯว่าสถาบันการเงินที่แสวงหากำไรอย่าหน้ามืดตามัวและปราศจากวินัยของตนเอง
นั่นหมายถึงสหรัฐฯภายใต้การนำของจอร์จ ดับเบิลยู. บุช อดีตประธานาธิบดีที่พ้นจากเก้าอี้ไปแล้ว แต่ผู้นำคนใหม่อย่าง “บารัก โอบามา” ได้ฟังก็คงหูชาเหมือนกัน
เพียงแต่ว่าไม่ได้มาร่วมประชุมครั้งนี้ด้วยเท่านั้น
แต่ “โอบามา” กำลังวุ่นอยู่กับการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจของสหรัฐฯที่ลุ้นสภาจะอนุมัติเงินกระตุ้นเศรษฐกิจหรือไม่ แต่ก็คงจะต้องผ่านเพราะไม่มีทางเลือกอย่างอื่น
แม้แต่จะผ่านงบก้อนใหญ่นี้ก็ยังไม่รู้ว่าจะแก้ได้หรือไม่ เพราะมันกินลึกเข้าไปในจุดสำคัญทั้งนั้น ล่าสุด “โอบามา” ไม่พอใจอย่างยิ่งที่สถาบันการเงินในวอลล์ สตรีท ยังจ่ายโบนัสให้ผู้บริหาร พนักงานในวงเงินมากพอสมควร
เพราะรัฐเพิ่งเอาเงินภาษีของประชาชน “อุ้ม” สถาบันการเงินต่างๆที่กำลังจะล้ม แต่สถาบันการเงินกลับมาทำอย่างนี้มันสมควรหรือไม่
ก็อย่างเมืองไทยรัฐวิสาหกิจบางแห่งไม่ ยอมรับความจริงทางเศรษฐกิจยังพยายามจะจ่ายโบนัสกันอีกแบบนี้มันต้องประจานกันแล้ว
นายกฯไทยจะโชว์ทีเด็ดอย่างไรต้องรอดูชม แต่สภาพรัฐบาลที่บริหารมาได้ไม่กี่วันกลับเจอปัญหารอบด้าน 2 รัฐมนตรีโดนดีเรื่องปลากระป๋องเน่า แจกเงินพร้อมนามบัตรและใบสมัครสมาชิกพรรค
ดูท่าจะรอดยาก
หรือ 3 รัฐมนตรีดันไปยกมือสนับสนุนงบประมาณกลางปีก็ลำบากอีก ต่างๆเหล่านี้ล้วนทำให้เกิดผลกระทบต่อรัฐบาลโดยตรง แทนที่ จะเดินหน้าเพื่อเสถียรภาพของความมั่นคงกลับต้องมาเจอเรื่องไม่เข้าท่าอย่างที่กำลังเกิดขึ้น
แบบนี้ต้องเรียกว่าเข้าทาง “แม้ว”
ดังนั้น อย่าได้สงสัยว่ากลุ่มเสื้อแดงทำไมถึงคึกคัก พร้อมรบ และมั่นใจว่าจะเผด็จศึกรัฐบาลได้ในอีกไม่ช้าไม่นานนี้
เพราะ “เงื่อนไข” มันเหมาะที่สุดที่จะทุ่มครั้งสุดท้าย!!!
“ลิขิต จงสกุล”