วันอาทิตย์ที่ 15 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2552

"แม้ว"โฟนอินเสื้อแดง ลันยอมตาย ฉะทหาร-แค่ยาม

ที่มา ข่าวสด
ร่ายยาวไม่อยู่อย่างแพ้ ตร.กันวุ่น2ม็อบอุดรฯ




แดงพรึบ- แกนนำนปช.จัดงานระดมทุนดำเนินกิจกรรมทางการเมือง มีบรรดาชาวเสื้อแดงมาร่วมงานอย่างล้นหลาม เมื่อเย็นวันที่ 14 ก.พ. ที่วัดไผ่เขียว ย่านดอนเมือง ซึ่งพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ได้โฟนอินเข้ามาปลุกใจด้วย

"ทักษิณ" ไม่เลิก โฟนอินเวทีนปช. กินโต๊ะจีนวัดไผ่เขียว ดอน เมือง ด่ากราดหลังยึดอำนาจ ทหารมาเป็นรัฐบาล โวยเหมือนยึดบริษัทแล้วให้ยามมาบริหาร ลั่นพร้อมกลับประเทศทุกเวลา แม้ถูกฆ่าตายก็ยอม ร่ายยาวเป็นคนพูดดีๆ รู้เรื่อง ถ้าโดนกลั่นแกล้งตายเป็นตาย ดีกว่าอยู่อย่างผู้แพ้ อ้างอีกเพราะทะลึ่งรับใช้ประชาชนมากเกินไป เลยต้องถูกขจัด ขณะที่เวทีพันธมิตรฯสัญจรที่อุดรธานี หลายจังหวัดทยอยร่วมงาน ปิดสวนสาธารณะกลางเมือง การ์ดขึงลวดหนามป้องกัน ด้านตร.ระดมกำลังตั้งจุดตรวจค้น เจอทั้งปืน กระสุน มีด หนังสติ๊ก หวิดเผชิญหน้าปะทะม็อบเสื้อแดง ที่ตั้งขบวนแห่ขับไล่ เจ้าหน้าที่สับรางกันวุ่น ส่วน"สุริยะใส"โต้จัดเวทีสัญจร ไม่ใช่การเผชิญหน้า จะชุมนุมไปให้ถึงเช้า อ้างเพื่อความปลอดภัย

"มาร์ค"สั่ง"เทือก"คุม2ม็อบอุดรฯ

เมื่อวันที่ 14 ก.พ. ที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงการชุมนุมของกลุ่มเสื้อแดงและเสื้อเหลือง จ.อุดร ธานี ว่า มอบนโยบายให้นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ดูแลไม่ให้เกิดความรุนแรง ทางเจ้าหน้าที่ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ขอให้ทุกฝ่ายใช้สิทธิเสรีภาพของตัวเองให้อยู่ในขอบเขต นั่นถือเป็นสิ่งที่ดีที่สุด

ด้านนายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รมว.มหาดไทย กล่าวว่า ไม่น่าจะมีอะไร เพราะผวจ.อุดรธานีรายงานมาแล้วว่า ทั้ง 2 ฝ่ายชุมนุมอยู่ห่างไกลกัน และสั่งการให้เจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องทั้งจังหวัด ดูแลให้เกิดความปลอดภัยอย่างเต็มที่

ที่พรรคประชาธิปัตย์ น.พ.บุรณัชย์ สมุทรักษ์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ แถลงว่า สถานการณ์การ เมืองในขณะนี้ ยังมีปัญหาอยู่ แม้รัฐบาลจะพยายามหาทางออกจากวิกฤต แต่ยังมีการเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่องจากฝ่ายต่อต้าน โดยขับเคลื่อนทั้งในสภา นอกสภา และในต่างประเทศ พรรคจึงขอสนับสนุนแนวทางของรัฐบาล ในการยึดมั่นแก้ไขปัญหาทาง การเมืองต่อไป และมุ่งมั่นสร้างการมีส่วนร่วมจากภาคประชาชน

"เทพไท"ชี้แจงเหตุฟ้อง"จตุพร"

ที่จ.นครศรีธรรมราช นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส. นครศรีธรรมราช และโฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงนายกฯ ยื่นฟ้องนายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย ในข้อหาหมิ่นประมาทว่า จริงๆ แล้วนายกฯ ไม่อยากจะดำเนินคดีกับนักการเมืองด้วยกัน แต่นายจตุพรพยายามจงใจใส่ร้ายนายอภิสิทธิ์เรื่อยมา ไม่เคยหยุดยั้ง ทั้งที่นายอภิสิทธิ์อดทนมาตลอด การฟ้องครั้งนี้ นายจตุพรพยายามใส่ร้ายนายอภิสิทธิ์ หากไม่ดำเนินคดีทำให้คนเข้าใจผิดว่าเป็นจริงตามนั้น ทั้งที่นายอภิสิทธิ์ ทำตามระเบียบปฏิบัติที่กำหนดมาจากสำนักพระราชวังแนะนำ

นายเทพไทกล่าวว่า การฟ้องครั้งนี้ทนายความขอประธานศาล ให้นับโทษที่ลงกับจำเลยในคดีนี้ต่อจากคดีอื่นๆ อีก 5 คดี ทั้งหมดไม่ได้เป็นเรื่องโกรธแค้นอาฆาตส่วนตัว แต่ต้องชี้ให้เห็นว่าการเป็นนักการเมืองไม่มีสิทธิเหนือบุคคลธรรมดา ไม่มีสิทธิพิเศษอื่นใด ที่จะกล่าวร้ายผู้อื่น หรือมีเจตนาทำลายทางการเมือง โดยเฉพาะการใส่ความที่เกี่ยวกับเบื้องสูงโดยปราศจากข้อเท็จจริง นายจตุพรต้องรับผิดชอบ และต้องไปสู้คดีอาญา สำหรับคดีแพ่งที่จะฟ้องตามมายังมีอายุความภายใน 1 ปี ต้องปรึกษากับทนายความอย่างไรต่อไป

ฉะอีก"เสื้อแดง"หาทุนจัดฉาก

โฆษกหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการชุมนุมของม็อบเสื้อแดงว่า ไม่มีท่าทีหยุดยั้ง และเพิ่มความรุนแรงอย่างเห็นได้ชัด คนเหล่านี้จะรับผิดชอบกับเหตุการณ์ในอนาคตอย่างไร วันที่ 14 ก.พ. นัดชุมนุมหาทุนในวันวาเลนไทน์ อยากถามต่อว่าเงินที่หาทุนโต๊ะจีนที่โรงแรมมิราเคิล วันก่อนยังไม่เพียงพอหรือ หรือเป็นการจัดฉากให้เห็นภาพว่าการเคลื่อน ไหวของเสื้อแดงไม่มีคนหนุนหลัง ทั้งที่เจ้าของม็อบเสื้อแดงตัวจริง โฟนอินเปิดเผยตัวจริงให้คนทั้งสังคมเห็นแล้วในที่ประชุมส.ส.พรรคเพื่อไทย ที่เขาใหญ่ ไม่กี่วันที่ผ่านมา

"ท่อน้ำเลี้ยงของกลุ่มเสื้อแดง ไม่ได้มาจากการจัดเลี้ยงหาทุนที่ผ่านมาอย่างแน่นอน การจัดเลี้ยงเป็นเพียงการสร้างภาพจัดฉากให้เห็นว่าม็อบเสื้อแดงบริสุทธิ์ ไม่มีการเมืองแอบแฝงหนุนหลัง ทั้งที่สังคมรู้ว่าใครอยู่ข้างหลัง ใครเป็นเครื่องมือหรือลูกจ้างบริการจัดการความเคลื่อนไหว วันนี้รัฐบาลประกาศชัดเจนว่าต้องการสมานฉันท์ และความปรองดองในชาติ ไม่อยากให้ฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดสร้างเงื่อนไขขัดแย้งในสังคม ไม่ว่าเสื้อแดง เสื้อเหลือง เพราะบ้านเมืองบอบช้ำมามาก ความเชื่อมั่นกำลังกลับคืนมาแล้ว หากกลุ่มคนเหล่านี้เห็นประโยชน์ประเทศชาติ ควรชะลอความเคลื่อนไหว ให้โอกาสรัฐบาลจัดการแก้ปัญหาความแตกแยกในชาติ ด้วยหลักธรรมาภิบาลภายใต้นิติรัฐ ที่คนในชาติต้องอยู่ภายใต้กฎหมายเดียวกัน" นายเทพไท กล่าว

"ยะใส"โต้ยั่วยุ-จัดพธม.สัญจรอุดรฯ

ด้านนายสุริยะใส กตะศิลา อดีตผู้ประสานงานพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กล่าวถึงการเดินทางไปร่วมการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรฯ ที่ จ.อุดรธานี ว่า ไม่ใช่การไปยั่วยุ เพียงแต่ต้องยอมรับถึงสิทธิในการแสดงความคิดเห็นของประชาชน หากกลุ่มเสื้อแดงไม่พอใจ ก็สามารถตั้งเวทีแสดงจุดยืนได้ แต่ไม่เห็นด้วยกับการใช้ความรุนแรง หรือการเผชิญหน้า สำหรับกลุ่มพันธมิตรฯ ก็กำชับไปยังการ์ดที่มาจากส่วนกลาง และกลุ่มผู้ชุมนุมที่จ.อุดรฯ ว่าให้หลีกเลี่ยงการเผชิญหน้าอย่างเด็ดขาด ขอยืนยันว่ากลุ่มพันธมิตรฯ ต้องการให้เกิดความสมานฉันท์ โดยรูปแบบงานจะมีปราศรัย และคิดว่าจะพยายามดึงเวทีให้ไปถึงเช้า เพราะหากเลิกตอนกลางคืน อาจจะเกิดอันตรายต่อกลุ่มผู้ชุมนุมได้

บุกอุดรฯ - กลุ่มพันธมิตรฯ นับหมื่น คน ชุมนุมใหญ่ในสวนสาธารณะหนองประจักษ์ศิลปาคม อุดรธานี โดยบรรดาแกนนำขึ้นเวทีปราศรัย ไม่มีเหตุรุนแรงเกิดขึ้น เนื่องจากตำรวจสกัดม็อบทั้งสองฝ่ายอย่างเข้มข้น เมื่อค่ำ 14 ก.พ.



ที่สนามกอล์ฟกองทัพบก พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์กรณีที่นายกฯ ระบุว่าขอกำลังทหารให้ไปดูแลความสงบเรียบร้อยที่จ.อุดรธานี ว่า ไม่มี ไม่ได้ส่งทหารเข้าไปดูแล เพราะเชื่อว่าตำรวจจะดูแลความสงบได้ สถานการณ์ไม่มีอะไร

เสื้อเหลืองปิดสวน-ขึงลวดหนาม

สำหรับความเคลื่อนไหวของกลุ่มม็อบพันธมิตรฯ เสื้อเหลือง และม็อบเสื้อแดง โดยเฉพาะการจัดงานของกลุ่มพันธมิตรฯ ที่สวนสาธารณะหนองประจักษ์ศิลปาคม จ.อุดรธานี นั้น ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จัดแต่งเวทีเสร็จเรียบร้อยแล้ว โดยกลุ่มพันธมิตรฯ จากจังหวัดต่างๆ ทยอยกันเข้ามากลางเต็นท์รอบๆ หนองน้ำในสวนสาธารณะ โดยมีกลุ่มนักรบศรีวิชัยเป็นการ์ดดูแลความสงบเรียบร้อย ทั้งในบริเวณสวนสาธารณะ และปากทางเข้า เปิดให้เข้าเพียงประตูใหญ่ทางเดียว มีการ์ดคอยตรวจคนเข้าออกอย่างละเอียด

ผู้สื่อข่าวรายงานต่อว่า นอกจากนี้ การ์ดพันธมิตรฯ ยังไปตั้งเครื่องกีดขวางรั้วลวดหนาม บริเวณถนนรอบนอกสวนสาธารณะ ตั้งแต่พ้นปากทางเข้าโรงพยาบาลศูนย์อุดรธานี ถนนเพาะนิยม ที่บริเวณทางแยกหน้าศาลเทพารักษ์ ถนนศุภกิจจรรยา ที่ถนนเทศา หลังจวนผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี ขณะที่ตามเต็นท์ต่างๆ ขึ้นชื่อกลุ่มพันธมิตรฯจากจังหวัดต่างๆ เอาไว้ อาทิ กาญจนบุรี เพชรบุรี และสระบุรี เป็นต้น

ม็อบแดงก็พรึบ-ตร.ตั้งจุดตรึง

ส่วนความเคลื่อนไหวของกลุ่มม็อบเสื้อแดง ก็มีจำนวนมากเช่นกัน โดยพากันเดินทางเข้าไปพักในเต็นท์ที่บริเวณสถานีวิทยุชมรมคนรักอุดร ต.หมากแข้ง อ.เมือง จ.อุดรธานี ของนายขวัญชัย ไพรพนา ซึ่งขณะนี้พากันมาประมาณกว่า 4,000 คน และมีอีกส่วนหนึ่งเดินทางไปที่ท่าอากาศยานนานาชาติอุดรธานี เพื่อขับไล่แกนนำพันธมิตรฯ ที่จะเดินทางมาร่วมเวทีที่สวนสาธารณะ แต่ปรากฏว่าไม่เจอกัน เนื่องจากแกนนำพันธมิตรหลายคนลงจากเครื่องบินแล้วอยู่ในห้องรับรองของสนามบิน รอจนฝ่ายต้อนรับของกลุ่ม นำรถตู้มารับ ก่อนพากันออกไปจากสนามบินอย่างรวดเร็ว ท่ามกลางการดูแลความปลอดภัยของตำรวจ 1 กองร้อย

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ในส่วนของการรักษาความปลอดภัยของตำรวจนั้น ได้ตั้งจุดตรวจตั้งแต่อำเภอรอบนอกที่จะเข้าสู่ตัวเมืองอุดรธานี แล้วจุดตรวจต่อมาที่บริเวณถนนรอบนอก ก่อนเข้าสวนสาธารณะหนองประจักษ์ฯ โดยตรวจพบอาวุธพวกมีด หนังสติ๊ก และกระสุนจำนวนมาก จึงตรวจยึดไว้ ในขณะเดียวกันนำรถยนต์สำหรับไว้ควบคุมตัวผู้ต้องหาจอดไว้ตามจุดต่างๆ รอบสวนสาธารณะจำนวนหลายคัน

จับสาวจันท์พกกระสุน-มาเวทีพธม.

ต่อมาเวลา 11.30 น. ขณะที่พ.ต.ท.ศุภเชษฐ์ รังคะวงษ์ พงส.(สบ2) สภ.เมืองอุดรธานี ทำหน้าที่หัวหน้าจุดตรวจศาลเทพารักษ์ ถนนศุภกิจจรรย์ ตรงข้ามสวนสาธารณะหนองประจักษ์ฯ นำกำลังเจ้าหน้าที่ตรวจความเรียบร้อยประชาชนที่จะเข้าไปร่วมงานของม็อบพันธมิตรฯ ปรากฏว่าพบกระสุนปืนขนาด .38 จำนวน 17 นัด อยู่ในเป้ของน.ส.ขวัญเรือน งามขำ อายุ 43 ปี อยู่บ้านเลขที่ 25/7 หมู่ 1 ต.เขาแก้ว อ.ท่าใหม่ จ.จันทบุรี สอบสวนน.ส.ขวัญเรือนให้การว่า เดินทางจากจ.จันทบุรี มาร่วมงานม็อบพันธมิตรฯ ส่วนกระสุนปืนในกระเป๋านั้น พบอยู่ใกล้ๆ ด่านตรวจ และกำลังจะนำไปมอบให้การ์ดพันธมิตรฯ แต่ถูกจับกุมเสียก่อน

ถัดมาเจ้าหน้าที่ตรวจพบอาวุธปืนขนาด 11 ม.ม. 1 กระบอก และกระสุน 7 นัด ซุกซ่อนอยู่ใต้เบาะของรถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า สีบรอนซ์ทอง ทะเบียน กจ 312 อุดรธานี ของนายปานศักดิ์ ภัทราโรดม อายุ 54 ปี อยู่บ้านเลขที่ 73/1 หมู่ 7 ต.บ้านมะเกลือ อ.เมือง จ.นครสวรรค์ สอบสวนนายปานศักดิ์ให้การว่า เป็นผู้จัดการของโรงงานน้ำตาล อ.กุมภวาปี จ.อุดรธานี กำลังจะไปพบแพทย์ที่ร.พ. ใกล้จุดตรวจ ทางเจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวไปดำเนินคดีที่ สภ.เมืองอุดรธานี

การ์ดฉุนตร.ค้นยิบ-ฮือยึดจุดตรวจ

ผู้สื่อข่าวรายงานต่อว่า จากการที่ตำรวจยึดกระสุนปืนขนาด .38 ภายหลังตรวจสอบพบอยู่ในกระเป๋าของน.ส.ขวัญเรือน รวมทั้งยึดมีด หนังสติ๊ก และลูกเหล็ก ได้อีกจำนวนหนึ่งจากกลุ่มพันธมิตรฯ ปรากฏว่าทำให้การ์ดพันธมิตรฯไม่พอใจ จึงพากันเข้ายึดจุดตรวจจากตำรวจที่จุดนั้นไว้ได้ ทางตำรวจจึงถอดกำลัง ออกจากจุดดังกล่าว เพื่อป้องกันการกระทบกระทั่งกัน

จากนั้นเวลา 15.00 น. กลุ่มคนเสื้อแดงประมาณ 300 คน ที่ชุมนุมอยู่ที่ท่าอากาศยานนานาชาติอุดรธานี พากันเดินทางกลับไปรวมตัวกันที่ชมรมคนรักอุดร ผ่านไปสักพักก็มีขบวนรถบัสของกลุ่มพันธมิตรฯ ประมาณ 30 คัน จากนครศรีธรรมราช, พัทลุง, สงขลา, พังงา, สุราษฎร์ธานี, หาดใหญ่, ลพบุรี, กาฬสินธุ์, อ่างทอง, และลำปาง เดินทางเข้ามา และขณะเลี้ยวมาสู่ถนนศรีสุข จะเข้าไปที่ชุมนุม ปรากฏว่ามีม็อบเสื้อแดงอีกกลุ่ม นำโดยนายวิเชียร ขาวขำ, นายเกียรติอุดม เมนะสวัสดิ์, นายอนันต์ ศรีพันธ์, พ.ต.ท.สุรทิน พิมานเมฆินทร์, และนายทองดี มนิสสาร ส.ส.อุดรธานี พรรคเพื่อไทย และสมาชิกเสื้อแดงประมาณ 300 คน ขึ้นรถเปิดหลังคาติดลำโพง ประณามกลุ่มพันธมิตรฯ และเรียกร้องให้ประชาชนออกมาช่วยกันขับไล่กลุ่มพันธมิตรฯออกไปจากจ.อุดรธานี

สับรางระทึก 2 ม็อบหวิดเผชิญหน้า

ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า ขณะที่ขบวนทั้ง 2 ม็อบมาใกล้จะประจันหน้ากัน ทางพล.ต.ต.เพิ่มศักดิ์ ภราดร ศักดิ์ ผบก.อุดรธานี จึงวิทยุสั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจไปเจรจากับ 5 ส.ส.อุดรธานี พรรคเพื่อไทย ขอร้องให้นำขบวนเลี้ยวตรงสามแยกโรงเรียนอุดรพิทยานุกูล ไปรวมกันที่ทุ่งศรีเมือง ขณะเดียวกัน ทางขบวนรถของกลุ่มพันธมิตรฯก็ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจจัดการให้เลี้ยวซ้ายที่สามแยกวิทยาลัยอาชีวศึกษา แล้วเลี้ยวเข้าที่สวนสาธารณะหนองประจักษ์ฯ ได้ด้วยความเรียบร้อย

แดงพรึบ - แกนนำนปช.จัดงานระดมทุนดำเนินกิจกรรมทางการเมือง มีบรรดาชาวเสื้อแดงมาร่วมงานอย่างล้น หลาม โดยพ.ต.ท.ทัก ษิณ ชินวัตร โฟนอินเข้ามาปลุกใจ เมื่อเย็นวันที่ 14 ก.พ. ที่วัดไผ่เขียว ย่านดอนเมือง กทม.



กระทั่งในเวลา 16.00 น. กลุ่มพันธมิตรฯเริ่ม รายการบนเวที ด้วยการแสดงดนตรี สลับการปราศรัยของแกนนำพันธมิตรฯ 5 คน อย่างไรก็ตาม กลุ่มพันธมิตรฯอยู่แต่ในสวนสาธารณะหนองประจักษ์ฯ ส่วนกลุ่มเสื้อแดงคาดว่าทยอยกันมาเกือบ 10,000 คน พากันไปรวมตัวอยู่ที่ชมรมคนรักอุดร ทางเจ้าหน้าที่เองต้องขอสนับสนุนกำลังตำรวจเพิ่มเติมจากจ.เลย จ.กาฬสินธุ์ และจ.มหาสารคาม เพื่อมาช่วยควบคุมสถานการณ์

ม็อบแดงนัด24ก.พ.ฮือทวงสัญญา

สำหรับบรรยากาศการจัดงานระดมทุนของราย การความจริงวันนี้ กลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ที่ลานตรงข้ามวัดเวฬุวนาราม หรือวัดไผ่เขียว แขวงสีกัน เขตดอนเมือง กทม. นั้น ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีการจัดเตรียมเวทีขนาดใหญ่ พร้อมด้วยจอโปรเจ็กเตอร์ 5 จอ ด้านหน้าจัดเป็นโต๊ะจีนจำนวนกว่า 1,000 โต๊ะ โดยมีนายการุณ โหสกุล ส.ส.กทม. พรรคเพื่อไทย เป็นผู้อำนวยการจัดงานในครั้งนี้

นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า เตรียมโต๊ะจีนไว้ 1,000 โต๊ะ ราคาโต๊ะละ 10,000 บาท พร้อมเก้าอี้เสริมไว้ 5,000 ตัว คาดว่าจะมีประชาชน 15,000-20,000 คน มาร่วมงาน นอกจากเป็นการระดมทุนแล้ว ยังเป็นการกำหนดวันนัดชุมนุมใหญ่ เพื่อทวงสัญญา 4 ข้อ ที่กลุ่มเสื้อแดงยื่นต่อรัฐบาล เบื้องต้นคาดว่าจะเป็นวันที่ 24 ก.พ. จะนัดชุมนุมที่สนามหลวง เพื่อเดินเท้ามายังทำเนียบรัฐบาลในเวลากลางวัน และจะปักหลักยืดเยื้อจนกว่ารัฐบาลจะทำตามข้อเรียกร้อง 4 ข้อ แต่ยืนยันว่าจะไม่บุกเข้าไปในทำเนียบอย่างแน่นอน และแม้จะถูกสกัดกั้นอย่างไร ไม่ว่าจะนำรถขวางที่สะพานมัฆวานรังสรรค์ ก็จะไม่หยุดยั้งพวกเราได้ ส่วนในวันที่ 14 ก.พ.นี้ รูปแบบงานจะมีการแสดงดนตรี พร้อมกับการปราศรัยของแกนนำ และในเวลา 19.30 น. พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ จะโฟนอินเข้ามาที่เวทีด้วย

"แม้ว"โฟนอิน-ด่าทหารเป็นแค่ยาม

ผู้สื่อข่าวรายงานต่อว่า กระทั่งใกล้เวลาเริ่มงาน มีประชาชนที่ซื้อบัตรเข้ามาจับจองโต๊ะอาหารบริเวณหน้าเวที เพื่อรอรับฟังการปราศรัยและการแสดงดนตรีอย่างแน่นขนัด คาดประมาณ 15,000 คน จากนั้นเวลา 19.00 น. นายวีระ มุสิกพงศ์ แกนนำนปช. เปิดการปราศรัย โดยกล่าวว่า ขอบคุณนายการุณ ที่เป็นผู้เสนอการใช้สถานที่และดูแลเรื่องอาหาร ขอย้ำไปยังคนเสื้อแดงทั่วประเทศว่า ทุกคนเหมือนครอบ ครัวเดียวกัน ดังนั้น การทะเลาะเบาะแว้ง การไม่ลงรอยกันจะทำให้ชัยชนะของเราอยู่ห่างออกไป และ พ.ต.ท.ทักษิณ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของประชาธิป ไตยก็อยู่ห่างออกไปเช่นกัน จึงขอเรียกร้องให้ทุกคนมีความสามัคคี สถานีวิทยุชุมชนในต่างจังหวัด ทั้งที่เกิดขึ้นมาใหม่ และที่มีอยู่เดิมต้องจับมือช่วยเหลือกัน เพื่อให้สัญลักษณ์ประชาธิปไตยของเรา กลับมาประเทศไทยเร็วที่สุด

ต่อมาเวลา 19.30 น. นายวีระ ขึ้นประกาศบนเวทีว่า ขณะนี้พ.ต.ท.ทักษิณ อยู่ในสาย และพร้อมจะพูดคุยกับประชาชน จากนั้นเปิดสายผ่านเครื่องขยายเสียง โดยพ.ต.ท.ทักษิณกล่าวว่า การยึดอำนาจเป็นสิ่งที่เลวร้าย แต่สิ่งที่เลวร้ายกว่าคือการทำร้ายประชาชนทางอ้อม ประชาชนที่เคยมีความหวังต้องอับจนหนทาง เพราะหลังจากยึดอำนาจก็ส่งทหารมาเป็นรัฐบาล ก็เหมือนเอายามมาเป็นผู้บริหาร เหมือนบริษัทถูกยึดเอายามมาบริหาร ซึ่งยามจะบริหารประเทศได้อย่างไร เข้ามาทำลายระบอบประชาธิปไตย โดยใช้ระบอบเผด็จการ ใช้ศาลรัฐธรรมนูญเข้ามาวุ่นวาย ทำแล้วทำเล่าให้ประเทศเสียหาย วันนี้ยังอยู่เมืองนอก ปรับตัวได้ ยังมีช่องทางทำมาหากิน แต่ขอบอกว่าจะไม่ยอมตายที่เมืองนอกอย่างแน่นอน

พร้อมกลับไทย-ตายแผ่นดินอีสาน

"ผมเคยบอกว่าจะมายอมตายที่แผ่นดินอีสาน หมายความว่าพร้อมจะเข้ามาประเทศไทยทุกเวลา แม้จะต้องถูกฆ่าตายที่อีสานก็ยอม วันนี้เป็นวันวาเลน ไทน์ ขอขอบคุณพี่น้องที่รักประชาธิปไตยที่มาแสดงออกว่า มีความรักให้กับประชาธิปไตยอย่างแท้จริง วันนี้เป็นวันของการแสดงความรัก บางคนอาจแสดงความรักกับครอบครัว แต่วันนี้พวกท่านมาแสดงออกว่ารักประเทศและรักประชาธิปไตย วันนี้บ้านเมืองกำลังป่วน เพราะไม่ยึดหลักกติกา ใครอยากย้ายข้างย้ายขั้ว ก็ทำโดยไม่คำนึงกติกา จริงๆ แล้วผมไม่ได้ห่วงตัวเอง เพราะการเสียอำนาจเป็นเรื่องเล็ก แต่ประชาชนจะอยู่อย่างไร ถ้าไม่แข่งขันตามกติกา อยู่ๆ รอให้เขาปล้นอำนาจไปให้ จิตสำนึกในการบริหารประเทศเพื่อประชาชนก็ไม่มี บ้านเมืองจะเจริญได้ต้องมีการแข่งขันกันทำความดีให้กับประเทศ เมื่อไม่มีก็ขาดจิตสำนึก พยายามมาลิดรอนอำนาจประชาชน เอารัฐธรรมนูญมาใช้ก่อให้เกิดความเสียหาย" อดีตนายกฯ กล่าว

พ.ต.ท.ทักษิณกล่าวต่อว่า ตนเดินทางรอบโลก เห็นทั้งสิ่งที่ไม่ดีที่กำลังจะเกิดขึ้นในประเทศไทยอย่างหนึ่ง คือปัญหาวิกฤตทางการเงินในสหรัฐและยุโรปกำลังลุกลามเข้ามา จะส่งผลเสียให้ประเทศ ทำให้ไม่สามารถส่งออกได้ ทั้งที่ประเทศเรายึดการส่งออกเป็นหลัก 60 เปอร์เซ็นต์ หากส่งออกไม่ได้ก็กระทบกับประชาชน การท่องเที่ยวก็มีปัญหา เพราะคนไม่เชื่อถือต่อระบบ เอาคนยึดสนามบินมาเป็นรัฐมนตรีทำให้คนไม่เชื่อถือ ส่งผลให้การลงทุนและการท่องเที่ยวลดลง เห็นว่ารัฐบาลยังแก้ปัญหาเศรษฐกิจภายในประเทศได้น้อย จะทำประชานิยมต้องเข้าใจว่าเพื่อจุดประสงค์อะไร ต้องเน้นที่โอกาส และความเป็นอยู่ของประชาชน ไม่ใช่ทำเพื่อคะแนนเสียงเท่านั้น การที่เศรษฐกิจแย่จะส่งผลกระทบต่อปัญหาต่างๆ ไม่ว่าคนตกงาน เด็กจบมาไม่มีงานทำ เมื่อเศรษกิจแย่ ปัญหาสังคมก็ตามมา

อ้างทะลึ่งรับใช้ประชาชนมากไป

อดีตนายกฯ กล่าวว่า ขอย้ำว่าประเทศจะอยู่ไม่ได้ ถ้าไม่มีประชาธิปไตย เพราะปัญหาเศรษฐกิจที่เกิดขึ้น ขาดคนมีความคิดริเริ่ม ซึ่งประชาธิปไตยเป็นระบอบที่ดีที่สุด ทำให้คนกล้าคิดกล้าทำ แต่วันนี้เราสร้างมูลค่าเพิ่มไม่ได้ เพราะคนไม่กล้าคิดริเริ่มสร้างสรรค์ ขอทำนายว่าต่อไปสหรัฐจะต้องยึดแนวทางการพัฒนาประเทศของประเทศโลกที่ 3 คือการลดภาษีเพื่อให้บริษัทต่างๆ เข้าไปใช้ฐานการผลิตในสหรัฐ เพราะวันนี้เขาขาดดุลการค้า เก่งเพียงเรื่องการเงิน ไม่สามารถแก้ปัญหาได้ ขอย้ำว่าต้องนำประชาธิปไตยกลับคืนมา ไม่เช่นนั้นจะไม่มีคนกล้าคิด กล้าพูด กล้าสร้างสรรค์ ดังนั้น การจะแก้ปัญหาประเทศ ต้องนำระบอบประชาธิปไตยกลับมาให้ได้

"ผมขอบคุณอีกครั้งสำหรับคนที่รักประชาธิปไตย คนที่อยากเห็นคนที่ถูกรังแกกลับมารับใช้ชาติ ถ้าประชาชนเอาผมกลับก็พร้อมที่จะกลับ ถ้ายังคิดว่ายังเป็นประโยชน์ ผมก็พร้อมกลับมา แม้กลับมาแล้วจะถูกฆ่าตายก็ไม่เป็นไร พรรคประชาธิปัตย์พยายามเรียกร้องให้ผมกลับมาขึ้นศาล ต้องถามว่าผมได้รับความเป็นธรรมตั้งแต่เบื้องต้นหรือไม่ เพราะตั้งแต่ตั้งคตส.ก็เอาปฏิปักษ์ทางการเมืองมาสอบสวน แล้วจะให้ทำอย่างไร ผมจบปริญญาเอกด้านความยุติธรรมทางคดีอาญา แต่เป็นคนที่ไม่ได้รับความยุติธรรมมากที่สุด เพราะทะลึ่งไปรับใช้ประชาชนจนพอใจมากไป นี่เป็นที่มาที่ถาโถมใส่ผม ต้องการขจัดผมออกไป" พ.ต.ท.ทักษิณ โฟนอิน

ลั่นยอมตายดีกว่าอยู่อย่างผู้แพ้

พ.ต.ท.ทักษิณกล่าวอีกว่า "ผมเป็นคนพูดดีๆ รู้เรื่อง แต่ถ้ามากลั่นแกล้งผม ตายเป็นตาย ผมยอมตายดีกว่าอยู่อย่างผู้แพ้ และผมไม่ยอมแพ้ อย่างเรื่องที่โดนก็เป็นเรื่องไม่จริงที่มากลั่นแกล้ง บอกว่าผมคอร์รัปชั่นต้องติดคุก 2 ปี ถามว่าคอร์รัปชั่นคืออะไร ยักยอกเงินหลวงไปเป็นของตัวเองหรือ ซื้อที่ดินก็จ่ายเงิน แล้วบอกว่าผู้ขายไม่ผิด ผู้ซื้อไม่ผิด ที่ดินก็ไม่ยึด แต่ผมผิด เพราะทะลึ่งเป็นผัวของคนซื้อ แต่คนอื่นที่เอาที่หลวงที่ป่าสงวน ที่บนเขา ไปยึดครองก็ปรากฏว่าเป็นคนดี แต่ผมแค่เซ็นยินยอมให้เมียซื้อที่ดิน ก็ติดคุก 2 ปี อย่างนี้ใครคิดก็รู้ ดังนั้น ผมจะไม่ยอมแพ้" พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าว

อดีตนายกฯ โฟนอินต่อว่า การที่พรรคประชาธิปัตย์เรียกร้องให้มาขึ้นศาล ถ้าแน่จริงขอให้ทำตามกติกา และอีกไม่นานเมื่อถึงการอภิปรายไม่ไว้วางใจก็รู้กันดี วันนี้ไอ้พวกเสื้อเหลืองไปที่ไหน ตำรวจทหารคอยดูแล ต่างกับกลุ่มเสื้อแดงไปที่ไหนก็ถูกกระทำ อย่างนี้ชาวบ้านที่กินข้าวฟังแล้วก็เข้าใจและคิดเป็น สิ่งเหล่านี้เติมเชื้อในหัวใจของชาวบ้าน คนที่สั่งการก็รู้ตัว ถ้าปล่อยไปอย่างนี้จะมีปัญหามากกว่านี้เยอะ ตอนนี้มันสุดๆ ไปแล้วกระบวนการยุติธรรมของไทย ตนเป็นเหยื่อของความอยุติธรรมที่รุนแรงที่สุด แต่จะแสวงหาความยุติธรรมร่วมกับพวกท่านต่อไป ขอขอบคุณทุกคนอีกครั้ง ตอนนี้ก็ใส่เสื้อแดงเดินเล่นอยู่

นปช.โววันที่24ก.พ.มาครึ่งแสน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังพ.ต.ท.ทักษิณ โฟนอินจบ กลุ่มผู้ชุมนุมยังคงปักหลักอยู่ภายในงานระดมทุน โดยมีแกนนำนปช. อาทิ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ นายจตุพร พรหมพันธุ์ และ นายก่อแก้ว พิกุลทอง สลับกันขึ้นปราศรัย และร้องเพลง โดยแกนนำย้ำว่าขอให้สนุกกันเต็มที่ และเก็บแรงไว้ให้มาต่อสู้กันอย่างเข้มข้นในวันที่ 24 ก.พ. จะชุมนุมใหญ่ที่ทำเนียบ

นายณัฐวุฒิกล่าวว่า หลังจากเปิดขายหน้างาน รวมถึงใบสั่งจองผ่านที่ทำการสถานีดีทีวี ปรากฏว่าขายหมดเกลี้ยงทั้ง 1,000 โต๊ะ จนต้องจัดโต๊ะเสริม กรณีที่การระดมทุนครั้งก่อนมีคนมาน้อย เพราะเป็นการจัดงานที่เร่งด่วน เวลากระชั้นชิด ไม่มีแบบแผน อีกทั้งราคาแพงถึงโต๊ะละ 500,000 บาท ขณะที่ครั้งนี้ขายเพียงโต๊ะละ 10,000 บาท คนจึงเยอะกว่าเดิม ส่วนกรอบการชุมนุมใหญ่วันที่ 24 ก.พ. เพื่อทวงถามข้อเรียกร้อง 4 ข้อจากรัฐบาลนั้น จะเคลื่อนจากสนามหลวงเวลา 09.00 น. มั่นใจว่าจะมีผู้เข้าร่วม 50,000 คน ส่วนจะปักหลักยาวนานหรือไม่ ต้องหารือกับแกนนำเป็นช่วงๆ ไป ยืนยันว่ากลุ่มนปช.จะไม่ยึดทำเนียบ และสถานที่ราชการเหมือนกลุ่มพันธมิตรฯ เหตุที่ต้องเคลื่อนไหว เพราะรัฐบาลไม่ทำตามข้อเรียกร้อง ทั้งที่การปลดนายกษิต ภิรมย์ รมว.ต่างประเทศ และการดำเนินคดีกับบุคคลที่ยึดสนามบิน รัฐบาลสามารถทำได้เลย แต่กลับไม่ทำ

เวทีพธม.อุดรฯคึก-เล็งบุกเชียงใหม่

สำหรับเวทีพันธมิตรฯ ที่สวนสาธารณะหนองประจักษ์ศิลปาคม อ.เมือง จ.อุดรธานี นั้น ตั้งแต่ช่วงเย็นมีการจัดเวทีคอนเสิร์ตการเมืองใหม่ โดยมีพันธมิตรฯจากหลายจังหวัด ทยอยเข้ามาบนเวที คาดประมาณ 15,000 คน ภายในงานมีการตั้งโรงทาน พร้อมจัดโต๊ะเลี้ยงอาหารฟรีตลอดทั้งคืน และเจ้าหน้าที่ตำรวจตั้งด่านตรวจผู้เข้างานอย่างเข้มงวด รวมถึงให้การ์ดพันธมิตรฯมาช่วยตรวจวัตถุระเบิดด้วย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะที่บรรยากาศบนเวทีมีการเล่นดนตรีสลับกับการปราศรัย โดยแกนนำพันธมิตรฯ 4 คน ประกอบด้วย นายสนธิ ลิ้มทองกุล นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ นายสมศักดิ์ โกศัยสุข และพล.ต.จำลอง ศรีเมือง สลับกันพูดบนเวที พร้อมทั้งเชิญนายทหารนอกราชการในพื้นที่จ.อุดรธานี ขึ้นร่วมปราศรัยด้วย เนื้อหาส่วนใหญ่โจมตีพ.ต.ท.ทักษิณ โดยนายสนธิระบุว่า ครั้งหน้าจะไปจัดคอนเสิร์ตแบบนี้ที่จ.เชียงใหม่ เพราะเป็นถิ่นของพ.ต.ท.ทักษิณ อยากจะดูว่าคนเชียงใหม่ต้อนรับพันธมิตรฯหรือไม่