บล็อคข่าวส่งเสริมคนดี (รักดีหามจั่ว รักชั่วหามเสา หามจั่วก็หนักนะ)

ข่าวจากสื่อ

บทความจากสื่อ

วันเสาร์ที่ 23 สิงหาคม พ.ศ. 2551

เร่งเคลียร์ตึกชินวัตรฯ ตั้งพรรคเพื่อไทย

สำหรับความคืบหน้าการหาสถานที่ตั้งพรรคเพื่อไทย เพื่อรองรับ ส.ส.พรรคพลังประชาชนหลังจากถูกยุบพรรคนั้น วันที่ 22 ส.ค.ทางแกนนำของพรรคได้เตรียมติดต่อขอเช่าอาคารชินวัตรไหมไทย ย่านถนนพระราม 4 โดยกิจการผ้าไหมชินวัตรที่เปิดจำหน่ายอยู่บริเวณชั้น 1 ได้ขึ้นป้ายลดราคาแบบล้างสต๊อกให้หมดภายในสิ้นเดือน ก.ย.นี้ เพื่อเตรียมพร้อมเปิดเป็นที่ทำการพรรคเพื่อไทย ขณะที่นายสงคราม กิจเลิศไพโรจน์ ส.ส.สมุทรปราการ และเหรัญญิกพรรคพลังประชาชน ในฐานะแกนนำจด ทะเบียนจัดตั้งพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ถึงสถานที่ ทำการพรรคเพื่อไทย โดยใช้อาคารไหมไทยชินวัตรว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจาค่าเช่ารายเดือนกับเจ้าของอาคาร เดิมทีค่าเช่าแพงมาก แต่สามารถเจรจาลดลงมาได้ระดับหนึ่ง เพราะพรรคไม่มีนายทุน ความคืบหน้าอยู่ ระหว่างการปรับปรุงอาคารภายใน แต่จะไม่ใช้ทั้งอาคาร จะเช่าเฉพาะบางส่วน ทั้งนี้การตั้งพรรคเพื่อไทยเป็นการเตรียมความพร้อมหากพรรคพลังประชาชนถูกยุบ โดยจะยึดสโลแกนพรรคเหมือนที่เคยประสบความสำเร็จมาในสมัยพรรคไทยรักไทย สิ่งไหนขาดจะปรับปรุง เสริมนโยบายที่ดี

สเปกหัวหน้าต้องมือประสานสิบทิศ

นายสงครามกล่าวว่า ส่วนกรณีที่นายสุจริต ปัจฉิมนันท์ อดีตปลัดกระทรวงมหาดไทย จะเป็นหัวหน้าพรรคเพื่อไทยนั้น มีความเป็นไปได้ แต่เป็นหนึ่งในหลายตัวเลือก โดยคุณสมบัติของผู้ที่จะเป็นหัวหน้าพรรคต้องเข้าได้กับทุกฝ่าย ทั้งข้าราชการ สื่อมวลชน ทหาร เรื่องนี้สำคัญ เพราะเราไม่ต้องการให้บ้านเมืองมีปัญหา อยากกลับมาสู่ความสงบ สมานฉันท์ ผู้สื่อข่าวถามว่า นายพายัพ ชินวัตร น้องชาย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เป็นตัวเลือกขึ้นเป็นหัวหน้าพรรคเพื่อไทย นายสงครามตอบว่า นายพายัพไม่เอาแน่นอน เพราะเจ็บและพอกับการเมืองแล้ว ส่วน น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร น้องสาว พ.ต.ท.ทักษิณคงไม่มาเช่นกัน เนื่องจากทุกคนต่างมีงานยุ่ง อย่างไงก็ตาม พรรคเพื่อไทยจะประชุมใหญ่ภายใน 1-2 เดือนนี้ เพื่อเลือกตำแหน่งคณะผู้บริหาร ตอนนี้มีผู้สมัคร ส.ส. พรรคพลังประชาชนที่สอบตก รวมถึงอดีต ส.ส. ทยอยสมัครเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทยบ้างแล้ว เรื่องการรับสมาชิกนั้นคงไม่มีเงื่อนไขอะไรมาก ต่างจากการรับผู้สมัคร ส.ส. ต้องคัดเลือกเป็นพิเศษ อย่างน้อยต้องเป็นผู้ที่มีฐานทางการเมือง มีความรู้ ความสามารถ ส่วนนักวิชาการ เทคโนเครตนั้น อาจให้ลงสมัครอยู่บัญชีสองและสาม เหมือนแนวทางที่พรรคไทยรักไทยและพรรคพลังประชาชนเคยทำ

ส.ส.เดินสายแจงชาวบ้านย้ายพรรค

ขณะที่ นพ.สุรวิทย์ คนสมบูรณ์ ส.ส.ชัยภูมิ พรรคพลังประชาชน กลุ่มอีสานพัฒนา ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีเตรียมใช้อาคารชินวัตรไหมไทยตั้งเป็นที่ทำการพรรคเพื่อไทยว่า หลังจากได้เข้าพบนายพายัพ ชินวัตร น้องชาย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ถือว่าอาคารชินวัตรเป็นตัวเลือกหนึ่ง เป็นสถานที่เราชอบและอยากจะได้อาคารนี้อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ ส.ส.พรรคพลังประชาชนหลายคนลงพื้นที่ และได้แจ้งให้ชาวบ้านในพื้นที่ทราบว่าถ้ามีการยุบพรรคพลังประชาชน ไม่ต้องห่วงหรอก มีพรรคเพื่อไทย และชาวบ้านพร้อมที่จะสนับสนุนไปสมัครสมาชิกพรรคเพื่อไทย


อ่านรายละเอียดต่อ ไทยรัฐ

วันศุกร์ที่ 22 สิงหาคม พ.ศ. 2551

Save Thaksin, save democracy


บทความ โดย ลูกชาวนาไทย

ผมเห็นแบนเนอร์ Save Thaksin แล้วผมสะดุดใจขึ้นมาทันทีว่า ทำไมต้อง Save Thaksin ด้วยเล่า ทักษิณเป็นใครประชาชนจำนวนมากถึงดิ้นรน เจ็บร้อนแทนทักษิณได้ขนาดนี้ ทำไมประชาชนต้องห่วงหาอาทรได้ขนาดนี้ ทั้งๆ ที่ต้องโทษทางการเมืองประกาศจับประจานไปทั่วราชอาณาจักรที่ทรงจริยธรรมสูงส่งเช่นนี้ ทำไมเราถึงต้อง Save Thaksin



หากผมเกิดมาชาติหนึ่ง แล้วมีมนุษยชาติจำนวนมาก ที่ไม่ใช่คนในครอบครัวของผม ไม่ใช่คนที่ผมรู้จักเป็นการส่วนตัว แต่เขาเหล่านั้นจำนวนมากเป็นห่วงเป็นใยผม เจ็บร้อนแทนผม เจ็บปวดแทนผม รู้สึกเป็นทุกข์ใจเมื่อผมเดือดร้อน และรู้สึกโล่งอกเมื่อผมหลุดพ้นเพทภัยที่อาจถึงชีวิตได้ จากการปองร้ายของศัตรูทางการเมือง หากผมเกิดมาแล้วได้รับความรักความห่วงใยจากคนมากมายขนาดนี้ ผมก็ถือว่า "ชาตินี้ผมได้เกิดมาคุ้มค่าแล้ว" เกิดมาโดยไม่เสียชาติเกิดแล้ว ถึงแม้ว่าผมจะต้องเผชิญกับความทุกข์ยากต่างๆ นานาจากศัตรูทางการเมืองซ้ำแล้วซ้ำเล่า จนต้องหลบหนีศัตรูไปอยู่ในต่างแดนก็ตาม ไม่มีอะไรจะยิ่งใหญ่ไปกว่าการได้รับความรักความศรัทธาจากคนหมู่มากขนาดนี้อีกแล้ว ทุกข์ของมหาบุรุษ คือทุกข์ของแผ่นดินโดยแท้

ตอนนี้ ในดวงใจของประชาชนหลายล้านคน ทักษิณได้กลายเป็น "สัญญลักษณ์แห่งประชาธิปไตย" ของไทยไปแล้ว แม้ว่า ยุคที่ทักษิณเป็นนายกฯ ทักษิณจะมีสไตล์การบริหารที่เป็นตัวของตัวเอง เป็นเอกลักษณ์ของตนเอง จนฝ่ายตรงข้าม และศัตรูทางการเมืองโจมตีว่า "เป็นเผด็จการ" ก็ตาม แต่นั่นก็เป็นเพียงแค่การโจมตี เพราะเป็นศัตรูืทางการเมืองกันเท่านั้น แต่มันหาได้มีความหมายอันใดต่อประชาชนที่เลือกทักษิณขึ้นมาสู่ตำแหน่งหัวหน้าฝ่ายบริหารไม่

ทักษิณ "มาจากการเลือกตั้งของคนส่วนใหญ่" คนส่วนใหญ่เขาเลือกมากับมือ คนส่วนใหญ่เขาจะเอาคนที่บริหารประเทศ "แบบทักษิณ" นี่แหละ เขาเลือกเองมากลับมือ "ตรงนี้แหละที่แสดงความเป็นประชาธิปไตยอย่างแท้จริง" เพราะผู้นำทางการเมือง ไม่ว่าจะมีสไตล์การบริหารงานอย่างไรก็ตาม แต่การเข้าสู่อำนาจนั้น "มาจากเลือกตั้งของประชาชน" และการลงจากอำนาจก็เป็นไปตามวิถีทางแห่งประชาธิปไตย ถือว่า"เป็นผู้ำนำในระบอบประชาธิปไตยอย่างสมบูรณ์แล้ว" ส่วน สไตล์การบริหารนั้นเป็นท่วงทำนองของแต่ละคน ที่มีสไตล์ของตนแตกต่างกันไป ความเป็นผู้นำไม่อาจลอกเลียนแบบเอามาจากคนอื่นๆได้

ตอนนี้ทักษิณเลยกลายเป็น "สัญญลักษณ์แห่งประชาธิปไตย" อย่างเต็มที่ เพราะฝ่ายตรงข้ามกับทักษิณตอนนี้ เป็นพวก "อำมาตยาธิปไตย" ที่ไม่ต้องการเข้าสู่อำนาจโดยการเลือกตั้งของประชาชน พวกเขาเหล่านั้นต้องการเข้าสู่อำนาจโดยการเลือกสรรจากกลุ่มของตนเอง โดยไม่เห็นประชาชนอยู่ในสายตา ไม่ว่าพวกเขาจะอ้างคุณธรรม จริยธรรมสูงส่งสักเพียงใด แต่เนื้อแท้มันก็คือ ตัวแทนของคนส่วนน้อย ที่ไม่เห็นประชาชนอยู่ในสายตาเท่านั้นเอง

ดังนั้น คำว่า Save Thaksin
, save democracy จึงหมายถึงการ "รักษาเจตจำนงของประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศ" เอาไว้ เจตจำนงที่ต้องการผู้นำที่เขาเลือกขึ้นมาเองกับมือ ไม่ใช่ผู้นำที่สวรรค์ที่ไหนประทานมาให้ ดีชั่วอย่างไรประชาชนต้องการเลือกของเขาเอง ไม่ต้ัองให้ใครมาบอกว่า ใครดีใครเลว ประชาชนย่อมสามารถตัดสินเองได้

ประชาชนไม่จำเป็นต้องมีใครสั่งสอนว่า ผู้นำที่ดีของเขานั้นเป็นอย่างไร เพราะ ดี นั้นมันหมายถึง ดีของใครด้วย เพราะคนดีเลิศประเสริฐศรีของคนๆ หนึ่ง อาจเป็นคนใช้ไม่ได้ สำหรับคนส่วนใหญ่ของปรเทศก็ได้




ผู้นำที่ดีในวงการสงฆ์ คือ ผู้นำที่สละแล้วซึ่งกิเลสทุกอย่าง กินน้อยใช้น้อย ไม่ทะเยอะทะยาน อยู่อย่างสมถะ นี่เป็นคุณธรรมที่ดีสำหรับคนในวงการศาสนา แต่หากเอา ผู้นำที่ดีในวงการศาสนา มาเป็นผู้นำทางโลก ก็ไม่อาจรักษาประเทศไว้ได้ เฉกเช่น องค์ดาไลลามะ ที่ไม่อาจรักษาเอกราชของทิเบตเอาไว้ได้ ผู้นำทางการเมืองนั้น จะต้องทำให้ประชาชนมีความสุข มีอยู่มีกิน มีงานทำ มีชีวิตที่สุขสบาย ตามสิทธิขั้นพื้นฐานของมนุษย์ และความต้องการของคนยากจนที่ยากไร้ไปเสียทุกอย่าง ย่อมไม่เหมือนกับความต้องการของคนชั้นกลาง ชั้นสูง นักวิชาการที่ชีวิตมีพร้อมเสียทุกอย่างแล้ว ดังนั้น ผู้นำที่ประชาชนเลือกมากับมือ และประชาชนรักใคร่ หวงแหนคนที่เขาเลือกมา ย่อมเป็นผู้นำยิ่งใหญ่ของประชาชน

ตอนนี้ระบอบประชาธิปไตยของไทย กำลังถูกคุกคามอย่างรุนแรงจาก ระบอบศักดินาอำมาตยาธิปไตย ที่มองว่าประชาชนโง่ ด้อยการศึกษา และพวกเขาเท่านั้นควรมีสิทธิปกครองประชาชนเหล่านี้ พวกเขาทำทุกอย่างเพื่อ กำจัดทักษิณออกไปให้พ้นทาง เพราะหากว่าทักษิณยังอยู่ ย่อมทำให้ประชาชนเข็มแข็งขึ้น ย่อมทำให้ประชาชนยืนอยู่ได้ด้วยลำแข้งของตนเอง ซึ่งเป็นภัยต่อระบอบศักดินาอำมาตยาธิปไตยอย่างยิ่ง

หากพวกเขาสามารถทำลายทักษิณออกไปจากใจของประชาชนได้เมื่อไหร่ นั่นหมายถึงพวกเขาสามารถทำลายความเข็มแข็ง การลุกขึ้นสู้ การขัดขืนของประชาชนได้เมื่อนั้น ประชาชนจะขาดผู้นำทางจิตวิญญาณแห่งประชาธิปไตย และจมปลักยินยอมต่อ ศักดินาอำมาตยาธิปไตย ให้พวกเขาจูงจมูกต่อไป เหมือนหกสิบเจ็ดสิบปี หรือหลายร้อยปีที่ผ่านมา

ดังนั้นพวกเราชาวไทย ชาวรากหญ้า นักรบไซเบอร์ที่รักประชาธิปไตยทั้งหลายจึงต้องจำอย่างขึ้นใจในตอนนี้ว่า

Save Thaksin, save democracy and save Thailand!



ลุ้นอังกฤษจะเชื่อใคร!

ฉวยจังหวะที่กลุ่มพันธมิตรฯบุกสถานเอกอัครราชทูตอังกฤษ ประจำประเทศไทย ยื่นคำขาดให้ส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนกลับมาดำเนินคดี ตามด้วยคิวชุมนุมกดดันกระทรวงการต่างประเทศให้ยึดพาสปอร์ตทูตของอดีตนายกรัฐมนตรี

ไล่บี้กัดติด กะเอาให้ตายคาเขียง

ล่าสุด สำนักข่าวเอเอฟพีและรอยเตอร์รายงานว่า ทีมทนายความชาวต่างประเทศของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กำลังทำเรื่องเพื่อขอลี้ภัยทางการเมืองในประเทศอังกฤษ

โดยอ้างเหตุผล หากอยู่ในประเทศไทย ตัวเองและครอบครัวจะไม่ปลอดภัย

มันก็เป็นอะไรที่โยงภาพกันได้ต่อเนื่อง ม็อบการเมืองของคู่อาฆาตที่ห้ำหั่นกันมาตั้งแต่ต้น จนลากเกมไปสู่การรัฐประหารยึดอำนาจ “ทักษิณ” เมื่อวันที่ 19 กันยายน 2549 แล้วก็ยังมีความพยายามขุดรากถอนโคนกลุ่มอำนาจอดีตรัฐบาลไทยรักไทย

อ้างเพิ่มน้ำหนักในคำขอ “ลี้ภัย” ได้

และโดยกระบวนการสนับสนุนเงื่อนไข ทีม ส.ส.พรรคพลังประชาชน นำโดยนายสุรพงษ์ โตวิจักษ์ชัยกุล ส.ส.เชียงใหม่ ได้เดินทางเข้ายื่นจดหมายเปิดผนึกต่อเอกอัครราชทูตอังกฤษ ประจำประเทศไทย

ชี้ให้เห็นถึงขบวนการที่ต้องการทำลาย พ.ต.ท.ทักษิณให้สิ้นซาก ปราศจากเมตตาธรรม ไร้คุณธรรม

โดยยกข้อมูลทางกฎหมายที่เขียนขึ้นสมัยคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นพระประมุข (คปค.) ฉบับที่ 30 และฉบับแก้ไขเพิ่มเติมเรื่องการยืดอายุคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) พระราชบัญญัติคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) พ.ศ.2542 และร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วย ป.ป.ช.ที่เสนอจ่อเข้ามาในสภาฯ รวมถึงรัฐธรรมนูญปี 2550 มาตรา 309 ที่ให้นิรโทษกรรมผู้ที่ทำรัฐประหาร

แต่ไม่ให้ความเป็นธรรมกับผู้ถูกกล่าวหาว่าร่ำรวยผิดปกติ โดยเฉพาะ พ.ต.ท.ทักษิณ

เขียนกะจะให้ตายกันไปข้าง

โดยการเคลื่อนไหวของลูกทีมพรรคพลังประชาชน เชื่อว่า ทางการอังกฤษจะนำเรื่องไปประกอบการพิจารณาให้ความเป็นธรรมกับ พ.ต.ท.ทักษิณ

ร่วมด้วยช่วยกันส่ง “นายใหญ่” ได้หลบภัยเมืองผู้ดี

แต่ก็โดดออกมาขวางลำเต็มที่ ร่วมด้วยช่วยล่า “ทักษิณ” สุดกำลังเหมือนกัน

นพ.บุรณัชย์ สมุทรักษ์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ระบุพรรคจะรวบรวมข้อมูลเพื่อชี้แจงต่อสื่อต่างประเทศ อธิบายและทำความเข้าใจ

รวมถึงการทำหนังสือไปถึงสถานทูตอังกฤษประจำประเทศไทย กรณี พ.ต.ท.ทักษิณจะขอลี้ภัย โดยอ้างเรื่องความไม่ปลอดภัยและไม่ได้รับความเป็นธรรมจากกระบวนการยุติธรรมของไทยด้วย

เดินเกมหักล้างเงื่อนไข “ลี้ภัย” เต็มที่

พร้อมกับเปิดเกมบี้เค้นคอ “ลุงหมัก” นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี ให้ยืนยันถึงความปลอดภัยของอดีตนายกฯ เพราะทราบมาว่า ทีมทนายความและทีมประชาสัมพันธ์จะนำเรื่องความปลอดภัยมาเชื่อมโยงกับการลี้ภัย โดยยกคดีคาร์บอมบ์ หรือคดีลอบวางระเบิดเครื่องบินการบินไทยขึ้นมา

เพื่อชี้ให้เห็นว่า เป็นการประทุษร้ายต่อผู้นำประเทศ

โยงเป็นฉากๆกับกรณีที่ ส.ส.พรรคพลังประชาชน จะไม่รับหลักการร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาความของศาลรัฐธรรมนูญ และร่าง พ.ร.บ.วิธีพิจารณาคดีอาญาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง

เพื่อนำมาต่อรองการพิจารณาคดีที่กำลังไต่สวนในชั้นศาล

แต่เร้าใจกว่าอะไร ข่าววงในที่โฆษกพรรคประชาธิปัตย์อ้างว่า มีความพยายามระดมมวลชนให้เกิดการปะทะ เกิดความขัดแย้งอย่างรุนแรง เพื่อกดดันกระบวนการพิจารณาของศาลในคดีสำคัญ

โดยมีการต่อสายตรงถึงคนเดินโพยหวยออนไลน์ อดีตกลุ่ม แกนนำ นปก.

ปมหลังนี้ บังเอิญข้อมูลมันอัพเดทพอดีกับการที่กองสลากกำลัง เปิดรับสมัครผู้จำหน่ายหวยบนดินกันอึกทึกครึกโครม โดยเกมใช้เครือข่ายหวยออนไลน์ระดมมวลชนจุดชนวนปะทะล้มคดีสำคัญ

ประชาธิปัตย์เปิดประเด็นเล่นลูกตามน้ำได้เนียนมาก

คนฟังแล้วเชื่อเลย

มันก็เหมือนกับที่มีข่าวลือวงในก่อนหน้านี้ เครือข่ายเจ้ามือหวยใต้ดิน กลุ่มทุนพรรคการเมืองใหญ่อยู่เบื้องหลังขบวนการอัดเงินล้ม “ทักษิณ”

ชาวบ้านได้ยินแล้วคาใจมาถึงวันนี้.

ทีมข่าวการเมือง รายงาน


ศาล รธน.ตรวจหลักฐานชิมไปบ่นไป

เมื่อเวลา 09.30 น. ที่สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ นายชัช ชลวร ประธานคณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ พร้อม องค์คณะ ออกนั่งบัลลังก์ตรวจพยานหลักฐานของคู่กรณีครั้งแรก ในคำร้องที่ ส.ว.และ กกต.ขอให้วินิจฉัยการสิ้นสุดความเป็นนายกรัฐมนตรีของนายสมัคร สุนทรเวช กรณีจัดรายการชิมไปบ่นไป โดยฝ่ายผู้ร้องมีนายเรืองไกร ลี-กิจวัฒนะ ส.ว.สรรหา และผู้แทนรับมอบอำนาจจาก กกต. มาตรวจสอบเอกสาร ขณะที่นายสมัครมอบอำนาจให้นายธนา เบญจาธิกุล ทนายความ ภายหลังคู่กรณีตรวจสอบพยานเอกสารประมาณ 1 ชั่วโมง นายอุดมศักดิ์ นิติมนตรี ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ กล่าวสรุปรายงานการตรวจพยาน พร้อมระบุว่า ศาลรัฐธรรมนูญนัดไต่สวนพยานเพิ่มอีก 3 ปาก คือนายวิศิษฐ์ ลิ้มประนะ ผู้สนับสนุนรายการชิมไปบ่นไป เป็นพยานฝ่ายศาลรัฐธรรมนูญ ในวันที่ 4 ก.ย. ส่วนพยานฝ่ายผู้ถูกร้อง คือนายศักดิ์ชัย แก้วมณี-สกุล กรรมการผู้จัดการบริษัทเฟซ มีเดีย จำกัด และนาย สมัครจะเดินทางมารับการไต่สวนในวันที่ 8 ก.ย. เวลา 09.30 น.

ส.ส.พปช.เล็งโหวตให้ “สมัคร” อีกรอบ

นายไพจิต ศรีวรขาน ส.ส.นครพนม พรรคพลังประชาชน หัวหน้ากลุ่มอีสานพัฒนา ให้สัมภาษณ์ว่า หากท้ายที่สุดแล้วศาลรัฐธรรมนูญตัดสินให้นายสมัครต้องพ้นสภาพความเป็นนายกรัฐมนตรี ก็จะต้องมีการสรรหานายกฯคนใหม่ในที่ประชุมสภาฯ ส่วนจะเป็นใครนั้นคงต้องเป็นไปตามมติพรรคพลังประชาชน หากมติพรรคให้นายสมัครกลับเข้ามาเป็นนายกฯอีกครั้ง เราก็พร้อมที่โหวตให้ ขณะที่นายอนุชา สะสมทรัพย์ ส.ส.นครปฐม พรรคพลังประชาชน กล่าวว่า สถานการณ์ขณะนี้ไม่มีใครเหมาะกับตำแหน่งนายกฯเท่ากับนายสมัคร ดังนั้น ยินดีที่จะโหวตเลือกนายกฯสมัครให้เป็นนายกฯอีกครั้ง

ด้านนายสถาพร มณีรัตน์ ส.ส.ลำพูน พรรคพลังประชาชน กลุ่มวังบัวบาน กล่าวว่า หากนายสมัครถูกตัดสินว่าขาดคุณสมบัติ แต่ไม่มีผลต้องเว้นวรรคการเมือง 5 ปี สามารถกลับมาเป็นนายกฯใหม่ได้ เหมือนกับกรณี นายไชยา สะสมทรัพย์ รมว.พาณิชย์ ที่เคยถูกศาลรัฐธรรมนูญตัดสินทำให้ต้องพ้นจากตำแหน่ง รมว.สาธารณสุข ตนพร้อมสนับสนุนนายสมัคร เพราะเหมาะสมกับสถานการณ์ขณะนี้

“สมัคร” รับใส่เกล้าฯใช้เงินระมัดระวัง

เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 21 ส.ค. ที่กรมชลประทาน ถนนสามเสน นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม เดินทางไปเป็นประธานการประชุมหัวหน้าส่วนราชการระดับปลัดกระทรวง ครั้งที่ 6/2551 โดยก่อนเข้าประชุม นายสมัครแวะเดินตลาดบริเวณใกล้เคียงเพื่อซื้อบ๊ะจ่าง จากนั้นเดินชมนิทรรศการของกรมชลประทาน โดยเฉพาะโครงการเขื่อนต่างๆ ที่มีรูปนายสมัครสมัยเป็น รมว.มหาดไทย ติดตามพระราชกรณียกิจของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โดยนายสมัครพูดด้วยความปลาบ-ปลื้มใจว่า “เกิดมามีวาสนา ได้ใกล้ชิดกับเจ้าฟ้าเจ้าแผ่นดิน”

ต่อมาเวลา 12.45 น. ภายหลังการประชุม นายสมัครกล่าวถึงอุทกภัยที่เกิดขึ้นในประเทศว่า ได้สั่งการรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องให้ไปดู รับผิดชอบจังหวัดไหนก็ดู จังหวัดนั้น ถ้ามีเวลาจะลงไปดูด้วยตัวเอง เบื้องต้นให้ รมว.มหาดไทยดูแลเป็นหลัก เมื่อถามว่า รัฐบาลจะสนองพระราชดำรัสที่ทรงให้ระมัดระวังการใช้จ่ายเงินอย่างไร นายสมัครตอบว่า เรื่องนี้ต้องรับใส่เกล้าฯอยู่แล้ว รู้อยู่แล้ว ฟังแล้วต้องน้อมนำใส่เกล้าฯ ทุกคนพร้อมระมัดระวัง อย่าง ไรก็ตาม นายสมัครปฏิเสธตอบคำถามประเด็นการเมือง ไม่ว่าจะเป็นข้อสงสัยเรื่องการต่อสายคุยกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี รวมทั้งการตัดสินใจจะไปชี้แจงต่อศาลรัฐธรรมนูญ กรณีรายการชิมไปบ่นไป ในวันที่ 8 ก.ย. หรือไม่

ทูตอังกฤษปฏิเสธตอบเรื่อง พ.ต.ท.ทักษิณ

กทม. 21 ส.ค. - ทูตอังกฤษระบุการเรียกร้องไม่ให้อดีตนายกรัฐมนตรีไทยลี้ภัยที่ประเทศอังกฤษ ถือเป็นเรื่องธรรมดาตามระบอบประชาธิปไตย

นายควินตัน เควนลย์ เอกอัครราชทูตอังกฤษประจำประเทศไทย กล่าวว่า การที่กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยจะเดินทางไปยื่นหนังสือที่สถานเอกอัครราชทูตอังกฤษประจำประเทศไทย เพื่อเรียกร้องไม่ให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ลี้ภัยในประเทศอังกฤษ ว่า เป็นเรื่องธรรมดาของระบอบประชาธิปไตยที่จะแสดงออกว่ามีความเห็นอย่างไร แต่ขอให้ดำเนินการอย่างสันติ และที่กลุ่มพันธมิตรฯ กำหนดเวลา 7 วัน เพื่อให้สถานทูตอังกฤษฯ ให้คำตอบ นายเควนลย์ ปฏิเสธที่จะพูดเรื่องนี้ ระบุเพราะไม่มีสิทธิที่จะตอบเกี่ยวกับเรื่องการเข้าเมืองของต่างชาติ. -สำนักข่าวไทย


อัพเดตเมื่อ 2008-08-21 16:14:31


สุรพงษ์ ยื่นหนังสือสถานทูตอังกฤษชี้ กม.ไทยไม่เป็นธรรม

กรุงเทพฯ 21 ส.ค. - เมื่อเวลา 14.00 น. วันนี้ (21 ส.ค.) นายสุรพงษ์ โตวิจักษ์ชัยกุล ส.ส.เชียงใหม่ พรรคพลังประชาชน ได้เดินทางมายังสถานเอกอัครราชทูตอังกฤษประจำประเทศไทย เพื่อยื่นหนังสือถึงนายควินตัน มาร์ค เควลย์ เอกอัครราชทูตอังกฤษประจำประเทศไทย ผ่านเลขานุการฝ่ายการเมือง ให้พิจารณากฎหมายที่ไม่เป็นประชาธิปไตยของไทย จำนวน 5 ฉบับ ที่ออกมาบังคับใช้อย่างไม่เป็นธรรม เพื่อดำเนินการเอาผิดกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และภริยา

ทั้งนี้ นายสุรพงษ์ กล่าวว่า หลังจากรับเรื่องแล้ว เลขานุการฝ่ายการเมืองจะนำหนังสือส่งถึงเอกอัครราชทูตอังกฤษ และรับปากว่า หากมีการพิจารณาเรื่องข้อกฎหมายที่เกี่ยวกับอดีตนายกรัฐมนตรี ก็จะมีการนำเรื่องดังกล่าวเข้าร่วมพิจารณาด้วย. - สำนักข่าวไทย


อัพเดตเมื่อ 2008-08-21 16:49:47


วันที่การเมืองครั่นเนื้อครั่นตัว

“การเมือง” ถ้านิ่ง…แฟนพันธุ์แท้ก็คงเหงา
ระยะนี้เลยมีคิว “ร้อนฉ่า” หลายเรื่องเรียงกันมาให้ได้ตื่นเต้น
ในแง่สีสันก็ “มัน(ส์)” ดี แต่อย่าถามหาเสถียรภาพ หรือความเอาแน่เอานอน…เพราะเซียนบางคนก็ยังตอบไม่ได้
ได้แต่ประเมินกันไปวันต่อวันก็เท่านั้น…
คิวเช็กบิลแบบน้ำลดตอผุด ทยอยกันไปบ้างแล้ว
ยังเหลือคิวน็อกนายกรัฐมนตรี สมัคร สุนทรเวช ด้วยข้อหาที่อาจกลายเป็นข่าวดังไปทั่วโลก “เป็นลูกจ้างรายการทำอาหาร”
ต่อมาก็เป็นคิวสั่งเก็บพรรคการเมืองระดับหน้าแถว เก็บแต้มรวดทีเดียวกะให้กลายเป็นการเมืองฟันหลอ…(แปลว่าหายไปทั้งแถบ)
น่าจะเหลือไว้เฉพาะ “พรรคฟันกราม” ที่ดูกี่ทีก็เหมือนฟันคุด คืออยู่ไปก็เท่านั้น แค่ผู้มีบารมีเขาเปิดทางให้อยู่…แต่บดเคี้ยวอะไรไม่ได้
ไม่รู้ถ้าชนะการเลือกตั้งได้จริง จะยังกล้าภูมิใจกับชัยชนะของตัวเองอยู่หรือเปล่า
เพราะขนาดคราวที่แล้ว องค์รัฐาธิปัตย์ที่มีชื่อเล่นว่า คมช. ทั้งผลักทั้งดัน ภาษาวัยรุ่นก็ว่าสุดเท้า…
ก็ยัง “ว่าว” มาจนได้
หักกลบลบแต้มใบเหลืองใบแดงที่ “โคตรเป็นกลาง” ก็ยังไม่เฉียดใกล้ความฝัน
กลายเป็นค้างเติ่งกลางอากาศกันไปเท่านั้น
คราวนี้…เลยลุ้นกันตัวโก่งอีกครั้งว่า รายการ “ฝันที่เป็นจริง” จะแจ็กพอตแตกได้แจกรถเข็นสักทีหรือเปล่า
หรืออีกกรณีคือ ได้ใบแดงถ้วนหน้าไม่เว้นแม้แต่เด็กเส้น เธอก็ได้ ฉันก็ได้…ตายหมู่
ซึ่งน่าจะดูดีกว่า ถ้าจะโดนยุบก็ต้องยุบกันให้หมด ถ้าจะรอดก็ต้องรอดกันทุกพรรค
มหกรรมล้างไพ่ใหม่ จะได้กลับมาอีกหน คืนอำนาจให้ประชาชนอีกสักที
นาทีนี้…ก่อนมีคำสั่งสายฟ้าฟาด จึงมีการพูดถึง “ยุบสภา” ถี่หน่อย…
แม้ช่วยอะไรไม่ได้กับคดียุบพรรคที่เป็นเรื่องของกระบวนการยุติธรรม แต่จะทำให้พรรคใหญ่ที่ได้เปรียบมีโอกาสถ่ายเทคนไปอยู่ในที่ทางที่เป็นมงคลแก่ตัวมากกว่า…
โดยยังมีผลงานที่ผ่านมา บวกบารมีที่ติดตัวแต่ละคน เป็นปัจจัยหนุนให้ประชาชนตัดสินใจเลือก-ไม่เลือก
แต่ที่แน่ๆ นโยบายหาเสียงเรื่องแก้รัฐธรรมนูญจากแต่ละพรรค คงจะหนักแน่นและแข็งขันกว่าเดิมไม่มีพลาด
เพราะทุกวันนี้ที่เล่นเอาพรรคการเมืองคอพาดเขียงกันทุกพรรค ก็คงไม่มีลูกแทงกั๊กเก็บไข่งูไว้กับตักอีกแล้ว…
ร้อนยิ่งกว่าเผือกเผา…ใครยังจะเก็บเอาไว้ก่อน ก็ท่าจะบ้า
ที่นักวิชาการหรือใครต่อใครคาดการณ์กันมาก่อนหน้า ถึงความเสียหายร้ายกาจของรัฐธรรมนูญฉบับนี้ ยังไม่มีพลาดข้อไหน มีแต่จะร่ายเรียงเก็บแต้ม “ถูกต้องนะคร้าบบบ” กันมาทีละข้อ ทีละข้อ
จะรอให้ “ข้อเสีย” ประจักษ์แก่สายตากันทุกข้อ ก็พอดีเจ๊งกันทั้งประเทศ
ไม่ใช่พวก พาล-ทะ-มิด นะงานนี้ จะได้ยอมเจ๊งเป็นเจ๊ง ตายเป็นตาย
อยากเจ๊ง อยากตาย ก็ปล่อยเขาไป คนไทยอีกทั้งประเทศยังอยากจะอยู่ดูโลก
หรือต่อให้ไม่มียุบพรรค ไม่ยุบสภา ประเด็นแก้ไขรัฐธรรมนูญก็ยิ่งต้องเอาจริงเอาจังเข้มข้น…
ถามใจฝ่ายค้าน ให้พูดกันตามตรงจากก้นบึ้งหัวใจ แน่ใจหรือว่าจะยอมรับได้กับรัฐธรรมนูญฉบับรัฐประหาร
วันหนึ่งการรัฐประหารที่อาจเคยเป็นคุณแก่ตัว แต่ระยะยาวก็เห็นอยู่ว่าใครมาทางไหนก็ต้องกลับไปทางนั้น
เหลือไว้แต่นักการเมืองด้วยกันที่ต้องอยู่ทำงาน และเผชิญสิ่งแวดล้อมคล้ายๆ กันต่อไป
กระทบกระทั่งกันไม่เท่าไร แต่เรื่องจะทำอย่างไรให้การเมืองไทยพัฒนาและสร้างสรรค์น่าจะสำคัญกว่า
สร้างสรรค์แล้วต้องรอไปอีกสิบปีกว่าจะได้เป็นรัฐบาล ก็อาจจะคุ้มหากเป็นการวางรากฐานประชาธิปไตยให้เป็นแบบประเทศเจริญแล้ว…
แต่เลือกเอาความได้เปรียบเฉพาะหน้า เพื่อสุดท้ายการเมืองก็วนกลับมาจุดเดิม เหมือนพายเรือวนอ่างแบบนี้…อะไรจะคุ้มกว่า
เรื่องแบบนี้พูดง่ายทำยาก และไม่อยากจะคาดหวังกับนักการเมืองสักเท่าไร
เพราะอะไรที่มันขึ้นอยู่กับ “จิตสำนึก” มันเป็นเรื่องที่มักห่างไกลความเป็นไปได้เหลือเกิน

วันอังคารที่ 19 สิงหาคม พ.ศ. 2551

รัฐบาลสมัคร 4 ประชุม ครม.นัดแรก

ทำเนียบฯ 19 ส.ค. - วันนี้ มีการประชุมคณะรัฐมนตรีตามปกติซึ่งถือเป็นการประชุมนัดแรกของรัฐบาลสมัคร 4 ขณะที่ สมศักดิ์ เชื่อ พปช. จะหาข้อยุติเรื่องการล่ารายชื่อ ส.ส.พรรค เพื่อให้นายกฯ ชี้แจงกรณี สตช.ออกหมายจับ พ.ต.ท.ทักษิณ ได้เพราะไม่มีเบื้องหน้าเบื้องหลัง

เช้าวันนี้ ได้มีการประชุมคณะรัฐมนตรีตามปกติ ที่มีทุกวันอังคาร โดยมี นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน โดย นายสมัคร เดินทางมาร่วมประชุมล่าช้าเพียงเล็กน้อย เพราะเพิ่งกลับจากภารกิจตรวจเยี่ยมทหารตามแนวชายแดนพื้นที่จังหวัดสุรินทร์และศรีสะเกษ และมีท่าทางอารมณ์ดี

ทางด้าน นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม และ ส.ส.พรรคพลังประชาชน กล่าวถึงข่าวการล่ารายชื่อ ส.ส.พปช. เพื่อให้นายกรัฐมนตรี ชี้แจงกรณีสำนักงานตำรวจแห่งชาติออกหมายจับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ว่าเรื่องนี้ไม่ใช่เป็นเรื่องของการกดดันนายกฯ เชื่อว่าพรรคจะหาข้อยุติในเรื่องนี้ได้เพราะไม่มีเบื้องหน้าเบื้องหลัง อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่า ตัวเองไม่ได้ร่วมลงนามในคำร้องดังกล่าวเพราะถือว่าเป็นเอกสิทธิของ ส.ส.

ชมรายละเอียด สำนักข่าวไทย


อัพเดตเมื่อ 2008-08-19 11:59:25





กมธ.ศึกษารธน.อืด!ขยายเวลาเพิ่ม30วัน

การประชุมคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญศึกษาปัญหาการบังคับใช้เพื่อแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ 2550 ที่มี นายกระมล ทองธรรมชาติ เป็นประธาน โดยที่ประชุมได้มีการหารือถึงกรอบระยะเวลาที่ครบกำหนด 60 วันนี้ ตามที่ได้รับมอบหมายจากสภาผู้แทนฯ ให้ศึกษา ในวันที่ 18 กันยายนนี้ ซึ่งต้องรอผลการศึกษาของอนุกรรมาธิการทั้ง 5 คณะ ขณะนี้คณะอนุกรรมาธิการได้ส่งรายงานผลการศึกษามาแล้ว 4 ชุดที่ ส่วนชุดที่ 3 เรื่องอนุกรรมาธิการศึกษาเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างสถาบันตาม รธน. ยังอยู่ระหว่างการศึกษา ทั้งนี้ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ ในฐานะคณะอนุ กมธ. ชุดที่ 3 เชื่อว่า การขยายเวลาออกไปอีก 30 วันจะสามารถส่งผลสรุปทัน ซึ่งหากผลการศึกษาแล้วเสร็จควรเปิดให้ประชาชนได้แสดงความคิดเห็นผ่านเวทีเสวนาผ่านการทำประชาพิจารณ์ด้วย

ลูกพรรคพปช.ยันเข้าเพื่อไทยหากถูกยุบ

นายสงคราม กิจเลิศไพโรจน์ ส.ส.สมุทรปราการ พรรคพลังประชาชน ในฐานะเป็นแกนนำจดทะเบียนจัดตั้งพรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่า ขณะนี้การเตรียมพร้อมพรรคเพื่อไทยคืบหน้ามาก หลังจดทะเบียนจัดตั้งพรรคมาประมาณ 1 ปีแล้ว และมีแนวโน้มสูงว่า ถ้าพรรคพลังประชาชนถูกยุบ ส.ส. ของพรรคจะย้ายไปอยู่พรรคเพื่อไทย สำหรับนโยบายจะต่อยอดจากนโยบายเดิมของพรรคพลังประชาชน ซึ่งขณะนี้ผู้สมัคร ส.ส. พรรคพลังประชาชน ที่สอบตกจากการเลือกตั้งครั้งล่าสุด และอดีต ส.ส. บางส่วน เริ่มแสดงความจำนงในการสมัครเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทยแล้ว
ด้าน นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล ส.ส.เชียงใหม่ พรรคพลังประชาชน กล่าวว่า ได้บอกประชาชนในพื้นที่ และ ส.ส. ในพรรคแล้วว่า ถ้าพรรคพลังประชาชนถูกยุบจริง จะขอไปอยู่พรรคเพื่อไทยเป็นคนแรก อีกทั้งถ้านายกรัฐมนตรีประกาศยุบสภาก่อนยุบพรรค ก็ขอประกาศล่วงหน้าเลยว่าจะขอย้ายไปอยู่พรรคเพื่อไทยทันที
ขณะที่ นายทรงศักดิ์ ทองศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ประธานคณะกรรมการประสานงานภาคอีสาน แกนนำกลุ่มเพื่อนเนวิน ระบุว่า การตั้งพรรคเพื่อไทยเป็นพรรคสำรองนั้นเป็นความคิดเห็นของ ส.ส. เพียงบางคนเท่านั้น ขอยืนยันว่า นายเนวิน ชิดชอบ อดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง รวมถึงกรณีแก๊งออฟโฟร์ด้วย ถ้าเป็นไปได้ ขอให้สื่อมวลชนไปสอบถามนายเนวินด้วยตัวเองว่า เหตุใดจึงมีชื่อปรากฏ
ขณะเดียวกันการประชุม กกต. เพื่อพิจารณาสำนวนยุบพรรคพลังประชาชน ที่ประธาน กกต. จะนำเข้าที่ประชุมในวันที่ 19 สิงหาคมนั้น มีสิทธิเลื่อนพิจารณาออกไปก่อน เพราะมี กกต. บางคน จะขอหารือในที่ประชุมเพื่อขอขยายเวลาพิจารณาสำนวนก่อนที่จะมีการลงมติออกไปก่อน เพราะเห็นว่ากรณีดังกล่าวเป็นความผิดเฉพาะตัวบุคคล ส่วนจะส่งผลถึงขั้นยุบพรรคหรือไม่นั้น เป็นเรื่องที่ต้องพิจารณาข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติม จึงจำเป็นต้องใช้เวลาศึกษาให้รอบคอบ ซึ่งเชื่อว่าที่ประชุม กกต. น่าจะรับฟังและให้โอกาสขยายเวลาในการลงมติออกไปก่อน


ข่าวส่งเสริมคนดี

จำนวนผู้เข้าเยี่มมชม

link to affordable web hosting
Powered by web hosting provider .

สถิติการเข้าชม DMNEWS

eXTReMe Tracker