ทุกตัวอักษร ทุกถ้อยคำ ทุกวรรค ที่ส่งมาให้เป็นน้ำใจของเพื่อนร่วมทางที่ไม่เคยรู้หน้าแต่รู้ใจกันเป็นที่สุด และนับเป็นของขวัญที่ล้ำค่าอย่างยิ่งที่ทีมงาน Hi-thaksin ได้รับ
น้ำใจไมตรีที่ส่งมาให้ ขอรับเอาไว้ทั้งหมด แล้วก็ขอส่งกลับคืนไปให้แก่ทุกท่านให้มีความเจริญ ก้าวหน้า สมหวังในสิ่งที่ปรารถนาและรอคอยกันมานาน ทั้งในเรื่องของชีวิตส่วนตัว ชีวิตการงาน และเรื่องบ้านเมืองอันเป็นที่รักของพวกเรา รวมไปถึงการได้คนที่เรารักกลับคืนมาสู่แผ่นดินกันเสียทีในปีนี้
แต่ที่ต้องบอกตรงๆ ว่าติดขัดและขออนุญาตบอกปัดรับไว้ไม่ได้ก็คือ คำยกย่องเยินยอสรรเสริญทั้งหลายที่ทุกท่านมีมาให้ ราวกับว่าเราเป็นเหล่าผู้กล้าออกมาท้ารบกับเผด็จการ และเป็นอัศวินกู้บ้านกู้เมือง นั้น ไม่กล้าออกหน้ารับไว้ และต้องขอปฏิเสธทั้งหมด
พวกเราไม่ใช่ผู้กล้า ไม่ใช่อัศวิน และไม่ได้มากอบบ้านกู้เมือง อย่างที่บางท่านคิดอ่านและเข้าใจกันไปเอง เราเพียงแต่มาทำหน้าที่สื่อสารข้อมูล ความคิด ความเห็น และความเป็นจริงในสังคม ที่สื่อมวลชนทั่วไป ไม่ยอมนำเสนอ และทำงานของเราตามที่หัวใจอิสระของเราสั่งการให้เราทำ คือ เป็นแหล่งรวบรวมความรักและความคิดถึง ส่งไปให้แก่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เท่านั้น
เกือบ 1 ปีที่ผ่านมา Hi-thaksin ได้รับกำลังใจจากทุกท่านอย่างมากมายเกินกว่าที่เราคาดคิดไว้ และได้กลายเป็นพลังใจสำคัญที่ทำให้เราจากมือสมัครเล่นต้องพยายามทำตัวให้เป็นมืออาชีพ แต่ดูเหมือนจะยาก เพราะเราไม่ได้มีอาชีพสื่อสารมวลชน และการทำเวปไซต์นี้ ก็ยึดเป็นอาชีพไม่ได้เสียด้วยสิ เนื่องจากไม่มีรายได้แม้แต่สตางค์เดียว มีแต่รายจ่ายเต็มไปหมด
ที่ผ่านมา 1 ปี ต้องบอกว่าพวกเราทีมงาน เก็บอาการได้เก่งมาก แต่ยิ่งนานวันก็ยิ่งเหนื่อย และต้องสารภาพว่าจากที่เคยทำกันสบายๆ ไม่เดือดร้อน เพราะอาชีพหลักยังเป็นแหล่งรายได้ที่ไม่ติดขัด แต่ช่วงปลายปีที่ผ่านมา งานบางงานที่น่าจะนำรายได้มาให้เรา เพื่อเป็นราย จ่ายทำเวปไซต์นี้ ไม่เป็นไปตามที่เราคิด เพราะพิษเศรษฐกิจ จึงทำให้เราต้องเริ่มต้นปีนี้ด้วยความเหนื่อยยากพอสมควร
บอกเล่าเรื่องนี้ไม่ได้มาขอความเห็นใจ และขอรับการสนับสนุน ทุกอย่างยังคงเหมือน เดิม คือ เวปไซต์นี้ไม่ได้มุ่งหารายได้ แต่มุ่งหาเพื่อนร่วมทางที่มีความรักความเข้าใจต่อกันมากกว่า ความสำเร็จของเราจึงไม่ใช่มีเงินทองมีรายได้ หากแต่เป็นจำนวนเพื่อนร่วมทาง ที่นับวันจะมีเพิ่มขึ้น แค่นี้ก็ชื่นใจแล้วครับ
พูดถึงเรื่องรายได้ ก็ต้องขอใช้โอกาสนี้ชี้แจงเสียเลยว่า หนังสือเรื่อง “ก้อนกรวดในรองพระบาท” ที่มีผู้นำบทความที่ผมเขียนไปพิมพ์จำหน่ายนั้น ผมไม่ได้เป็นผู้จัดพิมพ์ รวมไปถึงหนังสืออีก 5-6 เล่ม (เท่าที่ทราบ) ที่มีการพิมพ์จำหน่ายกันนั้น ผมก็ไม่ได้มีส่วนร่วมด้วยเช่นกัน ถึงแม้ว่าเนื้อหาในหนังสือ จะเป็นการคัดลอกบทความในเวปไซต์นี้ ไปพิมพ์ก็ตาม
หากยังจำกันได้ ผมเคยเขียนไว้แต่แรกๆ ของการทำเวปไซต์นี้ ว่าหากใครพึงพอใจจะคัดลอก หรือทำซ้ำบทความ และ คลิปวีดีโอ ไปเผยแพร่ จัดจำหน่าย ทั้งฟรี และหารายได้ ก็ทำกันได้เต็มที่ ผมไม่สงวนลิขสิทธิ์ และไม่คิดที่จะแบ่งทั้งรายได้และรายจ่าย แต่จะขอบคุณด้วยซ้ำที่ช่วยเผยแพร่ไปสู่ประชาชนให้กว้างขวางมากที่สุด และเป็นการช่วยประชาสัมพันธ์เวปไซต์ให้พวกเรา ทั้งทางตรงและทางอ้อม
คลิปวิดีโอ “1 ปีที่หายไป” ที่พวกเราผลิตขึ้นมา และนำมาเสนอบนเวปไซต์นี้ เป็นอีกหนึ่งผลงานที่เราทำกันขึ้นมาแบบง่ายๆ เท่าที่เครื่องไม้เครื่องมือจะอำนวย เพื่อบอกเล่าความจริงอีกด้านหนึ่งของทักษิณ และ คนรักทักษิณ
ปรากฎว่ามีผู้นำไปผลิตเป็นวีซีดีออกวางจำหน่าย ราคา 19 บาท ส่งขายกันทั่วประเทศ และวันนี้ก็ได้กลายเป็นประเด็นที่กกต. นำไปกล่าวหาผู้สมัครรับเลือกตั้งพรรคพลังประชาชน ผมก็ไม่ได้ดำเนินการเช่นกัน และอยากจะขอร้องคนที่ได้ประโยชน์จากการจำหน่ายวีซีดี 1 ปีที่หาย ไป ช่วยไปให้ปากคำแก่กกต. ด้วยว่า วีซีดีชุดนี้ มีที่มาอย่างไร และไม่ได้เกี่ยวข้องกับพรรคพลังประชาชนเลย เพราะผู้จัดทำคือ ทีมงาน Hi-thaksin ไม่ใช่พรรคพลังประชาชน
น้องๆ ในทีมงาน ทำนายดวงชะตาของผมว่า ปีนี้น่าจะเป็นปีที่ผมโด่งดังเป็นพลุ ผมถามว่าทำไมคิดอย่างนั้น คำตอบก็คือ เพียงแค่เริ่มต้นปีใหม่ขึ้นมา ชื่อเสียงของ ประดาบ ก็ดังไปทั่วประเทศ เพราะว่าที่นายกรัฐมนตรี สมัคร สุนทรเวช ท่านแนะนำให้ประชาชนไปหาอ่านหนังสือเรื่องก้อนกรวดในรองพระบาท และหนังสือพิมพ์ทุกเล่มก็ไปสืบหามาบอกแก่ผู้อ่านของตัวเองว่าคนเขียนหนังสือเล่มนี้ ชื่อ ประดาบ จึงอนุมานได้ว่า ประดาบน่าจะเป็นนักเขียนสมัครเล่นที่ดังและมีคนรู้จักมากที่สุด ในชั่วโมงนี้
ก็ต้องขอบคุณท่านสมัคร สุนทรเวช ไว้ ณ ที่นี้ด้วย ที่ช่วยโฆษณาให้คนรู้จัก “ก้อนกรวดในรองพระบาท”แต่ขออนุญาตน้อยใจที่ท่านไม่ยอมอ่านสักตัว และขอขอบคุณสื่อมวลชนทุกท่านที่ช่วยกันโฆษณาว่า ประดาบ เป็นเจ้าของผลงาน “ก้อนกรวดในรองพระบาท” โดยที่ผมไม่ต้องจ่ายเงินค่าโฆษณาสักบาทเดียว
ดีครับ... ช่วยกันคนละไม้คนละมือ ประชาชนจะได้รู้จัก “ก้อนกรวดในรองพระบาท” มากขึ้น จะได้ช่วยกันหยิบก้อนกรวดออกจากรองพระบาท
อีกท่านหนึ่งที่ต้องขอบคุณที่ช่วยโฆษณาชื่อเสียงของประดาบ ก็คือ คุณคำนูน สิทธิสมาน เจ้าของนามปากกา เซี่ยงเส้าหลง และ รามบุตรี 516 คอลัมนิสต์ชื่อดังในหนังสือพิมพ์ผู้จัดการรายวัน ที่ยกงานเขียนของผม เรื่อง “เงื่อนไข 5 ข้อ จากบรรหาร ถึงสมัคร ที่ประชาชนรอฟังคำตอบ” ไปสกัดกั้นไม่ให้พรรคชาติไทยร่วมรัฐบาลกับพรรคพลังประชาชน โดยการผูกโยงว่า เวปไซต์นี้ คือตัวแทนของพรรคพลังประชาชน และ ประดาบ เขียน ก็คือ พลังประชาชน พูด
เมื่อประดาบไม่พอใจ และไม่เห็นด้วย ก็แปลว่า พรรคพลังประชาชนไม่พอใจ และไม่เห็นด้วย เช่นกัน
คอลัมนิสต์อายุงานกว่า 30 ปี อย่าง คุณคำนูณ สิทธิสมาน ไม่น่าจะผูกโยงเรื่องราวโดยไร้หลักฐานมาเป็นรอยต่อหรือเป็นตะเข็บเย็บแต่ละเรื่องเข้าด้วยกัน และไม่ควรนำจินตนาการของตน เอง มาเป็นข้อเท็จจริง นำเสนอกับประชาชน เช่นนี้เลย
Hi-thaksin ไม่ใช่พลังประชาชน และไม่ใช่กระบอกเสียงของพลังประชาชน ประดาบ ก็ไม่ได้เป็นกรรมการบริหารพรรค แม้กระทั่งสมาชิกพรรคก็ไม่ได้เป็น แต่ได้ไปลงคะแนนให้แก่พรรคพลังประชาชน
เพราะฉะนั้น ก็ฝากความไปถึงคุณคำนูน ด้วยว่า แม้จะงานหนัก และงานมาก แต่ควรจะรักษาคุณภาพของงาน ไม่ควรมั่ว เพราะจะทำให้ขาดความน่าเชื่อถือต่ออาชีพนักสื่อสาร มวลชนที่ดี อย่างมาก
อีกทั้งอยากจะฝากความไปถึง คุณบรรหาร ศิลปอาชา ด้วยว่า ประดาบ ไม่ชอบคุณบรรหาร ก็คือ ประดาบไม่ชอบ ประดาบไม่อยากให้พรรคพลังประชาชน รับคุณบรรหาร ร่วมรัฐบาล ก็เป็นความเห็นของประดาบ ส่วนพรรคพลังประชาชนจะรัก ชอบ คุณบรรหาร และ ร่วมรัฐบาลกับคุณบรรหาร ก็เป็นเรื่องของพรรคพลังประชาชน ประดาบไม่เกี่ยวข้อง
แต่ ประดาบ จะทำตามที่ได้ประกาศไว้แล้วคือ จะตรวจสอบการทำงานของรัฐบาล อย่างเข้มข้นและเอาจริงเอาจัง และจะแฉ ประจานทุกเรื่องทุกราว ไม่แตกต่างจากที่กำลังทำอยู่ในขณะนี้
ขอให้เชื่อว่า เรื่องแบบนี้ ประดาบทำจริง และรักที่จะทำ ด้วย
เพราะถือคติว่า รักวัวให้ผูก รักลูกให้ตี
เพราะประดาบ รักพรรคพลังประชาชน จึงต้องตี เพื่อไม่ให้ออกนอกลู่นอกทาง และเป็นที่ผิดหวังของประชาชนผู้สนับสนุนทั่วประเทศ
หวังว่าทุกท่านคงเข้าใจในความปรารถนาดีที่ถ่ายทอดผ่านไม้เรียว ของประดาบ ด้วย
ประดาบ จาก hi-thuksin