หนึ่งปีสี่เดือนผ่านไปการเมืองไทยก็หมุนกลับสู่จุดเดิม
เพียงแต่คราวนี้เปลี่ยนจากการเมืองตัวจริง เป็นการเมืองระดับตัวแทน
คงไม่สายเกินเพลที่จะต้อนรับสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี คนที่ 25 ของประเทศไทย
ฝันที่เป็นจริงของนักการเมืองอาวุโสวัย 72 ปี
เรียกว่าอยู่เฉยๆก็มีราชรถมาเกย
มีคนช่วยพาดบันไดให้เดินสะดวกทุกขั้นตอน
แม้แต่โผ ครม.ชุดใหม่ก็มีคนช่วยจัดแทน
ก็นี่แหละการเมือง คนอยากเป็นมักไม่ได้เป็น คนไม่ได้หวังจะเป็นมักจะได้เป็นอย่างนี้ทุกที
ถึง “สมัคร” จะเป็นนายกฯคนใหม่ แต่ไม่ใช่หน้าใหม่ เพราะผ่านสนามการเมืองยาวนานถึง 40 ปีเต็มๆ!!
ลงเลือกตั้งทุกครั้งไม่เคยสอบตกแม้แต่ ครั้งเดียว
ผ่านตำแหน่งรองนายกฯ และรัฐมนตรีมาแล้ว 5 กระทรวง
เรื่องประสบการณ์การเมืองจึงถือว่าโชกโชน
เรื่องเขี้ยวการเมืองก็ไม่แพ้ใครในสภาฯ
ในเมื่อ “สมัคร” ได้เป็นนายกรัฐมนตรีอย่างถูกต้องตามกติกาประชาธิปไตย ก็ต้องให้โอกาสนายกฯคนใหม่พิสูจน์ฝีมือ
นายกฯสมัคร เปิดใจว่าถึงแม้จะมีบางฝ่ายดูหมิ่นดูแคลนตัวเอง แต่จะอดทนอดกลั้นต่อไปและต่อไป
ในฐานะนายกรัฐมนตรีที่ได้รับความไว้วางใจจากประชาชนให้เป็นรัฐบาล ขอให้ท่านมั่นใจว่าผมทำงานเป็น
โปรดให้เวลาผมหน่อยเพื่อพิสูจน์ ฝีมือ
“แม่ลูกจันทร์” ก็อยากเห็นผลงานรัฐบาลผสม 6 พรรคชุดนี้ว่าจะเป็นอย่างไร??
แต่กว่าจะได้เห็นผลงานก็ต้องรออีก 3 เดือน
อย่างแรกคือต้องรอให้โผ ครม.ชุดใหม่ ลงตัว 100 เปอร์เซ็นต์
เพราะล่าสุด เก้าอี้รัฐมนตรีหลายกระ-ทรวงยังดิ้นไปดิ้นมา
คาดว่าอย่างเร็วกว่า ครม.ชุดใหม่จะเริ่มทำงานก็คงทันฉลองเทศกาลตรุษจีน (ซินเจีย ยู่อี่ ซินนี้ฮวดไช้) พอดิบพอดี
สำหรับนโยบายรัฐบาลใหม่จะมีแนวทางอย่างไร?
อันนี้ไม่ต้องรอลุ้นให้เสียเวลา
เพราะนโยบายรัฐบาลใหม่ก็คือนโยบายพรรคไทยรักไทย
มีเพิ่มพิเศษคือ เน้นความปรองดองสมานฉันท์เป็นธงนำ
พัฒนาเศรษฐกิจแบบยั่งยืนตามแนวทางเศรษฐกิจพอเพียง
แต่จะปลุกเศรษฐกิจซบเซาด้วยนโยบายประชานิยม
ลงทุนโครงการเมกะโปรเจกต์กระตุ้นการใช้จ่ายภาคประชาชน
บูมธุรกิจท่องเที่ยวเพื่อเพิ่มรายได้ที่กำลังหดตัว
ขยายตลาดส่งออกเพื่อดูดเงินตราต่างประเทศเพิ่มเติม ฯลฯ
ฟังดูเหมือนง่าย แต่ความจริงมันไม่ง่ายนะโยม
เพราะผลจากการใส่เกียร์ว่างของรัฐบาลขิงแก่ ทำให้ปัญหากลายเป็นดินพอกหางหมูแก้ยากกว่าเดิม
การเป็นรัฐบาลผสมหลายพรรค การขับเคลื่อนนโยบายย่อมไม่สะดวกโยธินเหมือนเป็นรัฐบาลพรรคเดียว
ข้อสำคัญ คนที่มีอำนาจตัวจริงไม่ ได้อยู่ในรัฐบาล
แต่ที่น่าห่วงที่สุดคือ ยังไม่รู้อนาคตจะต้องเจอวิบากกรรมอะไรต่อไป??
“แม่ลูกจันทร์” ฟันธงว่า อนาคตรัฐ-บาลจะยาวหรือสั้นต้องดูกันวันต่อวัน? เดือนต่อเดือน?
ถ้าอยู่ได้ครบ 1 ปี ก็ถือว่าสอบผ่าน
ถ้าครบ 2 ปี ก็ถือว่าเกินเป้า
ถ้าอยู่ครบ 3 ปี ถือว่าไร้เทียมทาน
ถ้าครบเทอม 4 ปี ถือว่าอภินิหารมีจริง.
“แม่ลูกจันทร์”
คอลัมน์ สำนักข่าวหัวเขียว