บล็อคข่าวส่งเสริมคนดี (รักดีหามจั่ว รักชั่วหามเสา หามจั่วก็หนักนะ)

ข่าวจากสื่อ

บทความจากสื่อ

วันพฤหัสบดีที่ 31 มกราคม พ.ศ. 2551

มังกรเจ็ดหัวของ “นักประชาธิปไตย”

โดย คุณทวีวุฒิ จุลวัจนะ
ที่มา เวบไซต์
thai-journalist-democratic-front
29 มกราคม 2551

สิ่งที่ทำให้นักประชาธิปไตย “เซ็ง” เป็นอันดับแรกๆ ในการต่อสู้กับ เผด็จการ คมช. ก็คือ คมช. นั้น ทำตัวเหมือน “มังกรเจ็ดหัว”

หัวหนึ่งพูดอะไร พ่นอะไรออกมา นักประชาธิปไตย ที่คิดจะจับคำพูดนั้น มาเป็นประเด็น ในการโจมตี ไปๆ มาๆ ต้องมาเจอกับคำพูดอีกแบบ อีกด้าน ของ มังกรอีกตัวในเจ็ดตัวนั้น เรียกได้ว่า การจับเอาคนในฝ่ายเผด็จการ มายำ นั้นยากมาก

เช่นในขณะที่ มังกรหัวบัง กำลังวางแผนทำลาย ทรท. หรือ พปช. แบบอีแอบ ที่รั่วออกมาบ่อย แต่มังกรอีกหัวเช่น สุรยุทธ ก็บอกว่า ต้องสมานฉันท์ กำลังพยายามสมานฉันท์ ส่วนมังกรอีกหัว คือพวกแผนกข่าวของ คมช. ก็ออก สปอร์ทโฆษณา เช้า สาย บ่าย เย็น เรื่อง ความสามัคคีในชาติ ส่วนอีกหัวเก่า ของมังกรคือสพรั่ง พี่คนนี้แกก็ออก “ซัด” อำนาจเก่าตรงๆ ทุกวี่ทุกวัน

สรุปคือ นักประชาธิปไตย “ปวดหัว” คือไม่เหมือนกับตอนทักษิณเป็นนายก ที่ทุกอย่างสายตรงถึงทักษิณ แล้วทุกคนทั้งหมด พยายามเดินไปทางเดียวกัน พูดเหมือนกันด้านนั้นด้านนี้ ให้มีเอกภาพ ทำเหมือนกันหมด แบบทักษิณเลยถูกโจมตีง่าย เพราะมันมีอยู่หัวเดียว ข้อความเดียว ข้อมูลเดียว ให้จับมายำได้ง่ายๆ แต่แบบมังกรเจ็ดหัวนี่สิ มันน่าคิด
คือที่น่าคิด คือว่า จะให้น้ำหนักมังกรตัวไหนอย่างไรดี เพราะมันก็ตัวเดียวกันคือ เผด็จการทั้งหมดทุกตัว เช่น พอบังหลุดพูดเรื่องแผนเป็นขั้นๆ ออกมา คนก็ด่าบังกันตรึม เพียงแต่ว่า เสียงด่านั้น มันก็ถูก “กลบให้อ่อนลง” ด้วยคำพูดจากอีกหัวของมังกร คือ สุรยุทธ ที่ออกมาบอกว่า กำลังพยายามสมานฉันท์ “เต็มที่” แล้วก็ผนวกเข้าไปกับฝ่ายข่าวของ คมช. เลย ที่ออกข่าวลือมาว่า คนระดับสูงของ คมช. แอบไปเจอทักษิณถึงลอนดอน เพื่อสมานฉันท์ แล้วโฆษณา กระตุ้นความสามัคคีในไทย ก็เทกันออกมา “ตรึม”

กลายเป็นว่า คนทั่วไป ที่ไม่ได้ยืนอยู่กับนักประชาธิปไตย หรือ เผด็จการ “งง” เป็นไก่ตาแตก ไม่รู้จะเชื่อใครดี สรุปคือ ถูก Marginalized หรือทำให้เสียงของคนคนนั้น ที่น่าจะออกมาด่า บัง เรื่องอีแอบทำลาย ทรท. และ พปช.กลายเป็นว่า “ไม่ส่งเสียงอะไร” นี่ก็เป็นกลยุทธ ที่ตำรวจใช้มาอย่างช้านาน คือ Good Cop และ Bad Cop สลับกันคุยกับผู้ต้องสงสัย คนหนึ่งดีด้วย อีกคนตบหัว จนในที่สุด “ล้วงตับ” คนต้องสงสัยได้หมด “คุมเกมอยู่หมัด”

มาวันนี้ มองดูพลพรรคนักประชาธิปไตยแล้ว ก็ดีใจที่ “เรียนรู้กลยุทธมังกรเจ็ดหัว” มาเรียบร้อยแล้ว จาก คมช. เช่น ลุงสมัคร สมานฉันท์เต็มที่ พูดอะไรทำอะไร สมานฉันท์เต็มร้อย ทั้ง “กกต.ดี ทหารดี ป๋าดี” สมัครกวาดคะแนนคนชอบสมานฉันท์ เข้าบ้านหมด ทำตัวเหมือนสุรยุทธไม่มีผิด ในขณะเดียวกัน มังกรตัวอื่นของฝ่ายประชาธิปไตย เช่น Hi-Thaksin “ออกจิก” ฝ่ายเผด็จการแรงๆ ตลอดเวลา ชนิด “ลากไส้มาให้ดูกันเลย” แล้วไง ก็ไม่มีอะไรมาก นอกจาก “สื่อ” กระแสหลักส่วนมาก ของ เผด็จการ วิ่งกัน “เป็นฝูง” ไปหา สมัคร กะจะเอาการกระทำของมังกรตัวนั้นตัวนี้ “มามัดสมัคร”

แบบเช่นตอน กกต. ถูก ฝ่ายประชาธิปไตย หลายหัว “อัดเสียยับ เปิดโปงจนเห็นหมด ถึงความเอนเอียงและแผนชั่ว” แล้วสมัคร ว่าไงกับสื่อเป็นฝูงๆ นั้น สมัครเขาก็บอกว่า “ผมพูดมาตลอดว่าขอบคุณและเชื่อในความยุติธรรมของ กกต.” ตกลง “สื่องง” ไม่รู้จะต่อเรื่องยังไงดี ถามสมัครว่า แต่นั่นมันไม่เหมือนกับที่คนอื่นในฝ่ายท่านทำ สมัครก็ตอบว่า “ความแตกต่างเป็นสิ่งที่ดีในระบอบประชาธิปไตย ทุกคนมีสิทธิมีเสียง แสดงออกได้” ตกลง “สื่องง” มากขึ้นไปอีก พอสื่อตอกย้ำว่า แล้วเอกภาพและการเป็นผู้นำของท่าน ไม่ถูกท้าทายหรือ สมัครตอบว่า “คุณต้องไปถามเขาเอง ผมไม่เกี่ยวข้องกับ Hi-Thaksin” สรุปคือ เหมือน มังกรเจ็ดหัวของ เผด็จการไม่มีผิด “คือยำยากมาก”

เรื่องนี้จริงๆ ก็จะจบลงตรงนี้ แต่เพื่อนวงในที่ได้อ่านบทความนี้ก่อน โทรมาถามว่า “เราชอบสมัครเพราะปากกับใจตรงกัน” คือเพื่อนเขาสงสัยว่า แบบมังกรเจ็ดหัวนี้ มันฟังดูไม่มี จริยธรรม และ จรรยาบรรณ ยังไงไม่รู้ เพราะมันเหมือน “โกหก หลอกลวง และ ปลิ้นปล้อน เอาแต่ได้”

ก็เป็นประเด็นที่น่าคิดทีเดียว แต่ถ้าย้อนรอยแล้วไปศึกษา มังกรเจ็ดหัวของ คมช. ให้ดีๆ มันเหมือน “ต่างหัวของมังกร ต่างทำในสิ่งที่ตัวเองทำ” โดยไม่มองมังกรตัวอื่นมากนัก คือมันดูเหมือนไม่มีแผนใหญ่ ที่วันหนึ่ง บังมาคุยกับสุรยุทธ ว่ากำลังเร่งการทำลายล้าง ทรท.นะ จนอาจจะมีกระแสต่อต้าน ฉะนั้น ขอให้ออกตัวเรื่อง “สมานฉันท์บ่อยๆหน่อย” คนฟังจะได้สับสนแล้ว Maginalize กันไปให้เฉยๆ แต่เท่าที่ดู มันเหมือนแค่มีการ “จับกลุ่มแบบหลวมๆ” เพื่อที่จะทำงานร่วมกันไปทางเดียวกัน คือหมายความว่า ในขณะที่ บัง ออกมาทำลาย ทรท. และสุรยุทธ ออกมาพูดเรื่องสมานฉันท์ คงจะไม่มีใครบอกว่า สุรยุทธ “ไม่เชื่อ” เรื่องสมานฉันท์ และ บัง “เชื่อ” เรื่องสมานฉันท์ เพียงแต่ว่า ในการกระทำของมังกรทั้งสอง ที่ทำไปตามธรรมชาติของตัวมันเอง “มันสนับสนุนกันอยู่”

ก็เหมือนสมัคร ที่ออกมาพูดเรื่องสมานฉันท์ กับ กกต. พวกเผด็จการ และป๋า ก็เพราะเขาเชื่อว่าสำคัญจริงๆ และเป็นแนวทางของเขาที่จะทำอย่างนั้น แต่ในขณะเดียวกัน ก็ต้องปล่อยให้แบบ Hi-Thaksin ทำตามหน้าที่ของเขาไป ใครจะมาด่าว่า “ทำไมไม่โทรไป Hi-Thaksin แล้วสั่งให้เขาสมานฉันท์ด้วย” ก็คงจะเหมือนการที่ไม่มีใคร ไปถาม บัง ว่าเมื่อไหร่จะสั่งให้ สุรยุทธ “เลิกเฉยๆ กับอำนาจเก่า เลิกสมานฉันท์ แล้วอัดอำนาจเก่า” หรือมีคนไปถามสุรยุทธ ว่า “เมื่อไหร่จะสั่งให้ ป๋า บัง และ สพรั่ง เบาๆ ลงแล้ว สมานฉันท์เสียที เสียบ้าง” คือจริงๆ แล้ว มังกรมันมีความเป็นตัวของตัวเอง มากพอดู ถ้าจะให้สรุปกลยุทธ มันคือ “แยกกันตี แต่ร่วมกันป้องกัน” คือเวลาเห็นภัย มัน “จูน” เข้าหากันเอง

สุดท้ายแล้ว สมัคร “พูดตรงกับใจ” หรือไม่ หรือว่า “ติดนิสัยพลิ้ว” มาจาก คมช. เรียบร้อยแล้ว ผมก็ขอเชิญให้ท่านผู้อ่านสรุปเอาเองนะครับ ส่วนตัวผม อย่างที่บางท่านอาจจะทราบ สนิท กับทาง ลุงใหม่ หรือ สมัครมานาน คือผมรู้จักท่านดี ก็ขอบอกเท่านั้นว่า ลุงใหม่ ไม่ใช่แบบทักษิณ ที่เป็น CEO ที่มีภาวะการเป็นผู้นำ “สูงส่งจริงๆ” แต่ลุงใหม่ เป็นนายกฯ ของรัฐบาล 6 พรรค ลุงใหม่อาจจะมีจุดยืนที่ต่างไปจากคนอื่นในรัฐบาล และ ฝ่ายประชาธิปไตย ได้ง่ายๆ แต่ก็อย่างที่ลุงใหม่จะสอน สส. ใหม่ของพรรคประชากรไทยเสมอ เมื่อสักสิบกว่าปีที่แล้ว ว่า “แตกต่างได้ แต่อย่าแตกแยก”

ผมว่ามังกรเจ็ดหัวของฝ่ายประชาธิปไตย ก็คงจะทำให้ฝ่ายอำมาตร “ปวดหัวบ้าง” เพราะลุงใหม่นั้น พูดมาเป็นสิบปีแล้ว เรื่อง แตกต่างได้ คือเคารพในสิทธิเสียงคนอื่น แต่อย่าแตกแยก คือยังไงก็ตาม ท้ายสุดแล้ว ก็ต้องทำงานร่วมกันในทางเดียวกัน



จาก Thai E-News

ข่าวส่งเสริมคนดี

จำนวนผู้เข้าเยี่มมชม

link to affordable web hosting
Powered by web hosting provider .

สถิติการเข้าชม DMNEWS

eXTReMe Tracker