บล็อคข่าวส่งเสริมคนดี (รักดีหามจั่ว รักชั่วหามเสา หามจั่วก็หนักนะ)

ข่าวจากสื่อ

บทความจากสื่อ

วันพุธที่ 16 มกราคม พ.ศ. 2551

รัฐรีดสนุกมือสนับสนุน 'ทีวีสาธารณะ' [16 ม.ค. 51 - 04:24]

นายสมชัย อภิวัฒนพร รักษาการรองอธิบดีกรมสรรพสามิต เปิดเผยว่า เนื่องจากพระราชบัญญัติองค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย พ.ศ.2551 ได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษา เมื่อ 14 ม.ค.2551 โดยมีผลบังคับใช้ตั้งแต่หลังเที่ยงคืนของวันเดียวกัน ส่งผลให้กรมสรรพสามิตต้องเก็บเงินบำรุงองค์การจากผู้มีหน้าที่เสียภาษีตามกฎหมายว่าด้วยสุราและยาสูบ เพื่อนำส่งเป็นรายได้ขององค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะฯ ในอัตรา 1.5% ของภาษีที่เก็บจากสุราและยาสูบนั้น ไม่น่าจะทำให้ผู้ประกอบการต้องปรับราคาสินค้าขึ้นแต่อย่างใด เนื่องจากอัตราภาษีที่เพิ่มขึ้นคิดเป็นเม็ดเงินเพียงเล็กน้อย


สำหรับอัตราภาษีที่จัดเก็บเพิ่มนั้น ส่งผลให้กรมสรรพสามิตมีรายได้เพิ่มขึ้นประมาณปีละ 1,700 ล้านบาท แต่รายได้ดังกล่าวต้องนำไปมอบให้องค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะฯ ทั้งหมด แต่หากรายได้จากการจัดเก็บภาษีมีเกินกว่า 2,000 ล้านบาท ต้องนำส่งเข้าคลังตามกฎหมาย นอกจากนี้ กฎหมายดังกล่าวยังให้อำนาจ รมว.คลัง ปรับเพดานอัตราภาษีให้เพิ่มขึ้นหรือลดลงได้ตามความเหมาะสมทุกๆ 3 ปี

ทั้งนี้ ราคาสินค้าที่ประกาศใหม่ภายหลังจากใช้อัตราภาษีดังกล่าวจะส่งผลให้ยาสูบ เช่น มาร์ลโบโรมีราคาแพงขึ้น 51 สตางค์ต่อซอง แอลแอนด์เอ็มเพิ่มขึ้น 39 สตางค์ต่อซอง กรองทิพย์และสายฝนเพิ่มขึ้น 36 สตางค์ต่อซอง เบียร์สิงห์เพิ่มขึ้น 30 สตางค์ต่อขวด ลีโอเพิ่มขึ้น 22 สตางค์ต่อขวด ช้างเพิ่มขึ้น 22 สตางค์ต่อขวด สุราขาว 35 ดีกรี เพิ่มขึ้น 29 สตางค์ต่อขวด และสุราสี เช่น แสงโสมเพิ่มขึ้น 1.80 บาทต่อขวด โดยคาดว่าผู้ประกอบการน่าจะรับภาระภาษีที่เกิดขึ้นไว้เอง เนื่องจากเม็ดเงินที่ปรับเพิ่มขึ้นส่วนใหญ่เป็นเศษสตางค์และมีผลกระทบต่อต้นทุนของผู้ประกอบการเล็กน้อย โดยนางประภัสสรพงศ์ พันธุ์วิศาล โฆษกโรงงานยาสูบ กล่าวว่า โรงงานยาสูบยังไม่ได้ปรับราคายาสูบขึ้นแต่อย่างใด แม้ว่ากฎหมายจะมีผลบังคับใช้แล้ว

ด้านนายสมชัย สัจจพงษ์ ที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ฐานะการคลังของรัฐบาลตามระบบกระแสเงินสดในเดือน ธ.ค. 2550 ขาดดุลเงินสดต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 3 จำนวน 5,031 ล้านบาท ส่งผลให้ ไตรมาสแรกของปีงบประมาณ 2551 ขาดดุลเงินสดทั้งสิ้น 115,646 ล้านบาท สูงกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้ว 83.9% เนื่องจากปีที่แล้วมีปัญหาทางการเมือง โดยเป็นการขาดดุลเงินงบประมาณ 64,008 ล้านบาท และนอกงบประมาณ 51,638 ล้านบาท ทั้งนี้ การขาดดุลเงินสดที่เพิ่มมากขึ้นในช่วงนี้ เป็นผลมาจากการเร่งการใช้จ่ายด้านการลงทุนของรัฐบาลที่ขยายตัวเพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วถึง 176.7%.


ข่าวส่งเสริมคนดี

จำนวนผู้เข้าเยี่มมชม

link to affordable web hosting
Powered by web hosting provider .

สถิติการเข้าชม DMNEWS

eXTReMe Tracker