บล็อคข่าวส่งเสริมคนดี (รักดีหามจั่ว รักชั่วหามเสา หามจั่วก็หนักนะ)

ข่าวจากสื่อ

บทความจากสื่อ

วันอาทิตย์ที่ 27 มกราคม พ.ศ. 2551

The Economist: ไปเสียได้ก็ดี

Jan 24th 2008
From
The Economist print edition
แปลโดย Thai Report Blog

หลังจากการเลือกตั้งของประเทศไทยเสร็จสิ้นลงแล้ว บรรดานายพลก็ควรจะออกไปเสียที

บรรดาทหารซื่อบื้อที่ขับไล่นายกฯทักษิณ ชินวัตรเมื่อปี พ.ศ. 2549 ดูเหมือนจะทำอะไรเข้าท่าสักที สัปดาห์นี้เราได้เห็นการฟื้นฟูรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งของเมื่อเดือนที่ผ่านมา ประเทศไทยดูจะย้อนกลับไปในสมัยประชาธิปไตยหลายพรรคเพื่อป้องกันเหตุร้ายที่อาจเกิดขึ้นอีก นี่เป็นข่าวดีสำหรับคนไทย 65 ล้านกว่าคน และจะเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับชาวเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อีกกว่าครึ่งพันล้านคนและชาวจีนมากกว่าพันล้านคน อย่างไรก็ตาม ไม่มีอะไรเลยที่บ่งบอกว่าพวกนายทหารทำเพื่อผลประโยชน์ของชาติ เหตุผลในการรัฐประหารยังคงเป็นเรื่องไร้เหตุผล

คณะเผด็จการทหารพยายามอย่างที่สุดเพื่อจะป้องกันผลลัพธ์ที่ไม่เป็นอันตรายซึ่งตอนนี้ดูจะเป็นไปได้จริง? เขาสั่งตัดสิทธิ์ทางการเมืองของทักษิณและสมาชิกพรรค 100 กว่าคนเป็นเวลา 5 ปี พรรคไทยรักไทยถูกยุบแต่พวกเขาก็รวมตัวกันใหม่ในชื่อพรรคพลังประชาชน (พปช.) พวกเขาสร้างความกังวลใจกับบรรดานายทหารเป็นอย่างมากที่พวกเขาได้รับเสียงมากกว่าพรรคอื่นๆอย่างทิ้งขาดและเกือบจะได้ที่นั่งเกินครึ่งของสภา ประชาชนไทยโดยเฉพาะคนชนบทที่ได้รับประโยชน์จากนโยบายการพัฒนาของทักษิณเสียงดังกว่า พวกเขาส่งเสียงไปยังพวกทหารรอยัลลิสต์ในกรุงเทพฯว่าพวกเขายังคงต้องการทักษิณหรือคนที่คิดแบบทักษิณ สมัคร สุนทรเวช หัวหน้าพรรคพลังประชาชนอารมณ์ร้อนอดีตฝ่ายขวา ยอมรับอย่างร่าเริงว่าเขาเป็น”ตัวแทน”ของทักษิณ และบอกในสัปดาห์นี้ว่าเขาพร้อมจะเป็นนายกฯและพร้อมจะนำพรรคทั้ง 6 พรรคแล้ว

การใช้หลักกฏหมายอย่างแบบเฉโก ได้สร้างความกังลวให้พปช. พรรคที่ประชาชนเทคะแนนให้ คณะกรรมการเลือกตั้งตั้งข้อสงสัยการทุจริตในการเลือกตั้งมากมาย ซึ่งส่วนใหญ่เป็นของพรรค พปช. ศาลฎีการับคำร้องที่อาจทำให้ชัยชนะของพรรค พปช.ต้องเป็นโมฆะ ไม่ว่าองค์กรเหล่านี้จะถูกกดดันหรือไม่ ท้ายที่สุดพวกเขาก็ทำในสิ่งที่ถูก ไม่มีผู้สมัครโดนใบแดงหรือใบเหลืองมากพอที่จะทำให้พรรคพลังประชาชนไม่ได้จัดตั้งรัฐบาล แม้ว่าพรรคพลังประชาชนยังมีคดีความอยู่อีกหลายคดี แต่การที่ศาลฎีกายกคำร้องกรณียุบพรรค พปช. ไป ก็ถือว่าเป็นนิมิตหมายอันดีที่ประชาธิปไตยของไทยจะได้เดินหน้าอีกครั้ง

รัฐบาลใหม่ควรจะมีเสียงข้างมากในระดับที่ทำงานได้ แต่ไม่ควรจะเหมือนยุคคุณทักษิณที่ดูจะมากเกินควร พรรคประชาธิปัตย์ซึ่งเป็นพรรคฝ่ายค้านทำได้ดีกว่าเดิมในการเลือกตั้งสองครั้งที่ผ่านมา ดังนั้น เราคงได้เห็นการประชันฝีปากที่เข้มข้นขึ้นในรัฐบาลชุดใหม่ กกต.ได้แสดงความกระตือรือร้นในการกำจัดการซื้อเสียงให้เห็นแล้ว โดยภาพรวมแล้ว ประชาธิปไตยของไทยได้ผ่านจากความยุ่งยากมาสู่การมีภาพรวมที่ดีทีเดียว

อย่างไรก็ตาม ความวุ่นวายต่างๆก็ยังไม่จบเสียทีเดียว การเมืองของไทยมีแนวโน้มจะเต็มไปด้วยอารมณ์โกรธเคือง การกล่าวหา และการใช้ถ้อยคำรุนแรง นายสมัครเป็นคนหนึ่งที่พูดจารุนแรง มีความกังวลเป็นอย่างมากว่าเขาอาจจะเอานโยบายที่แย่ที่สุดของทักษิณมาใช้ เช่น นโยบายทำสงครามกับยาเสพติด ที่ดูเหมือนจะเป็นการฆ่าปิดปากผู้กระทำผิดของเจ้าหน้าที่ การที่ทักษิณวางแผนจะกลับประเทศไทยได้สร้างความกังวลใจเช่นกัน ภรรยาของเขาอยู่ประเทศไทยแล้วและได้ปฏิเสธข้อกล่าวหาทุจริตเรื่องการประมูลซื้อที่ดินและรับการประกันตัวออกมา ทักษิณผู้กำลังเพลิดเพลินกับชัยชนะอาจจะวางแผนแก้แค้นคณะรัฐประหารซึ่งอาจจะก่อให้เกิดความวุ่นวายขึ้น คงจะดีกว่าถ้าเขาจะรักษาสัญญาว่าจะเลิกเล่นการเมืองไปตลอด

หน้าที่สุดท้าย
คงจะยังเป็นทางเลือกที่ดี หากพลเอกสนธิ บุญรัตกลิน ผู้นำรัฐประหารและลูกน้องของเขาจะลงจากตำแหน่งอย่างสง่างามและให้สัญญาว่าจะไม่ยุ่งกับการเมืองเพื่อหาความสุขกับการนิรโทษกรรมที่พวกเขาออกให้ตัวเอง บรรดาชนชั้นนำในไทยเริ่มเบื่อหน่ายกับความขัดแย้งระหว่างกลุ่มต่างๆ ระบอบการเมืองแบบรัฐสภากำลังจะกลับมา พวก liberal (ในที่นี้น่าจะแปลว่า พวกต้านโลกาภิวัฒน์) หลายคนที่เกลียดทักษิณและชื่นชมกับรัฐประหารอาจจะบอกว่าพวก คมช. หมดภาระแล้ว พวกเขาทำหน้าที่ได้ดีแล้ว ไร้สาระสิ้นดี ไม่เพียงแต่คมช.ล้มเหลวที่จะหาหลักฐานเอาผิดทักษิณทั้งในเรื่องคอรัปชั่นและการลุแก่อำนาจ ที่เป็นเรื่องที่พวกเขาใช้เป็นเหตุผลหลักในการทำรัฐประหาร พวกเขายังทำให้ขุนศึกทหารเห็นช่องในการเอาข้อกล่าวหาเรื่องข้อพิพาททางการเมือง หรือข้อกล่าวหาคอรัปชั่นมาเป็นข้ออ้างทำรัฐประหาร ไม่เพียงแต่ในประเทศไทยเท่านั้น แต่ยังเป็นในหลายประเทศ เช่น ฟิลิปปินส์ ที่ซึ่งประชาธิปไตยยังคงอยู่ในช่วงผลิดอกเริ่มต้น

ผู้ก่อการรัฐประหารล้มเหลว เพราะรัฐบาลเต่าคลานและนายทหารเกษียณที่เขาแต่งตั้งขึ้นได้สร้างผลงานเน่าๆ สิ่งเหล่านี้และรวมไปถึงความไม่แน่นอนในการที่เหล่าบรรดาเผด็จการทหารจะออกจากความยุ่งยากที่เขาได้ก่อขึ้น ได้ทำให้ประเทศพัฒนาอย่างเชื่องช้ามากกว่าปี เช่นเดียวกับรัฐประหารหลายๆ ครั้งที่ได้กระทำมา การก่อการครั้งนี้ได้สร้างปัญหามากกว่าที่มันได้แก้ไขเสียอีก


จาก Thai E-News

ข่าวส่งเสริมคนดี

จำนวนผู้เข้าเยี่มมชม

link to affordable web hosting
Powered by web hosting provider .

สถิติการเข้าชม DMNEWS

eXTReMe Tracker