ในอารมณ์เหมือนรัฐบาลพลัดถิ่นยังไงยังงั้น โดยกระแสตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมาเห็นมีแต่ข่าว ส.ส.พรรคร่วมรัฐบาลไปเดินเพ่นพ่านๆที่ฮ่องกง
บินตรงกองบัญชาการใหญ่
นอกจากลูกทีมพรรคพลังประชาชนที่พอมีเหตุผลที่เอ่ยอ้างกันได้ว่า แห่ไปเยี่ยมเจ้านายฉลองชัยชนะในสนามเลือกตั้ง
แก้ข่าว โผล่ไปเสนอหน้าขอลุ้นเก้าอี้รัฐมนตรี
แต่ที่มันหาเหตุเอ่ยอ้างกันไม่ได้เต็มปากเต็มคำ กับคิวของคนนอกอย่าง “ลูกท็อป” นายวราวุธ ศิลปอาชา ลูกชาย “บิ๊กเติ้ง” นายบรรหาร ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทย ออกมายอมรับว่า พาเมียบินไปช็อปปิ้ง และได้พบกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้ใหญ่ที่เคยเป็นประธานในพิธีแต่งงาน
ชิงปัดเป็นเรื่องบังเอิญ
ท่ามกลางอาการกระเพื่อมภายในพรรคชาติไทย ภายหลังมีข่าวว่า “เสี่ยเม้ง” นายประภัตร โพธสุธน เลขาธิการพรรค จะไม่ติดโผรัฐมนตรีในโควตา เพราะ “บิ๊กเติ้ง” ไม่สบอารมณ์ ฐานไม่ยอมควักค่าต๋งจ่ายกองกลางช่วงเลือกตั้ง
แต่ชื่อ “ประภัตร” อยู่ในบัญชีเพื่อนแท้ของ “ทักษิณ” ต่อสายตรงได้
จัดอยู่ในโควตาพิเศษ
โดยเงื่อนไขวัดใจ ตามรูปการณ์ก็เป็นไปได้ “บิ๊กเติ้ง” บินไปฮ่องกงเองก็จะฮือฮากันใหญ่ เลยส่งไม้ต่อให้ “ลูกท็อป” เป็นผู้นำสารเจรจา
คิวถัดมาเป็นกระแสข่าวลือสะพัด นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ อดีตเลขาธิการพรรคไทยรักไทย ได้หนีบเอาเพื่อนซี้คือนายสมศักดิ์ เทพสุทิน และ “เจ๊เป้า” นางอนงค์วรรณ เทพสุทิน เลขาธิการพรรคมัชฌิมาธิปไตย บินไปพบนายใหญ่ที่ฮ่องกง
ท่ามกลางคิววุ่นๆกับคนชื่อ “ประชัย เลี่ยวไพรัตน์”
เปิดศึกยื้อสถานการณ์นำพรรค ต่างฝ่ายต่างชิงต่อสายตรงถึงอดีตนายกฯทักษิณ แย่งโควตารัฐมนตรี ที่ได้เกลี่ยมา 2 ตำแหน่งไม่พอแบ่ง จะขอเพิ่มเป็น 3 เก้าอี้
ตามเกมเลย กับคิวของนายสมศักดิ์หากจะไปต่อรองขอโควตารัฐมนตรีเพิ่มจริง โดยตัวเลขต้นทุนของพรรคมัชฌิมาธิปไตยที่มีอยู่ไม่ถึง 10 เก้าอี้
แทบไม่ต้องคุย
หากไม่มีมัดจำล่วงหน้า เงื่อนไขของการหวนกลับไปเป็นเนื้อเดียวกันในอนาคต
ในสถานภาพและเงื่อนไขเดียวกับพรรครวมใจไทยชาติพัฒนา โดยเสียงที่มีอยู่ 9 เสียง ตามสัดส่วนรัฐมนตรี
ได้แค่ 1 เก้าอี้รัฐมนตรีว่าการก็หรูแล้ว
คงไม่ได้โบนัสอีก 1 เก้าอี้ไปแย่งกันวุ่นวาย กลายเป็นศึกภายในระหว่าง “เสี่ยอ๊อด” ประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์ เลขาธิการพรรค กับฝ่ายที่หนุน “บิ๊กเหวียง” พล.อ.เชษฐา ฐานะจาโร หัวหน้าพรรค
ส่อเค้าวงแตกตามค่ายมัชฌิมาธิปไตย
แต่ที่ยังระอุอยู่ภายใน คิวของพรรคเพื่อแผ่นดินที่มีกระแสแว่วๆ จะมีพวกป่วนในเวทีโหวตเลือกนายสมัคร สุนทรเวช หัวหน้าพรรคพลังประชาชน เป็นนายกรัฐมนตรี
“เฮี้ยว” จะขอเป็นรัฐมนตรีให้ได้
เปิดเกมต่อรอง เล่นเอาล่อเอาเถิดจนนายสุวิทย์ คุณกิตติ หัวหน้าพรรค และแกนนำ หงุดหงิดและอิดหนาระอาใจไปตามๆกัน
ที่พลิกความคาดหมาย “ตัวแสบ” ที่มีปัญหากลับไม่ใช่ นักการเมืองเขี้ยวลากดิน พวกขาเก่าเจ้าประจำที่คุ้นกันเป็นสันดาน
แต่เป็นผู้แทนฯหน้าใหม่ซิงๆที่ทำตัวกร่างเกินพรรษาทางการเมือง
ส่อเค้าเกิดเร็วตายไว
เพราะเท่าที่ได้ยินมา ตัวจริงเสียงจริงที่มีสิทธิทุบโต๊ะจัดวางตัวคนเป็นรัฐมนตรีในพรรคเพื่อแผ่นดินยังนิ่ง
ไม่ให้ราคา ไม่บ้าจี้เต้นตามเกมกรรโชกของ “มือใหม่ หัดเขี้ยว”
ในทางตรงกันข้ามมีการล็อกเป้า จับมือดมได้แล้วว่าเป็นทีมเดียวกับที่ทำแต้มเพี้ยนตั้งแต่คิวโหวตเลือกประธานสภาผู้แทนราษฎร
ถ้ายังกล้าลองของในวันโหวตนายกรัฐมนตรี
จะได้รอเช็กบิลทีเดียวเลย.
ทีมข่าวการเมือง รายงาน
คอลัมน์ ข่าวการเมือง(วิเคราะห์)