บล็อคข่าวส่งเสริมคนดี (รักดีหามจั่ว รักชั่วหามเสา หามจั่วก็หนักนะ)

ข่าวจากสื่อ

บทความจากสื่อ

วันพฤหัสบดีที่ 24 มกราคม พ.ศ. 2551

ใครลอบกัด

แหลมคมขึ้นลงเล่นใต้ดินลึกขึ้นนี่คือสถานการณ์แห่งการแก่งแย่งตำแหน่ง“รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม” ตามสายตาที่“บางกอกทูเดย์” มองเห็นอยู่ว่า
มันไม่ได้เป็นแค่การแก่งแย่งระหว่าง คมช. กับ“ทักษิณ ชินวัตร” เท่านั้นแต่มีภาพแห่งความขัดแย้งในกองทัพ ที่ค่อยๆปริและชัดขึ้นแล้วในเวลานี้พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ตกเป็นเป้าวันนี้เราจะมาวิเคราะห์กันว่า ใครที่กำลังลอบกัด พล.อ.อนุพงษ์ อยู่อย่างเอาเป็นเอาตาย พล.อ.อนุพงษ์ ไม่ใช่ ตท.6 พล.อ.อนุพงษ์ เป็น ตท.10
รุ่นเดียวกับ “ทักษิณ ชินวัตร”แต่ที่พูดเช่นนี้ เราไม่ได้สื่อว่า พล.อ.อนุพงษ์ เป็นพวกเดียวกับทักษิณ และคอยให้ความช่วยเหลือทักษิณอยู่พล.อ.อนุพงษ์ คือทหารอาชีพที่ตรงไปตรงมา และมีส่วนร่วมในการยึดอำนาจการปกครองไปเสียจากทักษิณ เมื่อวันที่ 19 กันยายน 2549 โดยเมื่อเห็นว่ารัฐบาลขณะนั้นทำไม่ถูกหลายเรื่องและหากไม่ลงมือประเทศชาติก็จะเกิดความเสียหายใหญ่หลวงกว่า ก็จัดการซะ

พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน บอกกับนักข่าวว่า ตัวเขาไม่ได้เลือก พล.อ.อนุพงษ์ เป็น ผบ.ทบ. แต่ได้รับเลือกมาจาก“คณะกรรมการ” ที่กองทัพตั้งขึ้นมาพล.อ.อนุพงษ์ แม้ว่าจะเป็น 1 ใน 4 พลเอกแห่ง คมช. สายกองทัพบก ที่ลงนามในหนังสือ “ลับ” ของ คมช. ที่ออกมาเพื่อสกัดกั้นพรรคพลังประชาชน ฉบับลงวันที่ 14 ก.ย.2550 แต่เมื่อขึ้นมาเป็น ผบ.ทบ. เต็มตัว เมื่อวันที่ 1 ต.ค.50 พล.อ.อนุพงษ์ก็ไม่ได้สนองตอบแผนลับ คมช.โดยไม่ยอมส่ง “กำลังพล” ของกองทัพบก ออกไปสกัดกั้นผู้สมัคร ส.ส.ของพรรคพลังประชาชน ในสนามเลือกตั้งและได้ออก “สมุดปกขาว” กองทัพบก กำหนดแนวทางปฏิบัติให้กำลังพลกองทัพบก “วางตัวเป็นกลาง” ในการ
เลือกตั้ง 23 ธันวาคม 2550 ทำให้กองทัพบกไม่เสื่อมเสีย ไม่ถูกประชาชนด่าและเมื่อ พ.ต.อ.พณาเจือเพ็ชร กฤษณะราช ผู้สมัครส.ส.ระบบสัดส่วน กรุงเทพฯ ของพรรคพลังประชาชนแจ้งความต่อตำรวจ สน.ดุสิต กล่าวโทษ พ.ท.พลศักดิ์ ศรีเพ็ญ ผบ.ร.1 พัน 3 รอ. ทำผิดกฎหมายเลือกตั้งจัดเลี้ยงกำลังพลกับแม่บ้านและพูดจาโน้มน้าวให้เลือกพรรคประชาธิปัตย์ กับผู้สมัครพรรคประชาธิปัตย์ เขต 1กรุงเทพฯพล.อ.อนุพงษ์ ก็ไม่พูดจาปกป้อง เปิดไฟเขียวให้ดำเนินการตามกฎหมายได้เต็มที่ บอกว่าเป็นเรื่องอัตตาที่ทำไปเอง กองทัพบกไม่มีแนวทางให้ทำอย่างนั้น
การวางตัวของ พล.อ.อนุพงษ์ ในทางการเมือง

สวยงามยิ่งแล้วการ “ลอบกัด” ก็เกิดขึ้นอย่างเงียบๆ ต่อเนื่อง และเพิ่มดีกรีเป็นช่วงๆมีการขอร้องให้นักข่าวเขียนข่าวว่า พล.อ.อนุพงษ์ได้พบกับ คุณหญิงพจมาน ชินวัตร แล้ว หลังจากที่กลับมาประเทศไทยเมื่อวันที่ 8 ม.ค.51 และพูดจาเสนอชื่อ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณให้เป็น รมว.กลาโหม ซึ่งฝ่าย “ทักษิณ ชินวัตร” ที่มาคุมเชิงอยู่ฮ่องกงเห็นชอบด้วยแล้วพล.อ.อนุพงษ์ ต้องออกมาบอกกับนักข่าวสายทหารว่า “อย่าหลงประเด็น” ความจริงยังไม่ได้พบกับ คุณหญิงพจมานแต่กระนั้นก็มีการกระตุ้นนักข่าวให้เขียนข่าวออกมาต่อเนื่องว่า พล.อ.อนุพงษ์ เป็นคนขอ พล.อ.ประวิตร เพราะเป็นนายกับลูกน้องกันมาก่อนค ว า ม จ ริง ค น ที่เ อ่ย ชื่อ พล.อ.ประวิตร กับ “ผู้แทน” ทักษิณ ในการพบกันเมื่อวันที่ 10 ม.ค.51 เป็น ตท.6 เพราะ พล.อ.ประวิตร เป็นประธาน ตท.6 เช้าวันที่ 23 ม.ค.51 พล.อ. บุญสร้าง เนียมประดิษฐ์ แห่ง ตท.6 ก็ยังย้ำชื่อ พล.อ.ประวิตรวงษ์สุวรรณ ประธานรุ่น อยู่เหมือนเดิม ด้วยการให้สัมภาษณ์

นักข่าวว่า“รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ควรจะเป็นผู้ที่มีความรู้ความสามารถ และเข้าใจจิตใจของบรรดาทหารเป็นอย่างดีเนื่องจากจะต้องปฏิบัติภารกิจในการแก้ไขปัญหาความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ก็ดูเหมือนจะเป็นผู้ที่เข้ากับคุณสมบัติดังกล่าวได้มากที่สุด”แต่ขณะเดียวกัน แม้ ตท.6 จะยังย้ำชื่อ พล.อ.ประวิตร แต่ก็ได้มีการยัดชื่อ พล.อ.สมทัต อัตตะนันทน์ จปร.14 ใส่มือนักข่าวให้เอาไปประโคมให้ด้วยให้เขียนข่าวเน้นว่า “ทักษิณ ชินวัตร” หัก...พล.อ.อนุพงษ์ ไม่ยอมเอา พล.อ.ประวิตร เป็น รมว.กลาโหม ตามที่ตกลงกันไว้และแถมประเด็นให้ด้วยว่า พล.อ.สมทัต สนิทกับ ตท.10หลายคน ทั้ง พล.อ.อนุพงษ์ พล.ท.พฤณท์ สุวรรณทัต อดีตผบ.พล.ร.1 รอ. กับ พล.ท.จิรสิทธิ์ เกษะโกมล อดีตแม่ทัพน้อยที่ 1 ที่โดนเด้งหลังปฏิวัตินอกจากนี้ น.ส.ชุติมา อัตตะนันทน์ ลูกสาวของ พล.อ.สมทัต ยังทำงานอยู่บริษัทในเครือชินวัตรด้วยและเช้า 23 ม.ค. ในขณะที่ พล.อ.อนุพงษ์ ไปขึ้นเครื่องที่สนามบิน ทบ. ดอนเมือง ก็มีคำถามหนักๆ มาขยี้ซ้ำว่าด้วยความสัมพันธ์กับคูณหญิงพจมานกับทักษิณ จน พล.อ.อนุพงษ์ เกิดอาการคำถามแรก นักข่าวถามเกี่ยวกับการประกาศยุติบทบาท ของ คมช. ซึ่ง พล.อนุพงษ์ ตอบว่า“ในส่วนของ คมช. น่าจะหมดหน้าที่ในส่วนของ คมช.ไม่เกี่ยวกับพอใจหรือไม่พอใจ ซึ่งสถานการณ์ขณะนี้ก็ดำเนินการไปตามกลไกที่เป็น ด้านการเมืองก็เข้ามาใช้อำนาจในการบริหารบ้านเมืองไป

นักข่าว...เกรงหรือไม่ว่า รัฐบาลชุดใหม่จะเข้ามาแทรกแซงในการแต่งตั้งโยกย้ายนายทหารช่วงเดือนเมษายนพล.อ.อนุพงษ์...ไม่มีความกังวลครับนักข่าว...กรณีที่ คมช. เสนอแนวคิดว่าด้วยคุณสมบัติของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมนั้น คมช. มีความเป็นห่วงอะไรหรือไม่จึงเสนอไปอย่างนั้นพล.อ.อนุพงษ์...ไม่มี ผมถือว่าจบแล้ว คมช. เพียงแสดงความเห็นไปแค่นั้นเอง แล้วก็จบแล้วนักข่าว...กลัวหรือไม่ว่าการที่ คมช. แสดงความคิดเห็นไปอย่างนั้น จะถูกการเมืองออกมาโจมตี พล.อ.อนุพงษ์...ไม่กลัว ไม่มีอะไรนักข่าว...กระแสข่าวว่าท่านพยายามผลักดัน พล.อ.ประวิตรวงษ์สุวรรณ อดีตผู้บัญชาการทหารบก เป็น รมว.กลาโหม เนื่องจากมีความสนิทสนมเป็นการส่วนตัวจริงหรือไม่พล.อ.อนุพงษ์...ผมไม่ได้ไปให้สัมภาษณ์ที่ไหนว่าไปเลือกใครท่านไปถามคนที่เขาว่าก็แล้วกันนักข่าว...หลังจากนี้ไป ฝ่ายการเมืองอาจจะวิพากษ์วิจารณ์แนวคิดของ คมช. เกี่ยวกับสเปกตำแหน่ง รมว.กลาโหมพล.อ.อนุพงษ์...คงไม่มีความเห็น คมช. ได้พูดไปแล้วก็ถือว่าจบ เพราะเสนอความเห็นไปแล้ว และไม่มีความเห็นเพิ่มเติมนักข่าว...ความเห็นของ คมช. ที่เสนอไป เป็นความคิดเห็นที่บริสุทธิ์ใจใช่หรือไม่พล.อ.อนุพงษ์...ไม่ทราบนักข่าว...รูปแบบการทำงานของ คมช. ต่อจากนี้ไปจะเป็นอย่างไร

พล.อ.อนุพงษ์...พูดไม่ได้ เดี๋ยวพูดไปแล้วไปเขียนจะยุ่งนักข่าว...ขอถามถึงกระแสข่าวที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เตรียม ผลักดัน พล.อ.สมทัต อัตตะนันทน์ อดีตผู้บัญชาการทหารสูงสุด ขึ้นมาดำรงตำแหน่ง รมว.กลาโหมพล.อ.อนุพงษ์...ไม่มีความเห็นนักข่าว...ทางกองทัพพร้อมยอมรับ ไม่ว่ารัฐบาลตัดสินใจเลือกใครใช่หรือไม่พล.อ.อนุพงษ์...ไม่มีความเห็นในส่วนนี้นักข่าว...คมช. ยังมีอะไรที่ไม่สบายใจอะไรอีกหรือไม่พล.อ.อนุพงษ์...ไม่มี สบายใจดีนักข่าว...ขอถามถึงกรณีความชัดเจนเกี่ยวกับการหารือระหว่างท่านกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และคุณหญิงพจมานพล.อ.อนุพงษ์...เขียนกันไปเอง ผมไม่เห็นมีความสัมพันธ์อะไรและไม่อยากจะพูด เพราะสื่อก็รู้กันอยู่นักข่าว...ได้มีการติดต่อกันหรือไม่พล.อ.อนุพงษ์...ท่านคงจะมาถามอย่างนั้นอย่างนี้ไม่ได้เพราะท่านยุ่งเกี่ยวกับการเมืองไม่ได้ และเราก็ไม่มีสิทธิ์เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับการเมืองผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่ พล.อ.อนุพงษ์ มาถึงที่ ขส.ทบ.

ได้เดินทางเข้าไปในห้องรับรอง พอดีขณะนั้นทีวีเปิดรายการข่าวขอรายการ “สถานีสนามเป้า” กำลังสัมภาษณ์สด พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษก คมช. ที่ตอบข้อซักถามเกี่ยวกับประเด็นทางการเมือง กรณีที่ในที่ประชุม คมช. มีแนวความคิดเกี่ยวกับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมว่า จะต้องเป็นคนกลาง ไม่ยุ่ง
เกี่ยวกับการเมือง และไม่สังกัดพรรคการเมืองพล.อ.อนุพงษ์ ได้ยินดังนั้น จึงได้หันสอบถามนายทหารที่อยู่ภายในห้องว่า พ.อ.สรรเสริญ ออกทีวีให้สัมภาษณ์ได้อย่างไรเพราะภารกิจของ คมช. ถือว่าจบสิ้นแล้วตั้งแต่เมื่อวันที่ 22 มกราฯจากทุกสิ่งที่เกิดขึ้นจนถึง ณ วันที่มีการโยนชื่อ พล.อ.สมทัต อัตตะนันทน์ ออกมา ทำให้เราเห็นภาพชัดว่า พล.อ.อนุพงษ์ ถูกผู้ไม่หวังดีลอบกัดอยู่อย่างเอาเป็นเอาตายและประเด็นคุณสมบัติ รมว.กลาโหม ก็ได้เป็นเรื่องขึ้นมาจริงๆ เมื่อ “นักการเมือง” ร่วมแสดงความคิดเห็นออกมาแล้วว่าเป็นเรื่องของรัฐบาล“เป็นความเห็นของ คมช. ว่า รมว.กลาโหม ควรจะเป็นทหาร ส่วนจะเป็นทหารนอกราชการหรือในราชการยังตอบไม่ได้ ขึ้นอยู่กับรัฐบาลใหม่จะเลือกใครก็เป็นสิทธิ์ ใครเป็นนายกฯ มีสิทธิ์เลือกใครก็ได้”

“บรรหาร ศิลปอาชา” หัวหน้าพรรคชาติไทย ตอบนักข่าวเมื่อตอนเช้า 23 ม.ค. และไม่ขอแสดงความคิดเห็น หาก “สมัคร สุนทรเวช” จะควบรมว.กลาโหม จริงๆขณะที่ “อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ” หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ พูดถึงข้อเสนอของคมช. ว่า“ก็เป็นความเห็นแต่คนที่จะจัดตั้งรัฐบาลก็ต้องตัดสินใจ และต้องอธิบายก็เท่านั้นเอง”นักข่าวถามว่าเป็นเพราะ คมช.กลัวโดนเช็กบิลหรือไม่ จึงเสนออ ก ม า อ ย่า ง นี้อภิสิทธิ์ตอบว่า“ผมคิดว่าในแง่ของการเลือกตัวบุคคล ก็เป็นหน้าที่ของคนที่เป็นนายกฯแ ต่จ ะ เ ป็น ค น ก ล า งหรือสังกัดพรรคหรือไม่ไม่สำคัญเท่ากับว่าปฏิบัติต่อกองทัพอย่างไร เพราะกองทัพเป็นหน่วยงานที่ต้องปฏิบัติตามนโยบาย สิ่งที่ผมคิดว่าไม่ควรจะเกิดขึ้นซ้ำซาก คือ ความพยายามที่จะใช้กองทัพ ตำรวจ หรือข้าราชการในส่วนอื่นๆ ก็ดีมาเป็นฐานทางการเมือง คือ อย่าเอาการเมืองเข้าไปในกองทัพควรให้กองทัพปฏิบัติหน้าที่ที่เป็นภารกิจสำคัญของเขาตามปกติแต่แน่นอนว่าต้องสนองนโยบายรัฐบาลด้วย”อภิสิทธิ์ตอบได้ดีและใน “คำถาม” ของนักข่าวสายพรรคประชาธิปัตย์นี้ เราอยากจะบอก คมช. ให้เห็นด้วยก็คือนักข่าวทุกสายจับทางได้ว่า “เพราะกลัวถูกล้างแค้น” จึงมีเงื่อนไขกำหนดสเปก รมว.กลาโหม ออกมา
เมื่อเรื่องราวทั้งหมดเดินทางมาถึงบรรทัดนี้

แล้ว เราก็ขอย้อนกลับไปหาประเด็นคำถามที่ตั้งเป็นชื่อเรื่องเอาไว้ว่าใครลอบกัด พล.อ.อนุพงษ์ก็ต้องตอบว่าไม่ใช่นักการเมืองแน่นอนเพราะนักการเมืองทั้งบรรหารและอภิสิทธิ์ก็บอกอยู่แล้วว่าเป็นเรื่องของรัฐบาล เป็นเรื่องของนายกรัฐมนตรี ที่จะกำหนดตัวรมว.กลาโหม แล้วทำไมข่าวจึงย้ำอยู่นั่นแหละว่าพล.อ.อนุพงษ์ ต้องการ พล.อ.ประวิตรทั้งๆ ที่ความจริงไม่ใช่พล.อ.อนุพงษ์ เอ่ยปากขอจึงตอบได้เลย
ว่า คนที่เล่นงานพล.อ.อนุพงษ์อยู่ก็อ ยู่ ใ นก อ ง ทัพ นั่นแหละ


ข่าวส่งเสริมคนดี

จำนวนผู้เข้าเยี่มมชม

link to affordable web hosting
Powered by web hosting provider .

สถิติการเข้าชม DMNEWS

eXTReMe Tracker