บล็อคข่าวส่งเสริมคนดี (รักดีหามจั่ว รักชั่วหามเสา หามจั่วก็หนักนะ)

ข่าวจากสื่อ

บทความจากสื่อ

วันพฤหัสบดีที่ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

คดีก่อการร้ายยึดสนามบินใต้เงื้อมมือเนวิน ละเว้นไม่ออกหมายจับส่อดองเค็ม ใช้ต่อรองกับโจรลิ้ม

ที่มา Thai E-News


โดย ทีมข่าวไทยอีนิวส์
26 พฤศจิกายน 2552

ปชป.โบ้ยตำรวจตอบทำคดีพธม.ยึดสนามบินถึงไหน ขออย่าโทษรัฐบาล

นายสาธิต ปิตุเดชะ ส.ส.ระยอง พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่ ครบรอบ 1 ปีเหตุการณ์พันธมิตรยึดสนามบินสุวรรณภูมิ กับเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่า คดีไม่มีความคืบหน้า ว่า เรื่องนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องตอบคำถามให้ได้ว่า ขณะนี้คดีไปอยู่ที่ชั้นไหนแล้ว หากผู้ถูกกล่าวหามารับทราบข้อกล่าวหาแล้วตามกฎหมายกำหนดให้ส่งฟ้องต่อศาลภายในระยะเวลา 60 วัน หากผู้ถูกกล่าวหายังไม่มารับทราบข้อกล่าวหา ก็อาจเป็นไปได้ว่าอยู่ระหว่างการสืบหาพยานหลักฐานเพิ่มเติม ซึ่งหากไม่สามารถหาพยานหลักฐานไม่พอ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ต้องแจ้งประชาชนให้ทราบว่าคดีนี้หาหลักฐานไม่ได้จะไม่สั่งฟ้อง

“เรื่องนี้ต้องไปถามทางตำรวจ จะมาโทษรัฐบาลไม่ได้ แต่กระบวนการกฎหมาย คดีจะต้องเดินทางตลอด จะอ้างว่าอยู่ระหว่างการเปลี่ยนตัวผบ.ตร. หรือผบช.ภ.1 ไม่ได้ เพราะแต่ละคดีจะมีผู้รับผิดชอบชัดเจน” นายสาธิต กล่าว

เนวิน ชิดชอบ กับพล.ต.ท.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้คุมคดียึดสนามบิน(รายล่าสุด)ต่อข้อสังเกตว่าเป็นเด็กเนวินนั้น สมยศบอกว่า รักชอบพอ” กับ “เนวิน” เป็นคนประเภทเดียวกัน-นิสัยเหมือนกัน-เป็นไงเป็นกัน ลั่น “ไม่กลัว-ไม่อาย” เพราะถ้าปฏิเสธก็หมายถึงโกหก


เผยเส้นทางดองคดีจนมาถึงเงื้อมมือตำรวจเด็กเนวิน

-ค่ำวันที่ 25 พฤศจิกายน 2551พันธมิตรยึดสนามบินสุวรรณภูมิ
-13 มกราคม 2552 พล.ต.อ.จงรัก จุฑานนท์ รองผบ.ตร.ผู้รับผิดชอบเผยคดีคืบหน้า 70 %
-18 กุมภาพันธ์ 2552 รัฐบาลย้ายตำรวจคุมคดียึดสนามบินเข้ากรุ พล.ต.อ.จงรักพ้นหน้าที่ในการคุมคดี สุเทพ เทือกฯเข้าคุมเอง
-20 กุมภาพันธ์ 2552 พล.ต.ท.ฉลอง สนใจผบช.ภาค1เผยคดีคืบหน้า80%
-21 เมษายน 2552 พล.ต.ท.ฉลองเผยคืบหน้า95%แล้ว เหตุที่ช้าเพราะเป็นคดีก่อการร้ายโทษถึงประหารชีวิต
-27 เมษายน 2552 เปลี่ยนตัวหัวหน้าชุดคุมคดีมาเป็นพล.ต.ท.วุฒิ พัวเวส
- 4 กรกฎาคม 2552 พล.ต.ท.วุฒิ ตั้งข้อหาก่อการร้ายกับพันธมิตรและออกหมายเรียก
-16 กรกฎาคม 2552 พันธมิตรไปชุมนุมที่สโมสรตำรวจ ไม่ขอรับข้อหา และให้เปลี่ยนข้อหา ซึ่งพล.ต.ท.วุฒิขึ้นเวทีบอกว่านธมิตรเป็นผู้ก่อการดี
- 9 กันยายน 2552 เปลี่ยนตัวหัวหน้าชุดคุมคดีอีกครั้งมาเป็นพล.ต.ท.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผช.ผบ.ตร. โดยระบุจะออกหมายเรียกครั้งที่2ก่อน ยังไม่ออกหมายจับ
-25 พฤศจิกายน 2552 ครบรอบ 1 ปีการยึดสนามบิน โดยยังไม่มีการดำเนินคดี รวมทั้งไม่มีการออกหมายจับ


คดียึดสนามบินมาอยู่ในมือตำรวจเด็กเนวิน เครื่องมือต่อรองทางการเมืองชั้นดีของห้อย

มีการตั้งข้อสังเกตว่าสนธิ ลิ้มทองกุล มักหาเรื่องได้ทุกฝ่าย โดยไม่กลัวเกรง แต่น่าแปลกที่ว่าไม่เคยวอแวกับเนวิน ชิดชอบ ผู้นำพรรคตัวจริงภูมิใจไทยเลย "เหมือนสนธิลิ้มกลัวเนวิน"

ความจริงที่น่าตั้งข้อสังเกตก็คือหลังการเปลี่ยนหัวหน้าชุดมาเป็นพล.ต.ท.สมยศ คนสนิทเนวิน แทนที่จะเดินหน้าออกหมายจับ ก็กลับถ่วงคดีด้วยการไปรวบรวมหลักฐานทำสำนวนคดีใหม่ เสมือนกับเป็นเกมการต่อรองทางการเมืองของเนวินกับสนธิลิ้ม


เวบไทยอินไซเดอร์รายงานถึงความสัมพันธ์ของเนวินกับสมยศในหัวข้อเรื่อง สมยศ” ตร.สีน้ำเงิน” แอ่นอกรับ “รักชอบพอ” กับ “เนวิน” เป็นคนประเภทเดียวกัน-นิสัยเหมือนกัน-เป็นไงเป็นกัน ลั่น “ไม่กลัว-ไม่อาย”

สำหรับคดียึดสนามบินนั้น พล.ต.ท.สมยศ กล่าวว่า ถ้าผู้ถูกกล่าวหาไม่มารับทราบข้อกล่าวหา จากพนักงานสอบสวน ตามหมายเรียก ก็เป็นหน้าที่ของพนักงานสอบสวน จะออกหมายเรียก หรือทำเรื่องไปถึงศาล เพื่อขออออกหมายจับ แต่ตามป.วิอาญา ไม่ได้บอกว่า จะต้องออกหมายเรียกกี่ครั้ง อยู่ที่ดุลยพินิจของพนักงานสอบสวน

อย่างไรก็ตามแทนที่จะเดินหน้าออกหมายจับ แต่สิ่งที่พล.ต.ท.สมยศ ทำก็คือกลับไปตั้งแท่นทำสำนวนใหม่ โดยได้เรียกประชุมคณะพนักงานสอบสวนชุดใหม่ โดยอ้างว่า ต้องการสอบสวนเพิ่มเติมในประเด็นที่ยังไม่สมบูรณ์เพื่อจะให้คดีเดินหน้าต่อไปในบางประเด็นที่จะต้องทำให้ครบถ้วน เช่น การหาพยานแวดล้อม โดยเฉพาะประชาชน และนักธุรกิจที่ได้รับผลกระทบ ซึ่งยังไม่ค่อยให้ความร่วมมือกับพนักงานสอบสวนเท่าที่ควร เช่น นักธุรกิจต่างๆที่อ้างว่าได้รับผลกระทบเสียหายหลายสิบล้านแต่เมื่อถึงเวลาต้องมาเป็นพยานกลับไม่ยอมให้ความร่วมมือ ก็ขอให้บุคคลที่ได้รับผลกระทบช่วยเข้ามาเป็นพยานให้กับเจ้าหน้าที่ด้วย ซึ่งตรงนี้ก็ถืออีกส่วนหนึ่งที่มีความสำคัญ
**********
ขัดหมายเรียกต้องออกหมายจับ แต่ตำรวจเด็กเนวินไปตั้งต้นทำสำนวนใหม่ ต้องติดคุกฐานละเว้นต่อหน้าที่!?


ออกหมายเรียกไปแล้ว ผู้ก่อการร้ายพันธมิตรขัดหมายเรียก ตามกฎหมายต้องถูกสั่งจำคุก 3 เดือน และออกหมายจับ แต่ทำไมตำรวจเด็กเนวิน กลับไปเริ่มต้นที่ทำสำนวนคดีใหม่ ต่อไปนี้คือความรู้เรื่องหมายเรียกกับหมายจับ ซึ่งความจริงแล้วหากละเว้น พล.ต.ท.สมยศคนของเนวินควรต้องโดนดำเนินคดีติดคุกฐานละเว้นต่อหน้าที่ไปแล้ว


หมายเรียก

หมายเรียกคือหนังสือที่พนักงานสอบสวนหรือพนักงานฝ่ายปกครองหรือตำรวจชั้นผู้ใหญ่หรือศาลทำขึ้นเพื่อให้บุคคลใดมาที่พนักงานสอบสวน หรือมาที่พนักงานฝ่ายปกครองหรือตำรวจชั้นผู้ใหญ่หรือมาศาล เนื่องในการสอบสวน การไต่สวนมูลฟ้อง การพิจารณาคดี หรือการอย่างอื่น ฯลฯ (ป.วิ.อาญา มาตรา 52)

บุคคลที่ถูกออกหมายเรียกควรต้องปฏิบัติตามความในหมายนั้น หากขัดขืนโดยไม่มีข้อแก้ตัวอันควรอาจเป็นความผิดทางอาญาได้

ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสถานะของบุคคลผู้ถูกออกหมายเรียก กล่าวคือ

1.หากผู้ถูกออกหมายเรียกอยู่ในฐานะผู้เสียหายหรือพยานไม่มาตามหมายเรียก จะเป็นความผิดอาญาฐานขัดขืนคำบังคับตามกฎหมายของพนักงานสอบสวนฯ ซึ่งให้มาเพื่อให้ถ้อยคำต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 เดือน หรือปรับไม่เกินห้าร้อยบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ (ป.อาญา มาตรา 168)

2.หากผู้ถูกออกหมายเรียกอยู่ในฐานะผู้ต้องหา ไม่มาตามหมายเรียก จะไม่มีความผิดฐานขัดหมายเรียกฯ ตาม 1. แต่จะเป็นเหตุให้ออกหมายจับ
(เทียบเคียงฎีกาที่ 1341/2509)


หมายจับ


หมายจับคือหนังสือบงการที่ออกตามบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาสั่งให้เจ้าหน้าที่ทำการจับ ฯลฯ (ป.วิ.อาญา มาตรา 2 (9))

หมายจับต้องทำเป็นหนังสือและมีข้อความเกี่ยวกับสถานที่ออกหมาย วันเดือนปีที่ออกหมายเหตุที่ต้องออกหมาย ต้องระบุชื่อหรือรูปพรรณของบุคคลที่จะจับ ลายมือชื่อและประทับตราของศาล (ป.วิ.อาญา มาตรา 60) เดิมพนักงานฝ่ายปกครองหรือตำรวจชั้นผู้ใหญ่มีอำนาจออกหมายจับได้เช่นเดียวกับศาล

ต่อมาได้มี พ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา (ฉบับที่ 22) พ.ศ. 2547 ยกเลิกอำนาจการออกหมายจับของพนักงานฝ่ายปกครองหรือตำรวจชั้นผู้ใหญ่ลงโดยให้ศาลเท่านั้นเป็นผู้มีอำนาจออกหมายจับ

เหตุที่จะออกหมายจับมีดังนี้

1.มีหลักฐานตามสมควรว่าบุคคลใดน่าจะได้กระทำความผิดอาญา ซึ่งมีอัตราโทษจำคุกอย่างสูงเกินสามปี หรือ

2.มีหลักฐานตามสมควรว่าบุคคลใดน่าจะได้กระทำความผิดอาญาและมีเหตุอันควรเชื่อว่าจะหลบหนี หรือจะไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน หรือก่อเหตุอันตรายประการอื่น

ถ้าบุคคลนั้นไม่มีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง หรือไม่มาตามหมายเรียก หรือตามนัด โดยไม่มีข้อแก้ตัวอันควร ให้สันนิษฐานว่าบุคคลนั้นจะหลบหนี (ป.วิ.อาญา มาตรา 66)

การออกหมายจับตาม 1. นั้น ดูอัตราโทษเป็นเกณฑ์

หากโทษจำคุกอย่างสูงเกินสามปีก็สามารถออกหมายจับได้ แม้ผู้นั้นจะไม่มีพฤติการณ์หลบหนีหรือจะไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน หรือไม่ก่อเหตุอันควรประการอื่น

ส่วนการออกหมายจับตาม 2. นั้น หากความผิดนั้นมีอัตราโทษจำคุกตั้งแต่สามปีลงมาต้องมีพฤติการณ์หลบหนี หรือไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน หรือไปก่อเหตุอันตรายประการอื่น จึงจะออกหมายจับได้ (ยึดอัตราโทษและพฤติการณ์เป็นหลัก)

แต่องค์ประกอบที่สำคัญของ 1. และ 2. ก็คือ ต้องมีหลักฐานตามสมควรว่าบุคคลนั้นน่าจะได้กระทำผิดอาญาตามที่ถูกกล่าวหา (ข้อพิจารณาประกอบ พ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา (ฉบับที่ 22) พ.ศ.2547 โดยนายจรัญ ภักดีธนากุล กับคณะ สำนักประธานศาลฎีกา)

ถ้าผู้ต้องหาไม่มีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง หรือไม่มาตามหมายเรียก หรือตามนัดโดยไม่มีข้อแก้ตัวอันควรให้สันนิษฐานว่าบุคคลนั้นจะหลบหนีตามความในมาตรา 66 (2) วรรคท้าย เป็นเพียงข้อสันนิษฐานของกฎหมาย

หากสามารถพิสูจน์ได้ว่าข้อเท็จจริงหาได้เป็นไปตามข้อสันนิษฐานก็ไม่สามารถออกหมายจับได้ หากออกหมายจับแล้วก็ถอนหมายคืนได้

ศาลจะออกหมายจับตามที่เห็นสมควร หรือโดยมีผู้ร้องขอก็ได้ (ป.วิ.อาญา มาตรา 59) โดยก่อนออกหมายจับจะต้องปรากฏพยานหลักฐานตามสมควรที่ทำให้ศาลเชื่อได้ว่า มีเหตุที่จะออกหมายจับตาม มาตรา 66 (ป.วิ.อาญา มาตรา 59/1)

เมื่อได้ออกหมายจับแล้วเป็นหน้าที่ของพนักงานฝ่ายปกครองหรือตำรวจต้องจัดการให้เป็นไปตามหมายนั้น (ป.วิ.อาญา มาตรา 61)

และในกรณีของหมายจับคงใช้ได้อยู่จนกว่าจะจับได้ เว้นแต่ความผิดอาญาตามหมายนั้นขาดอายุความ หรือศาลซึ่งออกหมายนั้นได้ถอนหมายคืน (ป.วิ.อาญา มาตรา 68)

อย่างไรก็ตาม หากบุคคลได้รับหมายเรียกที่ออกโดยชอบแล้ว มีหน้าที่ต้องปฏิบัติตาม หากมีเหตุผลอันควรที่ไม่สามารถปฏิบัติตามหมายนั้นได้ ก็ควรจะต้องแจ้งต่อเจ้าพนักงานผู้ออกหมายทราบ

แนะลากคอมาร์ค-เทือก-ตำรวจเด็กเนวินเข้าคุกสังเวยปล่อยผู้ก่อการร้ายลอยนวล

ประชาชน ที่ติดตามคดีผู้ก่อการร้ายพันธมิตรยึดสนามบินได้เรียกร้องให้มีการแจ้ง ดำเนินคดีฐานละเว้นหน้าที่ต่อนายกรัฐมนตรี รองนายกรัฐมนตรีด้านความมั่นคง และพล.ต.ท.สมยศหัวหน้าชุดดำเนินคดียึดสนามบินตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 ฐานละเว้นต่อหน้าที่ ไม่ออกหมายจับผู้ก่อการร้ายพันธมิตร หลังจากเนิ่นมามาจวนครบ 1ปี

"ผมเห็นเงียบไปเลย หลังจากเจ้าของคดีชมว่าเป็นผู้ก่อการดี พันธมิตรก็ไล่กลับให้ไปเปลี่ยนข้อหา ตำรวจก็ดันบ้าจี้จะไปเปลี่ยนข้อกล่าวหาให้พวกมัน ตามกฎหมายแล้วให้เกียรติกันออกหมายเรียก ตามขั้นตอนเมื่อออกหมายเรียกแล้วไม่มารายงานตัว (แต่เสือกมาม็อบกดดัน ตร. แทน) ขั้นตอนต่อไปก็ต้องออกหมายจับไม่ใช่เหรอ" คือข้อความในกระทู้ที่บอร์ด ประชาไท

ข่าวส่งเสริมคนดี

จำนวนผู้เข้าเยี่มมชม

link to affordable web hosting
Powered by web hosting provider .

สถิติการเข้าชม DMNEWS

eXTReMe Tracker