บล็อคข่าวส่งเสริมคนดี (รักดีหามจั่ว รักชั่วหามเสา หามจั่วก็หนักนะ)

ข่าวจากสื่อ

บทความจากสื่อ

วันพฤหัสบดีที่ 2 เมษายน พ.ศ. 2552

'เสื้อแดง'โวยรบ.ป่วนดีสเตชั่นจอดำ

ที่มา เดลินิวส์

ทักษิณงดวิดีโอลิงก์ ดีเดย์ดาวกระจาย'ก.คลัง-บ้านสี่เสา'ม็อบดิ้น'อุทธรณ์'สุรยุทธ์ไม่หวั่นไหวให้ ปชช.พิจารณา

แกนนำเสื้อแดง โวยรัฐบาลโชว์ธาตุแท้เผด็จการ ปั่นป่วนสัญญาณ DTV "ทักษิณ"งดวิดีโอลิงก์ ส่งน้องเขยขึ้นจ้อบนเวทีแทน ม็อบเสื้อแดงงัดแผนดาวกระจาย ประเดิมบุกกระทรวง คลัง เยือนบ้านสี่เสาเทเวศร์ “ณัฐวุฒิ” แฉแผนวิชามาร ไอ้โม่งทำใบปลิวโจมตี ตำรวจบุกติดหมายศาลแพ่งที่ทำเนียบ วอนเคารพกฎหมาย แต่แกนนำ นปช. ส่งทีมทนายความยื่นอุทธรณ์ทันควัน ด้าน “บิ๊กสีกากี” เห็นแย้งอัยการ สั่งฟ้องคดี นปช.บุก “บ้านป๋า” รอลุ้นอัยการสูงสุดชี้ขาด “เทพเทือก” หารือเครียด ครม.นัดพิเศษ แบะท่ายินดีเจรจาฝ่ายตรงข้าม ปัดข่าวทหารถูกซื้อตัวปฏิวัติ “ไอซีที” หาช่องตัดสัญญาณวิดีโอลิงก์ “มท.1” กำชับ ผวจ.เกาะติด รายงานเหตุทุก 6 ชม. ด้าน “สุรยุทธ์” หนักแน่นไม่ฟ้องใคร “พัลลภ” ขอรอขึ้นเวที ในวัน “เสียงปืนแตก” โวยังมีข้อมูลเด็ดเพียบ มือดีปล่อยข่าวลือ “ทักษิณ” สิ้นใจต่างแดน

หลังจากกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ยังคงชุมนุมยืดเยื้อปิดล้อมทำเนียบรัฐบาล แม้ทางปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีจะส่งเจ้าหน้าที่ไปยื่นคำร้องต่อศาลแพ่งเพื่อขอความคุ้มครองชั่วคราว ให้ทางผู้ชุมนุมเปิดเส้นทางประตู 6 และประตู 8 เพื่อให้ข้าราชการ และคณะรัฐมนตรี ได้เข้าไปปฏิบัติหน้าที่ แต่ทางแกนนำ นปช. ยันจะปักหลักชุมนุมต่อไป นอกจากนี้ประกาศระดมพลใหญ่ขับไล่เผด็จศึกรัฐบาลอีกครั้งวันที่ 8 เม.ย. นี้

ฝนเล่นงานม็อบป่วยหวัดกิน

ความเคลื่อนไหวเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 1 เม.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการชุมนุมกลุ่ม เสื้อแดงเป็นวันที่ 7 แล้ว ช่วงเช้ามีผู้ชุมนุมบางตาเพราะสภาพอากาศที่ร้อนจัดและมีฝนตกลงอย่างหนักเมื่อวันก่อนทำให้มีผู้ชุมนุมนับสิบรายต้องล้มป่วยนอนที่เต็นท์พยาบาลและขอยาแก้ไข้หวัดไปกินเป็นจำนวนมาก นอกจากนี้ยังได้เกิดการทะเลาะกันระหว่างแม่ค้ากับการ์ดเสื้อแดงเพราะ การ์ดไม่ให้แม่ค้าขายเบียร์ในพื้นที่บริเวณชุมนุมให้ขายได้เฉพาะน้ำเท่านั้น ซึ่งแม่ค้าไม่พอใจพยายามปีนรั้วเข้ามาหาตะโกนต่อว่าเสียงดังอยู่นาน แกนนำจึงให้การ์ดหิ้วตัวไปให้ตำรวจสงบสติอารมณ์

“พงศ์เทพ”โผล่ขึ้นเวที นปช.

ส่วนบนเวทีเชิงสะพานชมัยมรุเชฐ ใน ช่วงเช้า นอกจากจะมีนายอริสมันต์ พงษ์เรืองรอง และ นายก่อแก้ว พิกุลทอง นั่งอ่านข่าวเช้าจากหนังสือพิมพ์ให้ผู้ชุมนุมฟังแล้ว ยังมีนายพงศ์เทพ เทพกาญจนา อดีตแกนนำพรรคไทยรักไทย ซึ่งเป็น 1 ในบ้าน 111 คน ได้มานั่งสรุปข่าวเช้าบนเวทีปราศรัยเป็นครั้งแรก นอกจากจะมีการสรุปข่าวเช้าแล้วยังได้มีการกล่าวโจมตีนายกษิต ภิรมย์ รมว.การต่างประเทศ เกี่ยวกับกรณีที่จะยึดหนังสือเดินทางของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีคืน รวมไปถึงเรื่องที่ทางตำรวจจะถอดยศ พ.ต.ท.ทักษิณ

เชิญชวนชุมนุมใหญ่ 8 เม.ย.

นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำ นปช. ขึ้นเวทีปราศรัยโดยเชิญชวนให้ประชาชนมาร่วมชุมนุมให้มากที่สุดในวันที่ 8 เม.ย. ซึ่งจะเป็นวันนัดชุมนุมใหญ่เพื่อขับไล่รัฐบาลขั้นเด็ดขาด อย่างไรก็ตามในเวลานี้เรามีกลุ่มคนเสื้อแดงที่เป็นทั้งทหารและตำรวจอยู่ในทำเนียบรัฐบาลกว่า 2,000 คนแล้ว โดยคนเหล่านั้นได้มาขอเสื้อแดงกับทางแกนนำ ดังนั้นเราไม่จำเป็นต้องเข้าไปข้างในทำเนียบรัฐบาล ไม่แน่ว่าเมื่อนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯ เข้ามาในทำเนียบรัฐบาล ทางทหาร ตำรวจที่อยู่ฝ่ายเสื้อแดงอาจจะจับตัวมาให้กับเราก็ได้

เตรียมเยือน “บ้านสี่เสาฯ”

นายณัฐวุฒิ กล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่วันที่ 2 เม.ย. เป็นต้นไป กลุ่มคนเสื้อแดงจะไม่อยู่นิ่งกับที่แล้ว ที่ผ่านมาจะเห็นว่าเราจะเป็นฝ่ายรับตั้งอยู่กับที่ แต่ต่อไปนี้เราจะเป็นฝ่ายรุกให้รัฐบาลเป็นฝ่ายรับบ้างโดยในพื้นที่รอบ ๆ ทำเนียบรัฐบาลเรามั่นใจว่าสามารถรับมือได้ ดังนั้นเราจะเคลื่อนไปยังที่ต่าง ๆ โดยเฉพาะที่บ้านสี่เสาเทเวศร์ ซึ่งก็รู้อยู่ว่าเป็นบ้านของใครเราจะไปที่นั่นก่อน ก็ขอให้พี่น้องกลุ่มผู้ชุมนุมได้เตรียมตัวตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป

วอนม็อบเคารพกฎหมาย

ที่ บช.น. พล.ต.ต.สุพร พันธุ์เสือ โฆษก บช.น. กล่าวว่า ในช่วงเช้าที่ผ่านมา พล.ต.ท. วรพงษ์ ชิวปรีชา ผบช.น. ประชุมประเมินสถาน การณ์ชุมนุมกลุ่มเสื้อแดงร่วมกับนายตำรวจระดับ รอง ผบช.น. ผบก.น. 1-9 และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยที่ประชุมมีข้อสรุปเกี่ยวกับกรณีศาลปกครองกลางมีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราว โดยเรียกร้องให้กลุ่มคนเสื้อแดงเปิดทางเข้าออกทำเนียบรัฐบาล และเป็นหน้าที่ของคนเสื้อแดงที่จะต้องปฏิบัติตามคำสั่งศาลเนื่องจากมีผลบังคับใช้ทันที แต่หากผู้ชุมนุมเสื้อแดงไม่ปฏิบัติตามคำสั่งศาลเป็นหน้าที่ของโจทก์ที่ต้องร้องต่อศาลให้ออกหมายบังคับคดี และเมื่อศาลออกหมายบังคับคดีแล้วก็เป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่กรมบังคับคดีดำเนินการให้เป็นไปตามคำสั่งศาลต่อไป ทุกอย่างมีขั้นตอนปฏิบัติซึ่งกรมบังคับคดีจะประสานตำรวจอีกครั้ง

“อำนวย”นำปิดหมายศาลแพ่ง

ต่อมาเวลา 11.30 น. พล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน รอง ผบช.น. พร้อมด้วย พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ ผบก.น.1 นายถวัลย์ ดวงไชยวงศ์ เจ้าพนักงานศาลแพ่ง พร้อมกำลังตำรวจจำนวนหนึ่ง นำคำสั่งของศาลแพ่งมาให้จำเลย 3 คน คือ นาย วีระ มุสิกพงศ์ นายจตุพร พรหมพันธุ์ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำ นปช. โดย พล.ต.ต.อำนวย กล่าวว่าเจ้าหน้าที่ศาลได้ขอให้ตำรวจนำคำสั่งศาลมามอบให้จำเลยทั้งสามคน แต่ไม่เจอตัวจึงต้องนำคำสั่งศาลไปติดไว้ที่ประตู 6 และประตู 8 เพื่อให้ปฏิบัติตามคำสั่งของศาลซึ่งหากไม่ปฏิบัติตามก็จะดำเนินการตามกระบวนการต่อไป ทั้งนี้ต้องดำเนินการตามคำสั่งศาลภายใน 30 วัน

แฉทำใบปลิวโจมตีเสื้อแดง

จากนั้นนายณัฐวุฒิ ได้แถลงหลังเวทีปราศรัยถึงกรณีศาลแพ่งมีคำสั่งคุ้มครองฉุกเฉินให้ม็อบเปิดถนนลูกหลวงและเปิดประตูทำเนียบฯให้ข้าราชการเข้าไปปฏิบัติงานว่า คนเสื้อแดงเคารพในคำวินิจฉัยของศาลแพ่ง แต่ก็ต้องสงวนสิทธิในการต่อสู้เรียกร้องตามระบอบประชาธิปไตย ได้มอบหมายให้ทีมทนายความไปทำเรื่องยื่นอุทธรณ์คำสั่งศาล ขณะนี้มีขบวนการสกัดกั้นออกมาตลอดเวลา มีวิชามารออกใบปลิวโจมตีไปทั่วว่าการชุมนุมของคนเสื้อแดงต้องการให้เกิดนองเลือด และทำเพื่อคนเพียงคนเดียว ซึ่งเป็นเรื่องไม่จริง เพราะไม่ต้องการให้เกิดความรุนแรงและไม่ได้ทำเพื่อ พ.ต.ท. ทักษิณ แต่ทำเพื่อสิทธิโดยชอบธรรมตามกฎหมายคุ้มครอง ใบปลิวที่ทำออกมาเป็นวิชามารตื้น ๆ สำนวนที่ใช้ก็มีความคุ้นเคยดีได้อ่านแล้วข้อความคมคายชัดเจน

ดาวกระจายกระทรวงคลัง

ผู้สื่อข่าวถามว่า จะเคลื่อนไหวอย่างไรต่อไป นายณัฐวุฒิ ตอบว่าวันที่ 2 เม.ย. จะเป็นวันแรกที่จะจัดกำลังออกไปดาวกระจายที่กระทรวงการคลัง เพื่อไปบอกรัฐมนตรีและเจ้าหน้าที่ของ กระทรวงคลังว่าคนเสื้อแดงไม่ยอมรับโครงการของรัฐที่จะให้คลังเตรียมกู้เงินจากต่างประเทศนับแสนล้านบาทต้องยุติขั้นตอนทุกโครงการทันที จะไม่ยอมรับภาระหนี้ที่รัฐบาลนี้ก่อให้ เมื่อถามว่า การยกระดับการเคลื่อนไหวจะสอดคล้องกับที่ถูกมองว่าจะสร้างความรุนแรงหรือไม่ นายณัฐวุฒิตอบว่า ถ้าอยากให้รุนแรงคงทำไปนานแล้ว แต่คนเสื้อแดงไม่คิดที่จะสร้างความรุนแรงไม่คิดยึดทำเนียบฯหรือสนามบิน ข่าวที่ออกมาเป็นเพราะคนในรัฐบาลนี้โดยเฉพาะวอร์รูมของพรรคประชาธิปัตย์ วิเคราะห์ข่าวอย่างไม่มีข้อเท็จจริง

ทีมทนายยื่นอุทธรณ์ศาลแพ่ง

ที่ศาลแพ่ง ถนนรัชดาภิเษก วันที่ 1 เม.ย. นายคารม พลทะกลาง ทนายความ (นปช.) ได้ยื่นอุทธรณ์คำสั่งคุ้มครองชั่วคราวของศาลแพ่ง ที่ให้กลุ่มคนเสื้อแดงเปิดถนนลูกหลวงตั้งแต่แยกเทวกรรมจนถึงสะพานชมัยมรุเชฐ และให้เปิดประตูทำเนียบประตูที่ 6 และ 8 ให้ข้าราชการ คณะรัฐมนตรี ผู้มาติดต่อราชการได้นำรถยนต์เข้าออกได้สะดวก และให้ใช้เครื่องขยายเสียงในระดับที่ไม่รบกวนการทำงานภายในทำเนียบรัฐบาลในเวลาทำการตั้งแต่เวลา 08.30-16.30 น. ทุกวันราชการจันทร์-ศุกร์ ตามคำร้องของสำนักปลัดสำนักนายกฯ และในวันที่ 2 เม.ย. เวลา 11.00 น. จะมายื่นคำร้องขอยกเลิกคำสั่งคุ้มครองของศาลแพ่ง โดยเตรียมนำพยาน 4 ปาก คือ นายมานิตย์ จิตจันทร์กลับ แกนนำ นปช. อดีตอธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญา กับข้าราชการและอดีตข้าราชการในทำเนียบรัฐบาลอีก 3 คนขึ้นไต่สวนเพื่อชี้ให้ศาลเห็นว่า คนเสื้อแดงชุมนุมด้วยความสงบตามสิทธิที่รัฐธรรมนูญกำหนดไว้

ผบ.ตร.เห็นแย้งสั่งฟ้องนปช.

กรณีที่พนักงานอัยการมีความเห็นสั่งไม่ฟ้องแกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ในคดีนำกลุ่มผู้ชุมนุมก่อความวุ่นวายหน้าบ้านสี่เสาเทเวศร์ เมื่อวันที่ 22 ก.ค. 50 เกี่ยวกับเรื่องนี้ นายกายสิทธิ์ พิศวงปราการ อธิบดีอัยการฝ่ายคดีอาญา เปิดเผยว่า ขณะนี้ทราบว่าทาง พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร.ได้ส่งความเห็นแย้ง โดยเห็นสมควรสั่งฟ้องแกนนำทุกคนในทุกข้อหา กลับมายังสำนักงานอัยการสูงสุดแล้ว อยู่ระหว่างขั้นตอนการเสนอให้ นายชัยเกษม นิติสิริ อัยการสูงสุด พิจารณาชี้ขาดต่อไป

รอลุ้นอัยการสูงสุดชี้ขาด

นายกายสิทธิ์ กล่าวว่าเมื่อทางตำรวจมีความเห็นแย้งกลับมาดังนั้นจึงถือว่าคดียังไม่สิ้นสุด และเมื่อมีความเห็นไม่ตรงกันในชั้นปฏิบัติงาน ผู้ที่จะชี้ขาดคืออัยการสูงสุด ดังนั้นจึงฝากเตือนไปยังแกนนำ นปช. ที่นำเรื่องนี้ไปพูดบนเวทีทำนอง ว่าการกระทำดังกล่าวไม่เป็นความผิด เพราะแม้ว่าอัยการเคยมีความเห็นสั่งไม่ฟ้องก็ไม่ได้หมายความว่าจะไปกระทำการในลักษณะเดิมซ้ำได้อีก

สำหรับหนังสือความเห็นแย้งที่ ผบ.ตร. ส่งกลับไปให้อัยการสูงสุดพิจารณา ระบุว่ามีความเห็นสมควรสั่งฟ้องแกนนำ นปช. ประกอบด้วย นายวีระ มุสิกพงศ์ นายจตุพร พรหมพันธุ์ นายจักรภพ เพ็ญแข นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ นายวิภูแถลง พัฒนภูมิไทย นพ.เหวง โตจิราการ พ.อ. ดร.อภิวันท์ วิริยะชัย นายจรัล ดิษฐาอภิชัย นายมานิตย์ จิตต์จันทร์กลับ นายนพรุจ วรชิตวุฒิกุล นายบรรธง สมคำ ม.ล.วีระยุทธ เสนีย์วงศ์ ณ อยุธยา นายศราวุธ หลงเส็ง นายวีระศักดิ์ เหมะธุลิน และนายวันชัย นาพุทธา ในข้อหา มั่วสุมกันตั้งแต่สิบคนขึ้นไปใช้กำลังประทุษร้ายหรือก่อความวุ่นวายในบ้านเมือง โดยผู้กระทำความผิดคนหนึ่งคนใดมีอาวุธและมีผู้สั่งการ ร่วมกันเดินขบวนในลักษณะกีดขวางการจราจร ร่วมกันโฆษณาโดยใช้ เครื่องขยายเสียงด้วยกำลังไฟโดยไม่ได้รับอนุญาต ร่วมกันตั้งแต่สิบคนขึ้นไปขู่เข็ญจะใช้กำลังประทุษ ร้ายโดยมีอาวุธ ร่วมกันต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงานโดยใช้กำลัง

“เทือก”ยันเลี่ยงเผชิญหน้า

ที่กรมประชาสัมพันธ์ ซอยอารีย์ ช่วงเช้าวันเดียวกัน นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รอง นายกฯ รักษาการนายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีทำบุญตักบาตรเนื่องในวันข้าราชการพลเรือน และให้สัมภาษณ์ว่า วันนี้ตนคงต้องขอร้องให้กลุ่มผู้ชุมนุมปฏิบัติตามคำสั่งศาล ซึ่งที่ผ่านมารัฐบาลได้ใช้ความอดทน อดกลั้น หลีกเลี่ยงเผชิญหน้า เพราะไม่ต้องการให้สถานการณ์เลวร้าย เพราะไม่เป็นผลดีกับประเทศจึงอยากจะขอให้กลุ่มผู้ชุมนุมปฏิบัติตามคำสั่งศาล ส่วนที่ น.ต.ประสงค์ สุ่นศิริ อดีต สนช. เสนอให้รวบตัวแกนนำนั้น ตนยังไม่ทราบข้อเสนอดังกล่าว ยืนยันว่ารัฐบาลนี้เป็นรัฐบาลในระบอบประชาธิปไตย การชุมนุมเป็นสิทธิที่สามารถทำได้ ตราบใดที่ไม่ฝ่าฝืนกฎหมาย หากฝ่าฝืนกฎหมายรัฐบาลจะต้องกำกับดูแลสั่งให้เป็นไปตามกฎหมาย และจะพยายามป้องกันไม่ให้เกิดความรุนแรง หรือความเสียหายไปมากกว่านี้

ตร.ออกเวรมีสิทธิใส่เสื้อแดง

เมื่อถามว่าตำรวจมีแนวโน้มที่จะถอดเครื่องแบบไปร่วมชุมนุมกับคนเสื้อแดงมากขึ้นคิดเห็นเช่นไร นายสุเทพ กล่าวว่า ข้าราชการก็เหมือนกับประชาชนที่จะต้องปฏิบัติตามภารกิจที่ได้รับมอบหมาย แต่เมื่อนอกเวลาราชการก็มีสิทธิเหมือนประชาชนทั่วไปเท่าที่สามารถจะดำเนินการได้โดยไม่ผิดกฎหมาย แต่ถ้าทำผิดกฎหมายเสียเองก็ต้องถูกลงโทษมากกว่าคนอื่น และตนไม่ได้มีหน้าที่วินิจฉัยว่าตำรวจทำอย่างนั้นได้หรือไม่ แต่มีผู้บังคับบัญชาตามลำดับชั้นที่ต้องดูแล ส่วนกรณีที่มีข่าวว่า ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์จะเดินทางไปให้กำลังใจพล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมน ตรีและรัฐบุรุษนั้นเป็นเรื่องของ ส.ส. ไม่ใช่เรื่องของรัฐบาลหรือตน อย่างไรก็ตามจนถึงขณะนี้ยังไม่มีสถานการณ์อะไรเป็นพิเศษที่ต้องรายงานให้นายกฯ ได้รับทราบ

อ้างไม่รู้เรื่องถอดยศ “ทักษิณ”

ต่อข้อถามถึงกรณีที่ ก.ตร. เสนอให้ถอดยศ พ.ต.ท.ทักษิณ อดีตนายกฯ นายสุเทพ กล่าวว่า อย่าไปฟังข่าวลือมากตนยังไม่เห็นเรื่องนี้ ที่ผ่านมาเคยมีข่าวเกิดขึ้นตนก็ได้สั่งการให้ไปตรวจสอบว่าเป็นการปฏิบัติหน้าที่ตามปกติของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ยืนยันว่ายังไม่เห็นเรื่องนี้ ความจริงจะมีการนัดประชุม ก.ตร. ในวันที่ 3 เม.ย.นี้ แต่ไม่เห็นว่ามีวาระอะไรเร่งด่วนจึงได้ขอเลื่อนการประชุมออกไปก่อน เมื่อถามว่าโดยส่วนตัวคิดว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ยังสมควรที่จะดำรงยศต่อไปหรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า ไม่ใช่หน้าที่ของตนที่จะวินิจฉัย มีคนที่มีหน้าที่รับผิดชอบพิจารณาอยู่แล้ว

มท.1 ห่วงระดมชุมนุมใหญ่

นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รมว.มหาดไทย กล่าวถึงการประกาศชุมนุมใหญ่ของกลุ่มเสื้อแดงในวันที่ 8 เม.ย. นี้ ว่าจากที่ฟังข้อมูลจากสื่อก็รู้สึกเป็นห่วงเพราะอาจจะมีประชาชนเดินทางมาร่วมชุมนุมเป็นจำนวนมาก อย่างไรก็ตามผู้ว่าราชการจังหวัดแต่ละจังหวัดมีหน้าที่ทำความเข้าใจกับประชาชนเพื่อไม่ให้มาร่วมชุมนุม ซึ่งถือเป็นการทำงานตามปกติของผู้ว่าฯ อยู่แล้ว ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ส่วนการที่ผู้ชุมนุมยึดศาลากลางจังหวัด 42 จังหวัดนั้น ตนเชื่อว่าเป็นการเช็กขุมกำลังของคนเสื้อแดงก่อนที่จะมีการชุมนุมใหญ่ เพื่อที่จะรวบรวมไว้ในจุดเดียวกัน เพราะสะดวกต่อการเดินทางเข้ากรุงเทพฯ ซึ่งจะรวบรวมประชาชน ได้ง่ายขึ้น

ผู้สื่อข่าวถามว่า เห็นด้วยหรือไม่กับการ ที่นายกฯ ประกาศจะดำเนินการขั้นเด็ดขาดกับผู้ชุมนุม นายชวรัตน์ กล่าวว่า นายกฯ พูดเช่นนั้นหรือ ตนไม่เคยได้ยิน เรื่องนี้คงต้องรอให้นายกฯกลับจากการเดินทางไปประชุมที่ประเทศอังกฤษก่อนแล้วค่อยตัดสินใจ

กำชับ ผวจ.รายงานทุก 6 ชม.

ด้านนายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ รมช. มหาดไทย กล่าวว่า ในส่วนของกระทรวงมหาด ไทยได้เน้นให้ผู้ว่าฯ ทำความเข้าใจกับประชาชน และผู้นำท้องถิ่น ซึ่งเชื่อและมั่นใจว่าผู้ว่าฯแต่ละจังหวัดสามารถทำความเข้าใจกับประชาชนได้ นอกจากนั้นกระทรวงมหาดไทยยังได้กำชับให้แต่ละจังหวัดรายงานและประเมินสถานการณ์ทุก 6 ชั่วโมง เพื่อให้ได้รับทราบสถานการณ์ ยืนยันว่าไม่ได้มีการคาดโทษผู้ว่าฯ ทั้งนี้ยังมีอีกประมาณ 10 กว่าจังหวัดในภาคอีสานและภาคเหนือบางส่วนที่จะต้องเน้นทำความเข้าใจให้เข้มข้นมากขึ้น

หาช่องตัดสัญญาณวิดีโอลิงก์

ต่อมานายสุเทพ ในฐานะรักษาการนายกฯ ได้เรียกรัฐมนตรีบางคนร่วมประชุมนัดพิเศษ อาทิ นายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ รองนายกฯ นายบุญจง นายถาวร เสนเนียม รมช.มหาดไทย คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช รมว.วิทยาศาสตร์ และ ร.ต.หญิงระนองรักษ์ สุวรรณฉวี รมว.ไอซีที หารือที่กรมประชาสัมพันธ์ ซอยอารีย์ เพื่อประเมินสถานการณ์เกี่ยวกับการชุมนุมของกลุ่มเสื้อแดงและหารือเกี่ยวกับข้อกฎหมายว่าจะสามารถดำเนินการในส่วนไหนได้บ้าง โดยเฉพาะกรณีที่มีการเสนอให้ตัดสัญญาณการวิดีโอลิงก์ของ พ.ต.ท.ทักษิณ

ร.ต.หญิงระนองรักษ์ กล่าวว่าตนจะไปหารือกับการสื่อสารแห่งประเทศไทย (กสท) และนักกฎหมายว่า การวิดีโอลิงก์ของ พ.ต.ท. ทักษิณ นั้นเป็นการใช้ดาวเทียมลูกไหน ถ้าเป็นดาวเทียมของประเทศไทยก็ต้องตรวจสอบว่าได้รับอนุญาตถูกต้องหรือไม่ ถ้าเป็นของต่างประเทศต้องยอมรับว่ารัฐบาลคงทำอะไรได้ไม่มาก ทั้งนี้การตัดสัญญาณไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ เพราะอาจไปกระทบกับสัญญาณของคลื่นอื่นด้วย อย่างไรก็ตามจะรีบหาข้อยุติในเรื่องนี้โดยเร็วที่สุด

แนวโน้ม กทช. ไม่มีอำนาจ

แหล่งข่าวจากคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กทช.) เปิดเผยว่า กทช. ไม่ได้ดูแลเรื่องสัญญาณดาวเทียม จึงไม่สามารถจะตัดสัญญาณดาวเทียมได้ ซึ่งเรื่องนี้ รมว.ไอซีที ต้องเป็นผู้ดูแล เนื่องจากการส่งสัญญาณเข้ามาแพร่ภาพในประเทศไทยต้องผ่านเกตเวย์ของ บริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) ซึ่ง รมว. ไอซีที เป็นผู้แต่งตั้งบอร์ดและเป็นหน่วยงานที่อยู่ในกำกับดูแลของไอซีที หากไอซีทีไม่ต้องการให้แพร่ภาพ ขึ้นอยู่กับนโยบายของ รมว.ไอซีที แม้กสท. จะได้รับใบอนุญาตประกอบกิจการโทรคมนาคมจาก กทช. แต่ กทช.ก็มีมาตรการในการตรวจสอบตามเงื่อนไขการให้ใบอนุญาตอยู่แล้ว ซึ่งกทช. ไม่สามารถสั่งให้บล็อกสัญญาณได้ เพราะไทยมีการรับรู้ข่าวสารตามรัฐธรรมนูญ” แหล่งข่าวจาก กทช. ระบุ

ขอความร่วมมือสื่อดูแลข่าว

นายสุเทพ รองนายกฯให้สัมภาษณ์เพิ่มเติมว่า รัฐบาลได้ติดตามและประเมินสถานการณ์ชุมนุมและการวิดีโอลิงก์อย่างใกล้ชิด รวมทั้งจะระวังไม่บริหารประเทศโดยตั้งอยู่บนพื้นฐานของข่าวลือหรือกระแสข่าวยังไม่ได้รับการตรวจสอบ ดังนั้นรัฐบาลจะใช้เหตุผลเพราะเป็นรัฐบาลของประชาชน อีกทั้งจะพูดจาด้วยความระมัดระวังไม่ไปซ้ำเติมสถานการณ์ให้ขยายวงกว้างเกินความเป็นจริง ทั้งนี้รัฐบาลอาจต้องขอความร่วมมือจากสื่อมวลชนด้วยในการให้สัมภาษณ์พิเศษหรือออก รายการต่าง ๆ ตามความเหมาะสม แต่คงไม่ถึงกับต้องออกโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย (ทีวีพูล) เพราะเราเป็นรัฐบาลประชาธิปไตยจะไม่บังคับประชาชน แต่จะออกเมื่อมีคนเรียกร้องมาเป็นจำนวนมาก

แบะท่ายินดีเจรจา“ทักษิณ”

นายสุเทพ กล่าวด้วยว่า รัฐบาลจะยึดถือกฎหมายในการแก้ไขปัญหาและจะดำเนินการภายใต้กรอบของกฎหมาย สำหรับกรณีที่รัฐบาลจำเป็นต้องชี้แจงเรื่องต่าง ๆ นั้น ไม่ใช่การตอบโต้กลุ่มผู้ชุมนุม แต่ทำเพื่อให้ประชาชนเข้าใจสถานการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างตรงไปตรงมา นอกจากนี้ ตนฝากบอกไปถึงกลุ่มผู้ชุมนุมว่าสิ่งที่รัฐบาลพูดนั้น อย่าคิดว่ารัฐบาลท้าทายหรือยั่วยุ เพราะรัฐบาลไม่คิดทำเช่นนั้น แต่รัฐบาลตั้งใจที่จะเห็นความสมานฉันท์และการพูดจาตกลงกัน ส่วนข้อเรียกร้องของกลุ่มคนเสื้อแดงนั้นถ้าเป็นเรื่องที่รัฐบาลทำได้ ก็พร้อมเจรจาเพื่อให้บ้านเมืองเกิดความสงบสุข และถ้า พ.ต.ท. ทักษิณ ที่สั่งการกลุ่มคนเสื้อแดง ตัวจริง นัดหมายว่าจะเจรจาที่ใด ตนก็พร้อมจะเจรจาด้วย

ปัดข่าวซื้อตัวทหารทำปฏิวัติ

เมื่อถามถึงข่าวที่ว่าจะมีการซื้อตัวทหาร เพื่อทำการปฏิวัติ นายสุเทพ กล่าวว่า “ผมต้อง กราบเลยว่า สื่อมวลชนอย่าตั้งคำถามแบบนี้ เพราะจะทำให้ประชาชนตกใจ เรื่องนี้ไม่จริง ทหารเป็นทหารของประชาชน และทหารในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และเป็นของประเทศไทย ไม่ใช่ทหารของพรรคการเมืองใดพรรคการเมืองหนึ่ง จึงไม่ต้องกังวลว่าทหารจะเป็นเครื่องมือของใคร และทหารไม่ใช่สินค้าที่ใครจะมาซื้อขายได้ ดังนั้นขอการันตีในฐานะรองนายกฯ ฝ่ายความมั่นคงได้เลย”

ด้าน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รมว. กลาโหม กล่าวยืนยันว่า ทหารเป็นหนึ่งเดียวกัน แต่ความคิดอาจจะแตกต่างกันในทางประชาธิปไตย แต่ทหารไม่แตกแยกเพราะมีระเบียบวินัยจึงไม่ต้องห่วง

แนะ ส.ส. รัฐบาลเน้นลงพื้นที่

นายถาวร รมช.มหาดไทย กล่าวถึงความเคลื่อนไหวของ พ.ต.ท.ทักษิณ ว่า พ.ต.ท. ทักษิณ ไม่ได้คำนึงถึงความเสียหายของประเทศและสถาบัน ขอแต่ให้ตัวเองรอดพ้นจากการยึดทรัพย์ไม่ติดคุก แต่ต้องยอมรับว่ามีคนที่รัก พ.ต.ท. ทักษิณ มีอยู่จริง ดังนั้นหนทางที่รัฐบาลต้องทำคือ ต้องให้ ส.ส. ทั้งจากพรรคประชาธิปัตย์ และพรรคร่วมรัฐบาลลงพื้นที่ทำความเข้าใจให้ประชาชนให้ทราบถึงจุดประสงค์ของ พ.ต.ท.ทักษิณ อย่างแท้จริง นอกจากนี้รัฐบาลต้องทำความเข้าใจกับสื่อ ให้สื่อนำเสนอในสิ่งที่รัฐบาลทำและเป็นประโยชน์ต่อประเทศ ซึ่งขณะนี้มีกลุ่มนักธุรกิจหลายกลุ่มได้เตรียมเคลื่อนไหวเตือน พ.ต.ท.ทักษิณ หยุดทำร้ายประเทศชาติได้แล้ว

จวก“แม้ว”นักมายากลขายฝัน

นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า พ.ต.ท.ทักษิณกำลังหลงตัวเองฝันเฟื่องว่าตัวเองเป็นผู้วิเศษที่สามารถแก้ปัญหาเศรษฐกิจ พยายามขายความคิดว่าตนเองมีเหมืองทองคำที่แอฟริกาหลายแสนล้าน ทำตัวเป็นนักมายากลขายฝันให้คนไทย อยากถามว่าถ้าเป็นผู้วิเศษทำอะไรได้อย่างที่คุยที่ผ่านมา เป็นนายกฯ มา 6 ปี ทำไมไม่แสดงฝีมือในตอนนั้น แต่กลับทำตัวเป็นต้นเหตุให้ชาติถอยหลังเข้าคลองจนถูกปฏิวัติรัฐประหารในที่สุด พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่ควรมาแนะแนวทางการบริหารงานให้กับนายกฯอภิสิทธิ์ ที่จบการศึกษาด้านเศรษฐศาสตร์โดยตรง ส่วนกรณีที่แกนนำคนเสื้อแดงพยายามปลุกระดมสร้างกระแสข่าวลวงใส่ร้ายรัฐบาลเพื่อหวังผลให้ ประชาชนเกลียดชังรัฐบาลเพียงอย่างเดียว

แจงกู้เงินแก้ปัญหาเศรษฐกิจ

นายประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์ รมช.คลัง เปิดเผยว่า กรณีที่กลุ่มผู้ชุมนุม หรือม็อบเสื้อแดงจะเดินทางมาปิดล้อมกระทรวงการคลังในวันที่ 2 เม.ย.เพราะเห็นว่ารัฐบาลมีแผนการกู้เงินมากเกินไปอาจทำให้หนี้สาธารณะสูงมากเกินไปนั้น เห็นว่าเรื่องดังกล่าวสามารถชี้แจงได้ ถึงแม้รัฐบาลต้องการใช้เงินจำนวนมากในการแก้ปัญหาเศรษฐกิจ ด้วยการกู้เงิน 1.56 ล้านล้านบาทเพราะสถานการณ์ทางเศรษฐกิจขณะนี้ต้องดำเนินการเหมือนกันเกือบทุกประเทศ ประเทศไทยก็ต้องมีแผนกู้เงินมาเพื่อฟื้นเศรษฐกิจเช่นกันแต่อย่าเพิ่งตกใจว่าการใช้เงินจะไม่ได้ผล เพราะต้องจัดทำแผนการใช้เงินให้เกิดประโยชน์สูงสุด และต้องเร่งใช้เงินให้เร็วที่สุด รวมทั้งต้องดำเนินการอย่างโปร่งใส

พท.ชี้จ่อประกาศพ.ร.ก.ฉุกเฉิน

ที่รัฐสภา นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย แถลงว่า กรณีศาลแพ่งมีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวให้กลุ่มคนเสื้อแดงเปิดทางเข้าออกทำเนียบรัฐบาล แม้นายสุเทพ รองนายกฯ จะยืนยันว่า จะไม่ใช้กำลัง แต่ที่นายอภิสิทธิ์ นายกฯให้สัมภาษณ์ ดูแล้วสะท้อนว่า ถ้ากลุ่มคนเสื้อแดงยังไม่ยอมเปิดอาจจะมีการใช้ความรุนแรง ตนคิดว่าอาจมีการประกาศใช้ พ.ร.บ.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน ซึ่งต่างกับสมัยรัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวช และรัฐบาลนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ที่ประกาศใช้เพราะไม่ต้องการให้เกิดความรุนแรง และขอเตือนนายสุเทพ ว่า วันนี้ทหารตำรวจระดับล่างไม่พอใจ ถ้าสั่งการอะไรแล้วสร้างความไม่พอใจ เขาอาจหันปากกระบอกปืนไปยังนายสุเทพ ก็ได้

ไล่“กษิต”ขึ้นเวทีเสื้อเหลือง

นอกจากนี้นายสุรพงษ์ ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย ยังกล่าวถึงกรณีนายกษิต ภิรมย์ รมว.การต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์ที่กระทรวงการต่างประเทศตอบโต้ พ.ต.ท.ทักษิณ ว่าไม่เหมาะสมอย่างยิ่ง คนเป็น รมว.การต่างประเทศต้องพูดสุขุมรอบคอบเนื่องจากต้องเป็นทูตไปพบผู้นำแต่ละประเทศ ทำแบบนี้แล้วจะทำหน้าที่ได้อย่างไร ซึ่งล่าสุดกรณีสมเด็จฮุน เซน นายกฯ กัมพูชา ทำให้กระทรวงการต่างประเทศของไทยต้องออกมาแก้ข่าวว่าสื่อแปลคำว่า Gangster ผิด ฉะนั้นวันนี้ นายกฯต้องพิจารณาแล้วว่า นายกษิต เหมาะสมเพียงใด ถ้านายกษิต อยากสู้กับ พ.ต.ท.ทักษิณ ก็ออกมาใส่เสื้อเหลือง ตั้งเวทีพันธมิตรฯสู้กันอย่าใช้กระทรวงเพราะไม่เหมาะสม

เสนอป.ป.ช.เอาผิดรับเงิน

“วันนี้กระทรวงตกต่ำสุด ขอเรียกร้องข้าราชการกระทรวงการต่างประเทศที่มีเกียรติและศักดิ์ศรีออกมาต่อต้าน ฝ่ายค้านอภิปรายในสภาให้เห็นถึงพฤติกรรมของนายกษิต ในอดีตสมัยเป็นทูตมาแล้ว และนายกษิต ยังยอมรับชัดเจนว่า เคยรับเงิน พ.ต.ท.ทักษิณ สมัยเป็นข้าราชการ ถือว่าผิด พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วย ป.ป.ช. มาตรา 103 มีโทษตามมาตรา 122 จึงขอให้ป.ป.ช.ตรวจสอบ เพราะคดียังไม่หมดอายุความเนื่องจากนายกษิต พ้นจากตำแหน่งมาไม่ถึง 2 ปี และขอประณามนายกษิต ที่มีจริยธรรมคุณธรรมใช้ไม่ได้” นายสุรพงษ์ กล่าว

ฝากหนังสือคุณสมบัติผู้ดี

นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทยและ น.ส.วิสาระดี เตชะธีราวัฒน์ ส.ส. เชียงราย พรรคเพื่อไทย ร่วมแถลงโจมตีนายกษิต ภิรมย์ รมว.การต่างประเทศหลังออกมาตอบโต้พ.ต.ท.ทักษิณ ด้วยถ้อยคำรุนแรง พร้อมได้นำหนังสือคุณสมบัติผู้ดีฉบับการ์ตูน ซึ่งประพันธ์โดย ม.ร.ว.เปีย มาลากุล บรรจุใส่ซองสีน้ำตาลจำนวน 2 ซองจ่าหน้ามอบให้นายกษิต และนายกฯ โดยนายพร้อมพงศ์ กล่าวว่า ขอให้นายกษิต ทบทวนบทบาท หากยังทำอย่างนี้จะไม่เป็นผลดีต่อประเทศ และขอให้ออกมาชี้แจงต่อสาธารณะในเรื่องเงินบริจาคช่วยเหลือผู้ประสบภัยสึนามิ ซึ่งเวลานั้นนายกษิต ดำรงตำแหน่งทูตประจำสหรัฐ

รมต.ล่าตัวอดีตนายกฯทำได้

นายศิริศักดิ์ ติยะพรรณ อธิบดีอัยการฝ่ายต่างประเทศ เปิดเผยถึง กรณีนายกษิต รมว. การต่างประเทศ จะเดินทางไปติดตามตัว พ.ต.ท. ทักษิณ ก็เป็นอำนาจโดยตรงที่กระทรวงการต่างประเทศสามารถทำได้ อาทิ จะไปเมืองดูไบ กระทรวงการต่างประเทศก็มีข้อตกลงกัน หากได้ตัว พ.ต.ท.ทักษิณ อัยการจะทำคำร้องขอตัวเป็นผู้ร้ายข้ามแดน ยื่นต่อศาลของประเทศนั้น ในชั้นนี้ตนยังไม่แน่ใจว่าต้องตามไปต่างประเทศหรือไม่ ปัญหา ในการติดตามตัวผู้ร้ายข้ามแดนคือประเทศที่รับคำร้องขอเพราะต้องมีตัวผู้ต้องหา หลบหนีอยู่ในประเทศนั้นจริงหรือถูกจับตัวได้แล้วที่นั่น และเราต้องมีข้อมูลประกอบเพียงพอชัดเจน ดังนั้นการระบุที่อยู่ปัจจุบันเป็นเรื่องสำคัญที่สุด

แก้ ก.ม.ส่งผู้ร้ายข้ามแดน

ผู้สื่อข่าวถามว่า ที่ผ่านมาอัยการถูกมองว่า ได้แค่เตรียมเอกสาร ทำงานช้า พ.ต.ท.ทักษิณก็บินไปมา โฟนอิน หรือวิดีโอลิงก์ข้ามประเทศอยู่ตลอด นายศิริศักดิ์ กล่าวว่า ความจริงคำร้องขอส่งผู้ร้ายข้ามแดนได้ทำไว้เรียบร้อยแล้วจะยื่นให้ประเทศไหนก็ได้แต่ปัญหาคือไม่รู้ว่า พ.ต.ท.ทักษิณอยู่ที่ไหนแน่ชัด หากจะทำคำร้องแล้วส่งล่วงหน้าให้ทุกประเทศที่มีสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดนแบบหว่านแหหรือขี่ช้างจับตั๊กแตนคงไม่ได้ เพราะไม่มีประเทศไหนเขาทำกัน ที่มีข่าวหนังสือพิมพ์ลงข่าวว่าอัยการเตรียมไล่ล่า อันนี้ก็เกินความจริงเพราะอัยการไทยไม่เหมือนอัยการสหรัฐ เนื่องจากอัยการไทยถูกลิดรอนอำนาจไม่มีอำนาจไปจับกุมใคร ได้แค่ประสานงาน ไปตรวจดูเอกสาร และส่งคำร้องเมื่อประเทศนั้น ๆ จับตัวได้

“กรณีคุณทักษิณ โฟนอิน หรือวิดีโอลิงก์ข้ามประเทศไปมา แล้วย้ายถิ่นที่อยู่ไปเรื่อย ๆ ก็เป็นตัวอย่างทำให้เกิดแนวคิดว่าสมควรจะแก้ไขกฎหมายส่งผู้ร้ายข้ามแดน โดยให้ส่งคำร้องผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ได้ เช่น คุณทักษิณอยู่ฮ่องกง อีก 2 ชั่วโมง บินไปเมืองดูไบ เราก็ส่งอีเมลไปรอที่ดูไบได้เลย ขณะนี้กำลังร่างแก้ไขกฎหมายจุดนี้อยู่” นายศิริศักดิ์ กล่าว

“สุรยุทธ์”ไม่หวั่นไหวถูกโจมตี

ที่โรงแรมสยามซิตี พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ องคมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ พล.อ. พัลลภ ปิ่นมณี อดีต รอง ผอ.รมน. จะขึ้นเวทีของกลุ่มเสื้อแดง โดยจะมีการพูดถึงเบื้องหลังของการปฏิวัติเมื่อวันที่ 19 ก.ย. 49 ว่าคงให้พี่น้องประชาชนได้พิจารณาว่า มีสิ่งที่น่าจะเป็นประโยชน์ หรือเป็นสิ่งที่พี่น้องประชาชนจะใช้วิจารณญาณของตนเองได้ซึ่งตนคงจะชี้แจงได้เฉพาะเท่าที่จำเป็น คงไม่สามารถที่จะทำในสิ่งที่ถือว่าทำต่อเนื่อง เหมือน กับการชุมนุมต่าง ๆ ได้ ซึ่งเป็นสิ่งที่จะเป็นข้อจำกัด ทั้งนี้ถือว่าตนได้ชี้แจงไปแล้วในส่วนที่ผูก พันกับตนจึงคงไม่มีอะไรเพิ่มเติมในด้านนั้น

เมื่อถามว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ยังคงเดินหน้าโจมตีองคมนตรีอยู่เบื้องหลังการปฏิวัติ พล.อ. สุรยุทธ์ กล่าวว่า หากท่านได้รับข้อมูลและท่านคิดไปอย่างนั้น คงห้ามท่านไม่ได้แต่อยากให้ประชาชนพิจารณาและใช้วิจารณญาณว่าสิ่งที่ตนได้กระทำไปนั้น ได้ทำนอกเหนือหน้าที่หรือไม่อย่างไร ซึ่งเป็นส่วนที่อยากให้พี่น้องประชาชนได้พิจารณา คงไม่หนักใจอะไร เพราะความจริงต้องเปิดเผยและผู้ที่ทำสิ่งใดผลการกระทำนั้นจะตอบสนองบุคคลเหล่านั้น ไม่ว่าจะในทางที่ดีหรือไม่ดี

ลั่นไม่จำเป็นขึ้นศาลฟ้อง

ส่วนกรณีที่นายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีต รักษาการหัวหน้าพรรคไทยรักไทย แนะให้ พล.อ. สุรยุทธ์ ไปฟ้องศาล หากเห็นว่า พล.อ.พัลลภ กล่าวหา เพื่อให้ข้อเท็จจริงเกิดขึ้น พล.อ.สุรยุทธ์ กล่าวว่า ตนก็มีข้อพิจารณาของตัวเองคิดว่าเราไม่ควรทำเรื่องให้ยืดยาวออกไป สิ่งใดที่ประชาชนใช้วิจารณญาณได้โดยไม่จำเป็นที่จะต้องนำเรื่องเข้าไปสู่ขั้นตอนของศาลก็จะทำให้เรื่องเหล่านั้นสั้นลง ส่วนแนวทางการแก้ไขปัญหาขณะนี้ ตนคงไม่มีข้อคิดที่จะสามารถตอบได้ในขณะนี้เพราะเป็นเรื่อง ที่ค่อนข้างกว้างขวางและต้องการความร่วมมือจากประชาชนและหลายฝ่ายว่าเราต้องการให้บ้านเมืองเราสงบสุขในระยะเวลาสั้น ๆ หรือไม่ และเราจะได้มาช่วยกันแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ที่เป็นปัญหาเฉพาะหน้าคงเป็นปัญหาเศรษฐกิจ คิดว่าสิ่งเหล่านี้เมื่อเราพิจารณาให้รอบคอบน่าจะหาทางออกได้

เมื่อถามว่า ในที่ประชุมองคมนตรีเป็นห่วงกรณีที่มีการกล่าวหาว่า เกี่ยวข้องกับการปฏิวัติหรือไม่ พล.อ.สุรยุทธ์ กล่าวว่า การประชุมองคมน ตรีครั้งที่ผ่านมาไม่ได้มีการพูดถึงสถานการณ์บ้านเมือง เป็นเพียงการพูดตามวาระปกติ

“พัลลภ”ขึ้นเวทีวันเสียงปืนแตก

ด้าน พล.อ.พัลลภ อดีต รอง ผอ.รมน. กล่าวเปิดเผยถึงกรณีที่มีข่าวว่าจะขึ้นเวทีปราศรัยกับกลุ่ม นปช. ในค่ำวันนี้ว่า ตนไม่ขึ้นเวทีแน่นอนเพราะเป็นเพียงแต่การมัดตัว กดดันให้ตนไปปราศรัยบนเวที แต่ตนขอยืนยันอีกครั้งว่า ถ้าจะขึ้นต้องเป็นวันดีเดย์ถึงขั้นแตกหัก หรือ “วันเสียงปืนแตก” ตนถึงจะขึ้นปราศรัย ถ้าขึ้นตอนนี้จะเสียหาย ทั้งนี้แกนนำกลุ่ม นปช. ไม่เคยปรึกษาหารือตนเลย มีคนโทรฯมาถามตนมากว่าจะขึ้นเวทีปราศรัยหรือไม่ ซึ่งมีคนตั้งใจจะไปฟัง ตนพูดข้อเท็จจริงจำนวนมาก แต่จนถึงวันนี้ยังไม่ถึงเวลา ส่วนกรณีที่กลุ่ม นปช. จะเคลื่อนตัวไปล้อมบ้าน พล.อ.เปรม เรื่องนี้เป็นความพยายามกดดันแต่คงไม่สำเร็จเพราะเป็นเรื่องยาก คงไปเย้ว ๆ กันมาก กว่าไม่มีประโยชน์อะไร

ปล่อยข่าว “ทักษิณ” ตาย

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ในช่วงสายวันที่ 1 เม.ย. ได้เกิดข่าวแพร่สะพัดว่า พ.ต.ท.ทักษิณ อดีตนายกรัฐมนตรี ได้เสียชีวิตในต่างประเทศ สร้างความตื่นตระหนกให้กับผู้ที่ทราบข่าวอย่างมาก ซึ่งจากการสอบถามไปยังนางเยาวเรศ ชินวัตร ประ ธานสภาสตรีแห่งชาติฯ น้องสาว พ.ต.ท.ทักษิณ ให้สัมภาษณ์ด้วยน้ำเสียงตกใจเล็กน้อย โดยกล่าว ยืนยันว่า “ไม่มี ยังมีชีวิตอยู่และยังปกติทุกอย่าง” จากนั้นนางเยาวเรศ ได้ย้อนถามว่า ใครเป็นคนปล่อยข่าวทำไมทำอย่างนี้ ผู้สื่อข่าวถามว่า พ.ต.ท. ทักษิณ ยังพร้อมสู้อยู่หรือไม่ นางเยาวเรศ กล่าวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ พร้อมสู้อยู่แล้ว

ทั้งนี้มีรายงานว่า สาเหตุการปล่อยข่าว ครั้งนี้น่าจะมาจากวันที่ 1 เม.ย. ตรงกับวัน “April Fools’Day” ถือเป็นเทศกาล” วันโกหก” ในต่างประเทศ

ลูก ๆ เปิดตัวหนังสือถึงพ่อ

นอกจากนี้ในวันที่ 4 เม.ย. เวลา 14.00 น. ที่เวทีกิจกรรม Hall A ในงานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติฯ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ นายพานทองแท้ น.ส.พินทองทา และ น.ส. แพทองธาร ชินวัตร บุตรชายและบุตรสาว พ.ต.ท. ทักษิณ จะเปิดตัวหนังสือฉบับพิเศษชื่อ “คนอื่นเรียกนายกฯ แต่เราเรียก...พ่อ” ซึ่งถูกเขียน และเรียบเรียงจากบทสัมภาษณ์จากใจเป็นครั้งแรกของลูกทั้ง 3 คนของ พ.ต.ท.ทักษิณ ต่อเหตุการณ์ ต่าง ๆ ตลอดช่วงเวลาหลายปีที่ผ่านมา ซึ่งในวันดังกล่าวลูกทั้ง 3 คนของ พ.ต.ท.ทักษิณ จะร่วมงานแถลงข่าวเปิดใจต่อสาธารณชนเป็นครั้งแรกด้วย

“คนรักป๋า”รวมตัวเคลื่อนไหว

ช่วงบ่ายวันเดียวกัน ที่รัฐสภา นายประดิษฐ์ อ่อนรักษ์ ประธานเครือข่ายคนรักแผ่นดิน พร้อมสมาชิกจากหลายจังหวัดทั่วประเทศและชมรมคนรักป๋าเปรม ได้เข้ายื่นหนังสือแถลงการณ์ต่อนายชัย ชิดชอบ ประธานสภาผู้แทนราษฎร เรียกร้องให้รัฐบาลเร่งแก้ไขปัญหาการใส่ร้ายป้าย สีสถาบันองคมนตรี หากข้อเรียกร้องไม่เป็นผล ทางเครือข่ายจะมีมาตรการเคลื่อนไหวที่เข้มข้นขึ้น ตามลำดับ

ส่วนที่ จ.ขอนแก่น ผศ.นพ.วัฒนา หาญพานิชย์ รศ.นพ.สมเดช พินิจสุนทร ผศ. นฤมล ลีลายวัฒน์ อาจารย์คณะแพทยศาสตร์ ม.ขอนแก่น รศ.สุธา ภูสิทธิศักดิ์ อาจารย์คณะภาควิชาคณะวิทยาศาตร์ ม.ขอนแก่น พร้อมด้วย ผศ. นพ.เฉลิมชัย อภิญญานุรักษ์ ผู้ประสานงานเครือข่ายนักวิชาการเพื่อประชาธิปไตย จ.ขอนแก่น และสมาชิกในเครือฯ ร่วมแถลงการณ์ฉบับที่ 1/ 2552 ที่ห้องประชุมคณะแพทยศาสตร์ ม.ขอน แก่น คัดค้านการชุมนุมของ นปช. ที่ปิดล้อมสถาบันและโจมตีสถาบัน และขอเรียกร้องให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ให้เห็นแก่ประเทศชาติยุติการโฟนอิน

เสื้อแดงชุมพรผวาหลบภัย

กรณีแนวร่วมพันธมิตรชุมพร นำโดย นายสุนทร รักษ์รงค์ แกนนำ ผู้ประสานงาน พธม.14 จังหวัดภาคใต้ นำแนวร่วมเสื้อเหลืองไปชุมนุมประท้วงหน้าบ้านของนางกฤษณา สิทธิสาร สมาชิก นปช. ใน อ.เมือง จ.ชุมพร พร้อมกดดันให้ย้ายออกจากบ้านตั้งแต่เมื่อเย็นวันที่ 31 มี.ค. ล่าสุดนายสวรรศ์พงศ์ บุตรชายของนางกฤษณา เปิดเผยว่า หลังเกิดเหตุมารดานอนไม่หลับทั้งคืนและเตรียมเก็บข้าวของเดินทางออกจากบ้านเพื่อไปพักอาศัยกับญาติที่กรุงเทพฯเป็นการชั่วคราวเพราะเกรงว่าจะไม่ได้รับความปลอดภัย ส่วนตนยังคงยึดความเป็นกลางทางเมืองไม่ใช่เสื้อเหลืองและเสื้อแดงแต่อย่างใด

ปลัดเสื้อเหลืองโผล่ผิดม็อบ

ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการชุมนุมช่วงเย็น ได้เกิดเหตุชุลมุนขึ้นเล็กน้อยเมื่อนายชินวรณ์ ธนาวุฒน์ อายุ 48 ปี สวมเสื้อสีเหลือง เดินเข้ามาด้านหลังเวทีปราศรัย ผู้ชุมนุมเห็นจึงกรูเข้ามาจะทำร้ายทำให้การ์ดเสื้อแดงต้องรีบเข้าไปคุม ตัวออกมาอย่างทุลักทุเลส่งให้ตำรวจ สน.นางเลิ้ง เบื้องต้นนายชินวรณ์ กล่าวด้วยสีหน้าตกใจโชว์บัตรข้าราชการว่าเป็นปลัด ซี 5 อยู่ที่ จ.พังงา ลาพักร้อน 7 วันเดินทางมาทำเนียบรัฐบาลเพื่อเรียกร้องให้เปลี่ยนตัวนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกฯ เพราะแก้ปัญหาประเทศไม่ได้ ไม่รู้มาก่อนว่ามีการชุมนุมของกลุ่มเสื้อแดงเพราะตามปกติก็ใส่เสื้อเหลืองทำงานทุกวันอยู่แล้ว ยืนยันเป็นกลางไม่เคยเข้าร่วมชุมนุมทั้งเสื้อเหลือง และเสื้อแดง

โวยตัดสัญญาณดีสเตชั่น

นอกจากนี้เวลา 17.15 น. นายณัฐวุฒิ เปิดแถลงว่า ขณะนี้รัฐบาลได้ใช้กลไกอำนาจรัฐในการตัดสัญญาณถ่ายทอดสดของสถานีดีสเตชั่นเป็นที่เรียบร้อยแล้วทำให้กลายเป็นจอดำทั่วประเทศ จึงอยากตั้งคำถามไปยังรัฐบาลว่าเจตนาที่แท้จริงของรัฐบาลคืออะไร ประกาศว่า จะไม่แทรกแซงสื่อในการนำเสนอข้อเท็จจริงต่อประชาชน แต่ปรากฏว่ามาตัดสัญญาณ แสดงให้เห็นว่าสุดท้ายรัฐบาลชุดนี้ไม่อาจสลัดคราบเผด็จการที่ให้กำเนิดและชุบเลี้ยงตัวเอง เผยธาตุแท้ของการเป็นเผด็จการ ที่ผ่านมาเอเอสทีวีใช้สถานีเรียกคนเข้ามาชุมนุมปิดทำเนียบ ปิดสนามบิน รัฐบาลของนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ยังไม่ปิดสถานีเอเอสทีวี แต่ในเมื่อตัดสินใจทำแบบนี้ก็ขอให้ทำไป อย่าลืมว่ากลุ่มคนเสื้อแดงมีความอดทนในขีดจำกัด

งดวิดีโอลิงก์“สมชาย”จ้อแทน

นายณัฐวุฒิ กล่าวต่อว่า เจ้าหน้าที่พยา ยามที่จะกอบกู้สัญญาณคืนมา หากทำได้ถือว่าเป็นการตบหน้ารัฐบาลฉาดใหญ่เพราะได้ตัดสัญญาณไป และในวันนี้ไม่มีวิดีโอลิงก์ของ พ.ต.ท.ทักษิณ แต่จะเป็นนายสมชาย อดีตนายกฯขึ้นเวทีพูดแทน

ด้านนายจตุพร กล่าวว่า การชุมนุมใหญ่ของกลุ่มคนเสื้อแดงในวันที่ 8 เม.ย. เราตั้งเป้าคนไว้ที่จำนวน 3 แสนคน โดยปลายแถวจะอยู่ที่บ้านสี่เสาเทเวศร์ อยากจะบอกว่าการที่รัฐบาลปิดสัญญาณดีสเตชั่นเหมือนเป็นการเอาฝ่ามือไปปิดแผ่นฟ้าและเป็นการสร้างความอยากรู้ อยากเห็นให้กับประชาชนที่ถูกปิดกั้นข่าวสารให้หลั่งไหลเข้ามาในกรุงเทพฯมากขึ้น ขอบอกว่าวันนี้ไม่มีการเจรจากันระหว่างกลุ่มคนเสื้อแดงกับนายอภิสิทธิ์ และนายสุเทพ เพราะวันนี้กลุ่มคนเสื้อแดงมาขับไล่ไม่ได้มาเรียกร้องต่อรัฐบาลแล้ว

ตร.-ทหารแห่รับเสื้อแดง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนที่นายณัฐวุฒิ จะแถลงข่าว ด้านหลังเวทีการปราศรัยยังคงมีทหาร ตำรวจที่แต่งกายเครื่องแบบเข้ามาขอเสื้อแดงกับนพ.เหวง โตจิราการ เป็นระยะ ๆ ซึ่งในวันนี้เป็นที่น่าสังเกตว่ามี ส.ส.ของพรรคไทยรักไทย แสดงเจตจำนงในการขึ้นเวทีปราศรัยค่อนข้างคึกคัก เช่น ตั้งแต่เช้ามีนายพงษ์เทพ น.ส.วิสาระดี ส.ส.เชียง ราย พรรคเพื่อไทย พ.ต.ท.สมชาย เพศประเสริฐ ส่วนตอนเย็นจะมีนายนพดล ปัทมะ อดีต รมว. การต่างประเทศ และนายสมชาย เป็นต้น

พท.ใช้เวทีสภาจี้ปัญหา

เมื่อเวลา 18.45 น. ที่รัฐสภา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร พิจารณาร่าง พ.ร.บ.จัดตั้งศาลจังหวัดที่อำเภอฮอด จังหวัดเชียงใหม่ ที่ศาลฎีกาเป็นผู้เสนอ ร่างพ.ร.บ.ปรากฏว่า ส.ส.พรรคเพื่อไทย ได้พยายามอภิปรายเรื่องการตัดสัญญาณดีสเตชั่น โดยนายสุรพงษ์ ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย อภิปรายว่า ถ้าถูกปิด แต่เอเอสทีวีไม่ถูกปิด แบบนี้ก็คือว่าไม่เป็นธรรม ดังนั้นต้องรีบตั้งศาลเพราะไม่เช่นนั้นคนจะไหลเข้ากรุงเทพฯ และเกิดเหตุการณ์ความวุ่นวายแน่ และต้องการให้ รมต.ประจำสำนักนายกฯ มาชี้แจงเรื่องนี้โดยด่วน เพราะถือว่าเป็นการปิดกั้นการละเมิดสิทธิของประชาชน

ภายหลังจากที่นายสุรพงษ์ ได้ลุกขึ้น พูดเพียงแค่ 10 นาที กระทั่งเวลา 19.00 น. สัญญาณการถ่ายทอดสดของดีสเตชั่น ก็กลับมาเป็น ปกติ ทำให้นายวิชาญ มีนชัยอนันต์ ส.ส.กทม. พรรคเพื่อไทย ได้ลุกขึ้นกล่าวขอบคุณรัฐบาล กลางสภา ว่า “ขอให้เป็นแบบนี้ตลอด”

“มาร์ค” สั่งห้ามใช้ความรุนแรง

นายอภิสิทธิ์ นายกฯ ให้สัมภาษณ์ระหว่างไปร่วมการประชุมสุดยอดลอนดอน (London Summit) ผู้นำกลุ่มประเทศจี 20 ระหว่างวันที่ 1-4 เม.ย. ที่กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ถึงกรณีที่ศาลแพ่งมีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราว ให้กลุ่มเสื้อแดง เปิดถนนและประตูทางเข้าทำเนียบรัฐบาล เพื่อให้คณะรัฐมนตรี ข้าราชการ ผู้มาติดต่อ นำรถยนต์เข้า-ออกได้ ว่า นายสุเทพ รายงานเรื่องนี้ให้ทราบแล้ว เมื่อถามว่าหนักใจกับสถานการณ์ขณะนี้หรือไม่ นายกฯ ตอบว่า ทั้งนี้เชื่อว่าเหตุการณ์จะไม่รุนแรงขึ้น ขณะเดียวกันรัฐบาลก็รักษาสิทธิของตัวเองด้วย ขอย้ำว่ารัฐบาลจะไม่ให้เกิดความรุนแรง ซึ่งได้กำชับเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายว่าอย่าทำอะไรที่นำไปสู่ความรุนแรง

ผบ.ตร.ยังไม่ได้พิจารณาถอดยศ

ช่วงหัวค่ำวันเดียวกัน พล.ต.อ.พัชรวาท ผบ.ตร. ให้สัมภาษณ์ถึงการถอดยศ พ.ต.ท.ทักษิณ ว่า เรื่องนี้ดำเนินการมาพักใหญ่แล้วที่ผ่านมาก็ไม่เคยรับรายงานเป็นลายลักษณ์อักษร อย่างครั้งนี้ก็ไม่เคยรับรายงาน ทราบว่า พล.ต.ต.ชนาภัทร์ เชยสมบัติ ผบก.กพ.กำลังดำเนินการไปตามขั้นตอนและหลักเกณฑ์ ซึ่งทั้งหมดยังอยู่ในขั้นตอนของเจ้าหน้าที่ทั้งสิ้น จากนี้ก็จะเสนอมาให้ตนเองและเสนอรัฐบาลต่อไป หากเจ้าหน้าที่สรุปมาอย่างไรก็ ต้องพิจารณาไปตามนั้น.

ข่าวส่งเสริมคนดี

จำนวนผู้เข้าเยี่มมชม

link to affordable web hosting
Powered by web hosting provider .

สถิติการเข้าชม DMNEWS

eXTReMe Tracker