
วันนี้(26มี.ค.) ที่พรรคเพื่อไทย นายพร้อมพงศ์  นพฤทธิ์  โฆษกพรรคเพื่อไทย  เปิดเผยว่า ได้รับรายงานว่าขณะนี้มีอดีตนักการเมืองใหญ่บางคน  มีอำนาจครอบงำรัฐบาลปัจจุบัน ร่วมมือกับนายทหารบางคน  ขนรถจักรยานยนต์ ประมาณ 500 คัน ใส่รถยีเอ็มซี  จากจังหวัดขอนแก่นเข้าสู่ กทม. และยังเกณฑ์ชายฉกรรจ์ จากทุกอำเภอ ๆ ละ 50 คน ในจังหวัดบุรีรัมย์ รวม 1,150 คน    คาดว่าจะมาสร้างสถานการณ์ป่วนเมืองในคืนวันที่ 26 มี.ค.  เพื่อเป็นเงื่อนไขประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน และเป็นข้ออ้างนำไปสู่การสลายการชุมนุม ซึ่งการกระทำเหล่านี้ เจตนาไม่ให้ผู้ชุมนุมเสื้อแดงรวมตัวเคลื่อนไหวในวันที่ 27 มี.ค.  โดยรถจักรยานยนต์ดังกล่าวได้นำไปซ่อนไว้ในค่ายทหารใหญ่ในกทม.และปริมณฑล ขณะที่บางส่วนนำไปซ่อนไว้ในโรงซ่อมเครื่องบินแห่งหนึ่ง
               
นายพร้อมพงศ์ กล่าวว่า ถ้าแผนดังกล่าวผิดพลาดไม่สามารถดำเนินการในคืนวันที่ 26 มี.ค.ได้ ก็จะนำรถจักรยานยนต์ทั้งหมดเข้าร่วมการชุมนุมของคนเสื้อแดงในวันที่ 27 มี.ค.แล้วก่อเหตุปะทะกับชาวบ้านที่มีการจัดเตรียมไว้สำหรับต่อต้านกลุ่มคนเสื้อแดง เพื่อให้เกิดการเกิดจลาจลขึ้นแทน และจะเป็นสาเหตุให้รัฐบาลประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน ใช้กำลังเข้าปราบปรามกลุ่มคนเสื้อแดง พร้อมกับทำลายภาพลักษณ์ของการชุมนุมโดยสงบ สันติ ปราศจากอาวุธไปในตัว พฤติกรรมในลักษณะนี้ได้มีความพยายามดำเนินการมาหลายครั้งแต่ไม่สำเร็จ กลุ่มบุคคลดังกล่าวจึงต้องระดมคนครั้งใหญ่เพื่อไปสู่จุดหมายที่ต้องการ อยากฝากไปยังศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย(ศอ.รส.) ให้ตรวจสอบ และหาทางป้องกันเหตุให้ดี เพราะหากเกิดเหตุขึ้น ศอ.รส. และรัฐบาล ต้องรับผิดชอบ
นายพร้อมพงศ์ กล่าวว่า ถ้าแผนดังกล่าวผิดพลาดไม่สามารถดำเนินการในคืนวันที่ 26 มี.ค.ได้ ก็จะนำรถจักรยานยนต์ทั้งหมดเข้าร่วมการชุมนุมของคนเสื้อแดงในวันที่ 27 มี.ค.แล้วก่อเหตุปะทะกับชาวบ้านที่มีการจัดเตรียมไว้สำหรับต่อต้านกลุ่มคนเสื้อแดง เพื่อให้เกิดการเกิดจลาจลขึ้นแทน และจะเป็นสาเหตุให้รัฐบาลประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน ใช้กำลังเข้าปราบปรามกลุ่มคนเสื้อแดง พร้อมกับทำลายภาพลักษณ์ของการชุมนุมโดยสงบ สันติ ปราศจากอาวุธไปในตัว พฤติกรรมในลักษณะนี้ได้มีความพยายามดำเนินการมาหลายครั้งแต่ไม่สำเร็จ กลุ่มบุคคลดังกล่าวจึงต้องระดมคนครั้งใหญ่เพื่อไปสู่จุดหมายที่ต้องการ อยากฝากไปยังศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย(ศอ.รส.) ให้ตรวจสอบ และหาทางป้องกันเหตุให้ดี เพราะหากเกิดเหตุขึ้น ศอ.รส. และรัฐบาล ต้องรับผิดชอบ
 
