บล็อคข่าวส่งเสริมคนดี (รักดีหามจั่ว รักชั่วหามเสา หามจั่วก็หนักนะ)

ข่าวจากสื่อ

บทความจากสื่อ

วันจันทร์ที่ 3 มกราคม พ.ศ. 2554

กต.เผยผลสอบ 7 คนไทยล้ำเเดนกัมพูชาจริง

ที่มา ประชาไท

กต.เผยผลสอบ 7 คนไทยล้ำเเดนกัมพูชาจริง ระบุมี 2 แนวทางช่วย ไชยวัฒน์ระบุชุมนุม 4 ม.ค. ที่ จ.สระแก้ว ร้องปล่อย 7 คนไทย

2 ม.ค. 54 - เว็บไซต์คมชัดลึกรายงานว่าเมื่อเวลา 11.00 น.ที่บริเวณประตู 4 ทำเนียบรัฐบาล กลุ่มเครือข่ายประชาชนหัวใจรักชาติ นำโดยนายไชยวัฒน์ สินสุวงศ์ กรรมการเครือข่ายฯ ม.ล.วัลวิภา จรูญโรจน์ กรรมการเครือข่ายฯ นายการุณ ใสงาม ที่ปรึกษาเครือข่ายฯ ได้ร่วมกันแถลงข่าวกรณีคนไทย 7 คนถูกทหารกัมพูชาจับกุมเมื่อวันที่ 29 ธ.ค. 2553 ที่ผ่านมาว่า เป็นการนำเสนอพยานบุคคลและเอกสารการครอบครองที่ดินของคนไทยเป็นเอกสาร หนังสือรับรองสิทธิ์ในที่ดินทำกิน ( นส. 3 ก.) โดยยืนยันว่า คนไทยที่ถูกทหารกัมพูชาจับกุมในพื้นที่เขตแดนไทยในการลงพื้นที่สำรวจตามคำ ร้องเรียนของประชาชนว่า ถูกบุกรุกพื้นที่เขตแดนไทยจากทหารกัมพูชา รมถึงการเดินทางไปยื่นหนังสือกับทางกองทัพภาคที่ 1 เพื่อประสานการเปิดพื้นที่ให้กลุ่มเครือข่ายได้ชุมนุมเรียกร้องด้วย

นายไชยวัฒน์ กล่าวว่า การที่สมเด็จฮุน เซ็น นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ออกมาระบุว่า คนไทย 7 คน หนึ่งในนั้นมีนายพนิช วิกิตเศรษฐ์ ส.ส. กทม.พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะตัวแทนรัฐสภา ซึ่งเป็น 1 ใน 30 คณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา หรือเจบีซี 3 ฉบับ และ 6 ประชาชนคนไทยที่ถูกทหารกัมพูชาจับกุมตัวไป เนื่องจากมีการรุกล้ำดินแดนไม่เป็นความจริง วันนี้เราเจอพยานบุคคล ที่มีเอกสารยืนยันว่า ประชาชนคนไทยที่ถูกทหารกัมพูชาคุมตัวไป เป็นพื้นที่เขตแดนของประเทศไทย เอกสารที่ประชาชนได้มาก็มีตั้งแต่ยุคนายธานินทร์ กรัยวิเชียร เป็นนายกรัฐมนตรี มีการเสียภาษีให้กับท้องที่ตลอดมา เเละกลุ่มเครือข่ายประชาชนหัวใจรักชาติจะมีการยกระดับการเคลื่อนไหวให้แกนนำ เครือข่ายคนไทยหัวใจรักชาติทุกภาค ระดมประชาชนแล้วให้ทุกคนมุ่งไปถนนศรีเพ็ญจ.สระแก้ว และเปิดเวทีปราศรัยในวันที่ 4 ม.ค. 2554 โดยจะมีการรวมตัวเคลื่อนไหวจากบริเวณประตู 4 ข้างทำเนียบ รัฐบาล ในวันที่ 3 ม.ค. 2554 เวลา 12.00 น. แล้วร่วมกันเดินทางไปชุมนุมที่ถนนศรีเพ็ญ จ.สระแก้ว เพื่อร่วมชุมนุมด้วยกันเรียกร้องให้มีการปล่อยตัว 7 คนไทย นอกจากนี้เรายังได้รับรายงานมาแล้วว่า จะมีประชาชนเดินทางไปรอร่วมชุมนุมในพื้นที่แล้วประมาณ 5 พันคน

ด้าน นายการุณ กล่าวว่า เหตุที่คนไทยถูกกุมตัว เพราะมีประชาชนร้องมายังกรมที่ดิน กระทรวงมหาดไทย และนายกรัฐมนตรีว่า ประชาชนไม่สามารถไปออกโฉนด เอกสารสิทธิ์ในการครอบครองที่ดินทำกิน ทั้งที่เขามีการถือหนังสือรับรองเป็นนส.3ก.หรือประชาชนที่ได้เสียภาษีใน ที่ดินทำกินให้กับรัฐ (ภทบ. 5 ) เป็นเอกสารตั้งแต่ปี 2484 เเละปี 2490 โดยเจ้าหน้าที่รางวัดบอกกับประชาชนว่า ทหารกัมพูชายึดครองพื้นที่ไม่สามารถไปทำการรางวัดออกโฉนดได้ หรือแม้แต่ครั้งที่กัมพูชามีสงคราม 3 ฝ่าย ทางองค์การสหประชาชาติก็เคยได้รับรองหมู่บ้านอพยพชาวเขมรให้กับทางรัฐบาลไทย ดังนั้นเอกสารที่มีอยู่ได้รับการรับรองย่อมเป็นดินแดนของคนไทย

กต.เผย2แนวทางช่วย 7 คนไทยเขมรจับ

นายธานี ทองภักดี อธิบดีกรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่า กระทรวงการต่างประเทศ ได้เตรียมแนวทางการให้ความช่วยเหลือต่อ นายพนิช วิกิตเศรษฐ์ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ นายวีระ สมความคิด แกนนำเครือข่ายคนไทยหัวใจรักชาติ และพวกรวม 7 คนที่ถูกกัมพูชาจับกุมตัว เพื่อให้ได้รับการปล่อยตัวกลับประเทศไทยโดยเร็ว

นอกจากนี้สถานเอกอัครราชทูตได้เตรียมให้ความสะดวกแก่ภรรยาของนายพนิช ที่จะเข้าเยี่ยมนายพนิช ที่เรือนจำไปรซอร์ในวันพรุ่งนี้ ในส่วนการสู้คดีขึ้นอยู่กับทนายความจะปรึกษาหารือกับนายพนิชว่าจะดำเนินการ ต่อไป โดยต้องรอศาลนัดไตร่สวนคดีในวันที่ 4 ม.ค.54 อย่างไรก็ตาม ทางกระทรวงการต่างประเทศได้ให้การดูแลอย่างใกล้ชิด เพื่อให้ทุกอย่างดำเนินไปตามกระบวนการกฎหมายของกัมพูชา

นายธานี กล่าวด้วยว่า กระบวนการตรวจสอบพื้นที่เสร็จสิ้นแล้ว ซึ่งเจ้าหน้าที่กรมแผนที่ทหาร และกระทรวงการต่างประเทศได้ลงพื้นที่ตรวจสอบแล้ว พบว่า เส้นทางที่คณะนายพนิชใช้ได้รุกล้ำในเขตพื้นที่กัมพูชาจริง แต่ไม่ได้เจตนา อย่างไรก็ตาม กระทรวงการต่างประเทศจะชี้แจงกับกลุ่มพันธมิตรฯ ได้ทราบต่อไป

มีรายงานว่า แนวทางที่กระทรวงการต่างประเทศเตรียมไว้ให้การช่วยเหลือ คือ การเจรจาระดับสูงกับทางการกัมพูชา ควบคุมไปกับการเข้าสู่กับกระบวนการของศาลกัมพูชา ซึ่งสามารถเป็นไปได้ 2 ทาง คือ การยื่นขอประกันตัว หรือการเร่งรัดให้ดำเนินคดีตามกระบวนการยุติธรรมให้เร็วที่สุด เพื่อขอลดหย่อนผ่อนโทษ โดยให้คำนึงถึงความสัมพันธ์ไทย-กัมพูชาเป็นสำคัญ

ฟันธง"พนิช"โดนจำคุกศาลรธน.วินิจฉัยได้

นายคมสัน โพธิคง รองอธิการบดีมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช อดีตกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ กล่าวว่า กรณีที่หากนายพนิชถูกศาลกัมพูชาพิพากษา ว่า มีความผิดและไม่ได้รับการประกันตัวจะทำให้หมดสมาชิกภาพการเป็นส.ส. คณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.)สามารถที่จะยื่นเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญ วินิจฉัยเพิกถอนสมาชิกภาพได้ ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 91 และ 106

ส่วนข้อโต้แย้งที่ว่ารัฐธรรมนูญจำกัดเฉพาะศาลในประเทศไทยนั้น แม้เรื่องนี้ไม่เคยเกิดขึ้นแต่เจตนารมณ์การร่างรัฐธรรมนูญมาตรานี้มุ่งไปที่ การป้องกันไม่ให้คนที่มีมลทินมาทำหน้าที่ผู้แทนปวงชน โดยไม่จำกัดว่าจะเกิดที่ใด เช่น หากส.ส.ไปขโมยของในสหรัฐ แล้วถูกพิพากษาจำคุก หรือเข้าประเทศญี่ปุ่นผิดกฎหมาย ถูกตัดสินจำคุกที่ญีปุ่น ก็ถือว่าสิ้นสภาพความเป็นส.ส.ไปด้วย อย่างไรก็ตาม หากมีการส่งเรื่องถึงศาลรัฐธรรมนูญ นายพนิช อาจยกประเด็นการจับกุมที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายขึ้นต่อสู้ได้ เพราะจากที่ตรวจสอบนายพนิช ถูกจับในดินแดนของไทย

องอาจยัน 7 คนไทยไม่มีเจตนารุกเขมร

นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการเร่งช่วยเหลือกลุ่มคนไทย 7 คนที่ถูกทางการกัมพูชาจับกุมตัว ว่า รัฐบาลพยายามใช้หลายช่องทางในการให้ความช่วยเหลือ เพื่อให้ได้รับความยุติธรรม เพราะเชื่อว่ากลุ่มคนไทยไม่มีเจตนารุกล้ำเข้าไปในพื้นที่ของกัมพูชา ขณะที่ยืนยันว่า ความสัมพันธ์กับประเทศกัมพูชาขณะนี้ยังเป็นไปในทิศทางที่ดีขึ้น ซึ่งหากสิ่งใดที่เป็นปัญหาจะทำความเข้าใจกันมากขึ้น รวมถึงเรื่องข้อพิพาทปราสาทพระวิหาร

ด้าน นายไกรศักดิ์ ชุณหะวัณ ประธานคณะกรรมการการพัฒนาการเมือง การสื่อสารมวลชน และการมีส่วนร่วมของประชาชน ที่ตั้งขอสังเกตถึงเจตนาการลงพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา บริเวณ จ.สระแก้ว ของกลุ่มคนไทยทั้ง 7 คน ที่ขาดการประสานงานกับเจ้าหน้าที่ในพื้นที่จนทำให้มีปัญหาการรุกล้ำพื้นที่ และถูกควบคุมตัวในที่สุด ซึ่งมองว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนอกจากส่งผลกระทบกับความสัมพันธ์ไทย-กัมพูชามากขึ้น แล้ว ยังอาจส่งผลในทางการเมือง โดยเฉพาะการออกมาชุมนุมเคลื่อนไหวของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยที่จะ มีขึ้นในวันที่ 22 มกราคมนี้ ขณะเดียวกันรัฐบาลควรเร่งสร้างความชัดเจนถึงการปักปันเขตแดนในพื้นที่ต่างๆ ที่มีความล่าช้า ทั้งที่ จ.สระแก้ว หรือพื้นที่บริเวณโดยรอบปราสาทพระวิหารและในอ่าวไทย

ร้อยละ 89 เชื่อเป็นเรื่องการเมืองระหว่างประเทศ

นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยว่า วันนี้ภรรยาของนายพนิช ได้เดินทางไปประเทศกัมพูชาเพื่อเยี่ยมสามี คาดว่าจะเข้าพบได้วันนี้หรือวันพรุ่งนี้ ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้กำชับว่า ให้ช่วยโดยเร็ว

ด้านสวนดุสิตโพล ระบุว่า ร้อยละ 89 เชื่อว่า การจับกุมคนไทยทั้ง 7 คน เป็นเรื่องการเมืองระหว่างประเทศ ขณะเดียวกันยังกังวลว่า จะกลายเป็นน้ำผึ้งหยดเดียว ทำให้กระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ดังนั้นรัฐบาลควรจะเร่งเจรจาให้มีการปล่อยตัว และหาข้อยุติในการแบ่งเส้นแดนไทย-กัมพูชาให้ชัดเจน

พท.ชี้คำพูดรัฐบาลอาจเป็นพยานมัดตัว"พนิช"ติดคุกเขมร

เมื่อเวลา 10.30 น. ที่พรรคเพื่อไทย นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ รองโฆษกพรรคเพื่อไทย แถลงถึงกรณีที่นายพนิช วิกิตเศรษฐ์ ส.ส.กทม. พรรคประชาธิปัตย์ถูกกัมพูชาจับกุม ว่า ตนไม่คิดว่าส.ส. ที่เป็นอดีตผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศจะเสียทางมวยจนถูกจับ กุม ก่อนหน้านี้พรรคเพื่อไทยได้เตือนแล้วว่าไม่เหมาะสมที่จะเดินทางรุกล้ำเข้าไป ในเขตกัมพูชา เพราะนายกษิต ภิรมย์ รมว.ต่างประเทศ ยังมีปัญหาคาใจคนในรัฐบาลกัมพูชาอยู่ แต่สถานการณ์ดูเหมือนรุนแรงขึ้นเพราะนายกษิตยอมรับว่าบุคคลทั้ง 7 ลุกล้ำแผ่นดินกัมพูชาจริง และยังยอมรับว่ามีคลิปเหตุการณ์ดังกล่าวด้วยทั้งๆ ที่ในทางการทูตหากเจรจาไม่สำเร็จควรจะระบุว่าอยู่ในขั้นตอนการเจรจาจะได้ไม่ เป็นพยานหลักฐานไปเพิ่มน้ำหนักให้ศาลลงโทษได้เต็มที่ ซึ่งคณะกรรมการติดตามการทำงานรัฐบาล (คตร.) ของพรรคเพื่อไทยบางคนยังตกใจที่รัฐมนตรีปากไว

นายจิรายุ กล่าวอีกว่า พรรคเพื่อไทยมองว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นพรรคการเมืองใหม่ และกลุ่มพันธมิตรฯ รวมทั้งคนของพรรคประชาธิปัตย์น่าจะเป็นดินเนื้อเดียวกัน เพราะขณะที่รัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี พยายามจะสานสัมพันธ์กับกัมพูชา แต่ทางหนึ่งกลับสั่งการให้ส.ส.ของพรรคไปดำเนินการบางอย่างร่วมกับกลุ่ม พันธมิตรฯ อย่างไรก็ตาม พรรคเพื่อไทยได้ตั้งคณะทำงานติดตามกรณีความขัดแย้งและความคืบหน้าในการแก้ ปัญหากรณีพื้นที่ทับซ้อนและเขาพระวิหารของรัฐบาลอภิสิทธิ์ด้วยว่า ได้ดำเนินการตามที่เคยโจมตีพรรคเพื่อไทยในสมัยพรรคประชาธิปัตย์เป็นฝ่ายค้าน หรือไม่ ส่วนกรณีการให้ความช่วยเหลือในคดีนี้นั้น พรรคเพื่อไทยแม้จะมีสายสัมพันธ์อันดีกับกัมพูชา แต่โดยมารยาทต้องปล่อยให้รัฐบาลแสดงฝีมือก่อน แต่ถ้าไม่ไหวก็ขอให้รัฐบาลร้องขอมา พรรคยินดีจะจัดให้ เพื่อให้คนไทยทุกคนโดยไม่เกี่ยงว่าเป็นกลุ่มพันธมิตรฯ หรือพรรคประชาธิปัตย์

สำหรับกรณีที่มีข้อสังเกตว่า การกระทำของนายพนิชอาจขัดต่อรัฐธรรมนูญและสุ่มเสี่ยงต่อสมาชิกภาพส.ส.นั้น นายจิรยุกล่าวว่า แกนนำพรรคเพื่อไทยได้หารือกันและเห็นว่า ควรเตรียมความพร้อมในการส่งผู้สมัครรับเลือกตั้งซ่อมส.ส.กทม.เขต 6 ได้เลย ทั้งนี้ในการประชุมพรรคเพื่อไทยสัปดาห์นี้พรรคจะหารือถึงกลยุทธ์ การหาเสียง และตัวผู้สมัครด้วยหากกกต.ระบุว่าต้องมีการเลือกตั้งซ่อมเกิดขึ้น

ที่มาข่าว: คม ชัด ลึก

ข่าวส่งเสริมคนดี

จำนวนผู้เข้าเยี่มมชม

link to affordable web hosting
Powered by web hosting provider .

สถิติการเข้าชม DMNEWS

eXTReMe Tracker