บล็อคข่าวส่งเสริมคนดี (รักดีหามจั่ว รักชั่วหามเสา หามจั่วก็หนักนะ)

ข่าวจากสื่อ

บทความจากสื่อ

วันศุกร์ที่ 2 ธันวาคม พ.ศ. 2554

ทำไม รธน.ที่นิติราษฎร์ ร่าง (หรือใครก็ตาม ทีคิดจะทำเรือง เสนอ รธน. ใหม่) จึงต้องตัด "มาตรา 8"

ที่มา thaifreenews

โดย เสรีชน คนใต้

โดย สมศักดิ์ เจียมธีรสกุล


อันนี้ ต่อเนืองจากกระทู้ที่แลกเปลี่ยนกับคุณเล็ก Junya Lek Yimprasert ข้างล่าง คือไหนๆเขียนถึงเรืองนี้แล้ว ผมอยากถือโอกาสแลกเปลี่ยนกับ นิติราษฎร์ หรือผู้สนใจจะทำเรืองนี้ "ล่วงหน้า" เล็กน้อย (ความจริง มีประเด็นเรื่อง "คำประกาศ" หรือ "เอกสาร" ที่ว่าจะร่าง นอกเหนือจาก รธน. ตาม "โมเดล" เอกสารคำประกาศของการปฏิวัติฝรังเศส ซึง ความจริง ผมเตรียมข้อมูลจะเขียนไว้ตอนก่อนน้ำท่วม พอน้ำท่วม เลย "หลุด" สมาธิที่จะเขียนไป ไว้วันหลัง ว่างๆค่อยมาเขียน)

คือ ผมไม่ทราบว่า นิติราษฎร์ ทีว่าจะทำ ร่าง รธน. โดยใช้ รธน. คณะราษฎร 3 ฉบับเป็นแบบอย่าง (27 มิถุนายน 2475, 10 ธันวาคม 2475 และ รธน.ปรีดี 2489) จะออกมาในหน้าตาอย่างไร โดยเฉพาะทีสำคัญ คือหมวดกษัตริย์ โดยเฉพาะที่มีเป็นมาตรา 8 ของ รธน. ปัจจุบัน ("องค์พระมหากษัตริย์เป็นที่เคารพสักการะ...")

ที่ผมต้อง "สารภาพ" ว่า รู้สึก "หวั่นๆ" อยู่นิดหน่อย คือ นิติราษฎร์ อาจจะยังคงข้อความในมาตรานี้ไว้ (เพราะ รธน. 2 ฉบับหลัง ของ คณะราษฎร เอง ก็มี แม้จะมีเฉพาะวรรคแรก ของ มาตรา 8 ปัจจุบัน ไมใช่ วรรคหลัง เรื่อง "ฟ้องร้องกล่าวหาไม่ได้" ซึงมาสมัย 2492)

เพราะมันดูเหมือนจะมี "เหตุผล" อยู่ ทีว่า แม้ในประเทศประชาธิปไตยที่มีกษัตริย์เป็นประมุขในยุโรปบางประเทศ ก็มีข้อความทำนองนี้ (บางประเทศ ก็ sacrosanct - เป็นที่เคารพ, บางประเทศ ก็ inviolable - ละเมิดมิได้) ประกอบกับ อาจจะดู เป็นเรื่อง "ช็อค" เกินไป ที่จะตัดข้อความที่ คนไทยหลายสิบรุ่น (ย้อนหลังไปถึง รธน. 10 ธันวา 2475 เอง) "โต" ขึ้นมาแบบนี้ ("องค์พระมหากษัตริย์เป็นทีเคารพสักการะ....")

แต่ผมอยากให้ นิติราษฎร์ stands firm ในสิ่งที่ อ.วรเจตน์ พูดได้อย่างถูกต้องมากๆว่า

""...112 โดยตัวของมันเอง มันมีปัญหาทั้งในระดับตัวบท และในระดับอุดมการณ์เบื้องหลังตัวบท คือแก้ตัวบทแล้ว ถ้าเกิดทัศนะของผู้พิพากษา ของคนตีความกฎหมาย ยังไม่ตีความตัวบทอันนี้ไปตามอุดมการณ์ประชาธิปไตย ถ้ายังตีความในกรอบของสมบูรณาญาสิทธิราชย์อยู่ ก็แก้ปัญหาได้ไม่หมดหรอก...."

นันคือ ในที่สุดแล้ว ปัญหาที่เราเผชิญอยู่ เกี่ยวกับประชาธิปไตย ในส่วนที่เกี่ยวกับสถานะของสถาบันกษัตริย์นั้น ไมใช่แค่เรื่อง 112 แต่คือ "กรอบ" หรือ ระบอบวิธีคิด (ideology) ในลักษณะ "สมบูรณาญาสิทธิราชย์" หรือ "กษัตริย์นิยม" ... ซึงเรือ่งนี้ ผมเชื่อว่า เราเห็นตรงกันทุกประการ

ปัญหา คือ "กรอบ" หรือ "ระบบวิธีคิด" แบบ "สมบุรณาญาสิทธิราชย์" หรือ "กษัตริย์นิยม" นี้ ในปริบทสังคมไทย "มาตรา 8 " มีบทบาท หรือเป็น "เสาหลัก" ให้มาโดยตลอด

ดังน้ัน ถ้ามองจะเรื่องนี้ ในปริบทสังคม จะใช้เหตุผลว่า "ประเทศประชาธิปไตยบางประเทศในยุโรป" ก็มีมาตราทำนองนี้ ไม่ได้

คือ ถ้าเราจะคิดแก้ปัญหาให้ "หมด" (คำ อ.วรเจตน์) หรือ "รอบด้าน" โดยแท้จริง เราจึงต้องเลิก "เสาหลัก" ของ "กรอบ" หรือ "ระบบคิด" แบบนี้ ซึงก็คือ มาตรา 8 นันเอง

ผมเคยพูดแบบเร็วๆ (ไม่แนใจ คนฟังจะฟังได้ทันไหม) ตอนต้นปี ในช่วงที นิติราษฎร์ เสนอเรื่อง ร่างแก้ 112 ว่า

สิ่ง ที่เราควร "เลียนแบบ" หรือ "อ้างถึง" จึงไม่ใช่ ประเทศประชาธิปไตยในยุโรป ก็มี แต่ควรศึกษา กรณีญี่ปุ่น ซึง จริงๆ คือ "ที่มา" หรือ "ต้นแบบ" ของ มาตรานี้ (พระยามานวราชเสวี ซึงเป็นคนเสนอให้มีมาตรา "องค์พระมหากษัตริย์..." ใน รธน. 10 ธันวา ยืนยันไว้เองเลยว่า ที่เสนอ เลียนแบบมาจาก รธน.เมจิ ของญี่ปุ่น ซึ่งใน มาตรา 3 ของ รธน. นั้น ระบุว่า "องค์พระจักรพรรดิ เป็นที่เคารพสักการะ ผู้ใดจะละเมิดมิได้")

ดังที่ หลายคนที่รู้ประวัติศาสตร์สมัยใหม่ญี่ปุ่น อาจจะพอทราบ "สถานะ" ของ "องค์จักรพรรดิ" ที่แสดงออกใน "มาตรา 3" ของ รธน. เมจิ ซึงเราเลียนแบบมาเป็น มาตรา 8 ในปัจจุบัน นั้น

เป็น "ฐาน" ให้กับการอ้างการกระทำของ รัฐบาลแบบฟัสซิสต์ของญี่ปุ่น ("เข้าสู่สงคราม เพื่อองค์จักรพรรดิ")

เมื่อ สหรัฐอเมริกา เข้าไปปฏิรูปการเมือง ญุี่ปุ่น หลังสงครามโลก และจัดการให้ร่าง รธน. ใหม่ ที่ใช้มาจนปัจจุบัน จึงจงใจ ยกเลิก "มาตรา 3" (ต้นแบบ มาตรา Cool นี้ เพราะเห็นว่า โดยปริบทของประวัติศาสตร์ มาตรานี้ และไอเดียเบื้องหลัง มาตรานี้ ถูกใช้ไปอย่างไร (ข้อความใหม่ ที่แทนที่ เขียนเบากว่ามาก เป็นทำนอง "จักรพรรดิเป็นสัญลักษณ์ของเอกภาพของประเทศ.." อะไรแบบนั้น)

ผม จึงเสนอว่า เช่นเดียวกับที่ เราไป "เลียนแบบ" รธน. เมจิ ในเรื่องนี้ เราก็ควรทำ อย่างที่ เกิดขึั้นกรณ๊ญี่ปุ่น เหมือนกัน คือ ถ้าต้องการปฏิรูปสถานะของสถาบันกษัตริย์ ในปริบทของประวัติศาสตร์ที่เกิดขึั้นในประเทศเรามาหลายสิบปี

จะต้อง ยกเลิก มาตรา 8 หรือ ข้อความ "องค์พระมหากษัตริย์เป็นที่เคารพสักการะ..." ออก เหมือนที่ ญี่ปุ่น เลิก มาตรา 3 ที่เป็นต้นแบบของเรา ออกไปนานแล้ว

(สำหรับ ผู้สนใจ นอกจาก สหรัฐ จะทำให้เกิดการยกเลิก มาตรา 3 ดังกล่าว ยังเลิกเรื่อง "ทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์" คือ ทำให้เป็นทรัพย์สินของรัฐ อย่างทีควรจะเป็น ไมใช่อยู่ในความควบคุมของราชสำนัก อีกต่อไป .. นี่ก็เป็นหนึ่งในข้อเสนอของผมเช่นกัน)

https://www.facebook.com/permalink.php?story_fbid=254361921283761&id=100001298657012

ข่าวส่งเสริมคนดี

จำนวนผู้เข้าเยี่มมชม

link to affordable web hosting
Powered by web hosting provider .

สถิติการเข้าชม DMNEWS

eXTReMe Tracker