บล็อคข่าวส่งเสริมคนดี (รักดีหามจั่ว รักชั่วหามเสา หามจั่วก็หนักนะ)

ข่าวจากสื่อ

บทความจากสื่อ

วันพุธที่ 7 ธันวาคม พ.ศ. 2554

ไม่ให้ประกันตัวส่งกี้ร์เข้าคุกแม้ปรับลุคใหม่แล้ว

ที่มา Thai E-News


ปรับลุคใหม่แต่ยังไม่รอด-อริ สมันต์ พงษ์เรืองรอง ได้เข้ามอบตัวสู้คดีที่ DSI กับธาริต เพ็งดิษฐ์ แล้ว โดยกล่าวว่าตัดสินใจเข้ามอบตัวหลังจากที่ฟังพระราชดำรัสในหลวง ที่ต้องการเห็นประเทศชาติสงบสุข และทุกคนต้องรู้จัก "ให้อภัย" กัน พร้อมให้สัญญาว่าจะปรับลุคใหม่ จากที่แข็งกร้าวให้สุภาพเรียบร้อยมากขึ้น

อย่างไรก็ตามในท้ายที่สุดศาลไม่ให้นายอริสมันต์ประกันตัวและส่งขังคุกเรือน จำพิเศษกรุงเทพ อ้างว่าแม้เข้ามอบตัว แต่ก็หนีหมายจับไปนาน อัตราโทษหนักเกรงจะหลบหนี

ก่อนหน้านี้นายอริสมันต์กล่าวว่า เหตุผลในการหลบหนีคดีเเละไม่มามอบตัวก่อนหน้านี้ เพราะการจับกุมทำให้ไม่เชื่อมั่นกระบวนการยุติธรรม เเละใช้วิธีที่รุนเเรงเกินไป เช่น การไล่ล่าจับตน การซุ่มทำร้าย ความพยายามอุ้มตนในสถานที่ตางๆ จึงคิดว่าควรหลบออกนอกประเทศไปก่อน เเละยังมีการตามไล่ล่าจับตนเเบบฉิวเฉียดหลายครั้ง เมื่อถามว่าการไล่ล่านั้นจะเอาชีวิตหรือไม่ นายอริสมันต์ กล่าวว่า น่าจะเป็นเป้าหมายสำคัญของคนที่รับภารกิจที่จะดำเนินการกับตนคือจับตาย เเละตอนนี้เมื่อตนคิดว่ากระบวนการยุติธรรมเปิดเเละให้ความปลอดภัยกับตน เวลานี้จึงเหมาะสมที่จะกลับเข้ามา

เมื่อถามว่าเเสดงว่าตอนนี้เชื่อมั่นกระบวนการยุติธรรมเเล้ว เเละคงไม่โดนสั่งเก็บ นายอริสมันต์ กล่าวว่า ต้องดูเเลตัวเองให้มากขึ้น ส่วนความยุติธรรมนั้น มั่นใจมากในตอนนี้เพราะบ้านเมืองกลับสู่ภาวะปกติเเล้ว

ก่อนหน้าผลจะออกมาว่าศาลไม่ให้ประกันตัว เขาแสดงความมั่นใจว่าจะได้รับการประกันไปต่อสู้คดี เเต่ทั้งหมดนี้อยู่ที่ดุลยพินิจในข้อมูลของอัยการ ดีเอสไอน่าจะส่งข้อมูลไปพอควร ส่วนข้อกล่าวหาก่อการร้ายนั้น ดีเอสไอมีการทบทวนเเละลดข้อกล่าวหา รวมทั้งตั้งข้อกล่าวหาใหม่ หมายความว่า ข้อกล่าวหาขบวนการคนเสื้อเเดงว่าก่อการร้ายไม่น่าจะเป็นความจริง หากเป็นจริงข้อกล่าวหานี้ต้องเเข็งเเรง มีการดำเนินการต่อเเละไม่น่าจะมีการทบาลทวนข้อกล่าวหากันใหม่

อย่างไรก็ตามในที่สุดนายอริสมันต์ไม่ได้ประกันตัวและถูกส่งเข้าเรือนจำพิเศษ กรุงเทพ ทนายความเผยจะไปยื่นประกันพรุ่งนี้และเพิ่มวงเงินประกันเป็น 2 ล้านบาท

ศาลได้อ้างว่าแม้นายอริสมันต์จะเช้ามอบตัวเอง แต่ก็ได้หนีหมายจับไปเป็นเวลานาน ประกอบกับมีโทษหนักเกรงจะหลบหนี จึงไม่ให้ประกันตัว




โรยตัวมาแล้ว-นายอริสมันต์ พงษ์เรืองรอง ซึ่งตกเป็นผู้ต้องหาคดีก่อการร้าย และคดีอื่นๆรวม 5 คดีได้เข้ามอบตัวกับDSI เพื่อต่อสู้คดีตามกระบวนการยุติธรรม ในเวลา 10.00 น.วันนี้ โดยได้ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา(ภาพและคลิปจากแฟ้ม ขณะที่อริสมันต์โรยตัวหนีตำรวจที่โรงแรมSC PARK หลังเหตุการณ์ 10 เมษา 53)

ส่วนรายงานต่อไปนี้ไทยอีนิวส์เคยนำเสนอไว้ครั้งแรกเมื่อวันที่ 4 ตุลาคม 2553


โดย ทีมข่าวไทยอีนิวส์
ที่มา เวบไซต์คนไทยยูเค

หมายเหตุไทยอีนิวส์ในการเผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ 4 ตุลาคม 2553:นายอริ สมันต์ พงษ์เรืองรอง 1 ในแกนนำเสื้อแดงนปช. และถูกเพ่งเล็งเป็นแกนนำสายฮาร์ดคอร์ ซึ่งหลบหนีไปนับแต่การปราบปรามสลายการชุมนุมเมื่อวันที่ 19 พฤษภาคมที่ผ่านมา ท่ามกลางข่าวลือว่าเขาตายไปแล้ว ได้ปรากฎตัวต่อสาธารณะเป็นครั้งแรกในรอบ 4 เดือน เมื่อค่ำวันที่ 1 ตุลาคม ที่ผ่านมา โดยโทรศัพท์มาให้ เว็บไซต์คนไทยยูเค โดย DJ.Shanamy & DJ.Pitt สัมภาษณ์เปิดใจ ในรายการวิทยุผ่านอินเตอร์เน็ต"คุยข้ามฟ้ากับShanamy"

การโทรศัพท์มาให้สัมภาษณ์จากสถานที่ที่ไม่ได้เปิดเผยครั้งนี้ นายอริสมันต์ได้เล่าถึงการตัดสินใจไม่เข้ามอบตัวพร้อมกับแกนนำคนอื่นในวัน ที่ 19 พฤษภาคม,ฉากการหลบหนีที่ตื่นเต้นยิ่งกว่าฉากในภาพยนตร์,ข้อกล่าวหาเรื่องเขา เป็นฮาร์ดคอร์และจัดตั้งกองกำลังต่อต้านรัฐบาล,แนวทางการปรองดองของรัฐบาล และเสธ.หนั่น,ข่าวเรื่องมี"แม่ยก"ของรัฐบาลต้องการหมายหัวเอาชีวิตเขา และข้อเสนอทางออกของประเทศในมุมมองของเขา ซึ่งได้ระบุว่าได้จัดทำธรรมนูญคนเสื้อแดงไว้ 10 ข้อ พร้อมแผนการเร่งด่วน 6 เดือนเพื่อนำไปสู่การปรองดองที่แท้จริง

รายละเอียดการเปิดใจท่านสามารถรับฟังได้ด้วยตนเองที่ player ด้านล่างนี้ (บางช่วงเสียงขาดหายไป เนื่องจากปัญหาการติดต่อ ท่านต้องรอซักครู่ จะฟังต่อได้)




เปิดใจนาทีณัฐวุฒิหลั่งน้ำตาลา ก่อนเปิดเส้นทางหนียิ่งกว่าในหนัง

นายอริสมันต์ให้สัมภาษณ์ถึงเหตุการณ์หลบหนีออกจากที่ชุมนุมราชประสงค์เมื่อ วันที่ 19 พฤษภาคมที่ผ่านมาว่า ผมคิดไม่เหมือนเพื่อน เพื่อนยอม แต่ผมไม่ยอม คุณจับผมขึ้นฮ.ผมก็สู้ คุณยิงผมที่เอสซีปาร์คผมก็สู้ คุณมาจัดการผมที่ราชประสงค์ ผมก็บอกณัฐวุฒิ ใสยเกื้อว่าผมขอกำลัง2,000คนออกไปจากราชประสงค์ หลายคนก็บอกว่าไม่ได้จะเกิดการสูญเสียมาก แต่ผมว่าไม่สู้ก็สูญเสียเพราะตอนนั้นเช้าวันที่19ก็เสียชีวิตไป10กว่าศพ เราน่าจะตัดสินใจอย่างใดอย่างหนึ่ง

แต่จตุพรกับณัฐวุฒิว่าเราคงต้องใช้กฎหมายใช้เวทีโลกจัดการกับรัฐบาล ส่วนณัฐวุฒิก็กังวลว่าจะมีคนเสียชีวิตมาก แต่ผมเชื่อว่าเขาจะฆ่าผมแน่ ผมก็เลยตัดสินใจว่า ณัฐวุฒิ-จตุพรก็สู้ในแนวทางของคุณ ผมก็ในแนวทางผม

ทั้งคู่ก็ขึ้นไปเวทีพูดสลายนการชุมนุม ผมก็ออกจากที่ชุมนุมมาท่ามกลางเสียงกระสุนปืน จนเกิดข่าวลือว่าผมถูกจับถูกฆ่าที่นั่นที่นี่ แล้วคนก็มาบอกว่าผมเป็นฮาร์ดคอร์ ที่ผมรอดชีวิตจากการยิงขนาดนั้นไม่ใช่ผมเก่ง แต่ผมมีคนช่วยเหลือ

ความจริงผมไม่น่ารอด ณัฐวุฒิพูดกับผมก่อนจากกันว่า"พี่ผมเสียพี่ไม่ได้นะ ผมกลัวว่าพี่เดินออกไปหากพี่ไม่รอดผมจะเสียใจ" เขาพูดไปน้ำตาไหล ให้มอบตัวด้วยกัน ผมก็บอกผมยอมไม่ได้ ผมไม่ยอมจำนน ผมก็ใส่เสื้อใหม่ ใส่แว่นตา ใส่วิกผม ผมเดินไปแถวหน้าพระพรหมฯบอกท่านว่าหากผมทำผิดให้ทหารฆ่าผมให้ตาย หากผมไม่ผิดให้ผมรอดไปได้ แล้วเดินออกไปบอกคนขายเสื้อแถวนั้นให้เขาพาไป เพราะเขารู้จักพื้นที่ดี หากผมตายก็จะมีพยาน

ผมเลือกจุดหนีที่อันตรายที่สุด เพราะที่อันตรายที่สุดย่อมเป็นที่ปบอดภัยที่สุด เพราะทหารจะได้ไม่สงสัยว่าผมจะไปตรงนั้น ตอนหลังมีข่าวว่าจับผมได้ในรถYARISสีขาวบ้าง ศาลาแดงบ้าง บนBTSบ้าง ซึ่งนั่นเป็นอริสมันต์ตัวปลอม

แต่ผมหลบออกมามีเสียงปืนดังมาก คนขายเสื้อที่มากับผมบอกผมก้าวขาไม่ออกเพราะมีการยิงปืนเสียงดังมาก ผมเลยเดินไปต่อให้เขากลับไปขายเสื้อ แต่เขาขอไปด้วยบอกว่า อย่างน้อยประวัติศาสตร์หน้านี้มีเขาอยู่ด้วย เขาชื่อสมภพจะไปส่งอัศวินของเขาให้ปลอดภัย พาไปถนนเพชรบุรีและประตูน้ำคอมเพล็กซ์ ลูกน้องผมขับมอเตอร์ไซค์มาเรียกผม"นายๆ"ผมบอกเอ็งไปก่อน เสียแผนหมด

ผมก็ไปกับคนขายเสื้อที่ประตูน้ำคอมเพล็กซ์ นอนลงไปมองขึ้นไปเจอสไนเปอร์เป็นร้อย พอเขาหมอบลงผมก็เดินไปเจอศาลเจ้า มีทหารตำรวจมาก ลูกน้องก็เอามอเตอร์ไซค์มารับแล้วออกไป ก็ไปเจอ 2 ด่านที่มักกะสันกับรัชดาฯ แต่เหมือนมีสิ่วงศักดิ์สิทธิ์ช่วยเหลือ รถคันอื่นโดนเรียก คันผมผ่านได้ ไปถึงรัชดามีรถYARISตามมา แต่ผมนั่งนิ่งไม่เป็นพิรุธ ก็หลบไปได้

จากนั้นมีเสธ.ทหารนำรถเบ๊นซ์มารับ แล้วมีรถตู้มารับต่อ

ตอนนี้เหมือนในหนังมาก เคว้งคว้างก็หลบๆใช้วิธีการ ใช้สามัญสำนึกออกนอกประเทศได้ เดินทางรอบๆประเทศไทย และล่องเรือไปประเทศอื่นๆอีก ใช้เวลาเป็นเดือน แล้วก็มีคนไทยโครงข่ายของเราช่วย ก็ไปอยู่ในที่ปลอดภัย และจากนั้นก็ติดต่อกลับมายังมวลชนว่าผมปลอดภัย และยังยืนหยัดต่อสู้ จะปรับเปลี่ยนการต่อสู้อย่างไร มีธรรมนูญของคนเสื้อแดงอย่างไร

เผยได้พระดีช่วยคุ้มครอง

ที่ผมหลบมาได้นั้นผมอยากกราบขอบพระคุณหลายท่าน เรื่องหนึ่งที่อยากเล่าคือ มีคนนำพระมาให้ ตอนหนึ่งผมรอดจากเอสซีปาร์คมีคนนำพระ3องค์ให้พร้อมสายสร้อยสแตนเลส แต่ผมไม่ค่อยเชื่อถือ วางพระไว้เกะกะ ก็มีวันหนึ่งก่อนเสธ.แดงโดนสังหาร พระท่านมาเข้าฝันว่าทำไมมึงไม่แขวนกูไว้ ตั้งแต่วันนั้นก็แขวนพระองค์นี้ ก็ปลอดภัยมาถึงวันนี้ ก็เลยแขวนมาตลอด

เผยทหารฝ่ายประชาธิปไตยช่วยพาออกนอกประเทศ

ทหารก็ไม่ได้เลวหมดนะครับ อยู่ฝ่ายประชาธิปไตยก็มี วันนั้นมีทหารมารอรับผม 20 คนวันที่ผมหนีออกมาได้ ผมบอกจะกลับไปสู้ ทหารห้ามผมไว้ เขาบอกว่าอย่าเลย กลับไปสู้แล้วตายเป็นแสนก็ไม่มีทาง เพราะตายเขาก็ใส่ร้ายเป็นผู้ก่อการร้าย ให้ท่านหนีเถอะ วันหน้ายังมีโอกาสกลับมาอธิบายว่าความจริงเกิดอะไรขึ้น

ทหารตำรวจที่เคียงข้างเราก็บอกว่าหากท่านตายไปอีกคน จะสูญเสียกำลังใจมาก วันที่ท่านกลับมาเรายังร่วมต่อสู้กับประชาชนได้ เขาก็จับผมขึ้นรถ ส่งผมออกไป ก็ขอบคุณในน้ำใจที่เวลานาทีนั้นเขายังเลือกที่จะอยู่ข้างเรา แทนที่เขาจะกลับลำพาผมไปส่งรัฐบาลก็จะเป็นผลงานโบว์แดงของเขา

เผยแรมโบ้อีสานปลอดภัย แต่ยังหลบหนีถูกไล่ล่า

แรมโบ้ยังมีชีวิตอยู่และปลอดภัย แต่คนอื่นๆผมก็ไม่ทราบชะตากรรมว่าเป็นไงบ้าง แต่ผมก็แจ้งไปว่าผมสบายดี และพยายามติดต่อทุกคน และผมยังยึดมั่นอุดมการณ์ เพราะเราไม่ได้ผิด แต่จะไปสู้ตอนนี้ก็คงไม่ไปขึ้นศาล เพราะเขาคุมไว้หมดแล้ว ให้บ้านเมืองเป็นประชาธิปไตย เราจะกลับไปต่อสู้ เราไม่ใช่คนผิด หรือคิดล้มสถาบัน เราเพียงต้องการประชาธิปไตย

ที่มีการสร้างภาพว่า รัฐบาลถูกกดดันลงมาให้สั่งฆ่าประชาชน แต่ผมว่าปัญหาอยู่ที่คุณเอง หากคุณยุบสภามันก็ไม่เกิดปัญหาตามมา ไม่มีการเข่นฆ่าประชาชน

ท้ายที่สุดคุณแรมโบ้ก็ฝากมาว่า เราคงต้องรักษาตัวให้รอด ให้หลบเลี่ยงการพบปะกัน เพราะเขายังไม่ปลอดภัยนัก เพราะเข้าไปประเทศหนึ่ง รัฐบาลประเทศนั้นก็บอกว่าไม่ปลอดภัย ให้หลบไปประเทศอื่นก่อน สรุปว่าเรายังเดินสายหนีการไบ่ล่าอยู่

รัฐบาลต้องหยุดการไล่ล่า ปล่อยคนที่ติดคุกออกมา

เผยการต่อสู้กับรัฐบาลฆาตกรต้องทำทุกวิธี แต่ปฏิเสธข่าวจัดตั้งกองกำลัง เผยทหารจะจัดการกันเองเมื่อถึงเวลาสุกงอม

การต่อสู้กับรัฐบาลฆาตกรนั้นทุกแนวทางเหมาะสม ไม่ว่าเป็นแนวทางสันติอหิงสา แนวทางการต่อสู้คดีระหว่างประเทศ หรือแนวทางอื่นๆ เพราะประชาชนรู้แล้วว่าคุณเป็นคนสั่งฆ่าประชาชน และประชาชนจำเป็นต้องตอบโต้รัฐบาล เพราะตอนนี้มันไม่ใช่ประชาธิปไตยแล้ว ยกเว้นว่าเขาจะยอมรับธรรมนูญ 10 ข้อของคนเสื้อแดง

ก็เป็นสัญชาตญาณปกติที่เมื่อถูกไล่ล่าไล่ฆ่า ก็ต้องใกล้เวลาที่ต้องตอบโต้ ผมว่าหากรัฐบาลสั่งฆ่าประชาชนก็ต้องใช้ทุกแนวทางในการต่อสู้ จะนุ่มนวลต่อไปผก็ไม่ได้แล้วหละ

ในการเคลื่อนไหวของเรานั้น เราจะทำให้เห็นว่าเสื้อแดงเรายังเคลื่อนไหวได้อยู่ แม้คุณจะมีคณะกรรมการระเบิดแห่งชาติ ห้ามไม่ให้คนไปเขียนอะไรในห้องน้ำตามปั๊มน้ำมัน มันก็คงทำอะไรไปห้ามกันไม่ได้ เพราะมันแนวทางการต่อสู้แนวทางหนึ่ง เรายังต้องต่อสู้ต่อไปเพื่อประชาธิปไตย ไม่ใช่ว่าเราต้องไปต่อสู้เพื่อเอาชีวิตใคร แต่จะให้ผมไปรบทัพจับศึก ผมคงทำไม่ได้ เราไม่มีทุนรอนจะทำอย่างนั้น

แต่ผมขอบอกถึงทหารว่าคุณต้องเข้าใจประชาธิปไตย ไม่ใช่เขาสั่งให้ฆ่าประชาชนก็ทำ เพราะตอนนี้ไม่ใช่ภาวะสงคราม เป็นสภาวะประชาธิปไตย เขาตะโกนเรียกร้องยุบสภา คุณไปฆ่าเขา คุณยังเป็นคนอยู่หรือเปล่า

ผมจะพามวลชนสู้ในแบบของเรา อาจมีตำรวจทหารที่มีอยู่ในปัจจุบันนี่แหละเป็นกองกำลังคุ้มกัน และเมื่อถึงเวลาสุกงอมเราอาจได้เห็นทหารประชาธิปไตยจับปืนสู้กับทหารอำมาตย์ หากทหารฝ่ายประชาธิปไตยเพลี่ยงพล้ำ พี่น้องประชาชนก็มีสิทธิชอบธรรมที่จะหนุนช่วย แต่ก็ไม่รู้ว่าจะเกิดขึ้นเมื่อไหร่ แต่หากเกิดขึ้นก็คงจะรุนแรง

ไม่เชื่อกระแสข่าวว่าแม่ยกของรัฐบาลจะหมายหัวเอาชีวิต แต่หากอยากเอาขีวิตให้ขอมา

เราก็อย่าไปปักใจเชื่ออย่างนั้น รัฐบาลอาจสร้างเรื่องให้คนเชื่อไปทางนั้นเพื่อหาเหตุปราบปรามประชาชน ผมไม่เชื่อ เพราะทำไปแบบนั้นจะได้อะไร มีการกล่าวหากระทั่งว่า ผมจัดตั้งกองกำลัง ทั้งที่ผมกำลังจัดตั้งDD CLUBหรือDemocracy Development Club เพื่อให้ข้อมูลข่าวสารรณรงค์ประชาธิปไตย ซึ่งผมมีแฟนคลับตรงนี้600,000คน ก็มาหาว่าผมจะไปตั้งกองกำลัง

ผมจะไปตั้งทำไม ไม่ได้อะไร ได้แค่ความมัน และหากฆ่าผมตายก็ไม่ได้อะไร พี่น้องเสื้อแดงเขาก็สู้เขาต่อไป เพราะเขาไม่ได้ผูกติดกับผม หรือกับณัฐวุฒิ ใสยเกื้อซักหน่อย

แต่ถ้าแม่ยกคนนั้นต้องการชีวิตผมจริงๆ ขอให้กล้าพูดออกมา ขอชีวิตผมมา ผมจะตายให้เขา แต่เขาต้องพูดต่อพี่น้องประชาชน แต่ตราบที่ไม่กล้า ก็อย่าหวังจะได้เห็นศพผม ผมอาจจะได้เห็นศพแม่ยกก่อน

พูดเป็นนัยเวลานี้อยู่ในไทยเข้าๆออกๆตำรวจไม่จับเอง

วันนี้ผมก็ไม่ได้อยู่ไหน อยู่ในประเทศไทยนี่เอง ใกล้กรุงเทพฯด้วย บางทีก็เข้ากรุงเทพฯ ตำรวจก็เห็นแต่เขาไม่จับ บอกว่าให้ออกไปก่อน ยังไม่สงบ ผมไปเชียงใหม่เขาก็บอกว่าให้หลบไปทางอื่นก่อน ผมก็เดินทางเข้าออกประเทศสบายๆ


แจงเรื่องถูกกล่าวหาเป็นฮาร์ดคอร์ขู่เผากรุง

ต้องมาดูความจริงว่าผมโดนอะไรบ้าง

1.เหตุการณ์แรกผมโดนไปจับตัวที่บ้าน ในช่วงการชุมนุมเมื่อเดือนเมษายน 2552 จับผมแล้วเปลี่ยนรถ3คัน พาไปขึ้นฮ.จะพาไปไหนไม่รู้ พอฮ.ขึ้นไป คุณคิดจะเอาผมไปถีบที่ไหนก็ได้ ผมก็เลยบอกว่าหากตายก็ต้องตายกันทั้งหมด เขาถึงเอาฮ.ลงมา แล้วมาบอกว่ามีหมายจับอะไร จะพาไปที่ไหน แล้วทำไมไม่ยอมบอกสิทธิผมตั้งแต่ต้น ให้ทนายความรับรู้ ให้ครอบครัวผมทราบ

2.เหตุการณ์ที่พัทยา ตอนเมษายน 2552 ผมไปยื่นหนังสือที่ประชุมAPECตามปกติ แต่ส.ส.ประชาธิปัตย์พาคนมาทำร้ายพวกเรา ผมก็เลยจะไปยื่นหนังสือฟ้องผู้นำโลก ก็มีชายฉกรรจ์ใส่เสื้อสีน้ำเงินยิงคนของเราบาดเจ็บสาหัส ต้องปั๊มหัวใจ เกือบเสียชีวิต คนก็บุกเข้าไปในโรงแรม ผมผู้นำก็ตามไปด้วยเพื่อห้ามการทำร้าย ห้ามการเผา แถลงข่าวว่าไม่มีประสงค์จะทำลายการประชุม เพราะทราบว่าเลิกไปแล้ว รัฐบาลเสียหน้าจึงสั่งคนมาทำร้ายเสื้อแดงที่ไปชุมนุม

3.เหตุการณ์ที่3 แล้วก็มีสำนักข่าวกรองขึ้นรถไล่ผมกลางวัน แสกๆที่ถนนรัชดา ผมเลยหลบเข้าเส้นทางลัด มีมอเตอร์ไซค์ตามมาคันเดียว ผมเลยลงมาล็อกคอคนนั้นแล้วจับไว้ เขาสารภาพว่านายสุเทพให้มาล็อกตัวผมไป ผมก็มีบอดี้การ์ดเขาก็เลยเอาปืนจ่อค้นตัว คนๆนี้ก็สารภาพหมดเลยว่าสุเทพสั่งมา

4.เหตุการณ์เขาส่งคนไปชาร์จตัวผมที่โรงแรมเอสซีปาร์ค เอา ระเบิดไปโยนใส่ห้องพักผม ทีนี้ที่ผมรอดตอนนั้นเพราะตำรวจที่มาเป็นการ์ดให้ผมเขาสอนผมว่า เขาต้องการหมายชีวิตผม หากมันบุกเข้ามาให้จับตาดูตรงประตู ก็จริงๆเลยมันถีบประตูเข้ามาแล้วโยนระเบิดเข้ามา ลูกน้องผมบอกว่าหากเขาโยนระเบิดมาให้ไปที่ประตูก่อน อย่าไปสนใจระเบิด เพราะเป็นระเบิดเสียง ผมก็ไปล็อกประตู ก็ทำให้ผมรอดเพราะเขายิงปืนตามมา30กว่านัด ประตูพรุน ผมก็หลบออกทางหน้าต่างแล้ววิ่งหนี แล้วโรยตัวลงมา

ผมไม่ได้เป็นฮาร์ดคอร์เพราะผมอยากเป็น แต่ผมถูกไล่ล่า ผมไม่ยอมแพ้กับความไม่ถูกต้อง ผมไม่ยอมแพ้ ไม่ยอมถูกจับ ผมไม่มีทางยอมจำนนกับคนเหล่านี้ เรายังต้องมีเสรีภาพต่อไป เพราะเราเป็นคนดีไม่ช่คนเลว เราควรได้รับการชื่นชม ไม่ใช่ป้ายสี ผมก็น้อยใจเหมือนกันที่สื่อว่าผมฮาร์ดคอร์

ที่บอกว่าผมพูดปราศรัยเรื่องเผากรุงเทพฯ มันก็เป็นเพียงเรื่องของวาทะที่ผมบอกว่า ให้เอาน้ำมันมาคนละ1ลิตร กรุงเทพฯจะเป็นทะเลเพลิงหากมี การปฏิวัติยึดอำนาจ มันเป็นเงื่อนไข แต่ความจริงทหารเป็นคนทำเป็นคนวางแผนหมด ความจริงเรามาเรียกร้องประชาธิปไตย เรียกร้องยุบสภาเลือกตั้งใหม่ ไม่ได้มีใครเตรียมมาเผาอย่างที่ให้ร้ายกล่าวหาผม

ประณามวาทะรัฐบาลฆาตกร ไม่มีหนทางปรองดองได้

รัฐบาลได้ประดิดประดอยถ้อยคำวาทะฆาตกรขึ้นมา เป็นวาทะน่ารังเกียจ อย่างการสลายฝูงชน เขาก็บอกว่าขอพื้นที่คืน แต่ที่เขาไม่ใช้คำว่าสลายฝูงชนก็เพราะเขาไม่ได้ทำตามหลักสากล เช่น แยกคนชราสตรีออก จากเบาไปหาหนัก เขาเลยใช้คำว่าขอพื้นที่คืน เพื่ออ้างว่าเป็นการยึดพื้นที่ถนนสาธารณะคืนมา

พื้นที่ถนนใช่ของคนกรุงเทพฯก็ใช่ แต่ไม่ใช่เฉพาะของคนกรุง ชาวไร่ชาวนาจ่ายภาษีก็มาทำถนนกรุงเทพฯ เขาก็มาใช้สิทธิใช้พื้นที่ แต่กลับให้ทหารใช้กองกำลัง ใช้อาวุธร้ายแรงสังหาร แล้วโยนมาว่าคนเสื้อแดงสังหารเข่นฆ่ากันเอง ซึ่งไม่ใช่วิธีการสุภาพบุรุษ

ผมไปปราศรัยทั่วประเทศมาหลายร้อยครั้ง ทุกที่ทั่วประเทศไม่เคยเกิดเหตุ เพราะเราไม่มีอาวุธ แต่ที่มีเหตุเกิดขึ้นเพราะรัฐบาลให้ทหารออกมา มีอาวุธหนัก

เราก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมมีทหารถูกสังหารในวันที่ 10 เมษายนด้วย

ส่วนเรื่องการปรองดอง เราไม่คิดปรองดองกับฆาตกร คุณไม่อายหรือฆ่าคนแล้วมาบอกว่าเรามาปรองดองกัน ความจริงแล้วคนเสื้อแดงต้องการประชาธิปไตยที่สมบูรณ์ ต้องการสันติภาพ แต่หากปรองดองกับฆาตกรแล้ว ประชาธิปไตยก็ไม่ได้ เสรีภาพก็ไม่ได้ สันติภาพก็ไม่ได้ ก็ไม่มีประโยชน์ แต่หากคุณยอมให้มีประชาธิปไตยที่สมบูรณ์ มีสันติภาพ มีเสรีภาพ และยอมรับ10ทันสมัยของธรรมนูญคนเสื้อแดงก็ปรองดองกันได้

ผมเชื่อมั่นว่าวีรชนที่เขาเสียชีวิตไป แล้วได้ประชาธิปไตยที่สมบูรณ์ตามธรรมนูญทั้ง10ข้อนี้ วีรชนคงนอนตายตาหลับที่บรรลุสมเจตนารมณ์ ไม่ใช่ประชาธิปไตยใต้อุ้งมือทหาร นายทุน คุณต้องเห็นคุณค่าของสิทธิเสรีภาพประชาชน

เตือนอภิสิทธิ์หนีไม่พ้น ยกเว้นไปเจอยมบาล

คุณอภิสิทธิ์คุณเป็นนายกฯได้ไง เป็นคนได้อย่างไร ตอนนี้ไปที่ไหนก็ถูกขับไล่ ออกมากินข้าวปากซอยก็ไม่ได้ คุณได้สร้างรอยแค้นให้ประชาชนทั้งแผ่นดิน หากคุณไม่ได้เป็นนายกฯในวันหน้า คุณจะอยู่ได้ไง ในเมื่อคุณไม่ได้เป็นนายกฯไปตลอดกาล วันนั้นคุณอภิสิทธิ์และศอฉ.จะอยู่ยังไง เพราะถูกคนเขาจองกฐินอยู่ คนเสื้อแดงทั่วประเทศทั่วโลกเวลานี้ไม่ต้องมีผู้นำ เขาสามารถต่อต้านได้ทุกที่ทัวโลก ทุกที่และบ่อยขึ้น รวมทั้งการเดินทางไปอเมริกา หรือไปยุโรปก็จะเจอกับการต่อต้านไปทุกที่

อภิสิทธิ์จึงต้องรอการพิพากษาทั้งทางคดี และการพิพากษาจากประชาชน หนีไปไหนก็หนีไม่พ้น ยกเว้นต้องไปพบยมบาล ถึงคุณจะใหญ่เท่าไหร่ แต่ยังไงก็เล็กกว่าโลง

วิพากษ์การเดินสายปรองดองของเสธ.หนั่น

คุณก็มีส่วนร่วมในการสนับสนุนการเข่นฆ่าประชาชน แล้วคุณมาเรียกร้องปรองดอง มันก็คงยากที่จะปรองดองกันได้ เพราะกฎหมายนิรโทษกรรมก็ไม่ได้ส่อเจตนาว่าจะแก้ไขปัญหา เช่น ให้นิรโทษกรรมกับผู้เข้าร่วมชุมนุมที่ไม่ได้ขึ้นเวที หรืออยู่ต่างจังหวัด แต่ไม่นิรโทษกรรมให้คนที่โดนข้อหาก่อการร้าย และล้มเจ้า

คุณกล่าวหาเราโดยไม่มีหลักฐาน จับแกนนำเราไปขังไว้80กว่าวัน ไล่ล่าผม แล้วแบบนี้จะปรองดองกันยังไง แต่หากจะเอาอย่างนั้นแล้วสามารถกลับสู่สภาวะปกติผมก็ยอมได้ แต่มันไม่เกิดการปรองดองจริง ไม่มีอะไรดีขึ้น

ปรองดองแล้วรัฐบาลจะคืนประชาธิปไตยให้ประชาชนไหม คนที่เสียชีวิต ที่บาดเจ็บคุณจะเยียวยาอย่างไร คนที่บริสุทธิ์แต่ถูกจับกุมคุมขัง คนที่ถูกไล่ล่า เสียโอกาสในชีวิต ใครรับผิดชอบ

การปรองดองไม่ใช่แค่คำพูด แต่อยู่ที่การกระทำ หากจะปรองดองต้อง

1.หยุดไล่ล่า
2.หยุดองค์กรอิสระ ทหาร ตำรวจ คุกคามประชาชน
3.จากนั้นกำหนดว่าจะเดินหน้าอย่างไรต่อ ต้องมีรัฐธรรมนูญที่เป็นประชาธิปไตย และกลับไปเรื่องธรรมนูญ 10 ข้อที่ผมว่าไปแล้ว
4.ส่วนการสังหารประชาชน ต้องไปถามญาติวีรชนว่าเขารู้สึกอย่างไร เขาอยากให้เป็นแบบไหน หากเขาเห็นว่าคุณปรองดองจริงๆ เขาอาจมีความเมตตาคุณก็ได้ เสธ.หนั่นคงต้องไปถามเจ้าทุกข์ตัวจริงเหล่านั้น ไม่ใช่ถามแค่นักการเมือง


เปิดข้อเสนอปรองดองให้ยอมรับธรรมนูญ10ข้อของเสื้อแดง

จะปรองดองได้จริง ทำไม่ยากหรอก

1.อภิสิทธิ์ยุบสภา 2.นำธรรมนูญเสื้อแดง10ข้อไปปฏิบัติ

รูปธรรมก็เช่น สอบสวนการกระทำของเสื้อแดงกับรัฐบาลคนละชุด ให้เวลา 6 เดือน หากสรุปว่าคนเสื้อแดงไม่มีความผิดก็ต้องปลดปล่อยนักโทษ เยียวยา หากผิดก็ขึ้นศาลยุติธรรม และหากสอบสวนว่ารัฐบาลผิดไม่ผิดก็นำขึ้นศาลว่ากันไปเต็มที่

คณะกรรมการนี้ต้องเป็นกลาง ปราศจากการแทรกแซง มีการเลือกตั้งใหม่ ให้ประชาชนตัดสิน

หากคณะกรรมการชี้ไปทางไหนก็ว่าไปตามนั้น ให้คณะกรรมการ 2 ชุดสอบสวนชี้มูล ไม่ใช่พูดปรองดองแต่พวกผมยังถูกขังคุก ถูกตามไล่ล่าอย่างตอนนี้ มันจะปรองดองได้อย่างไร

ที่สำคัญสถาบันกษัตริย์ของเราตอนนี้มีคนนำมาเป็นเครื่องมือการเมือง ทำร้ายคนอื่นๆหาว่าคนนั้นคนนี้หมิ่น จะล้มล้าง ผมถามว่ามันเพียงพอหรือยัง น่าจะเหนื่อยกันมากพอแล้ว เราก็รู้ตื้นลึกหนาบางมาก แต่ตอนนี้ออกอากาศผมก็ขอพูดแค่นี้

ตอนนี้ต้องมีธรรมนูญของคนเสื้อแดง ประเทศเราต้องยุติปัญหาทั้งหมด รัฐบาลต้องหยุดการใส่ร้ายป้ายสี หยุดการกล่าวหาที่ไม่เป็นธรรม รัฐบาลต้องหาคนสั่งการฆ่าประชาชนตั้งแต่10เมษายนมาถึง19พฤษภาคม พวกเราหวังว่ากระบวนการยุติธรรมจะดำเนินการเพื่อให้เกิดความเป็นธรรม แม้ในประเทศทำไม่ได้ แต่ระดับนานาชาติคงช่วยได้

ธรรมนูญ 10 ข้อ ก็เช่น

1.อธิปไตยอำนาจต้องเป็นของประชาชน ต้องมีการแบ่งแยกอำนาจให้ชัดเจน

2.ขบวนการยุติธรรมและองค์กรอิสระต้องเป็นธรรมและทันสมัย ต้องแฟร์ องค์กรอิสระต้องมีมาตรฐาน ไม่ซ้ายไม่ขวา

3.การพัฒนาคนพัฒนาชาติ เยาวชนต้องมีการศึกษาสูง เพื่อพัฒนาประเทศได้ดี รวมทั้งการส่งคนไปเรียนต่างประเทศ เรียนรู้วัฒนธรรมมาพัฒนาประเทศ

4.การพัฒนาด้านการเกษตรให้ทันสม้ย ทั้งโครงสร้างพื้นฐาน ด้านการตลาด เทคโนโลยี การเก็บรักษาพืชผลที่ไม่มช่วิธีโบราณแบบเดิมที่กระทรวงพาณิชย์ทำอยู่

5.การพัฒนาอุตสาหกรรม และการเศรษฐกิจการค้า การเงินการคลังต้องทันสมัย

6.ในด้านความสัมพันธ์กับต่างประเทศ หมดสมัยที่จะใช้กำลังกับประเทศเพื่อนบ้าน เพราะตอนนี้รัฐบาลมีปัญหาหมดกับเพื่อนบ้านรอบด้าน พม่า ลาว กัมพูชา

7.ในเรื่องการจัดการทรัพยากร ที่มีนายทุนหนุนหลังให้เกษตรกรบุกรุกป่า ต้องจัดการให้ถูกต้อง

8.เรื่องสิทธิเสรีภาพของประชาชน ต้องให้มีส่วนร่วมทุกขั้นตอน ไม่ใช่อย่างที่เป็นมา เรามาเรียกร้องประชาธิปไตยกลับเข่นฆ่า ตายไปที่รวบรวมได้ 96 ศพ ไม่นับรวมที่สูญหาย บาดเจ็บ

นี่เป็นประเด็นหลักๆที่เราต่อสู้อยู่ เพื่อจะนำไปสู่สิ่งที่ดีกว่า


คนเสื้อแดงพร้อมให้อภัย หากมีการสำนึกผิดและขอโทษ

คนเสื้อแดงมีหัวใจที่ดีงาม ไม่ประสงค์ร้ายกับใครอยู่แล้ว อาวุธเขาคือการให้อภัย หากความสุข โอกาส สิทธิเสรีภาพกลับคืนมา พวกเขาพร้อมให้อภัย ส่วนโลกแห่งความยุติธรรมจะให้อภัยหรือเปล่า ผมไม่ทราบ

ที่เขายัดเยียดให้ผมเป็นฮาร์ดคอร์ ผมเองไม่เคยจะทำอะไรใครเลย มีแต่โดนไล่ล่าไล่ฆ่า แต่มีคนช่วยเหลือ กับอาศัยความสามารถของตัวเอง และพระคุ้มครองหนีมาได้ เราไม่จำนนกับคนชั่ว คนที่เข่นฆ่าประชาชน

วิถีคนพลัดบ้านพลัดครอบครัว

ก็เป็นปัญหาใหญ่ เป็นเรื่องใหญ่ของผม ผมมีเพลงหนึ่งคือเพลง"ปาป้า" ผมเป็นพ่อที่ปกติกลับบ้านก็หอมแก้มลูก3คน ตอนนี้ผมไม่ได้ทำหน้าที่นั้น ไม่กล้าติดต่อไป เพราะกลัวเจอดักฟัง 2เดือนแรกเขายังไม่รู้ผมไปไหนก็ไปแจ้งความว่าผมหายตัวไป แต่ต่อมาก็รู้

ผมอยู่กับครอบครัวมา10กว่าปีไม่เคยห่างกัน ก็กังวลเป็นห่วงลูกๆ แต่ภรรยาผมเป็นคนเข้มแข็งก็คงจัดการปัญหาต่างๆได้ดี แต่ผมก็ยังไม่บอกว่าผมอยู่ไหน เพราะก็อยู่ไม่เป็นที่อยู่แล้ว

ผมก็ไม่เคยคิดว่าจะเจอแบบนี้ ไม่คิดว่าเขาจะเข่นฆ่าประชาชน แล้วเขาก็กล้าก้าวข้ามกองเลือดประชาชนเป็นนายกฯได้ ทั้งที่ควรรู้ว่าถึงมีตำแหน่งแต่ก็ไม่ได้รับการยอมรับจากประชาชน

ตอนนี้เป็นยุคมืดมนของประเทศ และไม่รู้เมื่อไหร่จะสว่าง แต่เมื่อสว่างก็จะเห็นปฏิกูลที่คนเหล่านี้ทำไว้ และวันนั้นก็ใกล้จะมาถึงแล้ว

ตอนนี้หากถามว่าสบายดีไหม ก็ต้องพูดว่า ไม่ค่อยมีความสุข เพราะมีชีวิตอยู่อย่างได้รับการคุกคามตลอดเวลา ไม่ว่าจะเดินทางไปไหน ก็มีคนของทางการตามมาคุกคามตลอด แต่ผมก็มีคนไทยคอยดูแลผมตลอด เพราะเขารู้ว่ารัฐบาลกำลังคุกคามผม

เพลงตะโกนบอกฟ้า ที่ไปที่มา



'ตะโกนบอกฟ้า'เพลงใหม่ล่าสุดโดยพี่กี้ร์-อริสมันต์

วันที่เสธ.แดงเสียชีวิต ผมอยากตะโกนบอกฟ้าว่าทำไมมันไร้ความปรานี ยิงไล่ฆ่าทำไม เขาก็คน เขาก็ไทยที่ความคิดเห็นต่างกัน ถ้าหากฟ้าออกมาพูดมันจะจบ ผมเลยตะโกนบอกฟ้าว่าเห็นไหมมันไร้ความเมตตาปรานี และมีอีกหลายเพลงที่แต่งไว้ช่วงนี้

เสธ.แดงโดนสังหาร เป็นเรื่องสะเทือนใจที่สุด

การเสียชีวิตของเสธ.แดง และพี่น้องเสื้อแดงทุกคน แล้วเขาวาทกรรมฆาตกรว่า"กระชับวงล้อม,กระชับพื้นที่,ขอพื้นที่คืน"ทั้งที่ เป็นพื้นที่สาธารณะที่ทุกคนมีสิทธิ แต่กลับใช้วาทกรรมฆาตกรมาบอกว่าปิดวงล้อมเพื่อสังหารแกนนำ สังหารประชาชน คุณต้องไปแก้ตัวกับศาลว่าการขอพื้นที่คืน คุณต้องฆ่าคนเลยเหรอ

ที่สะเทือนใจที่สุดคือคุณยิงคนในเขตอภัยทาน ในเขตวัด พยาบาลคนหนึ่งที่ผมรู้จักดีคือน้องเกด ให้คุณไปฟังเพลงตะโกนบอกฟ้าที่ผมร้องไว้"ออกจากบ้านมาแค่เพียงมือเปล่า ..."ศพที่ตายนั้นตายด้วยอาวุธสงคราม ตายเพราะทหารที่ถูกสั่งมา คนที่เสียชีวิตในวัดคุณทำได้อย่างไร

สถานการณ์ที่ยังมีเหตุระเบิดในกรุงเทพฯเวลานี้

อภิสิทธิ์ก็ไปโยนผิดให้เสธ.แดงว่าทำ แล้วทำไมวันนี้ไม่มีเสธ.แดง ทำไมยังเกิดระเบิด มันเป็นเรื่องคนไม่พอใจในกองทัพ ความขัดแย้งในกองทัพ หรือรัฐบาลอาจสร้างสถานการณ์ขึ้นมาเองก็ได้

เขาใช้หลักการ 8 M คือ

*M-manใช้คนมาจัดการกับเรา กับแกนนำ
*M-material ใช้อาวุธใช้ระเบิด
*M-moneyไปซื้อข้อมูลข่าวสาร ให้มืออาชีพมาป้ายสี
*M-marketing ใช้การตลาดว่าเราเป็นคนเลวเป็นผู้ก่อการร้าย
*M-methodology จัดการกับเราอย่างมีแบบแผน
*M-monitor คอยเฝ้าสังเกตติดตาม
*M-mature ใช้องค์กรอิสระ องค์กรรัฐ องค์กรข่าวกรอง หน่วยรบพิเศษ
*M-management คอยจัดการทั้งหมดที่กล่าวมา เป็นต้น


แต่มันสมศักดิ์ศรีที่ไหนหละ เอามาจัดการกับนักเคลื่อนไหวเรียกร้องประชาธิปไตย ผมจะเอาอะไรไปสู้ได้ เพราะที่ผมสู้คือความไม่เป็นประชาธิปไตย สู้กับนักการเมืองอย่างอภิสิทธิ์ แต่ตอนนี้ทหาร ตำรวจ องค์กรอิสระต่างๆเป็นเครื่องมือทรราชย์เข่นฆ่าประชาชน ซักวันหนึ่งเรื่องนี้ต้องไปขึ้นศาลโลก

อนาคตพร้อมจะลงเลือกตั้งกับพรรคที่มีแนวนโยบายเพื่อคนเสื้อแดง

อนาคตก็จะไปเลือกตั้งครับ หากบ้านเมืองไม่ปลอดภัยก็จะหาเสียงจากต่างประเทศ และเมื่อเราได้เป็นรัฐบาล เราจะไม่ลืมวีรชน ไม่ลืมญาติวีรชน ไม่ลืมคนที่สูญหาย คนที่บาดเจ็บ ต้องเยียวยา จะ5ล้าน10ล้านบาทก็ต้องหาให้ เรื่องนี้ต้องกำหนดเป็นนโยบาย รวมไปถึงธรรมนูญ 10 ข้อของคนเสื้อแดง

รวมทั้งต้องมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญให้เป็นประชาธิปไตย ทุกวันนี้ไม่เป็นประชาธิปไตยหลายอย่าง รวมทั้งการให้อิสระส.ส.ไปเลือกคนที่ไม่ใช่หัวหน้าพรรคของตนเองเป็นนายกฯ ถือว่าผิดหลักการ ทำให้ฟอนเฟะ ไม่มีระบบพรรค ทรยศประชาชนที่เลือกมา เพราะประชาชนเลือกมาในนามพรรคของคุณ

เราจะนำนโยบายนี้ไปเสนอพรรคการเมือง หากพรรคใดยอมรับ คนเสื้อแดงก็พร้อมให้การสนับสนุน หากเกิดการรัฐประหารขึ้นมา คนเสื้อแดงมีความชอบธรรมจะนำอาวุธออกมาต่อสู้ และถ้าวันนั้นประชาชนชนะ สถาบันทหารจะเสียหายมาก และเราจะสอนวิชาการเมือง วิชาประชาธิปไตย วิชามนุษยธรรมเมาตตาธรรมให้ทหาร เพราะทหารไม่ใช่สัตว์ ต้องมีเมตตาธรรม คิดถึงใจคนอื่นว่าเป็นคนเหมือนกัน

ผมอยากฝากว่า ครั้งนี้เราน้อยใจในความเป็นคนไทยน้อยที่สุด เราจะภูมิใจได้อย่างไรในเมื่อรัฐบาลไล่ฆ่าเรา รัฐบาลต้องคิดให้ได้

ท้ายนี้ทุกกำลังใจ ทุกความปรารถนาดี ผมพูดจากหัวใจว่าผมอบอุ่น แม้ผมต้องสูญเสียเงินทองทรัพย์สินที่ผมมีมา ต้องพลัดลูกพลัดเมีย แต่ผมมีเสิ่งชดเชย ผมจะมีความสุข มีความภาคภูมิใจ หากสามารถร่วมมือกับพี่น้องนำประชาธิปไตยมาสู่แผ่นดินไทยได้ตลอดกาล

(ปิดท้าย คุณอริสมันต์ได้ร้องเพลง ตะโกนบอกฟ้า ปิดท้ายรายการ)

**********
รายงานเกี่ยวเนื่อง:

-อริสมันต์โชว์รูปถ่ายล่าสุดเผื่อให้ธาริตไว้ดูต่างหน้า ตัวเป็นๆค่อยมาปลายปีอธิบดีDSIคงเป็นคนใหม่แล้ว


-อริสมันต์ พงษ์เรืองรอง:ในโอกาสรำลึก6เดือน19พฤษภา กับฟางเส้นสุดท้ายของคนเสื้อแดง


-อริสมันต์ พงษ์เรืองรอง:สู้ทุกวิถีทาง

-ปูขอบคุณแฟนคลับแพร่ความจริงโต้เวบลิ้มเล่นสกปรก-กี้ร์เผยที่มาภาพ ตุลย์ขู่ตบยิ่งลักษณ์คว่ำ

ข่าวส่งเสริมคนดี

จำนวนผู้เข้าเยี่มมชม

link to affordable web hosting
Powered by web hosting provider .

สถิติการเข้าชม DMNEWS

eXTReMe Tracker