แกนนำ นปช. เข้าให้ข้อมูลกับดีเอสไอ พร้อมเเนะ ดีเอสไอ 
ขอภาพวงจรปิดทางเข้าออก กรมทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์ 
ในระหว่างการชุมนุมของคนเสื้อแดง เนื่องจากเชื่อว่ามีภาพที่บ่งชี้ชัดว่า 
รัฐบาลมีการเบิกจ่ายอาวุธมาใช้ระหว่างการสลายการชุมนุม ด้านแกนนำ นปช. 
เสนอเงินส่วนตัวจำนวน 7 ล้านบาท เพื่อสมทบกับ ดีเอสไอ เป็นค่านำจับชายชุดดำ
  
  
  
 พนักงานสอบสวนคดีพิเศษกรณีผู้เสียชีวิตทั้ง 98 
ศพในเหตุการณ์สลายการชุมนุมช่วงเดือนเมษายน-พฤษภาคม 2553 ที่มีพันตำรวจเอก 
ประเวศ มูลประมุข รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษเป็นหัวหน้าชุด เชิญนายจตุพร 
พรหมพันธุ์ แกนนำ นปช.เข้าให้การในฐานะพยาน 
ซึ่งในขณะนั้นนายจตุพรเป็นแกนนำหลักในเหตุการณ์สลายการณ์สลายการชุมนุมช่วง 
เดือนเมษายน-พฤษภาคม 2553 ซึ่งเป็นการมายืนยันว่าการชุมนุมของกลุ่ม 
นปช.เป็นการชุมนุมอย่างสันติปราศจากอาวุธ รวมถึงจะเสนอให้ดีเอสไอ 
รวบรวมพยานหลักฐานด้วยการขอภาพวงจรปิดทางเข้าออกบริเวณกรมทหารราบที่ 11 
รักษาพระองค์ มาใช้ประกอบการสรุปสำนวนคดี 
เนื่องจากเชื่อว่าภาพจากกล้องวงจรปิดจะสามารถบอกได้ว่าชายชุดดำมีจริงหรือ 
ไม่ รวมทั้งจะสามารถเห็นการเบิกจ่ายอาวุธผ่านทางเข้าออกกรมทหารราบที่ 11 
รักษาพระองค์ได้
 ด้าน นายสมหวัง อัสราษี รองประธาน นปช. ยื่นหนังสือถึงนายธาริต เพ็งดิษฐ์ 
อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ 
เพื่อขอเพิ่มเงินรางวัลนำจับให้ผู้แจ้งเบาะแสการจับกุมคนร้าย 
ที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตในเหตุการณ์ชุมนุมช่วงเดือนเมษายน - พฤษภาคม 2553 
ซึ่งก่อนหน้านี้ดีเอสไอตั้งรางวัลนำจับ 7 คดี คดีละ 1 ล้านบาท 
นปช.จะเพิ่มเงินของ นปช.สมทบให้อีกรายละ 1 ล้านบาทเพื่อจูงใจพยานมาให้ปากคำ
 และหลังจากนี้เชื่อว่าจะมีแนวร่วมคนอื่นบริจาคเงินรางวัลเพิ่มเติม 
แต่จะเป็นที่ดิน
 ด้านนายธาริต กล่าวว่า ไม่ขัดข้องและถือเป็นเจตนาของผู้ประสงค์ดี 
ในการเดินหน้าสู่การจับกุมคนร้าย และจากการตรวจสอบข้อกฎหมายสามารถทำได้ 
โดยผู้แจ้งเบาะแสจะได้รับเงิน 2 ล้านบาท 
เมื่อสามารถนำไปสู่การจับกุมคนร้ายได้ ที่ผ่านมาดีเอสไอ เคยตั้งรางวัลนำจับ
 แต่ยังไม่เคยมีบุคคลภายนอกมาขอเข้าร่วม
    by 
    
        Pukkamon    
      
    22 ตุลาคม 2555 เวลา 23:05 น.
 
