"พร้อมพงศ์"ซัด"เติ้ง"แค่หวังตีกิน คิดแต่ประโยชน์ส่วนตัว สมปลาไหล2010
ที่พรรคเพื่อไทย นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่นายบรรหาร ศิลปอาชา ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา ระบุการกระทำของรัฐบาลและศอฉ. ที่สั่งให้การสลายการชุมนุมเป็นการกระทำที่ถูกต้องและเป็นไปตามขั้นตอนที่ถูกต้องตามกฎหมายว่า ขอถามกลับไปยังอดีตนายกรัฐมนตรี ที่ชื่อนายบรรหาร ศิลปอาชาว่า เอาสมองส่วนไหนคิด ใช้หลักการอะไรพิจารณาสรุปข้อเท็จจริงแบบเอาดีใส่ตัว และให้ท้ายรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี จนออกนอกหน้า ไม่คิดถึงชีวิตของประชาชนที่สูญเสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมาก รวมถึงทรัพย์สินที่เสียหาย ทั้งที่ยังไม่มีการสอบสวนตามกระบวนการยุติธรรม จึงคิดเป็นอย่างอื่นไปไม่ได้ว่า นายบรรหารโหนเกาะกระแสตีกิน เพื่อรักษาผลประโยชน์ของตนเองและพวกพ้องในฐานะพรรคร่วมรัฐบาล พูดเอาใจนายอภิสิทธิ์ พรรคประชาธิปัตย์และทหาร เพื่อให้ตนเองและพวกพ้องอยู่ในอำนาจต่อไป โดยไม่คำนึงถึงชีวิตเลือดเนื้อของประชาชน
"นายบรรหาร น่าจะคิดอยู่อย่างเดียวคือผลประโยชน์ของตนเอง และพวกพ้อง เพื่อให้อยู่ในรัฐบาลต่อไปให้นานที่สุด โดยปราศจากความรับผิดชอบต่อประชาชนผู้เป็นเจ้าของอำนาจอธิปไตย รู้สึกผิดหวังกับอดีตนายกฯ ขวัญใจของตนคนหนึ่งและสมกับฉายา ปลาไหลยุค 2010 จริงๆ" นายพร้อมพงศ์กล่าว
นายพร้อมพงศ์ กล่าวว่า นอกจากนี้ การที่นายบรรหารยังสรุปเพื่อประโยชน์ของตนเองอีกว่า รัฐบาลไม่สามารถจัดการเลือกตั้งได้ทัน 14 พฤษภาคม 2553 ต้องเลื่อนเวลาการเลือกตั้งออกไปอีก แสดงให้เห็นถึงธาตุแท้และความเห็นแก่ตัว ซึ่งเป็นพรรคร่วมรัฐบาล โดยไม่ได้พิจารณาถึงมูลเหตุความขัดแย้งในปัจจุบันว่าฝังรากลึก ไปสู่การรับรู้ของประชาชนทุกหย่อมหญ้า ถึงความไม่ชอบธรรมของรัฐบาลในหลายเรื่อง ดังนั้น การที่รัฐบาลจะอยู่ในอำนาจต่อไป ถึงจะมีอำนาจและกองทัพหนุนหลังก็จะบริหารไม่ได้ เพราะนายอภิสิทธิ์และคณะรัฐมนตรีจะไม่สามารถเดินทางไปปฏิบัติหน้าที่ราชการในพื้นที่ความขัดแย้งได้เลย
นายพร้อมพงศ์ กล่าวว่า ถ้านายบรรหาร ซึ่งเป็นผู้หลักผู้ใหญ่ของบ้านเมืองคนหนึ่ง ต้องการช่วยให้เกิดความสมานฉันท์และปรองดองในชาติอย่างแท้จริง วิธีการที่ดีที่สุด คือ ควรเสนอแนะให้รัฐบาลแสดงความรับผิดชอบโดยการยุบสภา คืนอำนาจให้ประชาชนโดยทันที เพื่อดับไฟแห่งความขัดแย้งในสังคมไม่ให้เกิดขึ้นอีก และให้รัฐบาลใหม่ที่ประชาชนจะเป็นผู้ชี้ขาด จะเป็นผู้สร้างความปรองดองสมานฉันท์ให้เกิดขึ้นในชาติ และจะจัดการปัญหาที่เกิดขึ้น เพื่อให้เกิดความยุติธรรมและเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย เพราะหากรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ยังอยู่ในอำนาจประชาชนผู้สูญเสียจากการกระทำของรัฐบาล ก็จะไม่ได้รับความเป็นธรรมความขัดแย้งก็คงยังมีต่อไปไม่จบสิ้น
พท.ยื่นปปช.เอาผิด"มาร์ค-สุเทพ"สลายแดง อ้างมีคลิปทหารยิงปชช.วัดปทุมฯ
นายพร้อมพงศ์ กล่าวถึงการเข้าสลายการชุมนุมว่า นายอภิสิทธิ์ นายกรัฐมนตรี และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯ ฝ่ายความมั่งคง ในฐานะ ผอ.ศอฉ. กระทำที่เกินกว่าเหตุ ไม่เป็นไปตามขั้นตอน และวิธีปฏิบัติตามหลักสากล รวมถึงเป็นการละเมิดต่อสิทธิมนุษยชนอย่างร้ายแรง เป็นการกระทำที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญและกฎหมาย นายอภิสิทธิ์และนายสุเทพต้องร่วมกันรับผิดชอบ ในฐานะผู้สั่งการให้เข่นฆ่าประชาชน และต้องรับผิดชอบต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 อีกด้วย ซึ่งในวันที่ 24 พฤษภาคมนี้ ตนและฝ่ายกฎหมายของพรรคจะยื่นเรื่องต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ให้เอาผิดกับนายอภิสิทธิ์ นายสุเทพ และคณะกรรมการ ศอฉ. รวมทั้งผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องทุกคน นอกจากนี้ ญาติของผู้ที่เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บได้มอบหมายให้ฝ่ายกฎหมายของพรรคเพื่อไทยรวบรวมพยานหลักฐานและตั้งคณะทำงานเพื่อฟ้องร้อง นายอภิสิทธิ์ นายสุเทพ ศอฉ. และผู้บังคับบัญชาของกองทัพที่มีส่วนเกี่ยวข้อง ในคดีอาญา จะฟ้องต่อศาลอาญาในข้อหาความผิดฐานเป็นผู้ใช้หรือผู้สั่งการให้ฆ่าประชาชน ส่วนคดีแพ่งก็จะฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายให้กับประชาชนต่อไป
นายพร้อมพงศ์ กล่าวว่า กรณีมีผู้เสียชีวิตที่วัดปทุมวนาราม จากการที่ตนไปส่งผู้ชุมนุมกลับบ้าน เมื่อวันที่ 20 พ.ค.พยานผู้ชุมนุมในเหตุการณ์ต่างให้การตรงกันว่า ทหารอยู่บนรางรถไฟฟ้าแล้วยิงไปที่วัด ในคืนวันที่ 19 พฤษภาคม เพื่อเป็นการตัดไม้ข่มนามให้ผู้ชุมนุมออกจากพื้นที่ ข้อเท็จจริงมีผู้เสียชิวิตถึง 9 ศพ อีก 3 ศพไม่รู้ไปไหน คาดว่ามีอีกหลาย 10 ราย แต่ที่เห็นตาย 6 ศพแล้วอยู่ที่วัด เป็นเพราะผู้ชุมนุมแย่งศพมาได้ ฉะนั้นนายอภิสิทธิ์และคณะกรรมการ ศอฉ. รวมทั้ง กองทัพต้องไปแก้ตัวที่ศาลอาญาและศาลโลก ในข้อหาฆ่าคนตาย เรื่องนี้ตนยังมีคลิปที่ได้จากผู้ชุมนุม เป็น ภาพทหารที่อยู่บนรางรถไฟฟ้า ยิงใส่ประชาชนในวัด แต่ตนจะเปิดคลิปนี้ก็ต่อเมื่อขึ้นศาลเท่านั้น