บล็อคข่าวส่งเสริมคนดี (รักดีหามจั่ว รักชั่วหามเสา หามจั่วก็หนักนะ)

ข่าวจากสื่อ

บทความจากสื่อ

วันอังคารที่ 3 มีนาคม พ.ศ. 2552

ความอิจฉาของสนธิฯ จินตนาการของกลุ่มพันธมิตรฯ จุดยืนประชาธิปไตยของคนเสื้อแดงและความรักที่มีต่อทักษิณ

ที่มา thaifreenews

โดย..เสียงประชาไทย

ความอิจฉา คือ. . .
ความรู้สึกทนไม่ได้ที่เห็นใครคนใดคนหนึ่งเขาเด่นขึ้นมา อาจจะถึงขั้นกินไม่ได้นอนไม่หลับเพราะมัวแต่คิดหาข้อเสียของคนๆนั้น เพื่อที่จะเอาไปประจานเขา ให้คนส่วนใหญ่เห็นดีเห็นงามด้วยและพากันทำลายบุคคลนั้น แล้วสุดท้ายผู้คนก็จะพากันยกย่องว่า ตนนี่ฉลาดกว่าเขา

กรณีที่เด่นชัดที่สุด น่าจะเป็นสนธิ ลิ้มฯซึ่งหากมองกันให้ลึกซึ้งแล้ว การกระทำของสนธินั้นตรงกับที่ผมอธิบายมาทุกอย่าง ซึ่งด้วยแรงอิจฉาของสนธิที่มีต่อทักษิณนั้นมากมายเหลือเกิน

ความซี้ของ2คนนี้นั้นถือได้ว่าเป็นเพื่อนรักกันก็ว่าได้
แต่นั่นมัน 10 กว่าปีที่แล้วซึ่งหลังจากทักษิณได้เป็นนายกรัฐมนตรีความเด่นดังของทักษิณก็เพิ่มมากขึ้นทวีคูณจากนโยบายประชานิยมและแนวทางบริหารประเทศที่เน้นลงมือทำมากกว่าการพูดตามเกมการเมืองไปวันๆ
ซึ่งประวัติศาสตร์ไทยไม่เคยมีนายกฯที่ทุ่มเทแบบนี้มาก่อน
และคำพูดของสนธิในวันนั้นก็ไม่ผิดเลยและผมเชื่อว่าสนธิพูดออกมาจากใจจริงที่ว่า
"ทักษิณคือนายกฯที่ดีที่สุดที่ประเทศไทยเคยมีมา"
และทุกวันนี้ประชาชนส่วนใหญ่ก็ยังเชื่อเช่นนั้น ฮ่าๆ

ทักษิณนั้นกลายเป็นคนของประชาชนอย่างเต็มตัว จนไม่สามารถตอบสนองความต้องการสนธิได้ทุกเรื่อง เพราะทักษิณเมื่อเป็นนายกฯแล้วเรื่องชาติบ้านเมืองต้องมาก่อนเรื่องผลประโยชน์ไว้ทีหลัง
การข่มกันเองของทั้งสองคนซึ่งผลสุดท้ายทักษิณกลับชนะตลอดจนสนธินั้นเริ่มหมั่นไส้และอิจฉาเป็นอย่างยิ่ง
คนที่เคยร่วมงานกับสนธิ ไม่ว่าจะเป็น
"สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ทนง พิทยะ" หรือ "พันศักดิ์ วิญญรัตน์"
ซึ่งกลายมาเป็น "ขุนพลเศรษฐกิจ" ตัวจริงของ "ทักษิณ"
จนสนธิคิดว่าทักษิณเป็นหนี้บุญคุณแต่กลับเนรคุณตัวเอง
สายสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งของ "ทักษิณ-สนธิ" ทั้งส่วนตัวและเครือข่ายเมื่อในอดีต จึงเริ่มมีรอยร้าว
ความอิจฉาของสนธิเริ่มก่อตัวมากขึ้นๆ
แต่ในแง่ของความเป็นจริงสนธิไม่สามารถทำอะไรทักษิณได้เลยในเวลานั้น แทนที่สนธิจะพยายามทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุดและปล่อยให้ทักษิณบริหารประเทศไป
เพราะในช่วงที่ทักษิณเป็นนายกฯนั้น ประเทศกำลังเจริญก้าวหน้าแบบก้าวกระโดด และกำลังจะเปลี่ยนสถานะจากประเทศที่กำลังพัฒนาเป็นประเทศที่พัฒนาแล้วในไม่ช้า
แต่สนธิกลับเลือกที่จะทำลายทักษิณเพราะไฟอิจฉาในใจสนธิไม่มีวันสงบหากปล่อยไว้และสุดท้ายด้วยความอิจฉาอันแรงกล้าของสนธิก็สามารถนำจุดอ่อนของทักษิณจนได้
ว่ากันว่าทักษิณนั้นแม้จะเป็นนักบริหารที่มีแนวคิดแบบสมัยใหม่แต่กลับเชื่อในเรื่องของไสยศาสตร์เป็นอย่างมากและนิยมร่วมพิธีกรรมทางศาสนาบ่อยครั้ง

จุดนี้จึงกลายเป็นจุดอ่อนให้สนธิเริ่มปฏิบัติการทำลายทักษิณ โดยเริ่มจากปลุกกระแสทักษิณคือพระเจ้าตากสินลับชาติมาเกิด
เชื่อมโยงเข้ากับพิธีกรรมทางศาสนาที่ทักษิณไปมีส่วนร่วม
กล่าวหาสารพัดในเรื่องของมนต์ดำ มนต์เขมร จึงทำให้ทักษิณมีคนนิยมจำนวนมากทั้งๆที่ความจริงคนนิยมทักษิณเพราะความตั้งใจจริงในการบริหารงานของทักษิณต่างหาก

กระแสทักษิณคือพระเจ้าตากสินกลับชาติมาเกิดเริ่มแพร่สะบัดสะเทือนไปถึงกลุ่มอำมาตย์ กลุ่มชนชั้นสูงและการวิพากษ์วิจารณ์ต่างๆนาๆว่าไม่สมควรนำไปเปรียบเทียบและทักษิณเองก็หลงเชื่อไปด้วยว่าตนเองคือพระเจ้าตากสินมาเกิด
เริ่มหนักเข้าเมื่อมีการพูดถึงคำสาปพระเจ้าตากสิน สนธิยิ่งได้ใจปลุกกระแสทักษิณคิดล้มล้าง..ขึ้นมา
รวมทั้งการที่หลวงตามหาบัวเคยเทศน์เตือนพ.ต.ท.ทักษิณ
ว่า อย่าลำพองตัว ว่าตั้งหน้าตั้งตาเป็นประธานาธิบดี
และการประโคมต่ออีกว่าอดีตชาติทักษิณเคยเป็นกษัตริย์พม่า
ไม่รู้ว่าเป็นการจงใจหรือความบังเอิญกันแน่มันก็ทำให้สนธิแต่งเรื่องมาเชื่อมโยงต่อกันได้หมดรวมทั้งการที่ทักษิณเองก็เชื่อโดยพยายามทำพิธีแก้เคล็ดเพื่อแสดงเจตนาว่าตนเองไม่มีความคิดเช่นนั้น แต่มันกลับทำให้คำพูดของสนธิดูมีน้ำหนักขึ้นมาก

คนไทยซึ่งเชื่อในเรื่องไสยศาสตร์กันอย่างจริงจังอยู่แล้วรวมทั้งคนไทยมีความรักในสถาบัน...เป็นอย่างยิ่งจึงเกิดการต่อต้าน

เมื่อปฏิบัติการล้มทักษิณได้ผลเกินคาดเพราะทักษิณเองดันหลงเข้ามาร่วมด้วย ทำให้สนธิลำพองใจมากขึ้นพร้อมทั้งปั้นเรื่องปลุกปิศาจทักษิณในระบอบทักษิณขึ้นมา จนทำให้คนกลัวและต่อต้านกันตั้งแต่ขอทานยันนายพล อำมาตย์

โดยเฉพาะเหล่าอีแอบทั้งหลายที่เคยอิจฉาทักษิณ และหลายคนที่เสียผลประโยชน์ของตัวเองในช่วงทักษิณเป็นนายกรัฐมนตรี เริ่มโผล่ตัวออกมาร่วมรุมกินโต๊ะทักษิณ
คำพูดโกหกเนียนๆ คำกล่าวหาสวยหรูเน้นวิชาการ อิงหลักการ จนถึงการโกหกหน้าด้านๆแล้วแก้ตัวด้วยคำว่า
"เชื่ออย่างบริสุทธิ์ใจ" ทุกคำที่ออกมาจากปากคนเหล่านี้แฝงไปด้วยอคติต่อทักษิณ ทำลายทักษิณเท่านั้น

ส่วนคนไทยที่ไม่รู้เรื่องอะไร ไม่มีส่วนได้ส่วนเสียกับคนพวกนี้แต่กลับไปหลงเชื่อเขา
บ้างก็เชื่อเพราะโง่จริงๆ
บ้างก็เชื่อเพราะไม่รู้จักคิดหาเหตุผล
บ้างก็เชื่อเพราะงมงายไสยศาสตร์
บ้างก็เชื่อเพราะรับข้อมูลข่าวสารทางเดียว
บ้างก็เชื่อเพราะคนพูดมันมีหน้าตาในสังคม คนพูดมันรวยโดยไม่เคยตั้งสติคิดสักนิดเลยว่าคนเราไม่ว่าจนหรือรวย ผู้ดีหรือกุ๊ยนักเลง ย่อมมีดีมีเลวปะปนกันไป
และที่น่าเป็นห่วงที่สุดคือคนไทยที่ไปหลงเชื่อเขา
เพราะว่าเขาหล่อ หน้าเหมือนพระเอกในละคร เขาต้องเป็นคนดีเชื่อถือได้ กลุ่มนี้โดยเฉพาะแม่บ้านทั้งหลายที่สับสนในชีวิตชอบเอาชีวิตจริงกับละครมาปะปนกันจนมั่วไปหมด ไม่รู้จักแยกแยะผิดถูก ไม่รู้จักคิด เป็นแต่ตั้งธงไว้ว่าอย่างนั้นคือดีอย่านี้คือเลว

เมื่อกระแสแต่งเรื่องต่างๆที่อิงเหตุการณ์จริง
แต่ปรับแต่งเจตนาดีของทักษิณให้เป็นเจตนาร้ายโดยสนธิ
เริ่มมีคนเชื่อมากขึ้น แนวร่วมมากขึ้น ก็เกิดขบวนการล้มล้างระบอบทักษิณในนาม พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย
ที่มีจุดยืนแน่ชัดว่า
เพื่อทำลายทักษิณและระบอบประชาธิไตยของทักษิณ
ผ่านตัวละครเอกที่สนธิแต่งขึ้นในนาม ปิศาจหน้าเหลี่ยม
ปิศาจผู้มีเงินล้นฟ้า สามารถซื้อทุกอย่างในโลกได้
ปิศาจผู้โกงกินทุกอย่างที่ขวางหน้า อำมหิตที่สุดในโลก
ปิศาจผู้โหดร้ายยิ่งกว่าปิศาจคอมมิวนิสต์ที่อำมาตย์เตยสร้างไว้
ปิศาจผู้ ........ ฯลฯ
แล้วแต่สถานการณจะพาไปและแล้วแต่จินตนาการของม๊อบเสื้อเหลืองจะคิดกันขึ้นมา ว่า ปิศาจหน้าเหลี่ยมตนนี้เลวยังไง

โดยละคร ปิศาจหน้าเหลี่ยม ถูกออกอากาศทาง ASTV และหนังสือในเครือผู้จัดการและแนวร่วมของสนธิ
ละครที่ทุ่มทุนสร้างแพงที่สุดในโลกโดยเอาประเทศเป็นต้นทุน
สนับสนุนโดย
กลุ่มอำมาตย์
กลุ่มเผด็จการอีแอบ
กลุ่มทุนชั้นคนสูง
กลุ่มพรรคอนุรักษ์นิยมอย่างพรรคประชาธิปัตย์
จึงไม่น่าแปลกใจที่สามารถชุมนุมยืดเยื้อถึง 193 วันโดยไม่มีใครสามารถทำอะไรได้เลย แค่อ้างว่าชุมนุมโดยสันติ อหิงสาก็เป็นข้ออ้างให้พ้นผิดได้

ทั้งที่เป็นการชุมนุมที่สร้างความเสียหายแก่ชาติบ้านเมืองจนประเมินค่าไม่ได้ มีการพกอาวุธนาๆชนิด ทำร้ายเจ้าหน้าที่ ทุบตีเข่นฆ่าประชาชนผู้บริสุทธิ์

ด้วยศักยภาพที่สนธิมีตอนนี้หากฟังข่าวสารเพียงด้านเดียวก็ทำให้คิดได้ว่า ทักษิณน่าจะหมดความศรัทธาไปแล้ว
แต่มันกลับไม่ได้เป็นเช่นนั้นเลย

คนยังรักทักษิณเหมือนเดิม โดยเฉพาะคนรากหญ้า
คนที่ต่อต้านสนธิและอำมาตย์กลับเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
คนที่รักในระบอบประชาธิปไตยเริ่มตาสว่าง
คนที่ต้องการเห็นประเทศชาติเจริญเริ่มไม่เห็นด้วยกับสนธิ
ฯลฯ
แม้ว่าหลายคนในนี้จะไม่เห็นด้วยและยังรู้สึกไม่ชอบทักษิณเท่าไหร่ แต่พวกเขาก็พร้อมที่จะเลือกต่อต้านสนธิและอำมาตย์แทนและร่วมกันเรียกร้องหาประชาธิปไตยที่แท้จริง

ผ่านความรู้สึก..
ความรู้สึกไม่พอใจในการแสดงออกของคนชนชั้นสูงประเทศ
ความรู้สึกที่เห็นความไม่ยุติธรรมในประเทศชาติ
ความรู้สึกเจ็บแค้นอย่างรุนแรงต่อเรื่องที่ทักษิณโดนกระทำ
ความรู้สึกไม่พอใจที่ตนถูกกระทำเพียงฝ่ายเดียว
ความรู้สึกถึงความตกต่ำของประเทศชาติในวันนี้
ความรู้สึกถึงล้มเหลวในการบริหารประเทศของพรรคอนุรักษ์นิยม ที่แม้เป็นรัฐบาลได้เพียง2เดือนกว่าเท่านั้น
ความรู้สึก...ฯลฯ
แล้วแต่ผลกระทบที่คนเหล่านี้ได้รับหลังจากเกมล้มระบอบทักษิณ และทำลายระบอบประชาธิปไตยนี้

ด้วยความรู้สึกเหล่านี้ก็เริ่มก่อเกิดกลุ่มคนแต่ละกลุ่มที่แสดงจุดยืนว่าไม่เห็นด้วยกับละครปิศาจหน้าเหลี่ยมของสนธิ

จากกลุ่มต่อต้านเผด็จการในนาม
แนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.)
ที่มาจากกลุ่มคนที่สูญเสียอำนาจและกลุ่มคนที่ต่อต้านการรัฐประหารของเผด็จการทหารเมื่อ 19 ก.ย. 49 เริ่มมีกลุ่มคนที่รักประชาธิปไตยมาสนับสนุนขึ้นเรื่อยๆ

จากกลุ่มเล็กๆที่รักทักษิณ เริ่มมีการรวมตัวกันมากขึ้นเรื่อยๆ

จากกลุ่มที่แสดงอาการไม่พอใจกับม๊อบพันธมิตรฯ อย่างรุนแรงจนบางครั้งรุนแรงไปจนน่าตกใจกลายเป็นภาพที่ดูป่าเถื่อนจนติดอยู่ในใจคนไทยหลายคนและก็กลายเป็นเป้าโจมตีของขบวนการล้มระบอบทักษิณที่ใช้โจมตีฝ่ายตรงข้ามเสมอ
ซึ่งไม่เป็นผลดีจนกลุ่มเหล่านี้เริ่มมีการปรับตัวควบคุมอารมณ์ของตนเองเพื่อไม่ให้กลายเป็นประเด็นโจมตีจากฝ่ายตรงข้าม

จากกลุ่มที่เริ่มเห็นความไม่ยุติธรรมในประเทศและไม่พอใจในการกระทำของม๊อบเสื้อเหลืองและเจ้าของม๊อบเสื้อเหลือง

จนทำให้เกิดแนวร่วมและกลุ่มคนที่รักประชาธิปไตยในนาม
"คนเสื้อแดง"
แม้จุดยืนช่วงแรกๆของคนเสื้อแดงจะยังไม่ชัดเจน ด้วยเหตุผลหลายประการที่ ไม่ว่าจะเพราะ รักทักษิณ,ต่อต้านเผด็จการ,ไม่ชอบม๊อบพันธมิตรฯ ฯลฯ

แต่ช่วงหลังมาจนถึงปัจจุบัน

กลุ่มคนเสื้อแดงได้มีการยกระดับจุดยืนให้เป็นไปในแนวทางเดียวกัน คือ เพื่อเรียกร้องระบอบประชาธิปไตยที่แท้จริงและความยุติธรรมในประเทศไทย เพื่อที่จะทำให้ประเทศไทยเจริญก้าวหน้าต่อไป โดยยังมีจุดยืนเดิมของกลุ่มย่อยรองลงมา

จึงทำให้ยังเห็นมีการชูป้ายรักทักษิณ ชูป้ายด่าม๊อบพันธมิตร ชูป้ายเรียกร้องประชาธิปไตย ฯลฯ
และแต่ละครั้งของการนัดชุมนุมใหญ่ของกลุ่มคนเสื้อแดงจะมีผู้คนมาชุมนุมเรียกร้องทุกชนชั้น มาจากทุกจังหวัดทุกพื้นที่
และการชุมนุมแต่ละครั้งดำเนินไปตามระบอบประชาธิปไตยอย่างแท้จริง ไม่ต้องปลุกระดมให้เกิดความโกรธ เคียดแค้น
ไม่มีภาพความรุนแรงเกิดขึ้นให้เห็น
เป็นการชุมนุมโดยสันติ อสิงหา ปราศจากอาวุธอย่างแท้จริง

เป็นที่น่าติดตามเป็นอย่างยิ่งว่า
ไฟความอิจฉาของสนธิ ที่มีต่อทักษิณจะจบลงเช่นไร ?จินตนาการของกลุ่มพันธมิตรฯ จะมีเป็นจริงหรือไม่ ?
จุดยืนประชาธิปไตยของคนเสื้อแดง จะเป็นจริงหรือไม่ ?
ความรักที่มีต่อทักษิณของประชาชนจะเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางใด ?

ข่าวส่งเสริมคนดี

จำนวนผู้เข้าเยี่มมชม

link to affordable web hosting
Powered by web hosting provider .

สถิติการเข้าชม DMNEWS

eXTReMe Tracker