บล็อคข่าวส่งเสริมคนดี (รักดีหามจั่ว รักชั่วหามเสา หามจั่วก็หนักนะ)

ข่าวจากสื่อ

บทความจากสื่อ

วันอังคารที่ 4 ตุลาคม พ.ศ. 2554

ฤทธิ์บอยคอตหมาแก่ดับอนาถเปิดตัวรายได้หวิวล้านแปด เสียฟอร์ฺมหนังภาคต่อเคยโกยเงินทะลุ100ล้าน

ที่มา Thai E-News

หมาแก่ อันตราย ดับอนาถ-เปิด ตัวสัปดาห์แรกทำเงินเพียง 1.8 ล้านบาท ผิดฟอร์มเป็นหนังไตรภาคของ"มือปืนโลก/พระ/จันทร์"ที่เคยทำเงินมากถึง 123 ล้านบาท อาจเป็นเพราะดารานำเทพ โพธิ์งาม โดนคนเสื้อแดงรุมบอยคอต (คลิ้กภาพเพื่อขยายใหญ่)

โดย ทีมข่า่วไทยอีนิวส์
4 ตุลาคม 2554

หมาแก่อันตราย ที่เทพ โพธิ์งาม แสดงนำ โดนบอยคอตเปิดตัวแผ่วทำเงินแค่ 1.8 ล้าน

เวบไซต์เอ็นเทอร์เทนวีคลี่ เปิดเผย อันดับหนังทำเงินในบ้านเราประจำสุดสัปดาห์ที่ 29 ก.ย. - 2 ตค. 2554 ปรากฎว่าภาพยนตร์เรื่องหมาแก่อันตราย ที่เทพ โพธิ์งาม แสดงนำ ทำเงินรายได้ในการเปิดตัวสัปดาห์แรกเพียง 1.8 ล้านบาท ส่วนภาพยนตร์เรื่องอุโมงค์ผาเมืองที่มีพงษ์พัฒน์ วชิรบรรจง แสดงด้วยสัปดาห์ล่าสุดนี้ทำเงินเพียง 0.2 ล้านบาท รวม 3 สัปดาห์ทำเงินเพียง 27ล้านบาท คาดว่าจะประสบปัญหาขาดทุน เพราะผู้สร้างบอกว่าใช้งบในการสร้างหลายสิบล้านบาท ขณะที่ผู้กำกับบอกว่าเฉพาะค่าตัวนักแสดงก็ร้อยล้านบาทเข้าไปแล้ว

สำหรับหมาแก่อันตราย เป็นภาพยนตร์ภาคที่ 3 ของภาพยนตร์เรื่องมือปืนโลก/พระ/จันทร์ ซึ่งภาคแรกทำเงิืนรายได้สูงถึง 123 ล้านบาท (ดูวิกิพีเดีย)

เจ้าของหนังเผยทุนสร้าง3ภาค100ล้าน

ผู้สร้างเผยว่า พระนครฟิล์ม ร่วมกับ ยุทธเลิศ สิปปภาค ได้ทุ่มงบกว่า 100 ล้านบาท เพื่อสร้างภาพยนตร์ไทยฟอร์มเด็ดชุด “มือปืน ตรัยภาค” (คิลเลอร์ไทรลอจี้) ที่ระดมดารานักแสดงและดาวตลกชื่อดังมาประชันบทบาทกันอย่างมากมาย โดยมีการเปิดตัวแถลงข่าวอย่างเป็นทางการ เมื่อค่ำวันที่ 8 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553 ณ ร้านบัสเตอร์บัสเตอร์ หลังเอสพลานาด รัชดา กรุงเทพฯ ภายในงานมีสื่อมวลชนและแขกในวงการมาร่วมงานกันอย่างคับคั่ง

โดยหนังที่กล้าทุ่มทุนสร้างครั้งนี้ ธวัชชัย พันธุ์ภักดี ผู้จัดการทั่วไปของ พระนครฟิล์ม เผยว่า ถึงการได้ผู้กำกับ ยุทธเลิศ สิปปภาค ว่า “หลังจากที่ผมได้ดูรายละเอียดของโปรเจคส์นี้แล้ว รู้สึกว่าน่าสนใจและน่าลงทุนมาก เป็นแนวหนังที่แปลก ฉีกจากความเป็นพระนครฯ แต่ก็ยังคงความสนุกเหมือนเดิม แต่เป็นความสนุกที่ฉีกแนวจากที่เคยทำ เราจึงกล้าที่จะลงทุน เพราะคิดแล้วว่าน่าจะคุ้มค่า แล้วที่สำคัญหนังเรื่องนี้ผมมองว่ามันสามารถได้ทั้งเมืองไทยและต่างประเทศ ได้อย่างสบาย”

ภาพยนตร์นี้จะถ่ายทำยาวแบบต่อเนื่องกันไปเลย และจะตัดต่อแบ่งแต่ละภาคตามที่ว่า ซึ่งไม่น่าจะต่างจากภาพยนตร์เรื่อง บุปผาราตรี 3.1 และ บุปผาราตรี 3.2 เท่าใดนัก เพียงแต่แต่ละภาคจะมีจุดเด่นอยู่ที่นักแสดงประจำภาคนั้นๆ นั่นเอง(ที่มา:วิกิพีเดีย)



กระแสการบอยคอตผลงานของดาราศิลปินพันธมิตรในหมู่คนเสื้อแดงได้ขยายวงลุกลาม หลังจากมีกระแสคว่ำบาตรหนังเรื่องคนโขนของศรัณยู วงศ์กระจ่าง จนเจ๊ง และหนังเรื่องอุโมงค์ผาเมือง ที่มีพงษ์พัฒน์ วชิรบรรจง แสดงนำ จนล้มเหลวทั้งยอดคนดูและรายได้แล้ว ล่า่สุดมีการก่อกระแสก่อหวอดจะคว่ำบาตรภาพยนตร์เรื่อง หมาแก่ อันตราย ที่นำแแสดงโดยเทพ โพธิ์งาม อีกด้วย โดยภาพยนตร์เรื่องนี้กำหนดเริ่มฉายในวันพฤหัสบดีที่ 29 กันยายนที่ผ่านมา

กลุ่มคนเสื้อแดงให้เหตุผลที่ชวนกันบอยคอตว่า เนื่องจากเทพ นักแสดงนำเรื่องนี้เคยขึ้นเวทีเสื้อหลากสีของหมอตุลย์ แนวร่วมของพันธมิตร ในวันที่ 16 เมษายน 2553 ที่หน้าราบ11 โดยเทพ ได้ขึ้นเวทีกล่าวปราศรัยอย่างติดตลก ว่า "บังเอิญว่าผมออกมาซื้อข้าวมันไก่เลยแวะมาที่นี่ ประกอบกับเห็นข่าวแล้วรำคาญกลุ่มคนเสื้อแดง จึงออกมาแสดงพลังด้วย"

การกระทำดังกล่าวของเทพ โพธิ์งา่ม เกิดขึ้นหลังเหตุการณ์นองเลือด 10 เมษายน 2553 มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมาก ทำให้นปช.ประกาศจองกฐินไว้ตั้งแต่เวลานั้นว่า หากเทพมีผลงานแสดงเรื่องใดจะพากันคว่ำบาตร



หนังเรื่องหมาแก่อันตราย เป็นผลงานสร้างของค่ายพระนครฟิล์ม กำกับโดยยุทธเลิศ เป็นหนังไตรภาคต่อเนื่องจากเรื่อง"มือปืน โลก/พระ/จันทร์"โดยภาพยนตร์ที่เทพนำแสดงนี้เป็นแนวดราม่า เรื่องราวของมือปืนชราที่ต้องมีเรื่องเข้าใจผิดกับลูกสาวที่ไม่้รู้ว่าเทพ เป็นพ่อเพราะไปติดคุกเสียนาน ทำให้เกิดการห้ำหั่นกันอย่างหนัก เทพต้องรับบทแนวดราม่าอย่างพลิกคาแรกเตอร์ดารารตลกที่คนคุ้นเคยอย่างสิ้น เชิง และเป็นภาพยนตร์ที่ได้รางวัลในเวทีประกวดระดับเอเชียมาแล้ว
พงษ์พัฒน์(ซ้ายมือ):เวลา ที่ผมเล่นไพ่กับเพื่อนแล้วโกง เพื่อนมันก็ด่าผมว่าไอ้เห้...ออฟ แล้วคนที่โกงประเทศชาติเราควรจะเรียกว่าอะไรดี..หลายคนสงสัยเป็นนักแสดงกลัว มั้ย จะโดนอะไรมั้ย ไม่เป็นไรครับ ให้มันรู้กันไป”(ที่มา:ASTVผู้จัดการ)
เทพ โพธิ์งาม(พูดบนเวทีเสื้อหลากสีของหมอตุลย์ เมื่อ16เม.ย.53):บังเอิญว่าผมออกมาซื้อข้าวมันไก่เลยแวะมาที่นี่ ประกอบกับเห็นข่าวแล้วรำคาญกลุ่มคนเสื้อแดง จึงออกมาแสดงพลังด้วย (ภาพข่าว:มติชน)

คนดูหนังห้องเฉลิมไทย พันทิปยี้ส่งคนโขนไปออสการ์
หลังจากประสบความล้มเหลวในการลงโรงฉายในเมืองไทย (ดูข่าว:ตั้วพ้อพธม.เมินคนโขนรูดม่านวันนี้ ปิดฉากเทศกาลหนังเมืองคลานผลาญเงินภาษีสร้าง-บังคับเด็กดู) ภาพยนตร์เรื่องคนโขน ยังอุตส่าห์ได้รับเลือกจากกระทรวงวัฒนธรรมคัดเลือกไปฉายชิงรางวัลออสการ์ ในสาขาภาพยนตร์ต่างประเทศ ที่อเมริกาในปี2555

โดยให้เหตุผลว่า เพราะเป็นภาพยนตร์ตลาดที่มีเอกลักษณ์ความเป็นไทย ส่งเสริมศิลปวัฒนธรรมไทย มีเนื้อหาสอดแทรกด้วยละครชีวิต และเป็นภาพยนตร์ที่ได้รับการอุดหนุนจากโครงการไทยเข้มแข็ง ของรัฐบาลด้วย

คนดูหนังที่เข้าไปใช้กระดานสนทนาห้องเฉลิมไทย เว็บไซต์พันทิปได้พากันถกเถียงกันเรื่องนี้อย่างกว้างขวาง และได้ตั้งกระทู้ให้โหวตว่า เห็นด้วยกับการส่ง "คนโขน" ไปชิงออสการ์ปี 55 สาขาหนังต่างประเทศหรือไม่?

ผลโหวตล่าสุด มีผู้เห็นด้วยเพียง 40% ขณะที่มีไม่เห็นด้วยสูงกว่า 60% โดยแสดงความเห็นในทางไม่เห็นด้วยเป็นส่วนใหญ่

ปัญญาเรณู ดีกว่าเยอะ
คนโขนบอกตามตรงองค์ประกอบหนังยังไม่ได้ และที่สื่อถึงความเป็นไทยคงเป็นแค่ชื่อของหนัง ครับ บอกตามตรงหนังเรื่องนี้ ห่วยขั้นเทวดา ยังไม่ถึงขั้นเทพ ถ้าห่วยขั้นเทพนะถือว่ากรรมการที่คัดเลือกไปต้องไปทำอาชีพกรรมกรแทนละ
-ความเห็นจากเจ้าของกระทู้เรื่อง ผมสงสัยครับว่าทำไมหนังเรื่อคนโขนถึงได้ถูกคัดเลือกไป ออสการ์ใช้เกณฑ์อะไรตัดสิน และเห็นกันยังไงบ้าง

หนังไทยยังอัปยศไม่หาย ดัน “คนโขน”ดั้นเมฆ” ชิงออสการ์เหตุเพราะมีสปอนเซอร์ชั้นดี

ผู้เขียนกระทู้เรื่อง หนังไทยยังอัปยศไม่หาย ดัน “คนโขน”ดั้นเมฆ” ชิงออสการ์เหตุเพราะมีสปอนเซอร์ชั้นดี แฉว่า ทราบข่าวมาแล้ว สุดอัปยศ สุดอนาถใจอย่างยิ่งกับหนังไทยยุคปัจจุบัน ที่ต้องมาแชร์ความคิด ความอ่าน ณ ที่นี้เสียหน่อย

คือทราบมาว่า “คนโขน” หนังที่มาเร็วไปเร็ว ผลงานกำกับของ “ตั้ว” ศรัญญู เงากระจ่าง ที่ได้เงินจากฉายในโรงแค่ 4 ล้านเท่านั้น ขอย้ำว่า “4 ล้าน”ครับ กลับได้การฟันธง ชูจักกะแร้เชียร์ให้ไปชิงหนังต่างประเทศยอดเยี่ยมกับรางวัลออสการ์ ในคราวหน้านี้

โดยทราบมาอีกว่า สาเหตุที่ได้ไปนั้นเป็นเพราะ สสส. หรือ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ ที่เป็นสปอนเซอร์ส่วนหนึ่งของหนังเรื่องนี้ มีส่วนอย่างมากที่หนุนนำให้ส่งเรื่องนี้ไป แม้ว่า จะ”ตกม้าตาย”ในการฉายในโรง ข้อสำคัญคือ นักวิจารณ์ต่างรุมสับแหลกในช่วงเวลาที่ผ่านมา นอกจากนั้น แม้ว่าจะมีหนังที่เก็งกันไว้อย่าง “อุโมงค์ผาเมือง” จ่อคิวต้องไปแน่นอนอยู่แล้ว เพราะฝีมือและคุณภาพนั้นมองกันออกอยู่แล้วก็ตาม

น่าเศร้า น่าอนาถกับภาพยนตร์ไทยที่ยังหนีไม่พ้นวังวนแห่งความตกต่ำ เพราะในขณะที่คนดีมีฝีมือก็หดหายลงไปทุกที ก็ยังถูกคนข้างนอกมารุมซ้ำเติมอีก

ไม่ทราบใครยังจำได้ถึงการแจกรางวัลตุ๊กตาทอง ในปี 2534 ได้หรือไม่ว่า ที่ให้กับหนังเรื่อง “ขยี้” ถึง 4 รางวัล แต่ปรากฏว่าหนังก็ยังสร้างไม่เสร็จ แต่ก็จะดั้นเมฆให้เสียอย่างนั้น และที่น่าอดสูยิ่งกว่าก็คือ

มาถึงวันนี้ หนังเรื่อง “ขยี้” ก็ยังไม่เคยฉายในโรง หรือในรูปแบบใดก็ตาม


หมาแก่ฯประสบชะตากรรมเดียวกับหนังตั้ว-ออฟ

ขณะเดียวกันภาพยนตร์เรื่องอุโมงค์ผาเมือง ส่อแววว่าอาจจะประสบชะตากรรมซ้ำรอยกับภาพยนตร์"คนโขน"ที่ปิดฉากล้มเหลวด้าน รายได้ไปก่อนหน้านี้ เพราะถูกกระแสคว่ำบาตรจากคนดู

ภาพยนตร์คนโขน ที่ศรัณยู วงษ์กระจ่าง ผู้สร้าง ผู้กำกับยอมรับว่าทำรายได้น้อยซะยิ่งกว่ารายได้ขั้นต่ำสุดที่คาดไว้ ถูกกระแสคว่ำบาตรจากคนเสื้อแดง และประชาชนที่ไม่พอใจบทบาทของศรัณยูในการร่วมเป็นแกนนำกับพันธมิตรฯยึด ทำเนียบรัฐบาล-ยึดสนามบิน

ส่วนภาพยนตร์เรื่องอุโมงค์ผาเมืองมีการก่อกระแสคว่ำบาตรในหมู่คนเสื้อแดงมาก พอสมควร โดยเกิดกระแสต้องการให้บทเรียนแก่ผู้แสดงนำรายหนึ่งของเรื่องนี้คือพงษ์ พัฒน์ วชิรบรรจง ซึ่งเคยกล่าวหาไปในเชิงเปรียบเทียบว่า คนเสื้อแดงเป็นพวกอาศัยบ้านของพ่ออยู่ หากไม่รักพ่อก็ให้ออกไปจากบ้านของพ่อซะ ซึ่งเป็นการสร้างความขุ่นเคึืองใจในการกล่าวหา่ให้แก่ดารานักแสดงผู้นี้ เนื่องจากคนเสื้อแดงเห็นว่าเป็นมุมมองที่ตื้นเขิน อคติเลือกข้างของพงษ์พัฒน์ และเป็นการอาจเอื้อมดึงสถาบันเบื้องสูงลงมากล่าวหาคนเสื้อแดงด้วยความเท็จ เพราะคนเสื้อแดงไม่เคยหยิบยกเรื่องสถาบันเบื้องสูงมา่เกี่ยวข้องกับการเรียก ร้องประชาธิปไตยแต่อย่างใดเลย

ภาพยนตร์เรื่องนี้"เสี่ยเจียง"สหมงคลฟิล์ม ร่วมกับ“หม่อมน้อย" ม.ล. พันธุ์เทวนพ เทวกุล สร้าง โดยต้นทุนสร้างไม่แน่ชัด บ้างก็ว่า 20-25 ล้านบาท ขณะที่เสี่ยเจียงบอกว่า"หลายสิบล้านบาท" ขณะที่หม่อมน้อยบอกว่า เฉพาะค่าตัวดารานำและดาราสมทบที่มีชื่อเสียงก็มากมายแล้ว แต่หลายคนก็ลดค่าตัวเพื่อเป็นต้นทุนในการทำเรื่องนี้ "ถ้ารวมค่าตัวของทุกท่านแน่นอนว่ามากกว่า 100 ล้าน”

เวบไซต์ เอ็นเตอร์เทนวีคลี่ รายงานยอดรายได้ช่วง สัปดาห์ที่ 3 การเข้าฉายของอุโมงค์ผาเมืองได้เพิ่มมาเพียง 0.2 ล้านบาท รวมรายได้ตลอด3สัปดาห์เพียง 27 ล้านบาท

“มาริโอ้”น้อยใจคนไทยดูหนังอุโมงค์ผาเมืองน้อย
ดารานำของเรื่อง “มาริโอ้ เมาเร่อ”ออกมาให้ข่า่วว่า่ กระแสตอบรับหนังเรื่องนี้เงียบบมากก จนต้องงบ่นน้อยใจกับแฟนๆ

“ผมก็น้อยใจครับ ที่คนไทยไม่ดูหนังไทยเลย อยากให้ไปดูอุโมงค์ผาเมืองกันเยอะๆ ครับ ก็อย่างที่บอกไปว่าคนดูค่อนข้างน้อย เพราะเราก็มีเหตุการณ์บ้านเมืองอะไรหลายๆ อย่างครับ อย่างเช่นน้ำท่วมนะครับ แต่ถ้าว่างกันก็แนะนำให้ไปดูหนังไทยกันนะครับ เพราะถ้าคนไทยไม่ดูแล้วใครจะมาดูครับ เพราะเรื่องนี้ก็เป็นหนังที่ดีครับ แล้วทุกคนก็ตั้งใจทำกันมากเลยครับ”

“เราก็ต้องใจทำหนังออกมาให้คนไทยดู แต่ถ้าคนไทยไม่ดูเราก็เศร้านิดนึง ที่บอกว่าหนังเข้าใจยาก ผมว่าไม่ใช่นะ ถ้าจะไปก็ไปอย่างไม่ต้องอ่านอะไรมาก่อนเลยก็ได้ แล้วก็อย่าเอาไปเปรียบเทียบกับเรื่องราโชมอนที่เคยมีมาก่อนหน้านี้ อยากให้มองเป็นหนังอีกภาคนึงไปเลยครับ แต่ก็อย่างที่รู้กันมาว่าโครงเรื่องเหมือนกัน แต่บทที่แปลออกมามันไม่เหมือนกันครับ”

ภาพยนตร์ดัดแปลงจากหนังชั้นครู"ราโชมอน"

ภาพยนตร์เรื่อง “อุโมงค์ผาเมือง” ได้นำเนื้อหาจากสุดยอดบทละครเวทีเรื่อง “ราโชมอน” (ประตูผี) ของ “ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช” มาสร้างลงสู่จอเงินให้ประชาชนได้รับชม ภายใต้การกำกับของ “หม่อมน้อย ม.ล. พันธุ์เทวนพ เทวกุล” ถือว่าเป็นวรรณกรรมอมตะอีกเรื่องหนึ่งที่มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลก อีกทั้งการสร้างภาพยนตร์เรื่องนี้ขึ้นมาจุดประสงค์เพื่อที่จะฉลองครบรอบ 100 ปีชาตกาล “พลตรี ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช” 40 ปีบริษัท สหมงคลฟิล์ม อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด และ 101 ปี ผู้กำกับชั้นเซียน “อากิระ คุโรซาวา” ผู้สร้างหนังชั้นครูชาวญี่ปุ่น

ภาพยนตร์เรื่อง อุโมงค์ผาเมือง เป็นภาพยนตร์ย้อนยุคไปในอาณาจักรล้านนาไทยเมื่อ 700 ปีที่ผ่านมา เป็นเรื่องราวของคดีฆาตกรรมพิศวงระหว่างขุนศึกนักรบ, โจรป่า และเจ้านางผู้เลอโฉม ซึ่งดัดแปลงมาจากบทละครเวทีเรื่อง "ราโชมอน" อันเป็นวรรณกรรมชิ้นเอกของ "พลตรี ม.ร.ว. คึกฤทธิ์ ปราโมช" เพื่อเป็นการร่วมเฉลิมฉลองเกียรติคุณอันยิ่งใหญ่ และอัจฉริยภาพของท่านผู้เป็นปูชนียบุคคลผู้สร้างคุณูปการแก่สังคมไทย รัฐบุรุษและเอกศิลปินแห่งชาติที่ได้รับการยกย่องให้เป็น "บุคคลสำคัญของโลก" จาก องค์การยูเนสโก โดยได้ระดมทีมนักแสดงชั้นนำไม่ว่าจะเป็น อนันดา เอเวอริงแฮม, เฌอมาลย์ บุญยศักดิ์, มาริโอ้ เมาเร่อ, พงษ์พัฒน์ วชิรบรรจง, เพ็ชรทาย วงษ์คำเหลา, ดอม เหตระกูล, ศักราช ฤกษ์ธำรงค์ และ รัดเกล้า อามาระดิษ มาประชันบทบาทสุดเข้มข้นล้นจอ

กระแสแอนตี้สัปเหร่อของเรื่องแรงพอๆกับคนโขน
พงษ์ พัฒน์ วชิรบรรจง สวมบทเป็นสัปเหร่อแก่ที่อาศัยอยู่ในอุโมงค์ผาเมือง ผ่านชีวิตมาอย่างโชกโชน มีความคุ้นเคยทั้งคนเป็นและคนตาย จึงมีความเข้าใจวิถีทางชีวิตของมนุษย์ได้อย่างดีในทุกแง่มุม เขามักจะมองโลกและใช้ชีวิตอย่างเป็นกลาง จึงทำให้เขาสามารถวิเคราะห์นิสัยมนุษย์ได้อย่างแม่นยำ

อย่างไรก็ตามได้มีการก่อกระแสคว่ำบาตรของคนเสื้อแดงตามอินเตอร์เน็ตและบอก กันปากต่อปากในลักษณะเชิืญชวนกันคว่ำบาตรหนังเรื่องนี้ โดยอ้างว่าเพื่อให้บทเรียนแก่ดารานักแสดงอย่างพงษ์พัฒน์ที่เคยขึ้นเวที พันธมิตรกับศรัณยู และมีมุมมองต่อสถานการณ์การเมืองอย่างตื้นเขิน บิดเบือนไม่ตรงต่อความเป็นจริง โดยเคยกล่าวสุนทรพจน์ในเวทีงานมอบรางวัลบันเทิงแห่งหนึ่งเป็นทำนองกล่าวหาคน ที่เคลื่อนไหวเรียกร้องประชาธิปไตยในช่วงเวลานั้นเป็นพวกไม่จงรักภักดี ไม่รักพ่อให้ออกไปจากบ้านของพ่อซะ ทั้งที่คนเสื้อแดงและผู้เรียกร้องประชาธิปไตยนั้นไม่เคยหยิบยกประเด็นสถาบัน เบื้องสูงมาเป็นข้ออ้างหรือเหตุผลในการเรียกร้องประชาธิปไตยแต้่อย่างใดเลย

ต่อมาสำนักข่าวTNEWSได้จัดทำคลิปเพื่อโจมตีคนเสื้อแดง และมีอีกหลายเวอร์ชั่นที่ไปขยายความว่าคำพูดเปรียบเปรยของพงษ์พัฒน์เป็นการ โจมตีคนเสื้อแดง





กระแสต้านลามไปถึงละครรอยไหม



ฉากหนึ่งของละครทีวีเรื่องรอยไหม(ที่มา:เวบไซต์ASTVผู้จัดการ)

กระแสการคว่ำบาตรยังลามไปถึงละครเรื่องรอยไหมของพงษ์พัฒน์ที่ฉายทางโทรทัศน์ช่อง3ด้วย โดยพงษ์พัฒน์กล่าวถึง ตัวเลขของเรตติ้งที่ไม่สูงเท่าไหร่ที่ลอยเข้าหูว่า ไม่คาดหวังให้คนทุกกลุ่มจะต้องมาดูและชื่นชอบผลงานของเรา ดังนั้นตัวเลขเรตติ้งจึงไม่ใช่เรื่องที่น่ากังวลนัก แค่มีคนหนึ่งที่ชอบในตัวงานและคุณภาพ เท่านี้ก็มีความสุข

ข่าวส่งเสริมคนดี

จำนวนผู้เข้าเยี่มมชม

link to affordable web hosting
Powered by web hosting provider .

สถิติการเข้าชม DMNEWS

eXTReMe Tracker