คอลัมน์ |
|
จากหนังสือพิมพ์ โลกวันนี้ |
ปีที่ 11 ฉบับที่ 2823 ประจำวัน จันทร์ ที่ 21 มิถุนายน 2010 |
โดย นายหัวดื้อ |
ประเทศไทยยามนี้นั่งถ่างตาดูฟุตบอลโลกยังมันและมีลุ้นมากกว่าติดตามการเมือง เพราะฟุตบอลโลกยังมีการพลิกล็อก มีเรื่องเหลือเชื่อ ไม่คาดคิดให้ได้เห็นกันบ้าง แต่การเมืองไทยไม่มีอะไรพลิกล็อก ไม่มีอะไรให้ได้ลุ้น ทุกอย่างดำเนินไปตามบทบาทที่มีคนเขียนและกำกับเอาไว้แล้ว
ชื่อของผู้ดีรัตนโกสินทร์อย่างนายอานันท์ ปันยารชุน ที่ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นประธานคณะกรรมการกำกับการปฏิรูปประเทศ และชื่อของ นพ.ประเวศ วะสี ที่ไม่รู้ว่าใครแต่งตั้งให้เป็นราษฎรอาวุโสที่ได้เป็นประธานคณะกรรมการสมัชชาปฏิรูปประเทศ ไม่ใช่เรื่องเกินความคาดหมาย
มีการปูทางให้ทั้ง 2 คนนี้ขึ้นมารับผิดชอบงานทั้ง 2 ด้านเอาไว้ตั้งแต่ต้น
การประกาศตนว่าจะทำงานอย่างอิสระไม่ขึ้นกับบัญชาของรัฐบาล ไม่ผูกโยงกับรัฐบาล ไม่รับใบสั่งจากนายกรัฐมนตรี ฟังเหมือนดูดีแต่ก็มีข้อสงสัยให้ต้องตั้งคำถาม
คำถามมีอยู่ว่าหากคณะกรรมการสองชุดนี้ทำงานอิสระไม่ขึ้นกับนายกรัฐมนตรี ไม่ผูกโยงกับรัฐบาล แล้วผลการศึกษาที่ได้ออกมาจะส่งให้กับใคร ใครจะรับผลการศึกษาที่เสียเวลาไปทำมานานตั้งนานสองนานเอาไปปฏิบัติเพื่อให้การปฏิรูปประเทศเกิดเป็นรูปธรรม
ก็ในเมื่อคณะกรรมการไม่ผูกโยงกับรัฐบาล รัฐบาลก็ไม่จำเป็นต้องเอาผลการศึกษาที่ได้มาใช้ แล้วอย่างนี้จะเสียเวลา เสียงบประมาณทำงานกันไปเพื่ออะไร
นี่ไม่ใช่เรื่องของการมองโลกในแง่ร้ายมากเกินไป แต่มองจากความเป็นจริง เพราะขนาดคณะกรรมการสมานฉันท์เพื่อการปฏิรูปการเมืองและศึกษาการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่ตั้งโดยสภาตามข้อเสนอของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้เป็นนายกรัฐมนตรีเองแท้ๆ
6 ประเด็นที่สู้อุตส่าห์ไปศึกษากันมา รวมทั้งแนวทางปฏิรูปการเมือง แนวทางสร้างความสมานฉันท์ปรองดองทั้งระยะสั้น ระยะกลาง และระยาว ยังถูกโยนลงตะกร้าอย่างไม่ใยดี
ดังนั้น จึงไม่มีหลักประกันอะไรเลยว่าผลการศึกษาของคณะกรรมการชุดนายอานันท์และ นพ.ประเวศจะไม่ถูกโยนลงตะกร้า ถูกหลอกให้ทำงานฟรีเพื่อใช้เป็นเครื่องมือซื้อเวลาต่ออายุอยู่ในอำนาจ และฟอกตัวเองจากการสังหารหมู่ประชาชนเท่านั้น
นายอภิสิทธิ์วันนี้หมดเครดิตแล้วจะทำอะไรก็ไม่มีคนให้ความเชื่อถือ ยกเว้นพวกเดียวกันเองที่คอยยกหางให้
ไม่รู้จะดันทุรังอยู่ต่อไปเพื่ออะไรสิ...พับผ่า!