วิกฤติการเมืองไทยที่ ยังไม่สะเด็ดน้ำ ทำให้บรรยากาศส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ ไม่ค่อยจะมีความสุขเท่าไหร่ บวกกับปัจจัยด้านลบทางเศรษฐกิจที่ตามมาเป็นระลอก วัดเอาจากจำนวน ส.ค.ส.และกระเช้าของขวัญ รวมทั้งการจับจ่ายใช้สอย ของคนไทยในช่วงนี้
อยู่ในอาการว้าเหว่
ยิ่งบรรดาโหรทำนายทายทักเหตุการณ์ทางการเมืองในปีหน้า บ้านเมืองถึงคราวจะลุกเป็นไฟด้วยแล้ว หมดกำลังใจ เศรษฐกิจและการลงทุนที่อั้นมาตั้งแต่หลังการยึดอำนาจ ก็ยังลงหลักปักฐานไม่ได้ซะที
เพราะปัจจัยลบทางด้านการเมืองนี่แหละ
หลายหมอดู ทำนายไว้ว่า ดวงผู้นำประเทศ นายกฯอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เข้ามุมอับ เจียนอยู่เจียนไป ประเทศไทยจะเกิดการสูญเสีย จะเกิดสงครามกลางเมือง สถานการณ์จะร่อแร่ไปพักใหญ่ จนปลายปีหน้าถึงจะเห็นแนวทางการแก้ปัญหาที่ชัดเจน
ถ้าเชื่อหมอดู คนไทยก็คงจะ อยู่ในสภาวะอกสั่นขวัญแขวนกับวิกฤติการเมือง ต่อไปอีก 1 ปี ส่วนจะเกิดการเปลี่ยนแปลงอะไร ขึ้นบ้าง ถือเป็นเรื่องธรรมดาซะแล้ว
ต่อให้ เปลี่ยนตัวนายกฯอภิสิทธิ์ ต่อให้ปรับ ครม. หรือถึงเวลาจะต้องยุบสภาเพื่อเลือกตั้งกันใหม่จริงๆ วิกฤติการเมืองไทยก็ยังไม่จบอยู่ดี
เป็นการเมืองเลือกข้างไปแล้ว
ประเทศไทยก็ จะมีสีแดงกับสีเหลือง ไปจนชั่วลูกชั่วหลาน และสองขั้วอำนาจก็ต้องต่อสู้ในแนวทางอุดมการณ์ทางการเมืองที่ ต่างกันไปในระยะยาว ไม่มีแพ้มีชนะ
กลายเป็นลัทธิทางการเมืองใหม่
ปลายเดือนมกราคม ปีหน้า ว่ากันว่าการเมืองจะเริ่มร้อนเป็นไฟ สงครามครั้งสุดท้ายจะอุบัติประมาณเดือนกุมภาพันธ์ คนไทยจะแตกแยกอย่างหนัก
คดีความทางการเมือง คดียึดทรัพย์ คดีเงินบริจาคเข้าพรรคประชาธิปัตย์ สมาชิกภาพ ส.ส.หรือ ส.ว.รวมไปถึงโอกาสที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร จะได้เดินทางกลับเมืองไทยหรือไม่ รัฐบาลนายกฯอภิสิทธิ์ จะอยู่สั้นอยู่ยาวแค่ไหน ทหารจะเข้ามายึดอำนาจเมื่อไหร่
แค่น้ำจิ้ม
ประเด็นที่สำคัญคือประเทศไทย ประชาชนคนไทยจะอยู่กันอย่างไร จะอยู่บนกองเลือด จะอยู่บนความยากจน บนความอดอยากยากเข็ญ หรือภาพลักษณ์ของประเทศไทยในสายตาชาวโลกบัดซบเต็มที ไม่เฉพาะรัฐบาลต้องคิด ไม่เฉพาะฝ่ายค้านต้องคิด ไม่เฉพาะคนใส่เสื้อสีใดสีหนึ่งต้องคิด
แต่คนไทยจะต้องช่วยกันคิด.
หมัดเหล็ก
