อลงกรณ์ พลบุตร & อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ
ระหว่างคำพูดลอยๆ กับตัวเลขที่ผ่านการวิจัยตามหลักสถิติ
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ประกาศผ่านรายการเชื่อมั่นประเทศไทยกับนายกฯอภิสิทธิ์ มั่นใจว่าจากผลสำรวจโพลของพรรคประชาธิปัตย์จะสามารถเอาชนะพรรคคู่แข่งได้
เพราะตลอดในช่วง 10 เดือนที่ผ่านมา ได้สร้างผลงานใหม่ๆและปรับปรุงบางนโยบายให้เดินหน้าต่อไปอย่างเป็นรูปธรรม
จึงเชื่อว่า หากมีเลือกตั้งครั้งหน้าจะได้กลับมาเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลอย่างแน่นอน
แต่วันเดียวกันเลย "เอแบคโพล" เปิดผลสำรวจคะแนนนิยมของนายกฯอภิสิทธิ์ตกเป็นรอง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี 25.0 ต่อ 21.6 ห่างกันเกือบ 4 เปอร์เซ็นต์
"ประชาธิปัตย์โพล" กับ "เอแบคโพล" ยี่ห้อไหนน่าเชื่อถือมากกว่า
ที่แน่ๆอดีตนายกฯทักษิณ ได้ทีท้าผ่านทวิตเตอร์ ถ้า "อภิสิทธิ์" มั่นใจว่าคะแนนประชา-ธิปัตย์สูสีกับพรรคเพื่อไทย มั่นใจจะได้กลับมาเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล ก็ให้รีบยุบสภา
"ทักษิณ" ชิงแต้มต่อ บลัฟย้อนคอหอยกันเลย
และก็เป็นอะไรที่ไหลโยงคนละเรื่องเดียวกัน กับอาการไล่ขย่มของพรรคเพื่อไทยเปิดยุทธการแฉรายการผลาญงบฯประชาสัมพันธ์มากถึง 734 ล้านบาท แถมยังซิกแซ็กจัดซื้อจัดจ้างโดยวิธีพิเศษ
ก่อนที่นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รมต.ประจำสำนักนายกฯ หัวหน้าทีมตีปี๊บของรัฐบาล จะออกมาตอบโต้ ปฏิเสธแกมถากถาง
เป็นแค่ข่าวที่ลอกกันมาจากทีมงานคนเสื้อเหลือง
ปัดเป็นเรื่องของเกมสหบาทา พรรคเพื่อไทยรับมุกกับม็อบพันธมิตรฯ ใส่ร้ายรัฐบาล
แต่โดยจังหวะที่ไม่ได้เตี๊ยมกันไว้ อีกทางหนึ่ง นายปณิธาน วัฒนายากร รักษาการโฆษก
รัฐบาล ออกตัวเล่นลูกตามน้ำ ทึกทักจากตัวเลขโพลคะแนนนิยม บางพื้นที่ที่มีการเข้าถึงในเรื่องของการสื่อสาร นายกฯอภิสิทธิ์มักได้คะแนนสูงกว่าอดีตนายกฯทักษิณ
สะท้อนให้เห็นว่า รัฐบาลต้องให้ข้อมูล
แบะท่าชงคิวโหมโรง "ยุทธการตีปี๊บ" รัฐบาลประชาธิปัตย์ ปั่นเรตติ้ง "อภิสิทธิ์"
อย่างที่ผ่านสายตาผู้ชมทางบ้าน เดี๋ยวก็โปรเจกต์ไทยเข้มแข็ง เดี๋ยวก็โครงการไทยสามัคคี อัดกันถี่ยิบทุกเบรกโฆษณาทางหน้าจอโทรทัศน์ ทุกหน้าปัดคลื่นวิทยุ ไปยันการทุ่มซื้อโฆษณาตามหน้าหนังสือพิมพ์
ไม่นับรวมป้ายหาเสียงของ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ที่ติดกันเกลื่อนกลาดในทุกเขตพื้นที่กรุงเทพฯ และตามหัวเมืองใหญ่
มันเป็นอะไรที่เห็นๆกันอยู่ กับรายการกรอกหูกรอกตา
ปั่นกระแสกันจนเกินความเป็นธรรมชาติ
นี่แหละที่มันสะท้อนคำตอบเป็นนัยๆ สิ่งที่นายกฯอภิสิทธิ์พูดลอยๆตามน้ำกับยุทธการตีปี๊บผลงานรัฐบาล ปั่นเรตติ้งยี่ห้อ "อภิสิทธิ์" ผ่านโครงการไทยเข้มแข็ง ไทยสามัคคี
มั่นใจเลือกตั้งรอบหน้า ประชาธิปัตย์ชนะ กลับมาเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลแน่
มันของแท้หรือของเทียม
ที่แน่ๆยังพัวพันนัวเนียๆ นับตั้งแต่โครงการชุมชนพอเพียงชักหัวคิวเครื่องกรองน้ำพลังแสงอาทิตย์ มาโครงการไทยเข้มแข็งก็เจอรายการจัดซื้อครุภัณฑ์ทางการแพทย์ โดนทีมหมอชนบทออกมาสาวไส้ ไม่เว้นแม้แต่โปรแกรมไทยสามัคคี ก็ยังมีเรื่องให้โดนแฉคิวการผลาญงบฯ จัดซื้อจัดจ้างวิธีพิเศษ
ประชาธิปัตย์สลัดปมฉาวๆ ตีกรรเชียงหนีเรื่องทุจริตไม่หลุด
และก็เป็นอะไรที่แต้มสูงมาเลย
กับลูกติดพัน ศึกงัดข้อระหว่าง "เดอะจ้อน" นายอลงกรณ์ พลบุตร รมช.พาณิชย์ พรรคประชาธิปัตย์ กับ "เจ๊วา" นางพรทิวา นาคาศัย รมว.พาณิชย์ โควตาพรรคภูมิใจไทย
ว่ากันด้วยปมชิงตั้งข้าราชการในมือไม้ของตัวเอง
แต่โดยลูกเขี้ยวยี่ห้อประชาธิปัตย์ นายอลงกรณ์ลากเลื้อยต่อประเด็น แบะท่าลากปมข้าราชการกระทรวงพาณิชย์ นำเข้าหารือในที่ประชุมพรรคประชาธิปัตย์ แถมยังพ่วงปัญหาผลการสำรวจความคิดเห็นประชาชนที่มีการระบุว่า รัฐบาลมีการทุจริตเกินร้อยละ 70 ซึ่งน่าห่วงมาก เข้าไปหารือด้วย
"พรรคร่วมรัฐบาลต้องช่วยกันทำงานด้วยความโปร่งใส และตรวจสอบได้ เราหนียุคโคตรโกงมาแล้ว อย่าให้ถูกตราหน้าแบบเดียวกัน ผมคิดว่า ผมเป็นคนหนึ่งที่ร่วมปราบคอรัปชันในช่วงโกงทั้งโคตรมาแล้ว ดังนั้น พรรคประชาธิปัตย์ในฐานะแกนนำจะยอมให้เกิดปัญหาการทุจริตคอรัปชันไม่ได้ ต้องถือประโยชน์ประเทศเป็นหลัก ประโยชน์ของรัฐบาล และพรรคร่วมรัฐบาลเป็นปัญหารอง"
เนียนๆ โดยลีลาโยนไฟใส่เพื่อน โบ้ยคิวโกงให้ค่ายภูมิใจไทย ต่อหน้าต่อตา
ยี่ห้อประชาธิปัตย์ยัดไส้กันดื้อๆเลย.
ทีมข่าวการเมือง รายงาน