แต่การเลื่อนการชุมนุนครั้งนี้ก็เป็นเพียงการพักรบชั่วคราวเพราะ "วีระ" ยืนยันว่าจะนัดหมายประชุมเพื่อกำหนดท่าทีอีกครั้งว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไปกลางเดือนธันวาคมนี้
แต่ทั้งนี้คงไม่มีใครปฏิเสธว่า การเลื่อนการชุมนุนครั้งนี้เพราะสัญญาณตรงส่งมาจาก พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จากการเปิดเผยของ "สุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล" ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย (พท.) ที่ออกมาระบุว่า "การประชุม ส.ส.พรรคเพื่อไทยเมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน พ.ต.ท.ทักษิณ ได้วิดีโอลิงก์มาผ่านไปยังแกนนำกลุ่มคนเสื้อแดงว่าการชุมนุมระหว่างนี้อาจเป็นช่วงเวลาไม่เหมาะสม เพราะฟังจากกระแสคนก็ไม่เห็นด้วยเยอะ จึงอยากให้แกนนำกลับไปลองคิดและปรึกษากันดู ขณะเดียวกัน ส.ส.ส่วนใหญ่ของพรรค พท.ก็ไม่เห็นด้วยกับการชุมนุมช่วงเวลานี้ ดังนั้น เชื่อว่าคนเสื้อแดงอาจจะเลื่อนการชุมนุมออกไปก็ได้"
เป็นการยืนยันถึงความเชื่อมโยงระหว่าง พ.ต.ท.ทักษิณและคนเสื้อแดงที่ยากจะปฏิเสธ
สัญญาณที่ พ.ต.ท.ทักษิณส่งตรงไปที่คนเสื้อแดงให้เลื่อนการชุมนุมออกไปเป็นเพราะกระแสความไม่มีเอกภาพทางความคิดของคนเสื้อแดงกับสมาชิกพรรคเพื่อไทย
เพราะมีกระข่าวเล็ดลอดออกมาตลอดว่า ส.ส.เพื่อไทยไม่เห็นด้วยกับการชุมนุมในช่วงดังกล่าว เนื่องจากทุกวันนี้ "พ.ต.ท.ทักษิณ" ก็มีจุดอ่อนถูกฝ่ายตรงข้ามนำไปโจมตีในเรื่อง "ความจงรักภักดี"
และอย่าลืมว่าตลอดทั้งเดือนธันวาคมมีวันเฉลิมพระชนมพรรษา เป็นช่วงเวลาเทศกาลแห่งความสุข เป็นเดือนแห่งการเฉลิมฉลอง ความสนใจของผู้คนส่วนใหญ่ย่อมอยากเห็นบรรยากาศที่มีแต่รอยยิ้มและความสุขของคนไทยที่นับวันค่อนข้างจะเหือดหายไปทั้งจากเหตุผลทางการเมืองและเศรษฐกิจในรอบหลายปีที่ผ่านมา
ที่สำคัญคนเสื้อแดงคงไม่ลืมบทเรียนความวุ่นวายในเหตุการณ์สงกรานต์วิปโยคที่ผ่านมา
ยิ่งเสียงเตือนที่ออกจากปาก "พล.อ.พัลลภ ปิ่นมณี" สมาชิกพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์รายการ ลับ ลวง พราง ออกมาเตือนการเดินเกมของคนเสื้อแดงว่า "จังหวะนี้ยังไม่เหมาะสมเพราะจะไปกระทบในวันที่ 5 ธันวาคม เหมือนเหตุการณ์เมื่อวันสงกรานต์ที่ผ่านมา ตนเคยท้วงว่าไม่เหมาะ จังหวะไม่เหมาะ เพราะคนอยากกลับบ้านไปเล่นสงกรานต์ การเดินเกมของกลุ่มคนเสื้อแดงกับพรรคเพื่อไทยนั้นแยกกันเดิน ไม่ได้ห้ามปรามเสื้อแดง เพียงแต่อยากจะให้แนวคิดว่าวันเวลา จังหวะนี้ไม่ถูกต้อง" เป็นการนำรอยด่างของคนเสื้อแดงมาย้ำเตือนการตัดสินใจที่มุทะลุดุดัน ไม่ฟังเสียงรอบข้างและขาดการวางแผนที่ดี จนต้องกลายเป็นจำเลยสังคมมาทุกวันนี้
ที่สำคัญอย่าลืมว่ารัฐบาลอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เตรียมรับมือกับการชุมนุมของคนเสื้อแดงอย่างรอบด้าน
การประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายน มีมติให้ประกาศใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคงในราชอาณาจักร ในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานคร (กทม.) ทั้งนี้ "อภิสิทธิ์" อธิบายเหตุผลตอกย้ำว่า "เป็นช่วงที่รัฐบาลต้องเตรียมจัดงานพระราชพิธีและรัฐพิธี รวมไปถึงงานเฉลิมพระชนมพรรษา ต้องใช้พื้นที่กลางเมืองและพิธีต่างๆ ตั้งแต่ปลายเดือนพฤศจิกายนถึงต้นเดือนธันวาคม โดยเฉพาะกรณีทหารที่ต้องรวมพลและซ้อมสวนสนาม
และอ้างเหตุที่ต้องประกาศ พ.ร.บ.ครอบคุมทั้งกรุงเทพฯว่า "แผนของผู้ชุมนุมจะกระจายไปตามพื้นที่ต่างๆ รัฐบาลต้องการดูแลทุกอย่างให้อยู่ในความสงบเรียบร้อย ไม่ให้มีผลกระทบต่อประชาชน หากจะไปรอให้ผู้ชุมนุมกระจายไปตามพื้นที่ต่างๆ แล้วจึงออกประกาศตามมาจะไม่ทัน"
ในทางการเมืองก็สร้างภาพลักษณ์ติดลบให้กองทัพเสื้อแดงผ่านคำแถลงของ "ปณิธาน วัฒนายากร" รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ระบุว่า "กลุ่มคนเสื้อแดงตั้งใจจะระดมคนให้ได้มากหวังสร้างเงื่อนไขหลังวันที่ 30 พฤศจิกายนเป็นต้นไป โดยจะกระจายกำลังคนไปตามสถานที่ต่างๆ ซึ่งมีทั้งแรงงานต่างด้าว คนที่ผ่านการฝึกอบรม แกนนำรุ่นใหม่ที่เป็นพวกหัวรุนแรง ดังนั้น ถ้ามีการดาวกระจายแล้วภาครัฐจัดระบบไม่ดี อาจเกิดการปะทะกัน และทำให้ประชาชนลุกฮือขึ้นมาได้ เพราะวัตถุประสงค์ของกลุ่มคนเสื้อแดงคือทำให้เห็นว่ารัฐบาลไม่อยู่ในสถานะที่สามารถควบคุมสถานการณ์ได้ โดยเฉพาะการไม่สามารถดูแลการจัดพระราชพิธีสำคัญให้ผ่านพ้นไปด้วยความเรียบร้อยได้ ยอมรับว่าการชุมนุมกลุ่มเสื้อแดงครั้งนี้มีแนวโน้มเหมือนเหตุการณ์ชุมนุมเดือนเมษายนที่ผ่านมา"
ถือเป็นยุทธวิธีการกระพือข่าวย้อนให้คนกลับไปนึกสภาพของกรุงเทพฯในช่วงสงกรานต์เลือดที่ผ่านมาอย่างแยบยล ทำให้คนเสื้อแดงต้องกลับไปฉุกคิด
การเลื่อนการชุมนุมของบรรดาคนเสื้อแดงครั้งนี้ถือเป็นการต่อลมหายใจให้รัฐบาลได้ตั้งหลักบริหารประเทศโดยไม่มีม็อบมารบกวนจิตใจสักระยะหนึ่ง
แต่เมื่อดูเงื่อนไขแวดล้อมและกรอบเวลาแล้ว
นับแต่ต้นปี 2553 "รัฐบาลอภิสิทธิ์" คงต้องเผชิญกับศึกใหญ่ที่อาจเดิมพันด้วยความอยู่รอดของรัฐบาลและการเลือกตั้งใหญ่ที่อยู่ไม่ไกลนัก...