หนึ่งเสียงของประชาชนที่ต้องการ “ถ่ายทอด”ความคิดเห็นและความรู้สึกให้กับคนหมู่มากได้รับทราบ...เขาผู้นี้เกริ่นนำว่า...จากเสียงขู่...ฆ่ามัน...ฆ่ามัน!!หน้ารัฐสภา 7 ตุลา 51 ถึงข่าวลือสังหารมาร์ค!! ทำไมสื่อและพรรคประชาธิปัตย์ถึงตื่นเต้นกันนัก??เขาไม่เข้าใจว่า... รัฐบาลประชาธิปัตย์ กับสื่อมวลชนรวมถึงนักเล่าข่าวทางฟรีทีวี และสื่อเลือกข้างบางสำนัก...รู้สึกตื่นเต้นอะไรกันมากมายกับข่าวการลอบทำร้ายนายกรัฐมนตรี “อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ”ทั้งที่ประเทศไทยหลังปี พ.ศ. 2548 เป็นต้นมา...การพูดถึงการ “ลอบสังหารบุคคลสำคัญ”ของประเทศ...มีการกระทำกันอย่างเอิกเกริกมีการประชุมวางแผนเพื่อทำรัฐประหาร!ซึ่งเป็น
การวางแผนด้วยฝีมือของ บุคคลสำคัญของประเทศ ที่ต้องการพุ่งเป้ามีจุดประสงค์หมาย“ปลิดชีพ” บุคคลสำคัญ “ฝ่ายตรงข้าม”โดยเฉพาะที่ชัดเจนเห็นจะเป็นกรณีการปิดล้อมรัฐสภา เมื่อ 7 ต.ค. 51 หรือ “วันตุลาวิปโยค”โดยมวลชนกลุ่มหนึ่งที่สร้างความวุ่นวายให้กับชาติบ้านเมืองที่ประกาศ ฆ่ามัน...ฆ่ามัน!! เลือนลั่นไปทั่วท้องทุ่งแห่งการ “ต่อสู้” บนความโกรธแค้นชิงชังแต่จนถึงขณะนี้...พวกเขาก็ยังคงเดินหน้าไม่ยอมเลิกลา“ยึดมั่นในสิ่งที่ตนเชื่อ” และ “รับฟังใน
สิ่งที่ตนอยากฟัง”ที่ผ่านมา การสร้างความรุนแรง โดยการรัฐประหารก็ดี...การบุกยึดสถานีโทรทัศน์ NBT ก็ดี...การยึดทำเนียบรัฐบาลก็ดี...การปิดสนามบินทั้งในต่างจังหวัด ดอนเมืองและสุวรรณภูมิก็ดีนับเป็น “ความร้ายแรงที่สุด” ที่ทำลายความมั่นคงและความมั่งคั่งของประเทศชาติแต่รัฐบาลภายใต้การนำของ “อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ”ไม่นำพาไปกับการบังคับใช้กฎหมายเพื่อดำเนินคดีกับ“ผู้กระทำผิด”ดังจะเห็นได้จากการดำเนินการเป็นไปด้วยความล่าช้าการบังคับ
ใช้กฎหมายในห้วงของ “รัฐบาลอภิสิทธิ์”รวมถึงวิธีทางการปกครองอื่นๆ แสดงให้เห็นว่า...เป็นไปอย่างขาดความเสมอภาค ความเท่าเทียมขาดความยุติธรรม และขาดความชอบธรรมมิหนำซํ้ายังไม่กวดขัน “ไขน็อต” กระบวนการยุติธรรมที่หย่อนยาน ทำให้สภาพสังคมไทยภายใต้รัฐบาลของเขา “เสื่อมทรามลง”ไร้ขื่อแปอย่างที่สุด!หรือถึงจะมีขื่อแปอยู่บ้างก็อยู่ในสภาพโยกเยกโย้เย้ไปมา...หมุนไปกับ “ลมพายุของอำนาจ” ที่รอวันล้มครืนพังลงมาดังนั้นการสร้าง ข่าวลือ...
ข่าวโคมลอย...การพูดทีเล่นที่จริงว่ามีใีครคนหนึ่งหรือคนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งอยาก “มีส่วนร่วม” ในการ “มัดตราสังข์”บุคคลซึ่งเป็นผู้นำหรือใครจะประกาศตั้งค่าหัวใคร...ใครจะประชุมเพื่อจะลอบสังหารใคร...จึงเป็นไปอย่าง “อึกทึกครึกโครม”อย่างไม่เคยปรากฎมาก่อนทั้งนี้สาเหตุมาจากการไม่บังคับกฎหมายอย่างเสมอภาค และเป็นธรรมกับทุกฝ่ายในสังคมปัญหาการปฏิบัติเรื่องการบังคับใช้กฎหมายกับกลุ่มผู้กระทำความผิด โดยเฉพาะกับ “พันธมิตรฯ-ประชาธิปัตย์” ที่มีการ
ทำความผิดร่วมกันหลายกรรมหลายวาระ และหลายกระทงเช่น การยึดสถานที่ราชการ การปิดล้อมรัฐสภา ทั้งที่มีความผิดอย่างชัดเจน และมีประจักษ์พยานมากมาย ซํ้าคดีก็ไม่มีความคลุมเครือทั้งในข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายแต่รัฐบาลภายใต้การนำของ “อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ”กลับไม่ดำเนินการแต่อย่างใด ซํ้าการบริหารงานก็ไร้ประสิทธิภาพเกือบทุกด้านอย่างนี้ลาออกอย่างเดียวคงไม่เพียงพอ...ถ้าเป็นสมัยโบราณ “หัวบนบ่า” ก็คงรักษาไว้ไม่ได้...นี่เป็น “เสียงของ
ประชาชน” ที่มีคุณค่า และสะท้อนให้เห็นถึง “ความวิบัติ” ในบ้านเมือง...เราเองที่เป็น “ผู้สร้าง” และ “ผู้ทำลาย”เขามอง “ภาพการเมือง” โดยถอดแว่นดำเพื่อให้ภาพที่ปรากฎตรงหน้าชัดเจน...ไม่ถูกเลนส์บังลูกกะตาทำให้ “ขุ่นมัว”ปากอ้าง “เสียสละ” แต่ประเทศชาติ “ฉิบหาย”ตกตํ่าลงทุกวัน...เมื่อไหร่ “ความกระสันต์” เหล่านี้จะสิ้นสุดลงเสียทีหรือประชาชนท่านอื่นคิดเห็นเป็นอันใด?!