“กษิต” ดีใจหมดเงื่อนไข ส่งทูตกลับไปประจำกัมพูชาวันนี้ หลังรัฐบาลกัมพูชาออกแถลงการณ์ระบุ "ทักษิณ" ลาออกที่ปรึกษา “ฮุน เซน-รบ.” เหตุประสบความลำบากส่วนตัว ไม่สามารถทำหน้าที่อย่างเต็มที่ โฆษกกัมพูชาปัดเกี่่ยวปมขัดแย้งเขตแดน ยันไม่ใช่การประนีประนอม
"ทักษิณ" ลาออกที่ปรึกษา ฮุนเซน-รบ.
 รัฐบาล กัมพูชาออกแถลงการณ์ลงวันที่ 23 สิงหาคม ระบุว่า พ.ต.ท.ทักษิณ  ชินวัตร  อดีตนายกรัฐมนตรี   ได้เสนอขอยุติการปฏิบัติหน้าที่ในฐานะที่ปรึกษาส่วนตัวสมเด็จฯ ฮุนเซน   นายกรัฐมนตรีกัมพูชา และที่ปรึกษารัฐบาลด้านเศรษฐกิจ   นายกรัฐมนตรีกัมพูชาได้นำความกราบบังคมทูลพระบาทสมเด็จพระบรมนาถนโรดมสี  หมุนี เพื่อทรงลงพระนามในพระราชกฤษฎีกาลงวันที่ 23 สิงหาคม 2553 ให้   พ.ต.ท.ทักษิณ พ้นจากตำแหน่งดังกล่าว
 ในระหว่าง ปฏิบัติหน้าที่ พ.ต.ท.ทักษิณ   มีส่วนอย่างสำคัญในการให้ความช่วยเหลือเพื่อช่วยยกระดับความสามารถในการแข่ง  ขันของประเทศกัมพูชา โดยเฉพาะอย่างยิ่งด้านการค้า พาณิชย์การลงทุน กสิกรรม   และการท่องเที่ยว   ทั้งยังได้ช่วยให้นักลงทุนระดับสำคัญของต่างประเทศสนใจและเข้าใจถึงศักยภาพ  ของกัมพูชาในเรื่องดังกล่าว
 อย่างไรก็ดี โดยที่  พ.ต.ท.ทักษิณ ประสบความยากลำบากส่วนตัว   จึงไม่อาจปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างเต็มที่ ดังนั้น   จึงได้เสนอขอลาออกจากตำแหน่งดังกล่าว   ซึ่งรัฐบาลกัมพูชาได้รับทราบข้อเสนอและขอแสดงความขอบคุณ พ.ต.ท.ทักษิณ   ที่ได้ปฏิบัติหน้าที่ต่างๆ ด้านเศรษฐกิจแก่ประเทศกัมพูชา
 นาย เขียว กันหะริด โฆษกรัฐบาลกัมพูชากล่าวว่า   การลาออกของพ.ต.ท.ทักษิณไม่ได้เกี่ยวข้องใดๆ   กับข้อพิพาทเรื่องเขตแดนกัมพูชาไทย โดยอธิบายว่าเหตุผลที่   พ.ต.ท.ทักษิณลาออกเป็นเพราะมีงานมาก   พร้อมยืนยันว่านี่ไม่ใช่การประนีประนอมแต่อย่างใดสื่อนอกชี้อ้างเหตุผลส่วน  ตัว
 ขณะที่สำนักข่าวเกียวโดและเอเอฟพีรายงานว่าตรง กันถึงกรณีการออก แถลงการณ์ดังกล่าวของรัฐบาลกัมพูชา  ทั้งนี้กัมพูชาแต่งตั้ง   พ.ต.ท.ทักษิณให้ดำรงตำแหน่งดังกล่าวในเดือนพฤศจิกายน 2552   ทำให้ไทยประกาศลดระดับความสัมพันธ์กับกัมพูชาพร้อมกับเรียกเอกอัครราชทูต  กลับประเทศทันที แถลงการณ์ของรัฐบาลกัมพูชาระบุด้วยว่า   ระหว่างทำหน้าที่ที่ปรึกษา ทักษิณได้แลกเปลี่ยนความเห็นแนวคิด   และประสบการณ์เพื่อช่วยกัมพูชาในเรื่องการค้า การลงทุน การเกษตร   และการท่องเที่ยว
 'กษิต' ส่งทูตไปประจำทันที
 นา ยกษิต ภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่า   ได้สั่งการให้นายประศาสน์ประศาสน์วินิจฉัย เอกอัครราชทูตไทยประจำกัมพูชา   เดินทางกลับไปปฏิบัติหน้าที่ที่ประเทศกัมพูชา ในวันที่ 24 สิงหาคม   หลังจากที่ทางกัมพูชาได้มีถ้อยแถลงออกมาว่าไม่ได้เกี่ยวข้องกับ   พ.ต.ท.ทักษิณ   เพราะได้ลาออกจากตำแหน่งแล้วทำให้เงื่อนไขของการเรียกเอกอัครราชทูตไทยกลับ  ประเทศหมดไปโดยปริยาย   ขณะที่กัมพูชาก็จะส่งเอกอัครราชทูตกลับมาปฏิบัติหน้าที่ในไทยเช่นกัน
 "ผมรู้สึกยินดีและขอบคุณรัฐบาลกัมพูชาที่จะร่วมมือกันสร้างความสัมพันธ์ให้คืบหน้าต่อไป" นายกษิตกล่าว
 ขณะ ที่นายประศาสน์ เอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงพนมเปญ   ปฏิเสธที่จะแสดงความเห็นแต่พร้อมที่จะไปปฏิบัติหน้าที่ตามคำสั่งแล้ว   โดยจะเดินทางกลับกรุงพนมเปญด้วยเที่ยวบินทีจี 584 เวลา 18.10 น.วันที่ 24   สิงหาคม 
 ด้านนายกอย   กวงโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกัมพูชายืนยันกับสำนักข่าวเกียวโดว่า   จะส่งเอกอัครราชทูตกัมพูชาประจำประเทศไทยเดินทางกลับไปปฏิบัติหน้าที่ในวัน  ที่ 24 สิงหาคมด้วยแบะท่าพร้อมเจรจาทุกเรื่องทันที
 นาย ชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต  เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ   กล่าวแสดงความยินดีที่ทั้งสองประเทศจะมีเอกอัครราชทูตไปประจำการจะได้เริ่ม  ต้นทำงานด้วยกันอีกครั้ง   เพราะขณะนี้สถานการณ์ตึงเครียดหากความสัมพันธ์กลับไปเหมือนเดิมก็จะเป็น  ประโยชน์สำหรับสองประเทศ   เชื่อว่าการประสานงานและความตึงเครียดด้านชายแดนจะดีขึ้น   ส่วนปัญหาเรื่องคณะกรรมการมรดกโลกคงต้องมาพูดคุยกันว่าจะแก้ไขปัญหาอย่างไร   ทั้งนี้ เชื่อว่าสมเด็จฮุนเซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา   อยากจะแก้ไขปัญหาขณะที่ฝ่ายไทยก็พร้อมที่จะเจรจาทุกเรื่องทันทีเช่นกัน
 'อภิสิทธิ์' เชื่อแก้ปัญหา 2 ประเทศง่ายขึ้น
 ด้าน นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า   ปัญหาบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชาเกิดขึ้นอยู่เป็นระยะๆ เรื่องการข้ามไปมา   การจับกุมตัวบ้างการยิง   แต่ทุกกรณียังอยู่ในวิสัยที่เจ้าหน้าที่ในพื้นที่สามารถแก้ไขปัญหาได้   ยังไม่ได้เป็นปัญหาขึ้นมาในระดับที่จะส่งผลกระทบกระเทือนในระดับชาติขณะนี้  จึงไม่จำเป็นต้องใช้ช่องทางทางการทูตเข้าไปเจรจา คิดว่าในพื้นที่ยังดูแลได้   ถ้าพื้นที่ดูแลไม่ได้ก็คงจะรายงานขึ้นมา   จากนั้นก็เป็นเรื่องที่จะไปดำเนินการอีกครั้ง   แต่เข้าใจว่าจะมีสัญญาณในทางที่ดีเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างไทย-กัมพูชา
 ผู้ สื่อข่าวถามว่า หมายถึงจะยกเลิกคำสั่งแต่งตั้งพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร   เป็นที่ปรึกษาสมเด็จฯฮุนเซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชาใช่หรือไม่   นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า "ทำนองนั้นแหละครับ ขณะนี้กำลังรอยืนยันอยู่   และเข้าใจว่าทางกัมพูชาเขากำลังประกาศอยู่ ทางเราก็กำลังตรวจสอบครับ   ซึ่งถ้าเขายกเลิก เราก็ยินดีที่จะมีการแลกเปลี่ยนทูตกันเหมือนเดิม"
 ทั้ง นี้ สัญญาณจากกัมพูชาที่ออกมา   สะท้อนการเจรจาเพื่อแก้ปัญหาข้อพิพาทระหว่างประเทศจะดีขึ้นด้วยหรือไม่นั้น   นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า   "คิดว่าถ้าความสัมพันธ์กลับไปอยู่ในระดับที่มีทูตอยู่ที่ 2 ประเทศ   การแก้ปัญหาต่างๆ ก็คงจะง่ายขึ้น"
 
