บ้าน เมืองสารพัดปัญหา ชักศึกเข้าบ้าน เพราะความไร้เดียงสา   ต้องจับตารัฐบาลชุดนี้จะพาประเทศไปสู่จุดจบในสภาพอย่างไร   เป็นจังหวะของการกอบโกยโกงกิน ในจังหวะที่ปากท้องชาวบ้านลำบากแสนสาหัส   เดี๋ยวข้าวถุงเน่า เดี๋ยวแอบขายข้าว กระทรวงพาณิชย์ของคุณพรทิวา นาคาศัย   มีเรื่องฉาวโฉ่ไม่หยุด
กรมการค้าภายใน   ขึงขังที่จะเอาจริงเอาจังกับราคาน้ำดื่มบรรจุขวด ขู่มีโทษปรับไม่เกิน   140,000 บาท หรือจำคุกไม่เกิน 7 ปี หรือทั้งจำทั้งปรับ   โทษหนักพอๆกับคดีอาญาร้ายแรง แต่เอาเข้าจริงเหยียบขี้ไก่ไม่ฝ่อ   แถมยังยกเว้นให้กับโรงแรม ภัตตาคารและสถานเริงรมย์
อดไม่ได้ที่จะ  ตั้งคำถามว่า ทั้งหมดนี้ เพื่อประโยชน์ของชาวบ้านตาดำๆ   หรือมีอะไรแอบแฝงกันแน่ หรือเพื่อจะสร้างภาพเพื่อกลบเรื่องราวอะไรบางอย่าง
น้ำตาลทรายขาดตลาดมากว่า 4 เดือน
อธิบดี  กรมการค้าภายใน คุณวัชรี วิมุกตายน   คงยังพอจะจำได้ว่าน้ำตาลทรายอยู่ในประเภทสินค้าควบคุม ปัจจุบันอยู่ที่   กก.ละ 23.50 บาท แต่ข้อเท็จจริงก็คือชาวบ้านต้องซื้อน้ำตาล กก.ละเกือบ 30   บาท   การชี้แจงของกระทรวงพาณิชย์แต่ละครั้งไม่ได้เกิดประโยชน์อะไรกับผู้บริโภค   แต่เป็นการแก้ตัวมากกว่า
ต้องจับตากระทรวงพาณิชย์จะมีการปล่อยน้ำตาล  ออกสู่ตลาดในเดือนกันยายนนี้อีกกระทอก ในแวดวงการค้าน้ำตาลรู้กันอยู่ว่า   เดือนกันยายน   จะเป็นช่วงที่ราคาน้ำตาลในตลาดโลกเริ่มจะปรับตัวลงเนื่องจากปริมาณการบริโภค  ที่ลดลงในช่วงนั้น   ส่งผลไปถึงบรรดาผู้ส่งออกที่กักตุนน้ำตาลเพื่อการส่งออกก็หมดความจำเป็นที่  จะต้องกักตุนอีกต่อไป
ทยอยคายน้ำตาลที่กักตุนไว้ออกตลาดเช่นกัน   กลายเป็นเกมผลประโยชน์ ระหว่างภาครัฐกับเอกชนผู้ผลิตน้ำตาลทราย   แต่คนที่รับกรรมก็คือประชาชนตาดำๆเจ้าของประเทศ    เป็นผู้บริโภคที่ตกเป็นเหยื่อของเกมผลประโยชน์ทั้งขึ้นทั้งล่อง
ประเทศ  ไทยผลิตน้ำตาลทรายได้ปีละ 7 ล้านตัน บริโภคใน ประเทศเพียง 2.2 ล้านตัน   ส่งออก 4.5 ล้านตัน เฉลี่ยผู้บริโภคคนไทยซื้อน้ำตาลทรายเดือนละ 183 กก.   ในจำนวนนี้ 60 ล้าน กก. หรือร้อยละ 30   จำหน่ายผ่านทางห้างค้าปลีกค้าส่งในราคาควบคุม  ที่เหลืออีก  123  ล้าน    กก.  ขายในตลาดทั่วไปแพงกว่าราคา ควบคุมประมาณ กก.ละ 5 บาท ดังนั้น   แต่ละเดือนจึงมีส่วนต่างของกำไรอยู่ที่ประมาณ 615 ล้านบาท
ในช่วง 4   เดือนที่ผ่านมา ใครได้ใครเสีย คงจะพอเดาออก   เป็นผลประโยชน์ที่เกิดจากการกักตุน ปั่นราคา และเก็งกำไร   ไม่เกี่ยวกับต้นทุนการผลิตที่ต้นทุนอยู่ที่ กก.ละ 18-19 บาทเท่านั้น
จุด  เล็กๆที่เป็นเรื่องใหญ่    ช่องว่างของการหาผลประโยชน์บนความเดือดร้อนของผู้บริโภค กระทรวงอุตสาหกรรม   กระทรวงพาณิชย์ รวมไปถึงรัฐบาล    โปรดอย่ามองว่าการเข้ามาทำหน้าที่ปกครองประเทศ   คือการแสวงหาผลประโยชน์จากประชาชนอย่างมูมมาม.
หมัดเหล็ก
 
