ยิ่งสาวยิ่งมัน กับปมเงินบริจาค 250 ล้านบาท ที่พูดกันไปคนละทางสองทาง แต่สำคัญสุดก็คือเจ้าของเงินอย่างนายประชัย เลี่ยวไพรัตน์ บอสใหญ่ทีพีไอ ได้ออกมายอมรับกับปากเองแล้วว่า จ่ายเงินให้กับ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์จริง
โดยเป็นเงินค่าโฆษณา
และก็เป็นอะไรที่ได้น้ำได้เนื้อขึ้นมาอีกนิด ท่ามกลางเสียงปฏิเสธของคนประชาธิปัตย์ ทั้งชิ่งทั้งปัดกันพัลวัน แกะรอยจากนายนิพนธ์ บุญญามณี ส.ส.สัดส่วน อดีตรองเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ยืนกราน
นายประชัยไม่ได้บริจาคเงินให้พรรคประชาธิปัตย์ในช่วงนั้น
แต่เข้าใจว่า น่าจะเป็นการจ่ายค่าโฆษณาที่จ้างบริษัทรับทำโฆษณา ป้ายหาเสียง และปฏิทินที่สมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ไปเปิดบริษัท แต่ไม่เกี่ยวกับพรรคแต่อย่างใด
และพรรคได้ไปจ้างบริษัทเดียวกับนายประชัย ในการจัดทำโฆษณาด้วย
ขมวดวงแคบเข้ามา
ที่แน่ๆโดยสภาพของบริษัท เมซไซอะ บิซิเนส แอนด์ ครีเอชั่น จำกัด ที่ระบุไว้ในต้นขั้วเช็คสั่งจ่าย เป็นบ้านทาวน์เฮาส์ 2 ชั้น ย่านลำลูกกา จังหวัดปทุมธานี
และเท่าที่สื่อมวลชนเจาะข้อมูลลึกลงไป บริษัทที่ว่านี้จดทะเบียนทำธุรกิจประเภทประกอบกิจการรับจ้างผลิตสื่อสิ่งพิมพ์บริการ มีทุนจดทะเบียน 1 ล้านบาท
แต่รับงานมูลค่าสูงถึง 250 ล้านบาท
โดยปมทะแม่งๆที่สังคมภายนอกตามดมกลิ่นตุๆได้ แต่ที่ฉุนกึกกว่า กลับกลายเป็นปมภายในพรรคประชาธิปัตย์ด้วยกันเอง
นั่นเพราะโดยเงื่อนเวลาการโอนเงินปริศนาที่เกิดขึ้นในปี 2547-2548 มันคาบเกี่ยวการผลัดเปลี่ยนอำนาจในพรรคประชาธิปัตย์
จากสายทศวรรษใหม่ที่นายบัญญัติ บรรทัดฐาน เป็นหัวหน้าพรรค และนายประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์ เป็นเลขาธิการพรรค มาเป็นยุคของทีม “ผลัดใบ” นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรค และ “เทพเทือก” นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เป็นเลขาธิการพรรค
มองหน้ากันเลิ่กลั่กเลย ใครเอี่ยวกันแน่
แต่ที่แน่ๆโดยการปะติดปะต่อเหตุการณ์ มันก็คาบเกี่ยวพอดีกับยุคที่เกมโค่น “ทักษิณ ชินวัตร” กำลังก่อตัวจากม็อบสวนลุมฯ
นักธุรกิจที่หมั่นไส้ “ลงขัน” ล้มรัฐบาลไทยรักไทย
โดยปมเงิน 250 ล้านบาท ที่เล่นเอาพรรคประชาธิปัตย์ “งานเข้า”
แต่โดยปมเงิน 250 ล้านบาทเหมือนกัน ก็ทำให้พรรคเพื่อไทย “งานกร่อย”
ทางหนึ่งสายบู๊ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ประธาน ส.ส.พรรค ในฐานะ “ผู้นำฝ่ายค้านเงา” ก็ใส่เกียร์ห้าเหยียบคันเร่งเดินหน้าเต็มกำลัง โหมโรงข้อมูลปึ้กเต็มที่ ชิงสรุปมติพรรคเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจ
มั่นใจปม 250 ล้านบาทจะล้มรัฐบาล “อภิสิทธิ์ชน” กลิ้งไม่เป็นท่า
อีกทางหนึ่ง พ.อ.อภิวันท์ วิริยะชัย รองประธานสภาฯ ก็รับมุกพี่น้องตระกูลชินวัตร เหยียบเบรกหัวคะมำ ออกมายืนยันพรรคเพื่อไทยยังไม่มีมติยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล
กลัวข้อมูลไม่แน่น ทำให้ฝ่ายค้านพรรคเพื่อไทยถูกโห่ ต่ออายุให้รัฐบาลประชาธิปัตย์
พระวัดเดียวกัน แต่สวดมนต์ไปคนละทาง
ยังไม่นับสัญญาณแรงๆที่นายอนุสรณ์ ปั้นทอง ส.ส.กทม. พรรคเพื่อไทย ออกมาพูดชัดๆในการเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจ ถ้ายื่นชื่อของ ร.ต.อ.เฉลิม เป็นนายกรัฐมนตรีประกบกับนายอภิสิทธิ์ จะกระทบต่อคะแนนนิยมของทีม ส.ส.กทม.พรรคเพื่อไทยแน่นอน
ขณะที่เสียงจากสายเหนือ นายอิทธิเดช แก้วหลวง ส.ส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย ออกมาจุดพลุ เท่าที่คุยกับ ส.ส.ในพรรค เห็นว่านายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ อดีตรองนายกฯ มีความเหมาะสมกับตำแหน่งหัวหน้าพรรคเพื่อไทย เพราะเก่งด้านเศรษฐกิจ
ทั้งหมดทั้งปวง พอจับสัญญาณได้ว่า คิวยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจมีผลผูกโยงกับการหาตัวคนถือธงนำทัพพรรคเพื่อไทย
และที่น่าจับตาจริงๆกับความเคลื่อนไหวของนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี ในฐานะน้องเขยอดีตนายกฯทักษิณ ชินวัตร
ล่าสุดนัดอดีตรัฐมนตรีรัฐบาลพรรคพลังประชาชนตั้งวงกินข้าวที่โรงแรมหรู
โดยหนึ่งในนั้นคือนายโอฬาร ไชยประวัติ อดีตรองนายกฯ หัวหน้าทีมเศรษฐกิจในยุครัฐบาลของนายสมชาย ที่ถูกแซวว่า “นั่งหัวโต๊ะเพราะจะเป็นนายกรัฐมนตรีคนต่อไป”
มุกอำกันเล่นๆ แต่สะท้อนนัย
“นายใหญ่” กำลังควาญหา “ตัวจริง” รับธงนำพรรคเพื่อไทย
ไม่กล้าปล่อย “มวยแทน” ทำโฉ่งฉ่าง.
ทีมข่าวการเมือง รายงาน