ที่มา Thai E-News
By Nirmal Ghosh
Straits Times Blogs
February 01, 2009
แปลไทยโดยไทยอีนิวส์
Nirmal Ghosh ได้เข้าสังเกตการณ์การชุมนุมของกลุ่มสนับสนุนประชาธิปไตยในกรุงเทพฯ
การชุมนุมของกลุ่มสนับสนุนประชาธิปไตยของไทย ที่เรียกว่า "ชาวเสื้อแดง" เริ่มต้นขึ้นที่สนามหลวงราวๆตอนกลางวันของวันเสาร์ ผมได้เดินทางไปถึงที่นั้นตอนบ่ายห้าโมงครึ่ง และพบว่ามีคนอยู่ที่นั้นแล้วราวหนึ่งหมื่นคน และราวเวลาอีกสองชั่วโมงต่อมาตอนที่ผมกำลังเดินทางออกก็มีคนอยู่ที่นั้นแล้วราวสามหมื่นคน ทางผู้จัดได้แจ้งว่าผู้คนที่มาชุมนุมน่าจะถึงห้าหมื่นคน
ผมเข้าไปหาอดีตกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติหลังเวที คุณจรัญ ดิษฐาอภิชัย ผู้ซึ่งเป็นผู้สนับสนุนกลุ่มคนเสื้อแดง ระหว่างการสนทนา เขากล่าวว่า "แม้ว่าทักษิณจะหยุดสู้, คนเสื้อแดงจะยังสู้ต่อไป คนเสื้อแดงไม่ได้ต่อสู้เพื่อผู้นำคนไหน พวกเขาต่อสู้เพื่ออุดมการณ์"
และขณะที่เรากำลังจากกัน เขาก็กล่าวเพิ่มอีกเป็นนัยๆ : "อุดมการณ์อันสูงสุด"
ต่อมาโปรเฟสเซอร์ใจ อึ้งภากรณ์ ก็พบกัน, เขาสวมเสื้อยืดสีดำกับหมวกแก๊ปสีแดง เขากล่าวว่าเขามาร่วมกับการชุมนุมคนเสื้อแดงนานแล้ว
ผมได้สนทนากับเขานานพอตัวทีเดียว เขาเห็นด้วยว่าหลายๆประเด็นรวมถึงประเด็นเรื่องกฏหมายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ อยู่ภายใต้การเรียกร้องของกลุ่มสนับสนุนประชาธิปไตยของคนเสื้อแดง (โปรดดูรายงานของผมที่ ลิงก์)
ในระหว่างการสนทนาเกี่ยวกับความเป็นคนเสื้อแดง ใจ ผู้ซึ่งมักจะวิพากษ์วิจารณ์คุณทักษิณมาอย่างสม่ำเสมอในเรื่องของการละเมิดสิทธิมนุษยชน กลับกล่าวว่า "การเป็นคนสนับสนุนคุณทักษิณ ไม่ได้หมายความว่าเขาเป็นสมุนของทักษิณ หรือถูกซื้อโดยทักษิณ การรณรงค์เคลื่อนไหวครั้งนี้มันไปไกลเกินกว่าคุณทักษิณ มันเป็นการเคลื่อนไหวเพื่อประชาธิปไตย และอนาคตที่ดีกว่า"
พวกรอยัลลิสต์พันธมิตรฯ มีฐานของผู้สนับสนุนเป็นกลุ่มคนชั้นกลาง "ซึ่งนำโดยพวกอุลตร้ารอยัลลิสต์ผู้ซึ่งยึดหลัก ชาติ-ศาสนา-พระมหากษัตริย์. พวกเขานั้นเป็นตัวแทนของกลุ่มอภิสิทธิ์ชน และก็ต้องการที่จะลดพื้นที่ประชาธิปไตย"
ผมได้ตามอาจารย์ใจขึ้นไปยังบนเวทีและถ่ายรูปเขาขณะกำลังทักทายคุณจักรภพ เพ็ญแข สำหรับผมแล้ว วินาทีนั้นถือเป็นหนึ่งในหลายๆเหตุการณ์สำคัญที่เกิดขึ้นในระยะสามปีของความยุ่งเหยิงทางการเมืองไทย โดยเฉพาะที่คุณจักรภพและอ.ใจ ทั้งคู่ต่างก็โดนกฏหมายหมิ่นเล่นงาน และโดยเฉพาะในเวลาที่กฏหมายหมิ่นได้กลายเป็นประเด็นที่มาเกี่ยวข้องกับเรื่องประชาธิปไตย
ไม่ช้านักผมก็ออกจากที่นั่นและกลับมาเขียนรายงานของผม เมื่อผมเขียนเสร็จผมก็ไปพบปะกับเพื่อนฝูงเพื่อพูดคุยนิดหน่อย แต่ทันใดนั้นก็มีเอสเอ็มเอสส่งเข้ามาเรื่อยๆ ทั้งจากช่างกล้องอิสระ Nick Nostitz และ Dan Ten Kate จากบลูมเบิร์ก ซึ่งเป็นนักข่าวต่างประเทศไม่กี่คนที่อยู่ในเหตุการณ์ เหตุการณ์ที่คนเสื้อแดงกำลังเดินมาร์ชไปใกล้สะพานมัฆวาน ที่ซึ่งกำลังตำรวจได้ตั้งด่านรั้วลวดหนามสกัด
ผมลุกออกไปทันที และขณะที่เดินทางไปผมก็ได้รับแจ้งว่ากลุ่มคนเสื้อแดงได้ทะลวงผ่านแนวกั้นนั้นเรียบร้อยแล้ว เหตุการณ์ดังกล่าวสร้างความตึงเครียดและความยุ่งเหยิงพอตัว ได้มีใครบางคนใช้สเปรย์พริกไทยฉีดเข้าไปในบริเวณที่ปะทะ ผู้สื่อข่ารอยเตอร์ Adrees Latif โดนเข้าไปที่หน้าเต็มๆ แต่เขาก็ไม่แน่ใจว่าใครฉีด
ผมเดินทางไปถึงในช่วงตอนกลางของขบวนม๊อบที่กำลังเดินทางไปยังทำเนียบ, และก็เดินร่วมไปกับพวกเขาด้วยเลย มีรถบรรทุกหนึ่งคันที่บรรทุกแกนนำคนเสื้อแดงที่คอยพูดผ่านระบบเสียง เสียงที่ดังกังวาลไปในท้องถนนที่กลายเป็นทะเลแห่งคนเสื้อแดง หลายคนในกลุ่มคนประท้วงเป็นหญิง และก็มีบ้างที่พาลูกๆมาด้วย อารมณ์ของผู้คนในขณะนั้นเป็นอารมณ์ของม๊อบที่สงบ ไม่มีอาวุธใดๆปรากฏให้เห็น หลายๆคนจับมือประสานกัน เวลาขณะนั้นเป็นเวลา 11.30 น.
พวกเขาออกไปประชิดกับกองกำลังสกัดของตำรวจซึ่งนับเป็นด่านที่สองที่อยู่บริเวณสะพานใกล้ๆกับทำเนียบ ไม่กี่อึดใจถัดมาด่านสกัดกั้นก็เปิดออก คนเสื้อแดงก็เริ่มเดินทะลวงผ่านไป ผมก็ตามพวกเขาต่อไปและเห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจหลายนายต่างก็ยิ้มและหัวเราะ (ตำรวจเคยถูกบั่นทอนกำลังใจ เมื่อเคยต้องถูกสั่งให้ยอมให้กับกลุ่มผู้ประท้วงพันธมิตร และหลายๆคนเห็นชอบไปด้วยกันกับคนเสื้อแดง)
หลังจากนั้นวีระก็หายตัวไป อดีตโฆษกรัฐบาลนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ประกบด้วยจักรภพซึ่งใส่เสื้อยืดสีแดงมีตัวอักษรเขียนว่า ไม่เอาเผด็จการ ก็เริ่มต้นประกาศต่อนายทหารและเจ้าหน้าที่ตำรวจขณะที่ตนเองอยู่บนรถบรรทุกที่นำขบวน
ความตื่นเต้นก็ดูเหมือนจะเริ่มเกิดขึ้น และในช่วงวินาทีของที่ยงคืน ณัฐวุฒิก็ตะโกนออกมาด้วยเสียงอันดังพร้อมๆกับเคลื่อนรถไป ขณะเดียวกับที่ฝูงชนเองก็บุกโรมรันไปข้างหน้าเข้าปะทะกับแนวรั้วกั้นซึ่งอยู่ห่างออกไปข้างหน้าเราเพียงไม่กี่ฟุต เราพยายามวิ่งออกอย่างชุลมุนเพื่อไม่ให้โดนลูกหลง นับเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่อุบัติเหตุมอเตอร์ไซต์เมื่อ 12 ม.ค.ปีที่แล้วที่ผมต้องขาหัก ผมพบว่าผมเองขณะนั้นต้องวิ่งหนี!
เราหลบไปทางทำเนียบ ที่ซึ่งสนามหญ้าเพิ่งได้รับการฟื้นฟูหลังจากการบุกยึดของกลุ่มพันธมิตรฯนานหลายเดือนเมื่อปีที่แล้ว หญ้าที่นั้นยังต้องใช้เวลาอีกพอสมควรกว่าจะโตสมบูรณ์ใหม่
ที่บริเวณทำเนียบมีทหารจำนวนหลายร้อยนายที่มีอุปกรณ์ควบคุมฝูงชนครบมือ ทหารมีท่าทีผ่อนคลายในบริเวณสนามหญ้าโดยจัดกองกำลังตั้งรับอยู่ภายในบริเวณรั้ว กลุ่มคนเสื้อแดงก็รวมตัวกันบริเวณถนนข้างนอก และบรรดาแกนนำผู้ประท้วงก็เริ่มที่จะอ่านข้อเรียกร้องของพวกเขา
แล้ว,ด้วยความปราศจากความพยายามใดๆที่จะเข้าบุกทำเนียบ,พวกเขาก็เริ่มสลายการชุมนุม รถบรรทุกสตาร์ทรถและเคลื่อนกลับออกไป รถทั้งหมดนับรวมได้สี่คันเดินทางออกไปพร้อมๆกับคลื่นฝูงชนคนเสื้อแดง
ไม่มีจุดใดเลยของการประท้วงที่มีลักษณะคุกคามและพัฒนาไปสู่การไร้การควบคุม ส่วนหนึ่งเป็นเพราะคนเสื้อแดงไม่มีใครมีอาวุธเหมือนเช่นพันธมิตรฯที่เคยทำไว้เมื่อปีที่แล้ว ดังนั้นจึงมีปัจจัยยั่วยุเพียงเล็กน้อยเท่านั้น และอีกประการคือคนเสื้อแดงพยายามรักษามาตรฐานการประท้วงให้สูงไว้ด้วยการไม่บุกยึดทำเนียบแบบที่พวกพันธมิตรเคยทำ ซึ่งถือเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญต่อภาพลักษณ์ของคนเสื้อแดงต่อสาธารณะ