บล็อคข่าวส่งเสริมคนดี (รักดีหามจั่ว รักชั่วหามเสา หามจั่วก็หนักนะ)

ข่าวจากสื่อ

บทความจากสื่อ

วันเสาร์ที่ 27 ธันวาคม พ.ศ. 2551

"พัลลภ"ชี้ดวงปชป.อาถรรพ์กับทหาร มทภ.1 เตรียม สห.ประจำจุดเฝ้า"เสื้อแดง"ล้อมสภา นปช.แฉพธม.รับเงิน300ล.

ที่มา มติชนออนไลน์

"พัลลภ"ชี้ดวง ปชป.อาถรรพ์กับทหารตั้ง63ปีเป็นรบ.แค่6ปี "จักรภพ"เล็งลั่นวาจาอัด พธม.ยึดสนามบิน28ธ.ค. ปธ.รัฐสภาไม่หวั่นม็อบเสื้อแดงตัดไฟอ้างมีสายใต้ดิน ปธ.วุฒิมั่นใจวันแถลงนโยบายไม่ใช่วันนรก "มาร์ค" ขอร้อง "แม้ว" หยุดปลุกปั่นสร้างความแตกแยกให้ประเทศไทย พร้อมจะให้อภัย แต่ต้องกลับมารับโทษก่อน

"พัลลภ"ชี้ดวง ปชป.อาถรรพ์กับทหารตั้ง63ปีเป็นรบ.แค่6ปี

พล.อ.พัลลภ ปิ่นมณี อดีตรองผู้อำนวยการกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) กล่าวถึงการกลับมาจัดตั้งรัฐบาลของพรรคประชาธิปัตย์ว่า พรรคนี้เป็นพรรคเก่าแก่ที่แปลก เพราะตั้งมา 63 ปี แต่เป็นรัฐบาลแค่ 6 ปี เป็นฝ่ายค้านถึง 57 ปี และในแต่ละครั้งที่เป็นรัฐบาลเข้ามาในลักษณะที่เป็นงูเห่าทั้งนั้น ตนมองว่าดวงของพรรคประชาธิปัตย์ ไม่ถูกกับทหาร ทหารคนไหนก็ไปอยู่ไม่ได้ เช่น พล.ต.สนั่น ขจรประศาสตร์ ที่เคยเป็นเลขาธิการพรรค พล.ต.มนูญกฤต รูปขจร เพื่อนรักของตนก็อยู่ไม่ได้ รวมถึงตนที่เคยเข้าไปอยู่เพียง 1-2 ปีก็ต้องออกมา ดังนั้น หากดวงเป็นอย่างที่ตนพูด และหากทหารเข้าไปช่วยจริง ตนคิดว่า จะทำให้พรรคนี้เสื่อมเร็ว ซึ่งดวงทหารกับพรรคประชาธิปัตย์เป็นอาถรรพ์กัน และดวงไม่ถูกกัน



เมื่อถามว่า รัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์จะอยู่ได้นานหรือไม่ พล.อ.พัลลภ กล่าวว่า เมื่อวันที่ 26 ธ.ค.ที่ผ่านมา ตนได้ไปคุยกับทางพรรคได้ยินเสียง ส.ส.คุยกันว่าจะอยู่ได้ไม่เกิน 3 เดือน เมื่อถามว่า เป็นไปได้หรือไม่ว่าในอนาคต พล.อ.พัลลภจะขึ้นมาเป็นหัวหน้าพรรคเพื่อไทย พล.อ.พัลลภ กล่าวว่า ยืนยันว่าไม่ เพราะไม่มีขีดความสามารถถึงขนาดนั้น เมื่อถามว่า อยากฝากอะไรถึงรัฐบาล พล.อ.พัลลภ กล่าวว่า ขอให้รัฐบาลบริหารประเทศไปด้วยดี ทั้งนี้ตนไม่อะไรเตือนรัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ เพราะเป็นพรรคเก่าที่ตนเคยร่วมงานมา





มทภ.1 เตรียม สห.ประจำจุดดูแล ม็อบเสื้อแดงล้อมสภา

พล.ท.คณิต สาพิทักษ์ แม่ทัพภาคที่ 1 เป็นประธานเปิดโครงการประชาชนมีส่วนร่วมกองทัพภาคที่ 1 โดยมีกลุ่มรถจักรยานยนต์ แท็กซี่ สามล้อเครื่อง ชุมชุนรอบวัง จำนวน 300 คน เข้าร่วมโครงการ โดยมีจุดประสงค์เพื่อส่งเสริมความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับภัยคุกคามที่มีผลกระทบต่อความสงบเรียบร้อย และความมั่นคงของชาติในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานคร และสนับสนุนให้ประชาชนเข้ามามีบทบาทสำคัญในทุกระดับซึ่งจะเป็นพลังของแผ่นดิน ในการป้องกัน และแก้ไขปัญหายาเสพติด แบบบูรณาการ เมื่อเวลา 11.30 วันที่ 27 ธันวาคม ที่กองทัพภาคที่ 1





พล.ท.คณิต กล่าวว่า ช่วงนี้เข้าใกล้ช่วงเฉลิมฉลองปีใหม่ ซึ่งบทเรียนจากปีที่แล้วที่มีเหตุการณ์วุ่นวาย รวมถึงสถานการณ์บ้านเมืองที่ผ่านมา ทำให้ประชาชนที่อยู่ในกลุ่มขับรถแท็กซี่ สามล้อเครื่อง จักรยานยนต์รับจ้าง ชุมชนรอบวังที่อยู่ใกล้สถานที่ล่อแหลมได้มาตัวรวมกันที่กองทัพภาคที่1 เพื่อรับฟังแนวทางหรือหนทางที่จะช่วยกันให้บ้านเมืองเกิดความปลอดภัยและความสงบสุข โดยเฉพาะในช่วงวันปีใหม่จะได้ช่วยกันสอดส่องดูแล เป็นหูเป็นตาในเรื่องที่จะทำให้เกิดความเสียหาย ซึ่งเรื่องทั้งหมดที่อบรมไม่เกี่ยวกับการเมือง



เมื่อถามถึงการดูแลรักษาความสงบเรียบร้อยกรณีที่กลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยขับไล่เผด็จการแห่งชาติ (นปช.) เตรียมตั้งเวทีปิดล้อมรัฐสภา พล.ท.คณิต กล่าวว่า เป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่ตำรวจโดยตรงในทางกฎหมาย ส่วนทหารเป็นผู้ช่วยเหลือเจ้าพนักงาน ซึ่งการติดตามสถานการณ์ของตำรวจ หรือการเฝ้าดูในฐานะกอ.รมน.ภาค 1 เห็นว่า ถ้าเป็นการเคลื่อนไหวในทางประชาธิปไตยตามสิทธิของบุคคลหรือกลุ่ม คิดว่าเป็นสิ่งที่ยอมรับได้ เรื่องนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจหรือหน่วยงานเกี่ยวข้องต้องดูแลเรื่องของความปลอดภัย ชีวิต ทรัพย์สินของส่วนรวม รวมถึงผู้ชุมนุมและประชาชนส่วนอื่นๆ ด้วย ส่วนการเตรียมรักษาความสงบเรียบร้อยนั้น กองทัพจะใช้แผนกองร้อยรักษาความสงบเหมือนห้วงที่ผ่านมา ซึ่งทุกระดับจะมีความพร้อม เพราะกองทัพภาคที่ 1 รับผิดชอบในเรื่องความมั่นคง ต้องมีกำลังที่จะตอบสนองสิ่งเหล่านี้ได้ ทั้งนี้ กองทัพไม่มีแผนสกัดผู้ชุมนุมจากต่างจังหวัดที่จะเดินทางเข้ามาชุมนุมในกรุงเทพ คิดว่าคนไทยมีสิทธิเสรีภาพสัญจรไปมาทั่วประเทศ ไม่มีสิ่งที่จะต้องไปสกัดกั้น



เมื่อถามว่า หากเกิดเหตุการณ์รุนแรงขึ้น ทหารจะมีมาตรการเบื้องต้นอย่างไร พล.ท.คณิต กล่าวว่า ตอบล่วงหน้าไม่ได้ ต้องดูว่าสถานการณ์พัฒนาไปอย่างไร แต่ในจุดนี้กองทัพจัดเจ้าหน้าที่สารวัตรทหาร (สห.) ไปประจำตามจุดต่าง ๆ เพื่อดูแลความสงบ ซึ่ง สห.จะดูแลในส่วนของกำลังพลทหารตัวเองด้วย และเป็นผู้ช่วยเหลือเจ้าพนักงานด้วย




นปช.เตรียมแฉพธม.รับเงินบริจาค300 ล้านพร้อมชูใบเสร็จ

นายวีระ มุสิกพงศ์ นายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ร่วมกันแถลงข่าวว่า ในวันพรุ่งนี้ (28 ธ.ค.) จะเปิดเวทีรายการความจริงวันนี้สัญจร ตอนความจริงประเทศไทยไม่ไว้ใจ อภิสิทธิ์ (นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี) เนื้อหาสาระนั้นจะมีการชี้ถึงที่มาของรัฐบาล ที่ไม่ชอบด้วยระบอบประชาธิปไตย โดยเฉพาะกรณีการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย และ กองทัพ รวมถึงจะเปิดเผยถึงพฤติกรรมของพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งเป็นพรรคการเมืองที่ไม่มีคุณธรรม จริยธรรม เนื่องจากพบว่า มีบริษัทเอกชนบริจาคเงินนอกระบบ 300 ล้านบาท และเงินส่วนหนึ่งมีการโอนสนับสนุนการชุมนุมของพันธมิตรฯ มีหลักฐานข้อเท็จจริงเป็นใบเสร็จรับเงิน เพื่อรองรับการใช้จ่ายเงินก้อนนี้ ทั้งนี้ จะเคลื่อนไหวกดดันอย่างเนื่อง โดยวันพรุ่งนี้ จะชุมนุมใหญ่ที่ท้องสนามหลวง และเคลื่อนขบวนไปยังรัฐสถา แต่จะไม่ใช้วิธีการปิดล้อมรัฐสภา หลังจากนั้นจะเปิดเวทีสัญจรทั่วประเทศ เพื่อให้กลุ่มคนเสื้อแดงต่อต้านรัฐบาลอย่างตรงไปตรงมาอย่างเปิดเผย โดยเชื่อว่าในทุกพื้นที่ๆ รัฐมนตรีรัฐบาลชุดนี้ไป ก็จะมีการต่อต้านเกิดขึ้น อย่างเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ที่ จ.อุบลราชธานี พร้อมย้ำจะยกระดับกลุ่มมวลชน เป็นองค์กรทางการเมือง ทั้งระดับชาติและนานาชาติ




"จักรภพ"เล็งลั่นวาจาอัด พธม.ยึดสนามบิน28ธ.ค.

นายจักรภพ เพ็ญแข แกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) กล่าวเมื่อวันที่ 27 ธ.ค. ถึงการนัดชุมนุมใหญ่ของกลุ่มฯ ในการชุมนุมวันที่ 28 ธ.ค.ที่ท้องสนามหลวงว่า จะมีการปราศรัยถึงการดำเนินการกับแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ที่ยึดสนามบินอย่างชัดเจนด้วย ส่วนที่มีกระแสข่าวว่า มีชาวเสื้อแดงบางส่วนแยกตัว ไม่มาร่วมชุมนุมนั้น ส่วนตัวไม่ได้ให้ความสนใจในตัวนายหน้า แต่ให้ความสนใจกับประชาชนมากกว่า



ปธ.รัฐสภาไม่หวั่นม็อบเสื้อแดงตัดไฟอ้างมีสายใต้ดิน



ความเคลื่อนไหวการเตรียมความพร้อมในการประชุมรัฐสภาเพื่อฟังคำแถลงนโยบายของรัฐบาล วันที่ 29 -30 ธันวาคม หลังจากกลุ่มเสื้อแดงเตรียมชุมนุมใหญ่วันที่ 28 ธันวาคม และจะเคลื่อนมาปิดล้อมรัฐสภานั้น



เมื่อวันที่ 27 ธันวาคม นายชัย ชิดชอบ ประธานรัฐสภา กล่าวว่า ได้ประสานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจและทหารให้ดูแลแล้ว คงไม่มีความรุนแรงอะไร จึงยังไม่ได้คิดเรื่องการเลื่อนวันประชุมหรือย้ายสถานที่ประชุม อย่างไรก็ดีจะประเมินเหตุการณ์นาทีต่อนาที และขอร้องให้ทุกฝ่ายยึดรัฐธรรมนูญ ยึดกฎหมายเป็นหลัก อย่าใช้กฎหมู่ โดยกลุ่มที่ดำเนินการอยู่ 2-3 คน ที่ออกทีวีอยู่ทุกวันแม้จะมีความเคลื่อนไหวแต่ตนมองว่า เป็นการทำเพื่อประโยชน์ต่อส่วนรวม เป็นการเตือนรัฐบาลให้บริหารบ้านเมืองให้ดีเท่านั้น จึงมั่นใจไม่เกิดเหตุรุนแรง



“หากกลุ่มเสื้อแดงปิดล้อมรัฐสภาจนไม่สามารถเข้าประชุมเพื่อฟังคำแถลงนโยบายรัฐบาลได้ ก็คงจะไม่มีการประชุม และคงต้องเลื่อนวันประชุมออกไป แต่หากเข้าประชุมได้ก็ถือเป็นเรื่องที่ดี และไม่กลัวว่า กลุ่มผู้ชุมนุมจะตัดไฟเหมือนกับม็อบเสื้อเหลืองที่ผ่านมา เพราะตอนนี้เขาไม่ได้เดินสายไฟบนดินแล้ว เขาเปลี่ยนมาเดินสายไฟใต้ดิน คงไม่โดนตัดไฟง่าย ๆ” นายชัย กล่าว



ปธ.วุฒิมั่นใจวันแถลงนโยบายไม่ใช่วันนรก


นายประสพสุข บุญเดช ประธานวุฒิสภา ในฐานะรองประธานรัฐสภา กล่าวถึงกรณีที่นายจตุพร พรหมพันธ์ ระบุว่าวันแถลงนโยบายรัฐบาลวันที่ 29 -30 ธันวาคม จะเป็นนรกของรัฐบาลหากมีการใช้กำลังเข้าปราบปรามกลุ่มผู้ชุมนุม ว่า ตนเป็นห่วงสถานการณ์วันดังกล่าวอยู่เหมือนกัน แต่จากการรับฟังมาตรการรับมือของเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้วคิดว่าไม่น่าจะเป็นนรกอย่างที่พูดกัน โดยฝ่ายตำรวจจะต้องป้องกันกำหนดระยะไม่ให้ผู้ชุมนุมเข้าใกล้รัฐสภา เพื่อให้สมาชิกรัฐสภาเข้าไปประชุมในรัฐสภาได้ และที่ผ่านมาตนได้หารือกับนายชัย ชิดชอบ ประธานรัฐสภา ถึงการเตรียมการรับมือ โดยมองถึงแนวทางการเลื่อนวันประชุมและย้ายสถานที่ประชุมด้วย แต่เบื้องต้นยังมั่นใจว่าจะดำเนินการประชุมได้


นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ เมื่อวันที่ 26 ธันวาคม สำนักข่าวเอเอฟพีเรียกร้องให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีซึ่งกำลังหลบหนีคดีอยู่นอกประเทศหยุดปลุกปั่น สร้างความแตกแยกให้กับประเทศไทย


นายอภิสิทธิ์ ให้สัมภาษณ์เอเอฟพีว่า "ผมไม่มีปัญหากับการที่คุณทักษิณจะพูดอะไร ผมเพียงแค่อยากจะเรียกร้องให้เขาเห็นแก่ผลประโยชน์ของประเทศก่อนผลประโยชน์ของเขาเอง และผลประโยชน์ของประเทศในขณะนี้ขึ้นอยู่กับความสงบเรียบร้อยและความมีเสถียรภาพ"


นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า เขาหวังว่าการชุมนุมของกลุ่มผู้ที่นิยมชมชอบในตัวของพ.ต.ท.ทักษิณ ซึ่งจะเริ่มต้นขึ้นในวันที่ 28 ธันวาคมจะไม่ทำให้การแถลงนโยบายของรัฐบาลต่อรัฐสภาต้องหยุดชะงักไป โดยเขาระบุว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับคำสั่งว่าไม่ให้ใช้ความรุนแรง


"ผมหวังว่าเราคงจะแถลงนโยบายได้ตามกำหนดการที่วางไว้ในวันที่ 29 และ 30 ธันวาคม ผมมั่นใจว่าเราจะรับมือกับสถานการณ์ในช่วง 2 วันดังกล่าวได้โดยไม่ให้ส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของประเทศ" นายอภิสิทธิ์กล่าว และว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับคำสั่งแล้วและเราไม่ต้องการให้เกิดเหตุการณ์ซ้ำรอยอย่างเมื่อวันที่ 7 ตุลาคมอีก


นายกรัฐมนตรี กล่าวว่าทุกฝ่ายที่ร่วมอยู่ในความขัดแย้งทางการเมืองที่เกิดขึ้นในปีนี้ รวมถึงกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยที่ประท้วงโดยการปิดสนามบินจะต้องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการปรองดองในทุกภาคส่วน


นายอภิสิทธิ์กล่าวว่าภายใต้แผนการของเขาในการสร้างความสมานฉันท์ภายในชาติหลังจากความวุ่นวาย สับสนอลหม่านนั้น หลักการสำคัญคือความยุติธรรม โดยมีอยู่หลายคดีที่เกิดขึ้นในระหว่างเหตุการณ์ความไม่สงบเมื่อปีที่ผ่านมาที่ยังรอการพิพากษาอยู่


เอเอฟพีระบุว่านายกรัฐมนตรีไม่ได้กล่าวถึงรายละเอียดว่ามีคดีใดบ้าง แต่ระบุว่ากลุ่มพันธมิตรฯจะต้องยอมรับผลทางกฏหมายที่ตามมาจากการกระทำของพวกเขา
นายอภิสิทธิ์ยังกล่าวอีกว่าการอภัยโทษต่อ พ.ต.ท.ทักษิณนั้นเป็นไปได้ในอนาคต แต่เขาต้องเดินทางกลับมาและเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมก่อนเป็นอันดับแรก


"ไม่มีอะไรที่เป็นไปไม่ได้ แต่คุณต้องยอมรับโทษของคุณและแสดงความรับผิดชอบของคุณออกมาก่อน" นายอภิสิทธิ์กล่าว


นายกรัฐมนตรียังเตือนว่า การรับมือกับวิกฤตเศรษฐกิจครั้งนี้จะหนักหนาสาหัสกว่าการรับมือกับวิกฤตเศรษฐกิจทั่วเอเชียเมื่อปี 2540 โดยเขากล่าวว่า หลายๆคนบอกว่าเป็นเรื่องยากลำบากกว่าในการรับมือกับวิกฤตเศรษฐกิจครั้งนี้เพราะว่าคุณต้องรับมือกับทั้งมิติทางเศรษฐกิจและมิติทางการเมืองŽ เขายังเปิดเผยว่าในเร็วๆ นี้จะเปิดเผยรายละเอียดของแผนกระตุ้นเศรษฐกิจมูลค่า 3 แสนล้านบาทโดยเน้นไปที่เขตชนบทเป็นส่วนมาก
ที่โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ นายนพดล ปัทมะ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ตอบคำถามกรณีพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่า ไม่ทราบว่าพ.ต.ท.ทักษิณ พำนักที่ประเทศใด แต่ทราบว่าอยู่ในแถบเอเซีย สาเหตุที่ไม่มีการเปิดเผยสถานที่พำนักของพ.ต.ท.ทักษิณ มาจากเรื่องของความปลอดภัย เพราะเคยได้ยินมาในทำนองที่ว่ารัฐบาลและกลไกของรัฐบาลพยายามที่จะตามหาเพื่อที่จะดำเนินการต่างๆเกี่ยวกับตัวท่าน เมื่อถามว่าถึงขั้นลอบฆ่าเลยหรือไม่ นายนพดล กล่าวว่า ใช่ครับ ต้องคำนึงถึงความปลอดภัยไว้ก่อนดีกว่า


เมื่อถามถึงกระแสข่าวกับนักร้องสาวชื่อดัง นายนพดล กล่าวว่า ไม่ทราบเลย รู้แต่ว่ามาม้าคอนเฟริ์ม
สำหรับภารกิจในวันที่ 26 ธันวาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ทำงานอยู่แต่ภายในทำเนียบตลอดทั้งวัน โดยมีตัวแทนจากภาคเอกชน ข้าราชการเดินทางเข้าพบ นอกจากนี้ ทูตประเทศญี่ปุ่นและรัสเซีย ได้เข้าแสดงความยินดีด้วย โดยในเวลา 09.15 น. นายณรงค์ศักดิ์ สังขพงศ์ รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ปฏิบัติหน้าที่แทนกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) และคณะเข้าเยี่ยมคารวะ


เวลา 09.30 น. นายอรินทร์ จิรา ประธานที่ปรึกษาธุรกิจอาเซียน เข้าพบโดยกล่าวชื่นชมนายอภิสิทธิ์ ว่า น่าจะเป็นคนที่ดึงความมั่นใจของนานาชาติได้ หลังจากที่เผชิญความขัดแย้งยาวนาน ขณะที่นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า รัฐบาลให้ความสำคัญต่อการจัดการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 14 โดยจะให้มีการประชุมคณะเตรียมการทุกๆสัปดาห์ หลังจากนี้คาดว่าจะอยู่ระหว่างวันที่ 13-15 กุมภาพันธ์นี้ สำหรับสถานที่จัดการประชุมอยู่ระหว่างการพิจารณา สำหรับการประชุมสุดยอดอาเซียนครั้งนี้ จะเน้นย้ำให้เกิดความร่วมมือทางเศรษฐกิจอย่างรูปธรรมและรวดเร็ว ขณะเดียวกันให้ความสำคัญการดำเนินงานด้านสิทธิมนุษยชน ภายใต้กฎบัตรอาเซียนด้วย


เวลา 10.00 น. นายวันชัย จิราธิวัฒน์ ประธานกรรมการ บริษัท กลุ่มเซ็นทรัล จำกัด เข้าพบ โดยนายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า รัฐบาลจะจัดการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 14 เพื่อประชาสัมพันธ์ให้ทั่วโลกได้รับรู้


จากนั้น เวลา 13.00 น. นายนัที เปรมรัศมี ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี พร้อมข้าราชการชั้นผู้ใหญ่เข้าเยี่ยมคารวะ โดยนายนัทีได้กล่าวอวยพรให้นายกฯมีสุขภาพแข็งแรง ปฏิบัติหน้าที่ให้ลุล่วงไปได้และให้เกิดความสมานฉันท์ขึ้นในบ้านเมือง ขณะที่นายกฯได้กล่าวให้กำลังใจทุกคนในการทำหน้าที่ แม้ 2-3 ปีที่ผ่านมา ทุกคนจะเผชิญการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองรุนแรงจนส่งผลกระทบต่อการทำงานก็ตาม โดยกล่าวย้ำว่าในเรื่องของสังคมและการศึกษาจะเข้าไปดูแลด้วยตัวเอง โดยเฉพาะเรื่องการเรียนฟรี 15 ปี


ด้านนายปณิธาน วัฒนายากร อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ซึ่งได้รับการทาบทามให้เป็นรองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี และรักษาการโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังเดินทางมาที่ทำเนียบรัฐบาล พร้อมเข้าไปดูห้องทำงานภายในตึกนารีสโมสรด้วยว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับการแต่งตั้งอย่างเป็นทางการเมือง ต้องรอให้มีมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) ก่อน เพื่อบังคับให้ออกจากราชการ จากนั้นจะเข้าทำงานทันที โดยจะเน้นไปที่การแถลงด้านนโยบายเป็นหลัก และไม่พยายามตอบโต้ทางการเมืองเพราะขณะนี้คนอยากรู้เรื่องนโยบายมากกว่า อย่างไรก็ตาม ตนจะมาทำหน้าที่โฆษกรัฐบาลแค่ชั่วคราวเท่านั้น เพื่อรอตัวจริงเข้ามาทำงานแทน


"ยอมรับว่าหนักใจ แต่พร้อมรับแรงกดดันในการทำงาน ไม่ว่ากับสื่อหรือกับฝ่ายค้าน โดยจะให้ข้อมูลกับทุกฝ่ายที่ต้องการอย่างเพียงพอ โดยการทำงานจะแบ่งหน้าที่กับรองโฆษกทั้ง 2 คน คนหนึ่งอาจจะพูดเรื่องการเมือง อีกคนพูดเรื่องเศรษฐกิจ ส่วนตนจะพูดเรื่องนโยบายเป็นหลัก" นายปณิธานกล่าว


รายงานข่าวจากพรรคประชาธิปัตย์แจ้งว่า สำหรับตำแหน่งเลขานุการรัฐมนตรีนั้นจะมีชัดเจนกลังแถลงนโยบาลรัฐบาลเสร็จสิ้น แต่เบื้องต้นคาดว่า นางศิริวรรณ ปราศจากศัตรู รองเลขาธิการพรรค เป็นเลขานุการนายวิทยา แก้วภารดัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารสุข นายก้องศักดิ์ ยอดมณี อดีตผู้สมัครส.ส.กทม. เป็นเลขานุการนายกรณ์ จาติกวนิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เนื่องจากนายก้องศักดิ์ เคยทำงานในธนาคารแห่งประเทศมาก่อน นายเอกชัย ทรงอำนาจเจริญ อดีตผู้สมัครส.ส.อุบลราชธานี เป็นเลขานุการนายวิฑูรย์ นามบุตร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์

ข่าวส่งเสริมคนดี

จำนวนผู้เข้าเยี่มมชม

link to affordable web hosting
Powered by web hosting provider .

สถิติการเข้าชม DMNEWS

eXTReMe Tracker