ที่มา ไทยรัฐ
เมื่อวันที่ 23 ธ.ค. ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ว่า ที่ประชุม ส.ส.ของพรรคมีมติตั้งทีมอภิปรายนโยบายรัฐบาล เบื้องต้นมี ส.ส.ประมาณ 50 คนเสนอตัวเข้ามาทำหน้าที่เป็นขุนพล ขณะนี้อยู่ในระหว่างการแบ่งเนื้อหาและจัดเตรียมข้อมูลเพื่อให้การอภิปรายครั้งนี้มีคุณภาพ ขอประกาศไปถึงรัฐบาลว่าให้นึกถึงเมื่อครั้งที่ตนเคยอภิปรายกรณี สปก.4-01 ที่ทำให้พรรคประชาธิปัตย์ต้องออกจากอำนาจมาแล้ว ส่วนกรณีที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ระบุถึงการส่งตัว พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ กลับประเทศในฐานะผู้ร้ายข้ามแดนนั้น อย่าว่าสอนนายกฯเลย การส่งตัว พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่ใช่หน้าที่ของรัฐบาล แต่เป็นอำนาจของอัยการสูงสุดที่เป็นองค์กรอิสระ เมื่อครั้งที่ท่านเป็นฝ่ายค้านไม่ถือสาหรอกที่สะเปะสะปะเลอะเทอะ แต่เมื่อมาเป็นรัฐบาลแล้วควรศึกษาบ้าง
จองกฐินเชือด “กษิต-ประวิตร”
นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีนายกษิต ภิรมย์ รมว.ต่างประเทศ ระบุว่าการบุกยึดสนามบินของกลุ่มพันธมิตรฯเป็นเรื่องที่งดงามและถูกต้องว่า ไม่เข้าใจสิ่งที่พูดมาแบบนี้ปัญญาอ่อนหรือไม่ ทำร้ายคนไทยทั้งประเทศยังไม่พอ ยังมีท่าทียโสโอหัง ท้าทายคนไทย ขอเรียกร้องให้นายกฯปลดนายกษิตทันที หากไม่ทำเท่ากับสมคบกันและเห็นด้วยกับการยึดสนามบิน ถ้านายกฯไม่จัดการกับคนที่มาจากกลุ่มพันธมิตรฯ ก็ไม่มีสิทธิที่จะเรียกร้องให้บ้านเมืองสงบ แบบนี้ขอทำนายว่าอายุของรัฐบาลชุดนี้ไม่น่ายืนยาว ส่วนกรณีที่รัฐบาลจะแถลงนโยบายต่อรัฐสภาในวันที่ 29-30 ธ.ค.นั้น ขอจองกฐินอภิปราย รมว.ต่างประเทศ และนายกฯในประเด็นหนีทหาร นอกจากนี้พรรคจัดทีม ส.ส.สำหรับอภิปรายนโยบายไว้แล้ว เช่น จะอภิปรายถึงที่มาที่ไปของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รมว.กลาโหม กรณีทหารแทรกแซงการเมือง
ยืนกราน นปช.จะไปชุมนุมหน้ารัฐสภา
ผู้สื่อข่าวถามว่า จะกำหนดเวลาหรือไม่ว่านายกฯควรปลดนายกษิตเมื่อไหร่ นายจตุพรตอบว่า คนชั่วไม่สมควรจะบริหารประเทศแม้เพียงวันเดียว ไม่เข้าใจทำไมสำนักงานตำรวจแห่งชาติไม่จับผู้ก่อการร้ายที่บุกสนามบิน แต่กลับจับคนเสื้อแดงที่บุกล้อมรัฐสภาแทน ส่วนการเคลื่อนไหวของกลุ่มเสื้อแดงที่รวมตัวกันที่ท้องสนามหลวงนั้น ภายใน 2-3 วันจะได้ข้อสรุปว่าจะเคลื่อนขบวนไปที่รัฐสภาตั้งแต่คืนวันที่ 28 ธ.ค.เลยหรือไม่ จุดยืนของกลุ่ม นปช.จะไม่ขัดขวางการประชุมรัฐสภา เป็นเพียงการชุมนุมโดยสงบ เพื่อให้รัฐบาลชุดนี้ที่ไปปล้นอำนาจประชาธิปไตยมารีบยุบสภาโดยเร็ว
ยื่นอัยการส่งสำนวนยุบ ปชป.
บ่ายวันเดียวกัน ที่สำนักงานอัยการสูงสุด นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล ส.ส.เชียงใหม่ และนางนฤมล ธาดาธำรงค์ ส.ส.สมุทรปราการ พรรคเพื่อไทย เข้ายื่นคำร้องพร้อมหลักฐานต่อนายถาวร พานิชพันธ์ รองอัยการสูงสุด ขอให้ตรวจสอบกรณีที่มีผู้บริจาคเงินจำนวน 80 ล้านบาทให้พรรคประชาธิปัตย์ เพื่อส่งต่อให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยยุบพรรคประชาธิปัตย์ ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 68 โดยนายสุรพงษ์กล่าวว่า ถ้าเรื่องเงินบริจาคนอกระบบ จำนวน 80 ล้านบาท ไม่มีมูลความจริงแล้ว หมาคงไม่ขี้ เพราะนายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ ส.ส.พัทลุง พรรคประชาธิปัตย์ ที่ออกมาพูดเรื่องดังกล่าว เป็นบุคคลที่ตนเคารพนับถือ และเป็นผู้ที่ยึดมั่นในระบอบประชาธิปไตย เมื่อเห็นอะไรไม่ถูกต้องจึงออกมาทักท้วง ส่วนที่ กกต.ระบุว่าไม่พบหลักฐานการโอนเงินนั้น เป็นที่แน่นอนอยู่แล้วว่าโจรทำผิดมักจะไม่ทิ้งหลักฐานไว้ จึงขอถามหาคุณธรรมจากนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ว่า จะตรวจสอบและรับผิดชอบอย่างไร
เสื้อแดงเตรียมเคลื่อนพลเข้ากรุง
ทางด้านการเคลื่อนไหวของมวลชนเสื้อแดงตามพื้นที่ต่างๆ ช่วงเย็นวันเดียวกัน ที่บริเวณหน้าสวนสาธารณะ ริมบึงแก่นนคร จ.ขอนแก่น ใกล้บ้านของนายประจักษ์ แกล้วกล้าหาญ รมช.คมนาคม มีกลุ่มคนเสื้อแดงประมาณ 10 คน นำโดยนายยงยุทธ คงปฎิมากร นายภูเบศ ภูมิอัครเศรษฐ และนางซาบีน่า ชาห์ แกนนำและผู้ประสานงานชมรมเสื้อแดงขอนแก่น รวมตัวกันอ่านแถลงการณ์ย้ำจุดยืนคนเสื้อแดงขอนแก่นที่จะประณามนายประจักษ์ แกล้วกล้าหาญ รมช.คมนาคม และนายปัญญา ศรีปัญญา ส.ส.ขอนแก่น กลุ่มเพื่อนเนวิน โดยนายยงยุทธกล่าวว่า วันที่ 21 ธ.ค.ที่ผ่านมา มีกลุ่มคนสวมเสื้อแดงมาแสดงความยินดีกับนายประจักษ์ ทำให้หลายฝ่ายข้องใจว่าเป็นกลุ่มเดียวกับชมรมเสื้อแดงขอนแก่นผู้รักประชาธิปไตยหรือไม่ พวกตนจึงเดินทางมาเพื่อยืนยันว่ากลุ่มคนเหล่านั้นไม่ใช่ กลุ่มเสื้อแดง ขณะที่นายภูเบศกล่าวเสริมว่า กลุ่มคนเสื้อแดงขอนแก่นจะรวมตัวเดินทางเข้า กทม.เพื่อชุมนุมกดดันรัฐบาลในวันที่ 28 ธ.ค. เพื่อให้นายกฯยุบสภาคืนอำนาจให้ประชาชน ขณะนี้ได้เตรียมรถทัวร์โดยสารประมาณ 10 คัน ไว้ขนส่งผู้ที่ประสงค์จะเดินทางไปกดดันรัฐบาล สำหรับพื้นที่ภาคอีสานจะมีรถทัวร์ประมาณ 300 คัน ภาคเหนือ 200 คัน ทางกลุ่มจะประชาสัมพันธ์อีกครั้งเมื่อใกล้วันเดินทาง
ส.ส.เพื่อไทยรวมตัวหักหน้า กก.บห.
สำหรับความเคลื่อนไหวของพรรคเพื่อไทย หลังจากที่คณะกรรมการบริหารพรรคมีมติส่งผู้สมัครเลือกตั้งซ่อม ส.ส. 14 เขต ส่วนใหญ่เป็นพื้นที่ภาคอีสาน แต่ปรากฏว่า ส.ส.ของพรรคไม่เห็นด้วยกับมติดังกล่าวนั้น บ่ายวันเดียวกัน นายไพจิต ศรีวรขาน ส.ส.นครพนม พรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุม ส.ส.ของพรรคว่า การประชุมครั้งนี้มี ส.ส.เข้าร่วมเกือบ 100 คน เพื่อหารือถึงการทำหน้าที่ฝ่ายค้านและการเลือกตั้งซ่อมที่จะมีขึ้นในวันที่ 11 ม.ค. 2552 ภายหลังการประชุมนายไพจิต ศรีวรขาน ส.ส.นครพนม ให้สัมภาษณ์ว่า ที่ประชุมมี ส.ส.เข้าร่วมด้วยเกือบ 100 คน เห็นว่าคณะกรรมการบริหารพรรคส่งผู้สมัครเลือกตั้งโดยไม่ยอมฟังเสียงของ ส.ส.ในพรรค ทั้งใน จ.อุดรธานี ร้อยเอ็ด มหาสารคาม บุรีรัมย์ และนครพนม ที่ประชุมจึงมีมติให้เปลี่ยนตัวผู้ที่จะลงสมัคร ส.ส.ใหม่ นอกจากนี้ยังได้ตรวจสอบพื้นที่เลือกตั้งกับผู้สมัคร ส.ส.พรรคประชาราช พบว่าในเขตเหล่านี้พรรคเพื่อไทยมีสมาชิกพรรคเป็นสมาชิกครบ 90 วัน ดังนั้น จึงมีมติที่จะส่งผู้สมัคร ส.ส.ในเขตเหล่านี้ด้วย โดยเฉพาะในภาคอีสาน เพื่อเป็นการพิสูจน์กระแสทางการเมืองของพรรค
“ชัย” จี้ ตร.-ทหารคุมม็อบเสื้อแดง
นายชัย ชิดชอบ ประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงการเตรียมความพร้อมรับมือกลุ่ม นปช. ที่ประกาศจะ ปิดล้อมรัฐสภาในวันที่รัฐบาลแถลงนโยบาย ว่าได้ทำเรื่อง ด่วนที่สุดถึงฝ่ายบริหาร อาทิ ผบ.ตร. ผบ.ทบ. และนายกรัฐมนตรีไปแล้วว่า จะเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้น หากฝ่ายบ้านเมืองป้องกันเหตุไม่ได้ และถ้าเสื้อแดงจะทำเหมือนเสื้อเหลืองก็ไม่รู้จะทำอย่างไร ขึ้นอยู่กับพระสยามเทวาธิราช ที่จะคุ้มครองอำนาจอธิปไตย และบารมีของพระบาทสมเด็จ พระเจ้าอยู่หัว หากกลุ่ม นปช. จะมาฟัง หรือโวยวายที่รัฐสภานิดหน่อยก็ถือเป็นเรื่องธรรมดา ขอฝากวิงวอนผ่าน สื่อแจ้งให้ผู้ชุมนุมว่า อย่าบีบคั้น ส.ส. และ ส.ว.เลย
ผู้สื่อข่าวถามถึงมาตรการลงโทษสมาชิกรัฐสภาที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสม นายชัยตอบว่า จะใช้มาตรการเด็ดขาดที่สุดคือ ขับออกจากห้องประชุม เพราะเท่ากับได้บันทึกไว้ในรายงานการประชุมชั่วชีวิต ครั้งก่อนการประชุมคล้ายกับสภาไต้หวัน จึงต้องแก้ปัญหาเฉพาะหน้าสั่งปิดประชุมทันที