ที่มา ไทยรัฐ
วันนี้ประเทศไทยได้ คุณอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 27 ของประเทศไทยเรียบร้อยแล้ว พร้อมทั้งได้รัฐมนตรีในรัฐบาลอภิสิทธิ์ มาอีก 35 คน ที่ไปที่มาหรือหน้าตาของคณะรัฐมนตรี ผมคงไม่ต้องวิจารณ์เพราะสังคมวิจารณ์กันไปหมด แล้ว
แม้แต่คุณอภิสิทธิ์เองก็ยอมรับว่ายี้
ทุกอย่างย้อนไปถึงคำพูดและจุดยืนทางการเมืองของ นายกฯอภิสิทธิ์ ทั้งสิ้น เมื่อรู้ว่ายี้จะตั้งขึ้นมาทำไม ถ้าจะอ้างเหตุผลเพราะความจำเป็นและข้อจำกัดใน การจัดตั้งรัฐบาลก็แสดงว่า ประชาธิปัตย์อยากเป็นรัฐบาลมากกว่าจะมองถึงผลประโยชน์ของประเทศชาติ ประชาชน
ครบเครื่อง นายทุน กลุ่มก๊วนการเมือง ทหาร และพันธมิตรฯ
ที่วันนี้พรรคประชาธิปัตย์ก่อกรรมเอาไว้กับระบอบประชาธิปไตยก็คือ การสร้างลัทธิอุบาทว์ขึ้นมา ปรากฏการณ์งูเห่าการที่ไม่ต้องคำนึงว่าเป็นพรรคเสียงข้างน้อยหรือ เสียงข้างมาก ในการจัดตั้งรัฐบาล
โดยการซื้อตัว ส.ส.
ทำลายทั้งจริยธรรมทางการเมืองและทำลายทั้งหลักรัฐธรรมนูญในระบอบประชาธิปไตย ผมเกริ่นเอาไว้แล้วว่า การซื้อเสียงประชาชนยังไม่ร้ายเท่ากับซื้อตัว ส.ส.ในสภา เป็นการทรยศหักหลังประชาชนและดูถูกประชาชนโดย ตรง
ภาพที่นายกฯอภิสิทธิ์ไปทาบทามกลุ่มการเมืองโดยมีแกนนำที่ถูกคำสั่งศาลรัฐธรรมนูญ ห้ามมีส่วนเกี่ยวข้องกับการดำเนินการของพรรคการเมืองก็ดี ภาพที่แกนนำการเมืองเข้าหารือกับนาย ทหารเพื่อจัดตั้งรัฐบาลก็ดี หรือการซื้อตัว ส.ส. เพื่อให้ได้เสียงครบในการจัดตั้งรัฐบาลก็ดี
สังคมควรจะยอมรับหรือไม่
การที่มีบุคคลในพรรคประชาธิปัตย์ขึ้นเวทีโค่นล้มรัฐบาลชุดที่แล้ว การมีบุคคลที่ขึ้นเวทีพันธมิตรฯมารับตำแหน่งรัฐมนตรีกระทรวงสำคัญ การที่มีอดีตนายทหารที่สนิทชิดเชื้อกับ ผบ.ทบ. เข้ามาเป็นรัฐมนตรี
ทั้งหมดนี้ แม้กระบวนการทางกฎหมายจะดูดาย
แต่สังคมก็ควรคิดออกและหาทางป้องกัน ประชาชนไม่ได้รับเกียรติต่อกระบวนการบริหาร ประเทศเลยแม้แต่น้อย ประชาชนไม่ได้มาก่อนอย่างที่สัญญาเอาไว้
และภาพ ครม.ที่เห็นอยู่ในปัจจุบันก็ไม่แตกต่างจากรัฐบาลในอดีตเลยแม้แต่น้อย บางอย่างกลับหนักกว่าเดิมด้วยซ้ำ กับคำพูดที่ว่าพรรคประชาธิปัตย์ถนัดที่จะสร้างภาพมากกว่าการ ปฏิบัติผมไม่ยืนยัน แต่การที่วันๆจะขยันส่งเอสเอ็มเอส จะถือไม้กวาดทำความสะอาดทำเนียบ หรือโหยหาแต่ยายเนียมที่น่าสงสาร
แล้วประชาชนได้อะไร.
หมัดเหล็ก