ที่มา ไทยรัฐ
อ่านประวัติศาสตร์ไทยจากหนังสือรุ่นใหม่ แล้วต้องยอมรับนะครับว่า ไม่ได้อารมณ์เท่ากับอ่านจากสำนวนพงศาวดาร
สองสามปีที่แล้ว ผมซื้อพระราชพงศาวดารกรุงศรีอยุธยา ฉบับหมอบรัดเล ปีนี้ สำนักพิมพ์โฆษิต ส่งพระราชพงศาวดารกรุงธนบุรี ฉบับหมอบรัดเล มาให้
เปิดตอน อแซหวุ่นกี้ ขอดูตัวเจ้าพระยาจักรี อ่านเมื่อไหร่ ก็สนุกสะใจ เมื่อนั้น
ฝ่ายอแซหวุ่นกี้แม่ทัพ ขึ้นขี่ม้ากั้นร่มระย้าออกเลียบหน้าค่าย มีพลทหารถือปืนนกสับแห่หน้าสามพัน ทหารถือทวนตามหลังพันหนึ่ง เจ้าพระยาสุรสีห์ก็ยกพลทหารออกโจมตีพม่า
พม่าต่อรบๆกันถึงตะลุมบอน ทัพไทยต้านทานเหลือกำลังก็ถอยเข้าเมือง
รุ่งขึ้นอีกวันหนึ่ง อแซหวุ่นกี้ก็ยกพลทหารเลียบค่ายอีกเหมือนวันก่อน เจ้าพระยาสุรสีห์ขึ้นดูบนเชิงเทินแล้วให้พลทหารออกโจมตี ก็พ่ายถอยเข้าเมืองอีก
เจ้าพระยาจักรีจึงว่า ฝีมือพลทหารของเจ้าเป็นแต่ทัพหัวเมือง ซึ่งจะต่อรบกับฝีมือทัพเสนาบดีนั้นไม่ได้ พรุ่งนี้ข้าจะยกออกตีเอง
ครั้นรุ่งขึ้นเป็นวันคำรบสาม อแซหวุ่นกี้ยกออกเลียบค่ายอีก เจ้าพระยาจักรีก็ยกพลทหารออกจากเมือง เข้าโจมตีทัพอแซหวุ่นกี้แตกถอยเข้าค่าย
และอแซหวุ่นกี้ยกออกเลียบค่าย ดังนั้นทุกวัน ผลัดกันแพ้ผลัดกันชนะถึงเก้าวันสิบวัน อแซหวุ่นกี้จึงให้ล่ามร้องบอกว่า พรุ่งนี้เราอย่ารบกันเลย ให้เจ้าพระยาแม่ทัพออกมา เราจะขอดูตัว
ครั้นรุ่งขึ้นเจ้าพระยาจักรีขี่ม้ากั้นสัปทน ยกพลทหารออกไปให้อแซหวุ่นกี้ดูตัว อแซหวุ่นกี้จึงให้ล่ามถามว่า อายุเท่าใด บอกไปว่าอายุได้สามสิบเศษ
จึงถามถึงอายุอแซหวุ่นกี้บ้าง ล่ามบอกว่าอายุได้เจ็ดสิบสองปี แล้วอแซหวุ่นกี้ได้พิจารณาดูเจ้าพระยาจักรี แล้วสรรเสริญว่ารูปก็งามฝีมือก็เข้มแข็ง สู้รบเราผู้เป็นผู้เฒ่าได้ จงอุตส่าห์รักษาตัวไว้
ภายหน้าจะได้เป็นกษัตริย์เป็นแท้
แล้วให้เอาเครื่องม้าทองสำรับหนึ่ง กับสักหลาดพับหนึ่ง ดินสอแก้วสองก้อน น้ำมันดินสองหม้อ มาให้เจ้าพระยาจักรี แล้วว่า จงรักษาเมืองไว้ให้มั่นคง เราจะตีเอาเมืองพิษณุโลกให้จงได้
ในครั้งนี้ไปภายหน้าพม่าจะมาตีเมืองไทยไม่ได้อีกแล้ว
เนื้อหาพงศาวดารตอนนี้ มีคนวิจารณ์สองนัย นัยแรก เป็นคำชื่นชมยกย่องของยอดนักรบด้วยกัน นัยต่อมา อแซหวุ่นกี้ใช้เชิงเสือเฒ่าวางยาแม่ทัพไทย ให้คิดหักหาญชิงอำนาจจากเจ้าเหนือหัวของตัวเอง
ถึงวันนี้ เริ่มมีคนคุยกัน ถึงผู้นำคนใหม่ หลายคนเคยทำนาย คุณสมัคร สุนทรเวช ก็เคยพูดในสภา ให้คุณอภิสิทธิ์รักษาเนื้อตัวให้จงดี
วันหน้าจะเป็นใหญ่
แต่ที่ไม่มีใครกล้าทำนาย...เป็นนายกฯได้แล้ว จะเป็นได้นานแค่ไหน เพราะแค่เริ่มๆก็เจอข้อครหารัฐบาลไฮแจ๊คเข้าไปเต็มๆ
ก่อน ครม.เข้ารับโปรดเกล้าฯ ผมเห็นชักแถวถ่ายภาพกันหน้าทำเนียบฯ ชวนให้คิดไปไกล ถ้าไม่ได้คุณูปการจากพันธมิตรฯ โอกาสถ่ายภาพแบบนี้ ก็คงไม่มี
ถ่ายภาพแล้ว ลองประกาศทำให้ทำเนียบเป็นเขตปลอดคอรัปชันกันสักรัฐบาลซีครับ เผื่อจะอยู่ในทำเนียบได้นานๆ ไม่ได้ถูกยึดไปง่ายๆ เหมือนที่เคยยึดกันไปแล้ว.
กิเลน ประลองเชิง