ที่มา ไทยรัฐ
เดี๋ยวจะหาว่าชอบติเรือทั้งโกลน รัฐบาลอภิสิทธิ์ ไม่มีเวลาแม้แต่ จะฮันนีมูน เพราะปัญหาเศรษฐกิจที่จ่อคอหอยอยู่ ณ เวลานี้ หนักหนาสาหัสและรู้สึกว่าไม่ค่อยจะมีความหวังกับรัฐบาลเท่าไหร่ เพราะความไม่น่าเชื่อถือของทีม ครม.เศรษฐกิจ
ขี้เหร่ทั้งนั้น
ในวิกฤติเช่นนี้ การแก้ปัญหาไม่ต้องการความหล่อหรือเพราะมีเส้นเป็นร่างทรงตัวแทนใคร แต่ต้องการมืออาชีพจริงๆ เมื่อหน้าตา ครม.เศรษฐกิจเป็นแค่มือสมัครเล่น จะให้มีความหวังได้อย่างไร
แม้แต่นายกฯอภิสิทธิ์เองจะไปรอดหรือเปล่า
อย่างที่ผมเคยเกริ่นมาหลายครั้งว่าวิกฤติเศรษฐกิจที่ลุกคืบมาเรื่อยๆ จะส่งผลให้เห็นถึงผลกระทบต้นปีหน้าแน่นอน โดมินิค สเตราส์คาห์น กรรมการผู้อำนวยการ ไอเอ็มเอฟ ประสานเสียงตรงกันกับผู้นำการเงินโลก เตือนว่าปีหน้าเศรษฐกิจจะย่ำแย่กว่านี้
อาจจะเลวร้ายกว่าที่คิด
การขยายตัวทางเศรษฐกิจโลกปีหน้า จะเหลือประมาณร้อยละ 2.2 เท่านั้น เป็นหน้าที่ของรัฐบาลแต่ละประเทศจะต้องหาทางป้องกันไม่ให้วิกฤติเศรษฐกิจลุกลาม โดยการกระตุ้นเศรษฐกิจจากภาครัฐเพื่อให้เกิดการใช้จ่ายในภาคประชาชน ในวงเล็บจะต้องเป็นการใช้จ่ายแบบพอเพียง
คือรู้จักประหยัดด้วย
การแก้ปัญหาจะต้องอาศัยความยืดหยุ่น และ วิสัยทัศน์ของผู้นำ เนื่องจากผลกระทบทางด้านวิกฤติเศรษฐกิจของแต่ละประเทศจะไม่เหมือนกัน
งานนี้จะเป็นการพิสูจน์กึ๋นของผู้นำอีกกระทอก
เช่นเดียวกับ คุณโอฬาร ไชยประวัติ อดีตรองนายกฯพูดเอาไว้น่าคิด ภาคเอกชนควรจะปรับกลยุทธ์ทางด้านธุรกิจกันใหม่ เพื่อรองรับกับอัตราดอกเบี้ยที่อาจจะลดลงมาเหลือร้อยละ 0 ด้วยซ้ำ เนื่องจากดูแนวโน้มธนาคารกลางประเทศต่างๆปรับลดดอกเบี้ยนโยบายกันเป็นทิวแถว
ดอกเบี้ยธนาคารกลางสหรัฐฯเหลือร้อยละ 0.25 ธนาคารกลางญี่ปุ่นเหลือร้อยละ 0.10 เพื่อหวังจะกระตุ้นการใช้จ่าย หนักกว่าวิกฤติฟองสบู่เมื่อปี 2540 ที่อัตราดอกเบี้ยต่ำสุดก็อยู่แค่ ร้อยละ 1-2
คิดดูสมมติอัตราดอกเบี้ยเหลือร้อยละ 0 จริงๆ ทั้งเงินกู้เงินฝากอะไรจะเกิดขึ้น อันที่จริงแล้วมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเช่นนี้ ค่อนข้างจะเสี่ยง ตราบใดที่คนยังไม่มั่นใจกับระบบเศรษฐกิจก็ไม่มีประโยชน์ ในทางตรงกันข้ามคนจะตระหนักถึงวิกฤติมากขึ้นและอาจจะไม่กล้าใช้เงินมากขึ้นก็ได้
แต่ที่ได้รับผลกระทบโดยตรงก็คือ สถาบันการเงิน จะทำมาหารับประทานอะไร ผมพูดตรงๆที่เป็นห่วงมากที่สุดก็คือ แบงก์ล้ม ในประวัติศาสตร์เคยมีมาแล้วเมื่อครั้งที่ประชาธิปัตย์เป็นรัฐบาล
ปิดสถาบันการเงินกันอุตลุด.
หมัดเหล็ก