ที่มา มติชนออนไลน์
พท.ตีปี๊บศัตรูเก่าตามฆ่า "แม้ว" ต้องหลบๆ ซ่อนๆ ไปที่ไหนต้องปิดเป็นความลับข้าม ปท. สันติบาลอุบความลับตามติดที่อยู่ "สุเทพ"เชื่อแม้วเสื่อมปลุกคนไม่ขึ้น "มาร์ค-สนั่น" ให้กลับมาสู้ ผบ.ทบ.ท้าพิสูจน์ เสื้อแดงลั่น31ม.ค.เคลื่อนใหญ่แน่ อธิการ"มช."แจ้งเอาผิดทำเสียหายม็อบอยุธยาปลุกสู้-ศรีสะเกษไม่ร่วม
พท.ตีปี๊บศัตรูเก่าตามฆ่าแม้วข้ามปท.
นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล ส.ส.แพร่ พรรคเพื่อไทย กลุ่มวังบัวบาน ใกล้ชิดนางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ กล่าวถึง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ระบุมีการปองร้ายในต่างประเทศเมื่อวันที่ 26 มกราคมว่า ได้ยินข่าวมาตลอดมีความพยายามจากศัตรูกลุ่มเก่า ที่จะทำร้าย พ.ต.ท.ทักษิณทำให้ต้องระวังตัวตลอดเวลา ซึ่งเป็นความพยายามจากผู้มีอำนาจที่อยู่ในประเทศไทยกลุ่มเดิมและกลุ่มเดียวกับที่เคยวางแผนคาร์บอม พ.ต.ท.ทักษิณในสมัยเป็นนายกฯ ขณะนี้ ยังพบว่ามีการส่งคนไปติดตามความเคลื่อนไหวในต่างประเทศ ซึ่งทำให้ พ.ต.ท.ทักษิณต้องหลบๆ ซ่อนๆ ไปที่ไหนต้องปิดเป็นความลับ โดยเฉพาะ ส.ส.พรรคเพื่อไทย บางคนที่รู้ว่า พ.ต.ท.ทักษิณจะไปที่ไหนหรือพักอยู่ที่ใดต้องปฏิเสธว่าไม่ทราบ เมื่อมีใครถามถึง พ.ต.ท.ทักษิณ
นายวรวัจน์กล่าวว่า กระแสข่าวลอบทำร้ายทราบกันดีในหมู่ ส.ส.พรรคเพื่อไทย ล่าสุด พ.ต.ท.ทักษิณต้องระวังตัวมากขึ้น ไม่เอาตัวเองเข้ามายุ่งเกี่ยวกับการขับเคลื่อนต่อสู้ของพรรค ปล่อยให้นางเยาวภา และ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร น้องสาว พ.ต.ท.ทักษิณ ดูแลกิจการของพรรค แม้จะมีการโฟนอินร่วมกับกลุ่มผู้ดำเนินรายการความจริงวันนี้บ้างก็เป็นเพียงทักทายประชาชนและสีสันทางการเมืองเท่านั้น
ด้าน นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผู้ดำเนินรายการความจริงวันนี้ กล่าวว่า พ.ต.ท.ทักษิณเคยเล่าให้ฟังขณะเป็นนายกฯว่า มีคนคนหนึ่งที่เคยอยู่ร่วมขบวนการลอบสังหาร และร่วมวางแผนทั้งหมดได้มาเล่าให้ฟังในภายหลัง มีการพูดชื่อบุคคลที่เป็นผู้บงการและผู้ร่วมปฏิบัติการทั้งหมดว่า ร่วมกันลอบสังหารหลายครั้งในประเทศ แต่การลอบสังหารขณะอยู่ในต่างประเทศนั้น พ.ต.ท.ทักษิณยังไม่เคยเล่าให้ฟัง แต่เคยได้ยินมาบ้างว่ามีการส่งคนไปติดตามดูความเคลื่อนไหว ขณะที่นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า คนระดับอย่างอดีตนายกฯคงจะไม่ออกมาพูดเรื่องแบบนี้หากไม่มีข้อมูลจริงๆ สันติบาลอุบความลับตามติดที่อยู่
พล.ต.ท.ธีระเดช รอดโพธิ์ทอง ผู้บัญชาการตำรวจสันติบาล (ผบช.ส.) กล่าวว่า ตำรวจสันติบาลได้บันทึกเทปและตรวจสอบคำพูด พ.ต.ท.ทักษิณที่ออกอากาศแล้ว พบว่าเป็นการพูดเรื่องทั่วไป ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง โดยเฉพาะกรณีพูดพาดพิงถึงสถาบัน เข้าข่ายคดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพนั้น ตรวจสอบแล้วไม่พบว่ามี ส่วนกรณีที่พูดพาดพิงหรือคิดว่าหมิ่นประมาท ใครที่คิดว่าเข้าข่ายแจ้งความดำเนินคดีได้
ส่วนการตรวจสอบที่อยู่ที่แน่ชัด พ.ต.ท.ทักษิณเพื่อดำเนินคดีตามหมายจับจากการโฟนอินนั้น พล.ต.ท.ธีระเดชกล่าวว่า ขอให้วางใจมีการตรวจสอบอย่างเต็มที่ แต่ขั้นตอนหรือเบาะแสนั้นไม่สามารถเปิดเผยได้เป็นความลับเนื่องจากเป็นเรื่องสำคัญ
"สุเทพ"เชื่อแม้วเสื่อมปลุกคนไม่ขึ้น
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี นายสุเทพ เทือกสุบรรณ และ พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ รองนายกฯ พร้อมด้วย พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ต่างประสานเสียงไปในแนวทางเดียวกันให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีรตนายกรัฐมนตรี ที่โฟนอินเรียกร้องขอความเป็นธรรมข้ามชาติผ่านมางรายการ ความจริงวันนี้Ž ทางสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมดี สเตชั่น หรือดีทีวี เมื่อวันที่ 25 มกราคมที่ผ่านมา ให้กลับมาต่อสู้คดีตามกระบวนการยุติธรรมในประเทศไทยดีกว่าเคลื่อนไหวอยู่นอกประเทศ และปฏิเสธกรณี พ.ต.ท.ทักษิณอ้างว่ามีการส่งคนตามฆ่า
ทั้งนี้นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการโฟนอินของพ.ต.ท.ทักษิณว่า ประชาชนส่วนใหญ่ฟังข้อมูลข่าวสารจากหลายทาง คงวินิจฉัยได้ว่าอะไรถูกหรือผิด ไม่เหมือนยุคที่ พ.ต.ท.ทักษิณเป็นนายกฯ ซึ่งได้ฟังรัฐบาลข้างเดียว การโฟนอินของ พ.ต.ท.ทักษิณคาดว่าหน่วยงานที่เกี่ยวข้องคงบันทึกเทปไว้ และจะไม่ปล่อยปละละเลย ส่วนการเคลื่อนไหวโจมตีรัฐบาลทั้งในและนอกสภานั้น ใครจะเคลื่อนไหวอย่างไรก็เคลื่อนไหวไป แต่ประชาชนจะเป็นคนกดดันว่าอยากให้บ้านเมืองสงบเสียที ให้รัฐบาลเข้ามาแก้ไขปัญหาของประเทศ อย่ามาก่อกวนวุ่นวายกัน ต้องเจอคำพูดที่กดดันอย่างนี้
"ไม่กล้าพูดว่า พ.ต.ท.ทักษิณเสื่อมหรือไม่ แต่ถ้า พ.ต.ท.ทักษิณพูดจาไม่ดี ให้ความหมายที่แรงอย่างนี้ก็จะเสียหายไปเรื่อย และไม่คิดว่าจะปลุกประชาชนลุกขึ้นมาต่อต้านรัฐบาลได้ โดยสังเกตจากการพูดที่ผ่านมาว่าไม่เห็นจะทำให้คนตื่นเต้นกันสักเท่าไร" นายสุเทพกล่าว
ถามใช้เครื่องบินส่วนตัวใครจะฆ่า
ผู้สื่อข่าวถามว่า พ.ต.ท.ทักษิณอ้างว่าถูกลอบสังหาร นายสุเทพกล่าวว่า ใครจะไปล่าสังหาร พ.ต.ท.ทักษิณได้ เพราะอ้อนว่าการไปอยู่ต่างประเทศนั้นลำบาก แต่มีเครื่องบินส่วนตัว บินไปไหนมาไหนได้ ส่วนที่ พ.ต.ท.ทักษิณเปรียบตัวเองเป็นเนลสัน แมนเดลลา นักต่อสู้ชาวแอฟริกาใต้ ที่ต้องโทษจำคุกนาน 40 ปี แต่ยังได้รับเลือกให้เป็นประธานาธิบดีหลังจากนั้น นายสุเทพกล่าวว่า คำพูดล่อแหลมเกินไป ไม่อยากจะวิจารณ์ เมื่อถามว่า คำพูดของ พ.ต.ท.ทักษิณแสดงให้เห็นว่ามีความคิดจะล้มรัฐบาลหรือไม่ นายสุเทพกล่าวว่า "คำพูดของคุณทักษิณ ทำให้รู้สึกว่าจะทำมากกว่านั้น"
ส่วนการนำกฎหมายมาจัดการกับ พ.ต.ท.ทักษิณเพื่อป้องกันปลุกระดมประชาชนนั้น นายสุเทพกล่าวว่า คิดว่ายาก เนื่องจาก พ.ต.ท.ทักษิณหนีคำพิพากษาศาลในคดีที่ดินรัชดาฯไปอยู่ต่างประเทศ แม้จะถูกตั้งข้อกล่าวหาสักเท่าไหร่ ก็ไม่ได้ตัวมาลงโทษ แต่ยืนยันว่าจะไม่ปล่อยไว้ เช่น คนจัดรายการให้พ.ต.ท.ทักษิณ หากปรากฏว่าผิดกฎหมายก็ต้องดำเนินการไป ส่วนคนที่อยู่ต่างประเทศ ต้องดูไปก่อนว่าจะดำเนินการอย่างไร
"มาร์ค-สนั่น" ให้กลับมาสู้คดีดีกว่า
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกฯให้สัมภาษณ์ที่อาคารรัฐสภา ที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ระบุว่าจะเรียกร้องความเป็นธรรมไม่ว่าจะต้องไปอยู่ในนรกหรือสวรรค์ว่า "ความเป็นธรรมอยู่ที่ประเทศไทยนี่แหละครับ กลับมาเถอะครับ"
ด้าน พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ รองนายกรัฐมนตรีและประธานที่ปรึกษาพรรคชาติไทยพัฒนา กล่าวว่า คงไม่มีใครไปตามฆ่า พ.ต.ท.ทักษิณ ในต่างประเทศ เพราะคนไทยไม่ทำอะไรถึงขนานนั้น พ.ต.ท.ทักษิณอาจจะพะวงไปเอง เมื่อถามว่า การไม่หยุดเคลื่อนไหวของ พ.ต.ท.ทักษิณสร้างความลำบากให้รัฐบาลหรือไม่ พล.ต.สนั่นกล่าวว่า คงรบกวนบ้าง แต่ไปห้ามไม่ให้พูดคงไม่ได้เพราะเป็นสิทธิเสรีภาพบุคคล เดี๋ยวพูดๆ ไป พ.ต.ท.ทักษิณคงเบื่อไปเอง เพราะสาระต่างๆ มันก็ซ้ำอยู่อย่างนี้ แต่ถ้า พ.ต.ท.ทักษิณกลับเข้ามามอบตัว ต่อสู้คดีในประเทศไทยก็จะได้รับความเป็นธรรมตามกระบวนการยุติธรรมและทุกอย่างก็จบ
"ยอมมาติดคุกเหมือนเนลสัน เเมนเดลลา มาเถิด ยังมีโอกาสที่จะหลุดได้ ถ้ามาอยู่ในเมืองไทยยังมีโอกาสรอดเยอะ ไม่ต้องไปโดดเดี่ยวอย่างนั้น คนไทยให้อภัยกันได้ ซึ่งผมอยากให้ พ.ต.ท.ทักษิณกลับเข้ามา" รองนายกรัฐมนตรีกล่าว
รอออกกม.จัดการสถานีดีทีวี
นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การที่พ.ต.ท.ทักษิณประกาศจะสู้ทั้งในนรกและสวรรค์ถือเป็นการท้าทายที่พูดจาสอดคล้องกับความเคลื่อนไหวของพรรคเพื่อไทยที่พยายามจะขัดขวางการทำงานของรัฐบาล แต่ พ.ต.ท.ทักษิณมีความพิเศษที่เป็นอดีตนายกฯเมื่อพูดจึงมีน้ำหนักมากกว่าและมีท่าทีที่ท้าทายเช่นนี้มาตลอด
ส่วนการออกอากาศของสถานทีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมดีทีวีนั้น นายสาทิตย์ กล่าวว่า หากร่าง พ.ร.บ.จัดสรรคลื่นความถี่ออกมาบังคับใช้ก็จะสามารถเข้าไปดูแลช่องว่างตรงนี้ได้ โดยหลังจากพิจารณางบประมาณกลางปีแล้วเสร็จ รัฐบาลก็จะนำร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าวเข้าสู่การพิจารณา แต่ระหว่างนี้คงไม่เจรจากับทางผู้ดำเนินรายการดีทีวีเพราะรัฐบาลมีหน้าที่ในการรักษากฎหมาย
"ผบ.ทบ."ท้า"ทักษิณ"กลับมาพิสูจน์
พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ. กล่าวว่า คนไทยทุกคนต้องอยู่กับปัจจุบันและทำให้สังคมเราอยู่ร่วมกันได้ เรามีปัญหามากมายที่ต้องฝ่าฟัน ยืนยันว่าหากประเทศจะฝ่าฟันไปได้นั้น ต้องสมัครสมานสามัคคีกัน เอาความอยู่รอดของชาติเป็นหลัก เรื่องอื่นเป็นเรื่องรอง ทั้งนี้ กองทัพไม่ได้ประเมินสถานการณ์ชุมนุมใหญ่ 31 มกราคมนี้
ผู้สื่อข่าวถามว่า พ.ต.ท.ทักษิณระบุว่า กองทัพอยู่เบื้องหลังการเปลี่ยนขั้วรัฐบาลและจะเคลื่อนไหวเรียกร้องความเป็นธรรม พล.อ.อนุพงษ์กล่าวว่า ใครจะกล่าวอ้างอะไรแล้วแต่ ตนถือว่าประเทศต้องเชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรมว่าจะทำให้ทุกคนสามารถมีโอกาสที่จะมีความชอบธรรมในการต่อสู้
เมื่อถามว่า อดีตนายกฯควรยุติการเคลื่อนไหวหรือไม่ พล.อ.อนุพงษ์กล่าวว่า แล้วแต่ พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่มีข้อคิดเห็น ส่วน พ.ต.ท.ทักษิณระบุว่า มีการเตรียมลอบสังหารกองทัพมีการตรวจสอบหรือไม่ พล.อ.อนุพงษ์ย้อนถามกลับทันทีว่า "จะถามให้เป็นประเด็นทำไม ผมไม่เห็นจะเกี่ยวข้องกองทัพ ซึ่งกองทัพจะไปตรวจสอบที่ไหนได้ ต้องถามท่านเอง ถามต่อว่า หากอดีตนายกฯกลับประเทศจะมีชีวิตปกติได้หรือไม่ พล.อ.อนุพงษ์กล่าวว่า "แน่นอน เพราะท่านยังมีโอกาสที่จะกลับเข้ามาต่อสู้ทางกระบวนการยุติธรรม และผมมั่นใจว่าจะต้องปลอดภัย หากมีความกล้าหาญกลับมาพิสูจน์กันทางกระบวนยุติธรรม"
เสื้อแดงลั่น31ม.ค.เคลื่อนใหญ่แน่
ส่วนความเคลื่อนไหวของกลุ่มเสื้อแดง นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย และแกนนำกลุ่มคนเสื้อแดง กล่าวที่รัฐสภา ถึงการโฟนอินเข้ารายการทางสถานีดีทีวีของ พ.ต.ท.ทักษิณ ว่า ไม่จำเป็นจะต้องโฟนอินทุกสัปดาห์ ครั้งต่อไปจะดูเวลาที่เหมาะสม ส่วนการชุมนุมใหญ่ของกลุ่มคนเสื้อแดงในวันที่ 31 มกราคมนี้ อยากให้จับตาเพราะจะมีการเคลื่อนขบวนไปยังที่แห่งหนึ่ง แต่ยังไม่ขอเปิดเผย ขอให้ทุกคนอดใจรอคืนดังกล่าว
นายจตุพรกล่าวถึงการส่งคนลอบสังหารอดีตนายกฯว่า สิ่งที่ พ.ต.ท.ทักษิณได้พูดไปเพื่อเป็นการเตือนคนที่มีหน้าที่รับผิดชอบในบ้านเมืองให้รับทราบในประเด็นเหล่านี้
ขณะที่ นายสงวน พงษ์มณี ส.ส.ลำพูน พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า การเคลื่อนไหวของมวลชนเสื้อแดงในปัจจุบันเป็นการเคลื่อนไหวแบบชาวพุทธคือเคลื่อนไหวด้วยเงินบริจาค แตกต่างจากการนำของนายเนวิน ชิดชอบ อดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย หัวหน้ากลุ่มเพื่อนเนวิน และนายยงยุทธ ติยะไพรัช อดีตกรรมการบริหารพรรคพลังประชาชน ที่เคลื่อนไหวโดยขอเงินทุน แต่ขณะนี้เสื้อแดงที่เป็นกลุ่มของคนทั้ง 2 ได้ออกจากระบบเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ในวันที่ 31 มกราคมนี้ คนเสื้อแดงจะจัดการชุมนุมขึ้นเพื่อแสดงให้เห็นถึงเอกภาพในการเคลื่อนไหว ทั้งนี้ ในพื้นที่ทราบว่าชาวบ้านเริ่มถูกข่มขู่ไม่ให้มาร่วมชุมนุมในวันดังกล่าว มท.1ถกรับมือเสื้อแดงชุมนุม31ม.ค.
เช้าวันเดียวกัน ที่กระทรวงมหาดไทย นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ให้สัมภาษณ์หลังประชุมเสวนายามเช้า (มอร์นิ่งบีฟ) มี นายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ นายถาวร เสนเนียม รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย และผู้บริหารกระทรวงมหาดไทย เข้าร่วมหารือสถานการณ์กลุ่มเสื้อแดงจะชุมนุมใหญ่ในวันที่ 31 มกราคม ว่า แจ้งให้ผู้ว่าราชการจังหวัด และนายอำเภอ เน้นทำความเข้าใจกับผู้ชุมนุมเสื้อแดงว่า อะไรควร ไม่ควร และอย่าให้เกิดปัญหาต่อสังคม ให้ใช้วิธีการละมุนละม่อม ไม่มีการสกัดกั้นการชุมนุม
ส่วนกลุ่มชุมนุมเสื้อแดงขับไล่นายสุเทพ รองนายกฯที่เชียงใหม่ นายชวรัตน์กล่าวว่า ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่จะต้องรายงานมาว่า ทำไมจึงมีสถานการณ์อย่างนี้เกิดขึ้น ต้องให้โอกาสชี้แจงก่อน ส่วนการโฟนอินของ พ.ต.ท.ทักษิณจะทำให้กลุ่มเสื้อแดงมารวมตัวกันมากขึ้นหรือไม่นั้น นายชวรัตน์กล่าวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นหัวหน้ารัฐบาล 5-6 ปี ความนิยมยังคงมีอยู่ ถือเป็นเรื่องปกติ
แฉถูกท้าทายเหตุคลั่งไล่"สุเทพ"
นายสงวนยังกล่าวถึงกรณีที่นายสุเทพถูกกลุ่มคนเสื้อแดงขับไล่ที่ จ.เชียงใหม่ ว่าขอถามนายสุเทพเดินทางไป จ.เชียงใหม่ กับใคร และใครเป็นคนประกาศท้าทายเยาะเย้ยถากถางคนเสื้อแดงผ่านทางวิทยุชุมชนก่อน จึงไม่ใช่เรื่องที่คนของพรรคประชาธิปัตย์ไป จ.เชียงใหม่ แล้วเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น แต่เป็นเรื่องที่กลุ่มคนฮักเชียงใหม่ถูกท้าทาย เพราะขนาดนายไตรรงค์ สุวรรณคีรี ส.ส.สัดส่วน พรรคประชาธิปัตย์ไปบรรยายที่ จ.เชียงใหม่ บ่อยครั้งก็ไม่เคยเจอเหตุการณ์เหมือนนายสุเทพ
เสื้อแดงชม.จี้ย้ายตร.ยิงยางรถ
วันเดียวกัน เวลา 11.00 น. นายเพชรวรรต วัฒนพงศ์ศิริกุล แกนนำกลุ่มรักเชียงใหม่ 51 พร้อมสมาชิกจำนวน 40 คน ยื่นหนังสือและดีวีดีเหตุการณ์ต่อนายสุรชัย จงรักษ์ ปลัด จ.เชียงใหม่ ผ่านไปถึงผู้ว่าราชการ จ.เชียงใหม่ ขอให้ตรวจสอบการถือครองที่ดินสำนักปฏิบัติธรรมสันติอโศก สาขาภูผาฟ้าน้ำ หมู่ 5 บ้านแม่เลา ต.ป่าแป๋ อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ ภายใน 15 วัน และขอให้ย้ายตำรวจที่ใช้อาวุธปืนยิงใส่ยางรถยนต์ของประชาชนที่ขับฝ่าด่านตำรวจบริเวณหน้ามหาวิทยาลัยเชียงใหม่ (มช.) ระหว่างนายสุเทพ รองนายกฯ มาร่วมงานสมาคมศิษย์เก่า มช. ออกจากพื้นที่ภายใน 5 วัน ซึ่งทางกลุ่มทราบชื่อและสังกัดแล้ว เพื่อลดความขัดแย้งระหว่างเจ้าหน้าที่รัฐกับประชาชน
"สำหรับกลุ่มคนเสื้อแดงบางคนทำร้ายอาจารย์ มช. (นางเพ็ญสุวรรณ นาคะปรีชา ผู้อำนวยการสำนักห้องสมุด มช.) นั้น ขอให้เจ้าหน้าที่ดำเนินคดีตามกฎหมาย และจะติดตามตัวให้ด้วย ส่วนกรณีรถยนต์ของคน มช.ถูกของมีคมกรีดนั้น ไม่ทราบและไม่น่าเป็นไปได้ และขอปฏิเสธว่าไม่รู้จักหรือเกี่ยวข้องกับคนขับรถพุ่งชนด่านตำรวจ" นายเพชรวรรตกล่าว
อธิการ"มช."แจ้งเอาผิดทำเสียหาย
นายสุรชัย จงรักษ์ กล่าวว่า จะเร่งส่งสำเนาให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องติดตามความคืบหน้าทั้งที่ดิน นายอำเภอ และผู้บังคับการตำรวจภูธร (ผบก.ภ.) จว.เชียงใหม่ แนวทางของ จ.เชียงใหม่ คือพยายามสร้างความสมานฉันท์ และแจ้งแกนนำเสื้อแดงว่าเหตุที่เกิดสร้างความเสียหายต่อภาพลักษณ์เมืองท่องเที่ยว
พล.ต.ต.สุเทพ เดชรักษา ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่ กล่าวว่า ตำรวจเจรจากับคนขับรถคันที่เจ้าหน้าที่ยิงยางได้ด้วยดี และเรื่องจบแล้ว ส่วนจะมีคนมายื่นเรื่องกล่าวหาตำรวจก็ไม่เป็นไรจะพยายามหาทางเจรจาเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาลุกลามขึ้นไปกว่านี้
เวลา 17.40 น. นายพงษ์ศักดิ์ อังกสิทธิ์ อธิการบดี มช. กล่าวว่า มอบอำนาจให้หัวหน้าสำนักงานกองกลางไปแจ้งความกับตำรวจ สภ.ภูพิงคราชนิเวศน์ ดำเนินคดีกับกลุ่มบุคคลที่ทำลายทรัพย์สินของทางราชการแม้ไม่ทราบว่าใครเป็นผู้กระทำก็ตาม
สมาคมศิษย์เก่าแถลงตำหนิม็อบ
"วันนี้ได้นำผู้บริหาร มช.นำกระเช้าดอกไม้ไปมอบให้อาจารย์เพ็ญสุวรรณ เพื่อสร้างขวัญและกำลังใจแก่บุคลากร ผู้บริหารหารือกับทุกส่วนที่เกี่ยวข้องรวมทั้งนักศึกษาถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเพื่อระมัดระวังและป้องกันการโยงเรื่องการเมืองมาสู่สถาบันการศึกษา" นายพงษ์ศักดิ์กล่าว
ทางด้านสมาคมนักศึกษาเก่ามหาวิทยาลัยเชียงใหม่ออกแถลงตำหนิการกระทำของกลุ่มบุคคลในงานราตรีอ่างแก้ว มช.ฉลองวาระครบรอบ 45 ปี
"สมาคมขอตำหนิการกระทำดังกล่าว และขอเรียนไปยังผู้รับผิดชอบในบ้านเมืองโดยเฉพาะตำรวจว่าเหตุการณ์เช่นนี้มีการกระทำผิดกฎหมายและละเมิดสิทธิผู้อื่น ไม่ควรปล่อยให้เกิดขึ้น ขอวิงวอนให้ผู้มีหน้าที่รับผิดชอบปฏิบัติหน้าที่ดูแลรักษาความสงบและความปลอดภัยแก่สาธารณชนโดยเคร่งครัด" ในแถลงการณ์ระบุ
เสื้อแดงอยุธยาปลุกสู้-ศรีสะเกษไม่ร่วม
ขณะที่กลุ่มคนเสื้อแดงรักประชาธิปไตยประตูน้ำพระอินทร์ จ.พระนครศรีอยุธยา พร้อมสมาชิกเดินแจกเอกสารเชิญชวนประชาชนเขตตลาดประตูน้ำพระอินทร์ และตลาดนิคมอุตสาหกรรมนวนคร จ.ปทุมธานี ให้ไปร่วมงานรวมพลังสู้ คู่ทักษิณ ในช่วงเย็นวันที่ 31 มกราคม ที่หน้าเทศบาลตำบลประตูน้ำพระอินทร์ นางมยุรี เศวตาศัย แกนนำกลุ่มเสื้อแดง กล่าวว่า งานดังกล่าวเปิดเข้าร่วมฟรี และนายจักรภพ เพ็ญแข แกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) นายอดิศร เพียงเกษ นายสุรชัย แซ่ด่าน และนายขวัญชัย ไพรพนา แกนนำกลุ่มคนรักอุดร จะมาร่วมในกิจกรรม โดยสลับช่วงเวลากันมา เพราะจัดงานแบบเดียวกันที่กรุงเทพมหานคร ส่วนงานที่ จ.พระนครศรีอยุธยา จัดสำหรับให้คนต่างๆ จังหวัดรวมพลังเหมือนเช่นใน กทม.
นายจักรภพ สถาวร อายุ 51 ปี แกนนำกลุ่มเสื้อแดง จ.ศรีสะเกษ กล่าวว่า ได้รับการประสานจากแกนนำกลุ่มเสื้อแดงในหลายจังหวัดขอให้ไปร่วมชุมนุมใหญ่ที่กรุงเทพฯ วันที่ 31 มกราคม แต่การหารือร่วมกับแกนนำเสื้อแดงในพื้นที่ จ.ศรีสะเกษ มีมติว่าจะไม่เข้าร่วมชุมนุม เนื่องจากไม่มีเหตุผลสมควร ควรเปิดโอกาสให้รัฐบาลทำงานไปก่อน
พธม.เอาผิด3ส.ส.-ผู้ว่าฯ-ตร.ร้อยเอ็ด
เวลา 17.00 น. ที่ จ.ร้อยเอ็ด น.ส.นภาพร พวงช้อย นพ.ธีระวุฒิ เถาว์ทิพย์ แกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) จ.ร้อยเอ็ด เข้าแจ้งความ สภ.เมืองร้อยเอ็ด ให้ดำเนินคดีกับกลุ่มเสื้อแดงจำนวน 10 คน ฐานร่วมกันบุกรื้อเวทีและเก้าอี้ของกลุ่มพันธมิตร เมื่อวันที่ 24 มกราคม
น.ส.นภาพรกล่าวว่า ที่ประชุมกลุ่มพันธมิตรมีมติให้ดำเนินคดีกับกลุ่มคนเสื้อแดงทั้ง 10 คน ได้แก่ นายนิสิต สินธุไพร อดีต ส.ส.ร้อยเอ็ด นายศักดา คงเพชร นายนิรมิตร สุจารี นายวรางวงษ์ พันธุ์ศิลา ทั้ง 3 คน เป็นส.ส.ร้อยเอ็ด พรรคเพื่อไทย นายธนพล โอนะพนม สมาชิกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (ส.อบจ.) อ.พนมไพร จ.ร้อยเอ็ด นายณรงค์ นาอ่อน นายกเทศมนตรี เทศบาลนิเวศน์ นายวิเชียร์ชนินทร์ สินธุไพร และอีก 2 คนไม่ทราบชื่อ ในข้อหาคุกคามข่มขู่ทำลายทรัพย์สิน
"รวมทั้งแจ้งความดำเนินคดีกับนายพงษ์ศิริ กุสุมภ์ ผู้ว่าฯร้อยเอ็ด พล.ต.ต.สุพรรณ์ ประเสริฐสม ผู้บังคับการตำรวจภูธร จว.ร้อยเอ็ด นายอำเภอ เจ้าหน้าที่ตำรวจร่วมทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 ละเลยการปฎิบัติหน้าที่" แกนนำ พธม.ระบุ
นายพงษ์ศิริ กุสุมภ์ กล่าวว่า รู้สึกเสียใจที่ถูกแจ้งความทั้งที่ทุกคนตั้งใจทำงานเพื่อระงับเหตุร้าย และพยายามอดทนกับทุกฝ่ายไม่ให้เกิดเหตุปะทะกัน กระทั่งควบคุมสถานการณ์ได้โดยไม่เสียเลือดเนื้อ แต่เมื่อมีการแจ้งความพร้อมจะปฏิบัติตามกฎหมาย