ที่มา ไทยรัฐ
เช้าวันนี้ (27 ม.ค.) นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) ให้สัมภาษณ์สถานีข่าวทีเอ็นเอ็น ถึงการประชุมร่วมกันของรัฐสภาโดยมีวาระสำคัญคือ การพิจารณาให้ความเห็นชอบเกี่ยวกับความร่วมมือในกรอบอาเซียน ตามที่ ครม.เสนอ ว่า วานนี้ได้อภิปรายไปแล้ว 34 ฉบับ เหลือที่จะอภิปรายในวันนี้อีก 10 ฉบับ อาทิ ของกระทรวงคมนาคม 3 ฉบับ กระทรวงสาธารณสุข 2 ฉบับ กระทรวงแรงงาน 1 ฉบับ กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ 1 ฉบับ ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นบันทึกความเข้าใจ
ประธานวิปรัฐบาล กล่าวถึงการเตรียมเสนอตั้งคณะกรรมาธิการพิจารณาข้อดีข้อเสีย ว่า แม้จะเป็นประโยชน์ แต่อาจทำให้เสียเวลา ดังนั้นแม้ฝ่ายค้านเสนอ แต่ทางพรรคร่วมรัฐบาลก็ต้องลงมติให้กรอบประชุมความร่วมมือระหว่างประเทศผ่านสภา เพราะไม่สามารถเลื่อนการประชุม อาเซียน ซัมมิท ได้อีก
นายชินวรณ์ กล่าวด้วยว่า ได้ขอความร่วมมือจาก ส.ส.พรรคร่วมรัฐบาลทุกคน ให้เตรียมพร้อมอยู่ร่วมในห้องประชุมรัฐสภาตลอดเวลา ส่วนวันนี้ จะมีเรื่องใดที่จำเป็นจะต้องลงมติหรือไม่ ก็ขึ้นอยู่กับเสียงข้างมากในสภา และระบุว่า มีแค่ในประเทศไทยเท่านั้น ที่พูดถึงบทลงโทษ ส.ส.กัน ในต่างประเทศจะมีเร็คคอร์ดของ ส.ส.แต่ละคน ว่าเคยลงมติหรือไม่ลงมติในเรื่องใดบ้าง และจะเป็นจิตสำนึกของแต่ละคน
ด้านนายวิทยา บุรณศิริ ประธานวิปฝ่ายค้าน เปิดเผยกับสำนักข่าวไอเอ็นเอ็น ว่า วันนี้ จะยังไม่มีการร่วมลงมติพิจารณากรอบความร่วมมือระหว่างประเทศ จำนวน 20 ฉบับ รวมถึงกรอบความร่วมมืออาเซียน แต่จะมีการเสนอให้ตั้งคณะกรรมาธิการของทั้ง 2 สภา ขึ้นมาพิจารณาข้อดีข้อเสียก่อน ไม่หวั่นจะถูกมองว่าเป็นเกมการเมือง แม้ว่านายชัย ชิดชอบ ประธานรัฐสภา ยืนยันจะให้มีการลงมติในวันนี้เพื่อให้ทันกับการประชุมอาเซียนซัมมิท ที่กำลังจะมีขึ้นในเดือนหน้าก็ตาม เนื่องจากเห็นว่า หากจะต้องมีการเลื่อนการประชุม อาเซียน ซัมมิท ออกไปก็น่าจะดีกว่า เพราะจำเป็นที่จะต้องมีการฟังความเห็นอย่างรอบด้าน
นายวิทยา บอกด้วยว่า ความคิดของฝ่ายที่เสนอตั้งคณะกรรมมาธิการนั้น ขณะนี้ได้รับการตอบรับจาก ส.ว.บางกลุ่มแล้ว และเชื่อว่า หากให้มีการลงมติ ทาง ส.ว. ก็จะไม่สนับสนุน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศทั่วไป ก่อนการประชุมร่วมกันของรัฐสภา ในเวลา 09.30 น. เพื่อพิจารณาลงนามในกฎบัตรอาเซียนและกฎหมายประกอบ ล่าสุดพบว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจ เตรียมระวังความปลอดภัยอย่างเข้มงวด ที่หน้ารัฐสภากว่า100 นาย แต่ยังไม่พบกลุ่มผู้ชุมนุมกลุ่มใด รวมถึง กลุ่มคนเสื้อแดง เดินทางมาที่บริเวณหน้ารัฐสภา อย่างไรก็ตาม ก่อนการประชุมจะเริ่มขึ้น นายชินวรณ์ ได้นัดประชุมวิปรัฐบาล เพื่อเช็กเสียงของ ส.ส. รวมถึง หารือกับวิปฝ่ายค้าน เพื่อตกลงกันกรณีข้อเสนอของฝ่ายค้านให้ตั้งกรรมาธิการขึ้นมาพิจารณาก่อน ซึ่งหากไม่กระทบกับกรอบข้อตกลงก็สามารถตั้งกรรมาธิการได้
ทางด้านนาย นิพนธ์ พัวพงศกร ประธานสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย หรือทีดีอาร์ไอ (TDRI) กล่าวถึงการอภิปรายร่วม 2 สภา เพื่อพิจารณากรอบการประชุมอาเซียนว่าเป็นเรื่องที่สมาชิกรัฐสภาต้องให้ความ สำคัญพิจารณาอย่างรอบคอบ ถึงแม้จะต้องใช้เวลาก็ต้องยอม เพื่อให้ได้ข้อมูลที่เป็นระบบ โดยรัฐบาลจะต้องให้ข้อมูลที่สมบูรณ์สมาชิกรัฐสภาพิจารณาอย่างจริงจัง ทำให้ความตกลงอาเซียนมีความคืบหน้าหลังจากประเทศไทยเป็นเพียงประเทศเดียวที่ ยังไม่ได้ให้สัตยาบรรณในกรอบความตกลงอาเซียน ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อการแข่งขันของประเทศ
ประธานทีดีอาร์ไอยังเห็นว่า อนาคตอาเซียนจะเป็นตลาดการค้าขนาดใหญ่ที่ประเทศคู่ค้าให้ความสำคัญ หลังสหรัฐอเมริกา และสหภาพยุโรปประสบวิกฤติเศรษฐกิจ หากประเทศไทยยังไม่สามารถลงสัตยาบรรณในกรอบความตกลงอาเซียนได้จะทำให้ประเทศเสียโอกาสเป็นอย่างมาก