ที่มา ไทยรัฐ
รัฐบาลอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เพิ่งเริ่มทำงานยังไม่ครบหนึ่งเดือนเต็ม การขับเคลื่อนการเมืองยังเดินหน้าราบรื่นดี
กระแสต่อต้านมีบ้างแต่ยังไม่รุนแรง ปัญหาขัดแย้งภายในรัฐบาลยังไม่มี เพราะประสานประโยชน์ลงตัว
แถมรัฐบาลยังมีภูมิคุ้มกันโรคแทรกซ้อนทางการเมือง จึงไม่ต้องกังวลว่าจะโดนอำนาจพิเศษเช็กบิลเหมือนรัฐบาลที่ผ่านมา
สรุปว่า ด้วยเงื่อนไขต่างๆเอื้ออำนวย ทำให้รัฐบาลใหม่ทำงานอย่างสบายใจ!!
แต่อย่าทุจริต หรือใช้อำนาจขัดรัฐธรรมนูญก็แล้วกัน??
เพราะถ้าเกิดเรื่องอื้อฉาว และมีหลักฐาน ชัดเจนก็เสร็จค่อล่อซ่อ เดียวจะหาว่าหล่อไม่เตือน??
“แม่ลูกจันทร์” กระชุ่นรัฐมนตรีทุกคนอย่าทำตัวเองให้เดือดร้อนโดยไม่จำเป็น อย่าเหิมเกริมว่าไม่มีใครจับได้ไล่ทัน
และอย่านึกว่าเรื่องเล็กๆ ไม่น่าเป็นเรื่องใหญ่โต
เพราะเรื่องเล็กๆนี่แหละทำกิ้งกือตกท่อไปแล้วหลายตัว
อย่างไรก็ตาม การที่รัฐบาลอภิสิทธิ์เพิ่งเริ่มทำงานยังไม่ครบเดือน แต่มีรัฐมนตรี 2 คน ที่เจอแจ็กพอตเข้าเต็มเปา ถือเป็นสัญญาณอันตรายที่ไม่ควรมองข้ามด้วยประการทั้งปวง
แจ็กพอตรายแรก ได้แก่ “วิฑูรย์ นามบุตร” รมว.การพัฒนาสังคมฯ ที่โดนโจมตีกรณีปลากระป๋องเน่าจนเหม็นหึ่งไปทั้งกระทรวง
“วิฑูรย์” จะสลัดพ้นกลิ่นปลากระป๋องเน่าสำเร็จหรือไม่ โปรดติดตามต่อไป
ถ้าไม่มีหลักฐานพิสูจน์แน่ชัด “วิฑูรย์” ก็รอดตัว
ส่วนแจ็กพอตรายที่ 2 คือ “บุญจง วงศ์ไตรรัตน์” รมช.มหาดไทย ขุนพลใหญ่ กลุ่มเพื่อนเนวิน ที่ถูก ส.ส. และ ส.ว.ยื่นบัตรเชิญให้ ป.ป.ช. และ กกต.ตรวจสอบกรณีแจกเงินแจกของให้ประชาชนพร้อมนามบัตรหนึ่งใบ
อาจเข้าข่ายขัดรัฐธรรมนูญมาตรา 266 ที่ห้าม ส.ส. หรือ ส.ว.ก้าวก่ายแทรกแซงการ ปฏิบัติงานของข้าราชการประจำ เพื่อประโยชน์ ของตนเองทั้งทางอ้อมหรือทางตรง??
ถ้า ป.ป.ช.ชี้มูลความผิดว่าการแจกเงินแจกของแจกนามบัตรเข้าข่ายขัดรัฐธรรมนูญ
“บุญจง” ก็จะต้องเจอหนังชีวิตเรื่องยาว
“แม่ลูกจันทร์” มองโลกในแง่ดี เห็นว่าถ้าหากข้อกล่าวหา “วิฑูรย์” และข้อกล่าวหา “บุญจง” เป็นความผิด ก็เป็นความผิดเฉพาะตัว
ไม่มีผลทำให้รัฐบาลอภิสิทธิ์ต้องปิดฉากยุบวง
ยกเว้น...รัฐบาลใช้อำนาจขัดรัฐธรรมนูญ หรือใช้อำนาจขัด ก.ม. หรือขัดระเบียบราชการ
ตรงนี้แหละที่ ครม.ทั้งคณะจะต้องรับผิดร่วมกัน
ตัวอย่างที่เกิดล่าสุดคือ ร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายเพิ่มกลางปี วงเงินหนึ่งแสนหนึ่งหมื่นล้านบาท ที่รัฐบาลจะเอาไปอัดฉีดกระตุ้นเศรษฐกิจตามนโยบายอภิมหาประชานิยม
สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาวินิจฉัยว่าร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้อาจจะขัดรัฐธรรมนูญ และอาจจะขัดต่อ พ.ร.บ.การจัดทำงบประมาณแผ่นดิน
เนื่องจากกฎหมายกำหนดว่าการเพิ่มงบรายจ่ายกลางปีของรัฐบาลจะต้องใช้เงินรายได้ของรัฐบาล
พูดชัดๆคือ รายได้จากภาษีประชาชน
แต่ร่าง พ.ร.บ.ขอเพิ่มงบประมาณรายจ่ายกลางปีของ “รัฐบาลอภิสิทธิ์” ที่กำลังพิจารณาในสภาฯ ระบุว่าต้องใช้เงินกู้เงินทุกบาททุกสตางค์
ปัญหาคือ “เงินกู้” ไม่ถือว่าเป็นรายได้ เพราะกู้มาแล้วต้องใช้เงินคืน
การกู้เงินมาเพิ่มงบรายจ่ายกลางปี จึงเป็นการก่อหนี้โดยตรง!!
สรุปว่า ร่าง พ.ร.บ.ขอเพิ่มงบประมาณรายจ่ายกลางปีของรัฐบาลเข้าข่ายผิดกฎหมายซะเอง??
อ้าว...บานไม่หุบซะแล้วโยม.
แม่ลูกจันทร์