ที่มา เดลินิวส์
ทบ.แหยง"หมวดเจี๊ยบ"!ไม่กล้าฟันอ้างรอเอกสาร
“ตีบตบ” สำแดงฤทธิ์ ทำ “มาร์ค” หน้าเจื่อน ขณะช่วยลูกพรรคหาเสียงที่เมืองนนท์ แถมวิน จยย.ยังตะโกนไล่ ส่วนสามล้อถีบแสบสุดขี่รถติดป้ายประจาน “ยึดทำเนียบไม่ผิด ปาไข่ผิด” รอบรถนายกฯ “นายกฯหน้าหล่อ” ชี้เป็นเรื่องปกติของประชาธิปไตย ถ้าไม่ทำผิดกฎหมายก็ไม่มีปัญหา ขณะที่ “ดีทีวี” ทดลองออกอากาศรอรับโฟนอิน “นายใหญ่” พร้อมเปิดตัว “กลุ่มชักธงรบ” ตัวแทนเสื้อแดงภาคอีสาน ด้าน ทบ.ไม่กล้าฟัน “หมวดเจี๊ยบ” อ้างต้องรอเอกสารเพิ่มเติม ด้าน “ผู้หมวดคนสวย” โต้สัมพันธ์แนบแน่น “บิ๊กทหาร” พร้อมเปิดฝันอยากเอาชีวิต “ทักษิณ” ไปสร้างหนัง ฝ่ายรัฐบาลหงอไม่กล้าตุกติกฝ่ายค้าน กลัวเจอไม้ตายเสนอนับองค์ประชุม “ประธานวิปรัฐบาล” ไม่ห่วง “กษิต” เจอรุมถล่มในการประชุมพิจารณากรอบความร่วมมืออาเซียนสัปดาห์หน้า โบ๊ยให้เจ้าตัวแก้ต่างเอาเองไม่ตั้งองครักษ์มาช่วย ด้าน “ปลาไหล” ยุคขัดตามทัพได้หัวหน้าใหม่พร้อมลด กก.บห.เหลือแค่ 9 ชีวิต “ชุมพล” รับผวากฎหมายใหม่สยองเกินพิกัด
สภาล่มขอให้เป็นบทเรียน
เมื่อวันที่ 24 ม.ค.ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงปัญหาการผลักดันกฎหมายสำคัญ ๆ ที่หลายฝ่ายมองว่ารัฐบาลอาจมีพลังไม่พอ เพราะแค่กฎหมายผู้สูงอายุยังไม่ผ่าน เนื่องจาก ส.ส.ไม่ครบองค์ประชุมทำให้การประชุมสภาล่มว่า เรื่องกฎหมายผู้สูงอายุยืนยันว่ายังเดินหน้าต่อไปได้ ในวันที่ 25 ม.ค.จะมีการประชุม ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ และพบปะกับพรรคร่วมรัฐบาล ตนจะได้ย้ำอีกครั้งว่าจำเป็นต้องมีความเข้มแข็งในการผลักดันเรื่องเหล่านี้ โดยเฉพาะกฎหมายสำคัญ ๆ และจะขอความร่วมมือจากพรรคร่วมรัฐบาล เพื่อให้รัฐบาลมีความเข้มแข็งทางการเมือง และผลักดันนโยบายรัฐบาลให้เดินหน้า
พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ รองนายกรัฐมนตรี และแกนนำพรรคชาติไทยพัฒนา กล่าวถึงมาตรการป้องกันสภาล่มว่า วิปรัฐบาลคงต้องประสานงานกันเพิ่มขึ้น ที่ผ่านมาก็ขอให้เป็นบทเรียน แต่ก็ไม่ทราบว่าสภาล่มจะเป็นครั้งสุดท้ายหรือไม่ ต่อไปการประชุมสภาจะร้อนแรงหรือไม่ก็อยู่ที่รัฐบาล เพราะฝ่ายค้านเขาก็ต้องรุกหนักอยู่แล้ว อย่างนางสาวรังสิมา รอดรัศมี ส.ส.สมุทรสงคราม พรรคประชาธิปัตย์ คงยังนึกว่าเป็นฝ่ายค้านอยู่ เชื่อว่าต่อไปคงจะอารมณ์เย็นขึ้น และส.ส.รัฐบาลต้องรู้หน้าที่
เตือนเกิดบ่อยภาพไม่สวย
นายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ รมช.มหาด ไทย กล่าวถึงกรณีสภาล่มเพราะ ส.ส.ไม่ครบองค์ประชุมว่า ในส่วนของพรรคภูมิใจไทยได้ประชุมกันแล้วว่า ให้ ส.ส.ในพรรค 1 คน ต้องดูแล ส.ส. 7 คน เพื่อติดต่อประสานงานให้เข้าประชุมสภา แต่สุดท้ายก็อยู่ที่การทำหน้าที่ ส.ส.แต่ละคน ก็ได้แต่ขอให้เข้าประชุมกันให้ครบ แต่ก็ไม่มีบทลงโทษอะไรหาก ส.ส.ไม่เข้าประชุม ต่อไปเชื่อว่าองค์ประชุมของ ส.ส.พรรคร่วมรัฐบาลจะดีขึ้น เพราะมีบทเรียนว่าฝ่ายค้านจะใช้วิธีนับองค์ประชุมทุกสัปดาห์
“ถ้าเกิดบรรยากาศนับองค์ประชุมเช่นนี้บ่อย ๆ จะเกิดภาพที่ไม่ดี ถ้า ส.ส.ไม่รับผิดชอบต่อการทำหน้าที่ ก็จะมีผลถึงการเสนอกฎหมายของรัฐบาลแต่ละฉบับ เช่นเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาไม่สามารถนำเสนอร่าง พ.ร.บ.ผู้สูงอายุได้” นายบุญจงกล่าว
ใช้มาตรการสังคมควบคุม
นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ ประธานวิปรัฐบาล กล่าวถึงการแก้ปัญหาเรื่ององค์ประชุมในการประชุมสภาว่า ในการประชุมวิปรัฐบาลมีคนเสนอว่า น่าจะใช้มาตรการด้านสังคมควบคุม ส.ส. ให้เข้าประชุมสภาด้วย โดยให้มีการเผยแพร่สโล แกนว่า “พุธ-พฤหัสฯ ถ้า ส.ส.อยู่ในพื้นที่เท่ากับหนีประชุมสภา” ซึ่งที่ประชุมต่างเห็นด้วยกับแนวทางนี้ และจะมีการเผยแพร่สโลแกนนี้ต่อไป เพื่อให้ประชาชนช่วยกดดัน ส.ส.อีกทางหนึ่ง
ประธานวิปรัฐบาลยังกล่าวถึงแนวทาง การตั้งองครักษ์พิทักษ์นายกษิต ภิรมย์ รมว.การต่างประเทศ ที่อาจถูกฝ่ายค้านรุมโจมตีกลางสภา ในการประชุมเพื่อพิจารณากรอบข้อตกลงอาเซียนซัมมิท ระหว่างวันที่ 26-27 ม.ค.ว่า จะไม่มีการตั้งองครักษ์พิทักษ์นายกษิต เป็นเรื่องที่นายกษิตต้องชี้แจงเอง แต่หากมีการพูดนอกประเด็นหรือพาดพิงเรื่องส่วนตัว ก็อยู่ที่ประธานในที่ประชุมจะควบคุม
มิติใหม่ไม่ตอบโต้ฝ่ายค้าน
“รัฐบาลจะไม่มีการตั้งองครักษ์พิทักษ์รัฐมนตรี เพราะเราจะทำให้สภาเป็นมิติใหม่ด้วยการที่ฝ่ายรัฐบาลจะต้องอดทน ถ้ามีการตอบโต้ในเรื่องหยุมหยิมอาจนำสู่การเสนอให้นับองค์ประชุม ทำให้เสียเวลาการประชุมได้ ผมไม่ห่วงนายกษิต เพราะมั่นใจว่าจะชี้แจงได้” ประธานวิปรัฐบาลกล่าว
นายเกียรติกร พากเพียรศิลป์ วิปรัฐบาล กล่าวว่า ในการประชุมรัฐสภาสัปดาห์หน้า ขอเรียกร้อง ส.ส.ทั้งฝ่ายค้านและรัฐบาลใช้เวลาการประชุมอย่างมีประสิทธิภาพเพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อส่วนรวม ถ้าจะมีการหารือนอกประเด็นก่อให้เกิดความขัดแย้งขอให้หารือรอบนอก เพราะการประชุมครั้งนี้มีการถ่ายทอดสดทางโทรทัศน์และวิทยุ หาก ส.ส.ยังขัดแย้งกันจะทำให้ชาวบ้านเอือมระอาและเบื่อหน่ายพฤติกรรมของนักการเมือง โดยเฉพาะองครักษ์พิทักษ์นาย ขอให้ยุติการสอพลอไปก่อนเพราะเวลาประชุมเกี่ยวกับประโยชน์ของชาติมีเวลาจำกัดจึงต้องใช้เวทีสภาอย่างสร้างสรรค์
“ปลาไหล”ลด กก.บห.
อีกด้านหนึ่งที่พรรคชาติไทยพัฒนา มีการประชุมใหญ่สามัญประจำปีเป็นครั้งแรก มีแกนนำ ส.ส.และสมาชิกพรรคเข้าประชุมอย่างพร้อมเพรียง และมีอดีตกรรมการบริหารพรรคที่ถูกตัดสิทธิมาร่วมสังเกตการณ์ด้วย ซึ่งที่ประชุมใหญ่สามัญฯได้มีการเลือกคณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ คือ นายชุมพล ศิลปอาชา เป็นหัวหน้าพรรค นายปรีชา จั่นเพชร เป็นเลขาธิการพรรค นายกฤต รัตนคามินี เป็นรองหัวหน้าพรรค นายถาวร จำปาเงิน เป็นรองเลขาธิการ นายอรรฆชัย ตระการศาสตร์ เป็นนายทะเบียนสมาชิกพรรค นางพวงรัตน์ ชัยบุตร เป็นเหรัญญิกพรรค นายวัชระ กรรณิการ์ เป็นโฆษกพรรค นายประสาร เรืองสุขอุดม เป็นกรรมการบริหารพรรค และนายสุรชัย ทิณเกิด เป็นกรรมการบริหารพรรค โดยทางพรรคได้มีการปรับโครงสร้างกรรมการบริหารพรรคเหลือเพียง 9 คนเท่านั้น
นายชุมพลให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมว่า ภารกิจของกรรมการบริหารพรรคคือ ภายใน 3 เดือนนี้จะต้องเร่งหาสมาชิกพรรคให้ครบและขยายสาขาพรรคอีก 4 สาขา หลังจากนั้นจึงจะมีการประชุมใหญ่อีกครั้ง นอกจากนี้ยังจะกำชับ ส.ส.ใหม่ให้เข้มแข็งในการทำหน้าที่ ขณะนี้พรรคมี ส.ส.ทั้งหมด 24 คน รวมทั้งนายอารยะ ชุมดวง ส.ส.สุโขทัย จากพรรคมัชฌิมาธิปไตย ได้ย้ายมาสังกัดแล้ว
โยนเผือกร้อนแก้ รธน.ให้“ชวน”
เมื่อถามว่า เหตุใด ส.ส.พรรคจึงเลี่ยงไม่นั่งเป็นกรรมการบริหารพรรค นายชุมพลกล่าวว่า กฎหมายมันแรงเหลือเกินจึงไม่มีใครอยาก เป็น เมื่อถามว่า ก่อนหน้านี้มีกระแสข่าวว่านางสาวปาริชาติ ศิลปอาชา บุตรสาวของนายบรรหาร จะมาดำรงตำแหน่งเป็นเลขาธิการพรรค นายชุมพลกล่าวว่า ต่อไปอาจจะลง ส.ส.แล้วถ้าหากไปเป็นกรรมการบริหารพรรคแล้วแจ๊กพอตก็จะไม่เหลือศิลปอาชาเลย
เมื่อถามถึงการเสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญ นายชุมพลกล่าวว่า ระบบพรรคการเมืองตอนนี้ไม่พัฒนาเพราะกฎกติกาตึงไป ทำให้พรรคการเมืองเดินหน้าไม่ได้ตามเจตนารมณ์ของหลักรัฐศาสตร์ พรรคการเมืองเป็นนามธรรม ไม่ใช่ยุบไปก็ไปตั้งใหม่ อย่างนี้ผิดหลักรัฐศาสตร์ อย่างพรรคประชาธิปัตย์มีอายุ 65 ปี หากไปทำพลาดนิดเดียวก็ถูกยุบมันก็แย่ การแก้รัฐธรรมนูญคงต้องให้ตกผลึกจากทุกฝ่ายก่อน และสังคมต้องเห็นชอบด้วย รวมทั้งคนที่มีต้นทุนทางสังคมชูขึ้นมา อย่างนายชวน หลีกภัย ประธานที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ก็ได้
“มาร์ค”เจื่อน“ตีนตบ”จองเวร
วันเดียวกันที่ตลาดบางบัวทอง จ.นนทบุรี เมื่อเวลา 07.30 น. นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ได้เดินทางไปช่วยลูกพรรคหาเสียงเลือกตั้งซ่อม ส.ส.เขต 2 นนทบุรี ซึ่งจะมีขึ้นวันอาทิตย์ที่ 25 ม.ค. โดยมีตำรวจทั้งในและนอกเครื่องแบบรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวดกว่า 100 นาย มีบรรดาพ่อค้า แม่ค้า และประชาชนให้ความสนใจและขอถ่ายรูปเป็นอย่างมาก แต่ปรากฏว่าระหว่างที่นายอภิสิทธิ์เดินหาเสียงอยู่กลางตลาดนั้น ได้มีหญิงวัยกลางคนสวมเสื้อแดงที่ได้มาจับจ่ายซื้อของในตลาด ยืนตะโกนด่านายอภิสิทธิ์ว่า “เป็นนายกฯหนีทหาร เป็นนายกฯที่มีปัญหา แล้วยังจะมาเป็นอยู่อีกได้อย่างไร เดี๋ยวจะเอาไข่ปา” ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงกันตัวเอาไว้เพื่อไม่ให้เดินเข้ามาใกล้ตัวนายกฯ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากนั้นนายอภิสิทธิ์ได้ขึ้นรถปราศรัย ก็ได้มีรถสามล้อคันหนึ่งมีป้ายข้อความติดไว้รอบรถว่า “ยึดทำเนียบฯไม่ผิด ปาไข่ผิด เก่งจริงอย่าลอกนโยบายซิ” มาขับวนเวียนไปมารอบรถของนายกฯ แต่ก็ไม่ได้ทำอะไร และเมื่อนายอภิสิทธิ์มาถึงตลาดท่าน้ำปากเกร็ด ปรากฏว่ามีแม่ค้ารายหนึ่งสวมเสื้อลายสีแดงนำ “ตีนตบ” ขึ้นมาเขย่ารัวในขณะที่นายกฯเดินหาเสียงผ่านหน้าร้าน พร้อมกับตะโกนขับไล่เสียงดังว่า “ไปเลย ๆ” ทำให้นายอภิสิทธิ์ยิ้มเจื่อน ๆ นอกจากนี้ยังมีกลุ่มรถจักรยานยนต์รับจ้างสวมเสื้อกั๊กสีแดงเกือบ 20 คันได้รวมตัวกันส่งเสียงโห่ร้องแสดงความไม่พอใจ บางคันก็บีบแตรไล่ดังสนั่น
รับได้ถูกด่าเป็นเรื่องธรรมดา
หลังเสร็จสิ้นการช่วยหาเสียงนายอภิสิทธิ์ ได้เดินทางมายังทำเนียบรัฐบาลเพื่อให้สัมภาษณ์นิตยสาร FORBE โดยนายกฯ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่มีประชาชนกลุ่มเสื้อแดงบางคนตะโกนด่าว่า เป็นเรื่องธรรมดา ใครแสดงความคิดเห็นหรือต่อว่าเราต้องยอมรับ เพราะนี่คือสังคมประชาธิปไตย และบรรยากาศการเมืองขณะนี้จะหวังให้ราบรื่น 100% คงเป็นไปไม่ได้ แต่แนวโน้มจะดีขึ้นตามลำดับ ตนเคยบอกแล้วว่าคนที่คิดไม่เหมือนตนมีเวทีแสดงออกได้ แต่ต้องเป็นไปด้วยความสงบเรียบร้อย
ส่วนกรณีที่นายจักรภพ เพ็ญแข และแกนนำกลุ่มเสื้อแดงไปยื่นหนังสือต่อสถานทูต 9 ประเทศ เพื่อคัดค้านการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนนั้น นายกฯ กล่าวว่า เชื่อว่าไม่มีปัญหา ผู้นำทุกประเทศเข้าใจว่าเราเป็นสังคมประชา ธิปไตย หากจะมีกลุ่มคนหรือฝ่ายค้านไปแสดงความคิดเห็นก็สามารถทำได้ ตนเชื่อว่าไม่กระทบต่อการประชุมครั้งนี้ เพราะผู้นำทุกประเทศได้ตอบรับมาประชุมแล้ว
ไม่หนักใจ“ทักษิณ”โฟนอิน
เมื่อถามถึงกรณีที่กลุ่มเสื้อแดงพยายามประสานนำทุนจากต่างประเทศเข้ามาใช้เคลื่อนไหวภายในประเทศ นายกฯตอบว่า หากเป็นการนำทุนจากต่างประเทศมาดำเนินในเรื่องกิจการภายในคงไม่เหมาะ แต่ตนคิดว่าไม่เป็นอย่างนั้น เข้าใจว่าในแง่ของพรรคอาจจะมีการจัดงานระดม ทุนไปตามปกติซึ่งทำได้ เมื่อถามว่าองค์กรต่าง ประเทศที่จะสนับสนุนนั้นเป็นองค์กรด้านส่งเสริมประชาธิปไตย โดยกลุ่มดังกล่าวพยายามชี้ให้องค์กรเห็นว่ารัฐบาลไม่ได้มาจากระบอบประชา ธิปไตย นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า รัฐบาลชุดนี้มาตามระบอบประชาธิปไตย เพราะเสียงข้างมากของสภาสนับสนุนมาทุกประเทศเขาเข้าใจ
ต่อข้อถามว่าหนักใจต่อกรณีที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯจะโฟนอินเข้ามาทางสถานีโทรทัศน์ดีทีวีวันที่ 25 ม.ค.หรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ไม่มีปัญหาอะไร เมื่อถามว่ารัฐบาลไม่ได้ให้ราคาต่อเรื่องนี้ใช่หรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า “สื่อพูดเองนะ ผมไม่ได้พูด”
เปิดตัวกลุ่ม“ชักธงรบ”อีสาน
อีกด้านหนึ่งที่ห้องส่งชั้น 5 ห้างสรรพสินค้า อิมพีเรียลเวิลด์ ลาดพร้าว สถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม ดี สเตชั่น ได้เปิดการออกอากาศผ่านเว็บไซต์ www.dstation.tv เป็นวันแรก เพื่อเป็นการทดสอบก่อนการถ่ายทอดสด การโฟนอินสดของ พ.ต.ท.ทักษิณในวันที่ 25 ม.ค. โดยวันนี้เป็นการเปิดตัวรายการ “แดงทั้งแผ่นดิน” เป็นการนำตัวแทนคนเสื้อแดงจากจังหวัดต่าง ๆ มาออกรายการสดครั้งแรกเช่นกัน มีนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ เป็นผู้ดำเนินรายการ ซึ่งในการออกอากาศครั้งแรกเป็นการเปิดตัวกลุ่มชักธงรบ ตัวแทนคนเสื้อแดงจาก จ.อุบลราชธานี ที่เคลื่อน ไหวต่อต้านรัฐบาลอภิสิทธิ์อยู่ในพื้นที่ภาคอีสาน
ระดมทุนเสื้อแดงเมืองนอก
นายณัฐวุฒิให้สัมภาษณ์ภายหลังการออกรายการแดงทั้งแผ่นดิน ถึงกรณีที่นายอภิสิทธิ์ นายกฯระบุว่าการระดมเงินทุนจากต่างประเทศเข้ามาสนับสนุนการเคลื่อนไหวของกลุ่มคนเสื้อแดงเพื่อโค่นล้มรัฐบาลว่า ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนของการเจรจาระหว่างตัวแทนกลุ่มคนเสื้อแดงกับองค์กรเพื่อประชาธิปไตยในระดับนานาชาติหลายองค์กรเพื่อขอความสนับสนุนการเคลื่อนไหวของกลุ่มคนเสื้อแดงในประเทศไทย ซึ่งเรายังไม่สามารถเปิดเผยรายชื่อของแต่ละองค์กรได้ เพราะหากการเจรจายังไม่สำเร็จแล้วเราไปเปิดเผยชื่อขององค์กรเหล่านั้นจะเป็นการอ้างชื่อเพื่อผลทางการเมือง แต่การเคลื่อนไหวของคนเสื้อแดงนั้นอยู่บนหลักประชาธิปไตย จึงสามารถตรวจสอบได้ทุกอย่าง ซึ่งนายอภิสิทธิ์ ก็บอกเองว่ามีกฎหมายสำหรับการตรวจสอบเส้นทางทางการเงินได้ เราก็พร้อมที่จะให้ตรวจสอบอย่างเต็มที่
นายณัฐวุฒิกล่าวต่อว่า นอกจากการระดมทุนจากองค์กรระดับนานาชาติแล้ว เรายังได้จัดตั้งกลุ่มคนเสื้อแดงในต่างประเทศหลายประเทศ เช่น กลุ่มพลังไทย ยูเอสเอ กลุ่มเสื้อแดงนิวยอร์ก และเมลเบิร์น ที่พร้อมจะจัดกิจกรรมระดมทุนมาสนับสนุนการเคลื่อนไหวของกลุ่มคนเสื้อแดงในประเทศไทย โดยดี สเตชั่น จะทยอยนำกิจกรรมของกลุ่มคนเสื้อแดงในต่างประเทศมาร่วมออกรายการแดงทั้งแผ่นดินด้วย
กองทัพยันไม่ขวางโฟนอิน
ด้าน พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกกองทัพบก ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ พ.ต.ท.ทักษิณวิพากษ์วิจารณ์กองทัพว่า ช่วยเหลือพรรคประชาธิปัตย์ในการจัดตั้งรัฐบาลผ่านสื่อต่างประเทศว่า ท่านจะพูดอะไรก็สุดแล้วแต่ท่าน เพราะเป็นสิทธิ ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของประชาชนว่าจะมองอย่างไร ที่ผ่านมากองทัพได้ชี้แจงตลอดว่า การที่นักการเมืองเข้ามาปรึกษากับ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ.ท่านบอกเพียงแค่ว่าอยากจะ ทำอะไรก็ทำ แต่ขอให้คิดถึงผลประโยชน์ของประเทศชาติเป็นที่ตั้ง ยืนยันว่าทหารไม่ได้เข้าไปเกี่ยวข้องกับการจัดตั้งรัฐบาล หากใครจะคิดเห็นเป็นอย่างอื่นก็สุดแล้วแต่จะคิด
เมื่อถามว่า จะมีการสกัดกั้นการโฟนอินของ พ.ต.ท.ทักษิณในวันที่ 25 ม.ค.หรือไม่ พ.อ.สรรเสริญกล่าวว่า การโฟนอินเป็นสิทธิของท่าน กองทัพจะไม่ติดตามหรือขัดขวาง เพราะไม่ทราบว่าจะทำไปเพราะอะไร ที่ผ่านมากองทัพก็ไม่เคยสกัดกั้นการโฟนอินของ พ.ต.ท.ทักษิณ
สอบ“หมวดเจี๊ยบ”ตามระเบียบ
โฆษกกองทัพบกยังกล่าวถึงความคืบหน้ากรณีการพิจารณาร.ท.หญิงสุณิสา เลิศภควัต หรือ หมวดเจี๊ยบ นายทหารประจำสำนักงานเลขานุการกองทัพบก ที่ขออนุญาตไปดำเนินรายการทางสถานีโทรทัศน์ดีทีวีว่า ร.ท.หญิงสุณิสา ได้เข้ามาเขียนรายงานชี้แจงต่อ พล.ต.วีรัณ ฉันทศาสตร์โกศล เลขานุการกองทัพบกแล้ว แต่เอกสารยังไม่ครบถ้วน เพราะยังขาดรายละเอียดต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบรายการ ลักษณะการดำเนินรายการ เนื้อหารายการ จึงไม่สามารถดำเนินการพิจารณาได้ต้องรอเอกสารเพิ่มเติมซึ่งทางกองทัพจะนำมาพิจารณาโดยเร็ว หากไม่ขัดระเบียบก็สามารถทำได้ หากขัดระเบียบก็ทำไม่ได้
“การพิจารณาครั้งนี้ ไม่ได้เกี่ยวกับเรื่องการเมือง หรือเกี่ยวกับว่า ร.ท.หญิงสุณิสา จะไปร่วมรายการทางสถานีโทรทัศน์ช่องใด และไม่ได้เลือกปฏิบัติว่า จะเป็นการกระทำในรัฐบาลชุดไหน เพราะไม่ว่ารัฐบาลชุดใดก็ตามทหารก็จะไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับการเมือง แต่เราพิจารณาตามกฎเกณฑ์ยึดข้อระเบียบเป็นหลัก เพื่อจะได้เป็นบรรทัดฐานของทหารในกองทัพต่อไป” โฆษกกองทัพบกกล่าว
ปล่อยข่าวลือสัมพันธ์บิ๊กทหาร
ขณะที่ ร.ท.หญิงสุณิสาให้สัมภาษณ์ผ่านรายการ ลับ ลวง พราง ผ่านสถานีวิทยุ เอฟเอ็ม 100.5 ถึงความคืบหน้ากรณีที่ทำรายงานขออนุญาตกองทัพไปร่วมดำเนินรายการทางสถานีโทรทัศน์ดีทีวีว่า ตราบใดที่ผู้บังคับบัญชา ยังไม่ได้ให้คำตอบลงมา คงไม่ดีที่เราจะไปคาดเดาก่อนว่า ท่านจะพิจารณาอย่างไร คงต้องให้เกียรติท่านในการพิจารณา และตราบใดที่ไม่มีคำสั่งลงมา ตนคงไปทำรายการไม่ได้ ทั้งนี้เพื่อความชัดเจนต้องเคารพคำสั่งตามลายลักษณ์อักษรเพื่อความชัดเจน และไม่ได้หนักใจกับกระแสข่าวความสัมพันธ์กับบิ๊กทหารในกองทัพ เพราะข่าวลือดังกล่าวไม่ใช่ความจริงและไม่เคยเกิดขึ้นจริงบนโลกใบนี้ ซึ่งตนรู้สึกสงสัยว่า เกิดการเชื่อมโยงขึ้นได้อย่างไร อย่างไรก็ตามขอยืนยันว่า ไม่เคยมีความสัมพันธ์ที่ไม่เหมาะสมกับผู้บังคับบัญชา หรือบิ๊กทหารคนใด
ฝันสร้างหนังชีวิต “ทักษิณ”
“หลังจากที่เขียนหนังสือ “ทักษิณ Where are you ?” ทำให้ไม่สบายใจ อึดอัด จึงตัดสินใจยื่นใบลาออก แต่ผู้บังคับบัญชาไม่สามารถอนุมัติใบลาออกได้ตามระเบียบ เมื่อเวลาล่วงเลยไป ความกดดันต่าง ๆ เริ่มหายไปเลย ทำให้ต้องยกเลิกใบลาออกไปโดยปริยาย” หมวด เจี๊ยบกล่าว
ร.ท.หญิงสุณิสายังกล่าวทิ้งท้ายว่า ขณะนี้ตนคิดที่จะไปเรียนต่อเพิ่มเติมที่มหาวิทยาลัย ในประเทศสหรัฐอเมริกา ในสาขาภาพยนตร์ หากทางสหรัฐตอบรับกลับมา และมีโอกาสได้ทำภาพยนตร์สักเรื่องจะเลือกทำภาพยนตร์การเมืองเกี่ยวกับชีวิตการเมืองของ พ.ต.ท.ทักษิณ ซึ่ง ภาพยนตร์ดังกล่าวจะให้ความรู้และแง่คิดกับสังคม คิดว่าหากทำออกมาจริงคงไม่น่าจะมีปัญหาอะไร เพราะเป็นเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นในการแสดงออก ส่วนโครงสร้างเนื้อหาของเรื่องนั้นยังไม่สามารถบอกได้ เพราะยังไม่ได้รับการตอบรับจากทางอเมริกา
เสื้อแดงร้อยเอ็ดฮือต้าน พธม.
ขณะเดียวกันความเคลื่อนไหวของการจัดเวที “ร้อยเอ็ดภิวัฒน์” ของกลุ่มพันธมิตรฯร้อยเอ็ด ซึ่งจัดขึ้นที่หน้าบึงพลาญชัย อ.เมือง จ.ร้อยเอ็ด เบื้องต้น พ.ต.อ.ณรงค์วิทย์ พ่วงเภตรา รอง ผบก.ภ.จว.ร้อยเอ็ด ได้นำแผงเหล็กมาวางแนวป้องกันรอบ ๆ สถานที่จัดเวที เพื่อป้องกันการปะทะและเผชิญหน้าเนื่องจากฝ่ายเสื้อแดงยืนยันจะมีการเคลื่อนตัวมาชุมนุมปิดล้อมเวที ไม่ยอมให้ฝ่ายเสื้อเหลืองจัดกิจกรรมใด ๆ ในพื้นที่โดยเด็ดขาด จึงต้องระดมกำลังตำรวจชุดควบคุมฝูงชน 5 กองร้อย กว่า 700 คน พร้อมโล่มาเตรียมป้องกันเหตุ
กระทั่งเวลา 15.00 น. กลุ่มเสื้อแดงเกือบ 2 พันคนได้มาฮือปิดล้อมสถานที่จัดงานแล้วแหวกวงล้อมตำรวจเข้าไปยึดบริเวณหน้าเวที ท่ามกลางบรรยากาศเต็มไปด้วยความตึงเครียด ทั้งนี้ช่วงกลางดึกที่ผ่านมา ก็เพิ่งมีเหตุพ่อค้าขายเสื้อในตลาดโต้รุ่งร้อยเอ็ด มีปัญหาโต้แย้งกับพ่อค้าขายลูกชิ้น เกี่ยวกับเรื่องระหว่างเสื้อเหลือง-เสื้อแดง สุดท้ายถึงขั้นมีการลงไม้ลงมือจนได้รับบาดเจ็บต้องเข้าแจ้งความดำเนินคดีกับอีกฝ่าย
“เสี่ยจิ้น”เล็งคนมานั่งระดับ 10
ส่วนการเมืองอื่นนายชวรัตน์ รมว. มหาดไทย ปฏิเสธถึงกระแสข่าวที่จะมีการเสนอ ครม.พิจารณาแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการระดับสูงในการประชุม ครม.ในวันที่ 27 ม.ค.ว่า ไม่มีเรื่องการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการเข้าสู่ที่ประชุมในวันดังกล่าว การโยกย้ายยืนยันว่าเป็นไปตามความเหมาะสม ไม่ใช่การรังแกข้าราชการประจำ ส่วนตำแหน่ง ระดับ 10 ที่ว่างก็ยังอยู่ในระหว่างการพิจารณาคนมีความรู้ความสามารถและความซื่อสัตย์
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในงานแจกผ้าห่มช่วยผู้ประสบภัยหนาวที่ จ.นครราชสีมา ของคณะ รมว.มหาดไทย นายเนวิน ชิดชอบ แกนนำกลุ่มเพื่อนเนวิน ได้มาร่วมรับประทานอาหารด้วย เมื่อผู้สื่อข่าวเห็นและจะเข้าไปถ่ายภาพนายเนวินได้ลุกหนีไปเข้าห้องน้ำ อย่างไรก็ตามภายหลังได้ให้สัมภาษณ์โดยปฏิเสธไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับกรณีการโยกย้ายข้าราชการระดับสูงของกระทรวงมหาดไทย
“ตือ”เห็นด้วยเก็บภาษีที่ดิน
นายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ รมช.มหาด ไทย กล่าวถึงการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการระดับสูงในกระทรวงมหาดไทยว่า เป็นเรื่องปกติและต้องย้ายตามเวลาที่เหมาะสม เมื่อถามว่า มีการตั้งข้อสังเกตว่าการโยกย้ายครั้งนี้เพื่อล้างบางขั้วอำนาจ เก่า นายบุญจงกล่าวว่า ไม่ทราบ แต่ถ้าใครทำงานสนองนโยบายรัฐบาลไม่ได้ ก็ต้องปรับเปลี่ยนให้การทำงานดีขึ้น และในการประชุม ครม.วันที่ 27 ม.ค. ยังไม่มีวาระการโยกย้ายข้าราชการระดับสูงในกระทรวงมหาดไทยเข้า ครม.
ด้านนายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล อดีต รมว.เกษตรฯให้สัมภาษณ์สนับสนุนรัฐบาลในการเก็บภาษีที่ดินว่า ตนเห็นด้วยและพยายามผลักดันเรื่องนี้มาตลอด โดยเฉพาะกรณีที่มีต่างชาติเข้ามารุกพื้นที่เกษตรเพื่อหาแหล่งพลังงานทดแทน หากมีการเก็บภาษีที่ดินก็ควรตรวจสอบว่า พื้นที่ไหนที่เป็นพื้นที่ใช้สำหรับทำการเกษตรก็ไม่ควรเก็บภาษีเพิ่ม แต่หากทำเพื่อธุรกิจจะต้องเก็บเพิ่ม ซึ่งวิธีการหรือหลักเกณฑ์จะต้องรัดกุม อย่าให้กระทบต่อเกษตรกรรายย่อยที่มีที่ดินแค่ 5 ไร่ 10 ไร่แล้วไปปกป้องรายใหญ่ ๆ
เชื่อไม่กล้าเอาเรื่อง ส.ป.ก.มาเล่น
เมื่อถามถึงการที่รัฐบาลจะแจก ส.ป.ก. 4-01 ให้กับเกษตรกรยากจน ซึ่งมีการตั้งข้อสังเกตว่าอาจจะมีนักการเมืองหรือนายทุนได้รับประโยชน์ด้วย นายสมศักดิ์กล่าวว่า หลังจากที่มีปัญหาในการอภิปรายไม่ไว้วางใจเรื่อง ส.ป.ก. ก็ได้มีการแก้ไขปรับปรุงหลักเกณฑ์อย่างละเอียดรอบคอบ ทำให้ระยะหลังไม่มีปัญหา
เมื่อถามว่า ฝ่ายค้านจะยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจเรื่องที่มีนักการเมืองได้รับแจก ส.ป.ก. ในพื้นที่ฝั่งทะเลอันดามัน อดีต รมว.เกษตรฯกล่าวว่า ต้องดูว่าเกิดขึ้นในช่วงรัฐบาลไหน เพราะในช่วงที่ฝ่ายค้านเป็นรัฐบาลก็มีการแจก ส.ป.ก. ตนคิดว่าฝ่ายค้านไม่กล้าเอาเรื่องนี้มาเป็นอาวุธ เพราะอาจจะเป็นหอกกลับมาทิ่มตัวเอง แบบดาบนั้นอาจคืนสนองได้
อาทิตย์หน้า กกต.สอบหลายเรื่อง
นายปกครอง สุนทรสิทธิ์ รองเลขาธิ การ กกต. ด้านกิจการพรรคการเมือง ในฐานะประธานคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงการประชุมใหญ่พรรคเพื่อแผ่นดิน เปิดเผยว่า ยังสรุปไม่ได้ว่าการประชุมครั้งที่แล้วของพรรคเพื่อแผ่นดินถูกต้องหรือไม่ อย่างไรก็ตามเราจะเชิญทั้งผู้ร้องและผู้ถูกร้องรวมทั้งพยานมาให้ถ้อยคำอีกครั้ง คาดว่าสัปดาห์หน้าจะเริ่มสอบได้
รายงานข่าวจาก กกต. แจ้งถึงการสอบ ข้อเท็จจริงกรณีที่ร้องเรียนนายเนวิน ชิดชอบ อดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย ร่วมจัดตั้งรัฐบาลกับนายอภิสิทธิ์ว่า ถ้าไม่มีอะไรคลาดเคลื่อนน่าจะสรุปเสนอได้ประมาณวันที่ 10 ก.พ.
นายกฯร่วมงานฉลองลูกบิ๊กช่อง3
ค่ำวันเดียวกันที่โรงแรมโฟร์ซีซั่นส์ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ได้ไปเป็นประธานฉลองงานมงคลสมรสของ น.ส.อุราภา บุตรสาวนายปรีชา เลาหพงศ์ชนะ แกนนำกลุ่มพญานาค พรรคเพื่อแผ่นดิน กับนายวรวรรธน์ บุตรชายนายประวิทย์และนางอรัญญา มาลีนนท์ ผู้บริหารสถานีโทรทัศน์ช่อง 3 ซึ่งบรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก มีนักการเมือง นักธุรกิจ ดารา มาร่วมแสดงความยินดีอย่างคับคั่ง อาทิ นายบรรหาร ศิลปอาชา อดีตหัวหน้าพรรคชาติไทย นายเสนาะ เทียนทอง หัวหน้าพรรคประชาราช ฯลฯ สำหรับของชำร่วยเป็นธนบัตรใบละ 1 บาท และ 10 บาท
ลั่นขัดขวางพธม.ทุกวิถีทาง
ผู้สื่อข่าวจ.ร้อยเอ็ด รายงานเพิ่มเติมว่า กระทั่งเวลา 19.30 น. นายนิสิต สินธุไพร อดีต ส.ส.พรรพลังประชาชน (พปช.) แกนนำกลุ่มเสื้อแดงรักประชาธิปไตยร้อยเอ็ด ได้ขึ้นกล่าวปราศรัยบนรถเครื่องขยายเสียง ประกาศชัยชนะและขอบคุณทีมงานเสื้อแดงทุกคนที่มารวมพลังปกป้องประชาธิปไตยในครั้งนี้ สามารถต่อต้านการเคลื่อนไหวของกลุ่มพันธมิตรฯในพื้นที่ภาคอีสานได้สำเร็จ และจะพากันต่อต้านทุกวิถีทางเพื่อไม่ให้กลุ่มพันธมิตรฯกลับมาสร้างปัญหาให้กับบ้านเมืองอีก หลังจากนายนิสิต พูดจบบรรดาม็อบเสื้อแดงต่างพากันสลายตัว ขณะเดียวกันฝ่ายเสื้อเหลืองส่วนหนึ่งได้เก็บเก้าอี้และเต็นท์ขึ้นรถออกจากบริเวณจัดงาน แต่มีบางส่วนได้ใช้รถเครื่องขยายเสียงเข้ามาปราศรัยต่อที่บริเวณบึงพลาญชัย โดยมีเจ้าหน้าที่ดูแลอย่างใกล้ชิด.
คนรักเชียงใหม่บุกไล่“สุเทพ”
ขณะเดียวกันความเคลื่อนไหวของม็อบเสื้อแดงทางภาคเหนือก็มีความดุเดือดเข้มข้นเช่นกัน ตั้งแต่ช่วงเย็นได้มีกลุ่มคนรักเชียงใหม่ 51 มารวมตัวกันปิดล้อมบริเวณทางเข้าหน้ามหาวิทยาลัยเชียงใหม่ หลังจากได้รับรายงานว่า นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯจะเดินทางมาร่วมงานเลี้ยง “ราตรีอ่างแก้ว” ของสมาคมศิษย์เก่าม.เชียงใหม่ พอกลุ่มคนเสื้อแดงทราบเรื่องจึงมาชุมนุมขับไล่ นายสุเทพให้ออกจากพื้นที่ จ.เชียงใหม่ แม้ว่าทาง เจ้าหน้าที่จะยืนยันว่านายสุเทพไม่ได้เดินทางมาร่วม งานแต่ทางผู้ชุมนุมก็ไม่เชื่อ พยายามบุกเข้าไปขอตรวจค้นทำให้ต้องระดมกำลังตำรวจปราบจลาจลกว่า 300 นาย เข้ามาตรึงกำลังเอาไว้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผู้ชุมนุมได้พยายามขับรถพุ่งฝ่าด่านตำรวจเข้าไปทำให้มีการใช้อาวุธปืนยิงขึ้นฟ้าหลายนัด แต่สุดท้ายผู้ชุมนุมก็สามารถฝ่าเข้าไปได้สำเร็จ บุกเข้าไปในพื้นที่หอประชุม ม.เชียงใหม่ นอกจากนี้มีการวิจารณ์พูดกันปากต่อปากด้วยว่ามีผู้ชุมนุมถูกยิงบาดเจ็บจึงระดมคนเสื้อแดงออกมาร่วมชุมนุมเพิ่มเติมอีก.