บล็อคข่าวส่งเสริมคนดี (รักดีหามจั่ว รักชั่วหามเสา หามจั่วก็หนักนะ)

ข่าวจากสื่อ

บทความจากสื่อ

วันศุกร์ที่ 23 มกราคม พ.ศ. 2552

ข้าวสารยังชีพ

ที่มา ไทยรัฐ

สักเมื่อสิบปีที่แล้ว ผมปลงใจใช้สิทธิรักษาพยาบาล จากกองทุนประกันสังคม ติดต่อกันสอง-สามปี เปลี่ยนโรงพยาบาล (เอกชน) สองโรงพยาบาล

ทดสอบอยู่นาน จึงพบว่า หมอให้การดูแลรักษาแบบไม่เต็มใจ ...โรคตามกระแส ทั้งไขมันในเส้นเลือด ทั้งระดับน้ำตาลในเลือด (เบาหวาน) ไม่มีเค้าจะดีขึ้น

รักตัวกลัวตาย ก็ต้องหันไปหาโรงพยาบาลหลวง แล้วรู้สึกได้ชัดเจน การจ่ายเงินแบบคนไข้ธรรมดา มาตรฐานการรักษาสูงขึ้น

มั่นใจว่าชีวิตจะยืนยาวขึ้น

แต่ตลอดเวลานั้น ก็ถูกหักเงินประกันสังคม รู้สึกเหมือนกันว่า

เสียเปล่าแต่ก็หวังไว้ว่า มีประกันสังคมเผื่อเอาไว้ เป็นตัวช่วย

เมื่อไข้หนักหรือตอนใกล้ตาย วันนี้ไม่ใช้ แต่วันหน้าก็ยังหวังว่าจะใช้

ด้วยความรู้สึกเป็นเจ้าของอย่างนี้ เมื่อมีข่าวรัฐบาลท่านจะเอาเงินจากกองทุนประกันสังคม เกือบ 1 พันล้าน ไปซื้อข้าวสารแจกผู้เอาประกันตน...ผมก็เริ่มคิดว่า มันยังไงๆอยู่

ยิ่งเอาตัวเลขเงินพันล้าน ไปเปรียบกับข้าวสารถุงละ 5 กก. ซึ่งผมเป็นหนึ่งใน 9 ล้านคนที่จะได้ แล้วก็ยังคิดไม่ออกว่า ข้าวสารถุงละ 5 กก. เป็นข้าวพันธุ์ไหน

จะเป็นข้าวหอมมะลิ ข้าวสาวไห้ ที่เคยหุงกินทุกวันหรือไม่ และจะยาไส้ได้สักกี่วัน

ประเด็นก็คือ วันนี้ผมยังมีงานทำ ยังมีเงินส่งเบี้ยประกัน ระบบการกินอยู่หลับนอนก็ยังมีมาตรฐานของมนุษย์ชั้นกลาง... ไม่ได้ขาดแคลน

ครูหลักสูตร บ.ส.ส.คนหนึ่ง สอนว่า ในระบอบประชาธิปไตย ไม่เคยมีคนอดตาย ในขณะที่ระบอบเผด็จการ มีคนอดตาย

เคยอ่านเรื่องของคนไร้บ้านย่านสนามหลวง...วันที่ขัดสนไม่มีข้าวกิน เขาก็ยังมีวัดหลายวัด เช่นที่วัดโพธิ์ ท่าเตียน เป็นที่พึ่ง

ยิ่งช่วงม็อบสีแดงสีเหลืองเบ่งบาน ทุกม็อบมีเสบียงอาหารสมบูรณ์ คนไร้บ้านก็พลอยได้อยู่ดีกินดี มีความสุขไปด้วย ยืนยันประโยคที่ว่า อยู่เมืองไทยหมายังไม่อดตาย

ข่าวคนอดตายก็ยังไม่เคยมี

การมีรัฐบาลที่ มีแต่ให้ไม่ใช่เรื่องเลวร้ายหรอกครับ เป็นเรื่องดีด้วยซ้ำ ผมเคยขึ้นรถเมล์ฟรีหลายครั้ง ทุกครั้งเมื่อพ้นความรู้สึกเอะใจ ทำไมกระเป๋าไม่เก็บเงิน

ก็รู้สึกขอบคุณเจ้าของนโยบายรถเมล์ฟรีที่ชื่อ สมัคร สุนทรเวช ทุกที

ขอบคุณแล้วก็คิดได้ คนแบบผมไม่น่าจะอยู่ในข่ายได้รับการสงเคราะห์ เหมือนระบบช่วยค่าน้ำค่าไฟ บ้านหลังที่อาจารย์

ระดับดอกเตอร์ ไม่ได้อยู่ ได้ยกเว้นค่าน้ำค่าไฟ เจ้าของยังบอกว่า ไม่ควร

อย่างตอนนี้ ผมอายุเกิน 60 ปี แต่ยังโชคดีมีงานทำ ถ้ารัฐบาลบังคับให้รับเงินช่วยเหลือคนละ 500 ผมคงสงสัย จะรับเงินก้อนนี้ เอาไปทำอะไร

ไม่คิดว่าถูกดูถูกดูแคลน เพียงแต่คิดว่า ควรจะเอาไปให้คนที่ควรให้ที่มีอยู่มากมาย...มากกว่า

เรื่องเงินเรื่องค่ารถเมล์ ค่าน้ำค่าไฟ ยังพอปะล่อมปะแล่มรับไหว แต่เรื่องข้าวสารถุงละ 5 กก. บอกตรงๆว่า รับไม่ได้จริงๆ รับมาแล้วสงสารตัวเอง มันดูน่าอเนจอนาถเหลือเกิน

แจกข้าวสาร จำนวนที่ผมเชื่อว่า คนไร้บ้านก็ยังเมิน ไปทำไม?

หรือจะยอมรับว่า รัฐบาลมีเวลาน้อย ต้องรีบกอบโกยกันไว้ ทำกันอย่างนี้ ยี่ห้อประชาธิปัตย์ ก็ไม่ต่างจากการเมืองทั่วไป ตรงไหนเลย.

กิเลน ประลองเชิง

ข่าวส่งเสริมคนดี

จำนวนผู้เข้าเยี่มมชม

link to affordable web hosting
Powered by web hosting provider .

สถิติการเข้าชม DMNEWS

eXTReMe Tracker