บล็อคข่าวส่งเสริมคนดี (รักดีหามจั่ว รักชั่วหามเสา หามจั่วก็หนักนะ)

ข่าวจากสื่อ

บทความจากสื่อ

วันพฤหัสบดีที่ 8 มกราคม พ.ศ. 2552

ประชานิยม

ที่มา ไทยรัฐ

ถูกฝ่ายค้านโจมตีว่ารัฐบาลใหม่ลอกนโยบาย ประชานิยมทักษิณมาใช้เป็น นโยบายตัวเอง

แถมไม่ได้ลอกพอหอมปากหอมคอ พระเดชพระคุณเล่นลอกแบบคำต่อคำ ประโยคต่อประโยค ประเด็นต่อประเด็น

เข้าตำราเกลียดตัวกินไข่ เกลียดปลาไหลกินนํ้าแกง

ทำให้นายกรัฐมนตรี อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ต้องออกมาปฏิเสธว่ารัฐบาลใหม่ไม่ได้ ก๊อบปี้นโยบายประชานิยมรัฐบาลเดิม

เพราะหลายนโยบายของรัฐบาลนี้ก็แตกต่างจากนโยบายรัฐบาลที่ผ่านมา เช่น นโยบายเรียนฟรี 15 ปี หรือนโยบายจ่ายเบี้ยยังชีพเดือนละ 500 บาท ให้ผู้มีอายุ 60 ปี ฯลฯ

แม้ว่านโยบายส่วนใหญ่จะเหมือนกับนโยบายรัฐบาลเก่า ก็ไม่ใช่แอบลอกข้อสอบอย่างที่ฝ่ายค้านโจมตี

แต่ได้มีการพัฒนาปรับปรุงให้ดียิ่ง กว่าเดิม

“อภิสิทธิ์” ชี้ว่าต้นเหตุคือรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันได้กำหนดแนวนโยบายพื้นฐาน 9 ด้านให้รัฐบาลต้องปฏิบัติตาม จึงทำให้ นโยบายรัฐบาลใหม่กับนโยบายรัฐบาลเก่าออกมาคล้ายกันโดยไม่เจตนา

ฉะนั้น เพื่อความเป็นธรรม “แม่ลูกจันทร์” ก็ต้องหยิบรัฐธรรมนูญหมวดแนวนโยบายพื้นฐานแห่งรัฐมาอ่านแก้เซ็ง

รัฐธรรมนูญกำหนดให้รัฐบาลต้องเขียนนโยบายให้ครบ 9 ด้าน ได้แก่ นโยบายความ มั่นคง นโยบายบริหารราชการแผ่นดิน นโยบาย ศาสนาสังคม สาธารณสุข ศึกษา วัฒนธรรม นโยบายด้านการยุติธรรม นโยบายด้านต่างประเทศ นโยบายด้านเศรษฐกิจ นโยบายสิ่งแวดล้อม นโยบายพลังงาน และนโยบายการมีส่วนร่วมของประชาชน

แถมลงรายละเอียดครอบจักรวาล ไม่ว่าจะเป็นนโยบายเรียนฟรี นโยบายรักษาฟรี นโยบายสวัสดิการผู้สูงอายุ นโยบายจัดการนํ้า นโยบายลงทุนเมกะโปรเจกต์ นโยบายพยุงราคาสินค้าเกษตร นโยบายการค้าเสรี ฯลฯ

พูดง่ายๆคือ มัดมือชกรัฐบาลต้องเขียนนโยบายตามกรอบรัฐธรรมนูญ!!

การที่นโยบายรัฐบาลเก่ากับนโยบายรัฐบาลใหม่มีเนื้อหาใกล้เคียงกัน จึงมีต้นเหตุจากรัฐธรรมนูญที่ตีกรอบไว้นั่นเอง

สรุปว่า คำแก้ตัวของนายกฯอภิสิทธิ์ ก็มีส่วนถูกเหมือนกัน

แต่ที่แก้ตัวไม่หลุด เพราะก๊อบปี้นโยบาย รัฐบาลเก่าชัดเจน คือ นโยบาย “6 มาตรการ 6 เดือน ฝ่าวิกฤติเพื่อคนไทย” ซึ่งมีนโยบายนํ้าฟรี ไฟฟ้าฟรี รถเมล์ฟรี รถไฟฟรี และ มาตรการลดภาษีนํ้ามัน ซึ่งกำลังจะครบ 6 เดือน ในวันที่ 30 มกราคม

“แม่ลูกจันทร์” เห็นว่าในเมื่อเป็นนโยบายที่ดี และช่วยบรรเทาความเดือดร้อนประชาชนได้จริง ถ้ารัฐบาลอภิสิทธิ์จะดำเนินการต่อไป ก็ไม่เห็นจะต้องขวยเขินสะเทิ้นอาย

เพราะนโยบายประชานิยมย่อมดีกว่านโยบายประชาไม่นิยม

แต่ก็อย่าลืมว่านโยบายประชานิยม ต้องใช้เงินอัดฉีดก้อนโต

ถ้ารัฐบาลไม่มีงบประมาณเหลือเฟือ ขืนใช้นโยบายประชานิยมตะพึดตะพือก็เสี่ยงที่รัฐบาลจะล้มละลาย!!

“แม่ลูกจันทร์” จึงไม่เห็นด้วยที่ นายกฯ อภิสิทธิ์ จะใช้นโยบายประชานิยมซื้อใจประชาชน ด้วยการสั่งเบรกกระทรวงพลังงานไม่ให้ ปรับราคาขายปลีกก๊าซหุงต้ม (แอลพีจี) ตามต้นทุนที่เป็นจริง

ซึ่งจะทำให้รัฐบาลต้องแบกหนี้มโหฬาร!!

เพราะปัจจุบันราคาขายปลีกก๊าซแอลพีจีจะขาดทุน 6 บาทต่อ 1 กก.

ตอนที่พรรคประชาธิปัตย์เป็นฝ่ายค้าน เคยโจมตีรัฐบาลทักษิณที่ตรึงราคาขายปลีกนํ้ามัน ว่าบิดเบือนราคาถูกกว่าความเป็นจริงเพื่อเอาใจประชาชน

เป็นการบิดเบือนราคา บิดเบือนกลไก ตลาดเพื่อประโยชน์ทางการเมือง

วันนี้ พรรคประชาธิปัตย์เป็นรัฐบาล ก็ตรึงราคาก๊าซแอลพีจีเอาใจประชาชนแบบเดียวกัน

นี่...มันเป็นซะอย่างนี้แหละโยม.

“แม่ลูกจันทร์”

ข่าวส่งเสริมคนดี

จำนวนผู้เข้าเยี่มมชม

link to affordable web hosting
Powered by web hosting provider .

สถิติการเข้าชม DMNEWS

eXTReMe Tracker