บล็อคข่าวส่งเสริมคนดี (รักดีหามจั่ว รักชั่วหามเสา หามจั่วก็หนักนะ)

ข่าวจากสื่อ

บทความจากสื่อ

วันอาทิตย์ที่ 12 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

เปรมออกมาเล่นเองสองงานแล้ว เป็นการรุก หรือ ถอยร่นทางยุทธศาสตร์กันแน่ ??

ที่มา thaifreenews

โดย ลูกชาวนาไทย

เปรมออกมาเล่นเองสองงานแล้ว แสดงว่าเคลื่อนไหวมีเป้าประสงค์ทางยุทธศาสตร์แน่

การเคลื่อนไหวของ พล.อ.เปรม ไม่ใช่สิ่งที่ปรากฎขึ้นตามปกติและตามธรรมชาติ เพราะปกติจะเก็บตัวและไม่ได้ออกเคลื่อนไหวแบบนี้

ก่อน ปี 2549 ก่อนรัฐประหาร พล.อ.เปรม เคลื่อนไหวเรื่องม้ากับจ็อกกี้ และเดินสายตามค่ายทหารต่างๆ ในรัฐบาลของทักษิณ ผลคือ ----> เกิดการรัฐประหารปี 2549

การเคลื่อนไหวครั้งนั้นสรุปได้ว่าคือการรวบรวมกำลัง เพื่อตอกย้ำสายบังคับบัญญชา

ครั้งนี้เคลื่อนไหวสองครั้งแล้ว ครั้งแรกงานสโมสรกองทัพบกจัด เชิญนายกฯปูเข้าร่วม แสดงภาพ ปูกับป๋า ครั้งนี้ริเริ่มโดยกองทัพบก

เป้าประสงค์ผมคาดว่าแสดงภาพ "การจับมือกัน" ระหว่างตัวแทนของคู่ขัดแย้งทั้งสองฝ่าย

ครั้งที่สอง จัดงานเลี้ยง ศปภ. จัดโดยรัฐบาล และเชิญ พล.อ.เปรมมา เป็นประธาน สร้างภาพเหมือนครั้งแรก แต่ริเริ่มโดยรัฐบาล

ก่อนหน้า พล.อ.เปรมออกเคลื่อนไหว มีการเคลื่อนไหวของ Elite ที่เคยเจ็บไข้ได้ป่วย ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้สองสามปี ไม่ออกมาเลย

หากเราวิเคราะห์การถอยครั้งใหญ่ และความผิดพลาดครั้งใหญ่ของฝ่ายอำมาตย์นั้น

ผิด พลาดครั้งใหญ่คือ การสังหารหมู่เสื้อแดง ตาย 91 ศพ เจ็บกว่า 2,000 คน ตอนแรกพวกเขาคิดว่าชนะเหมือน 6 ตุลาคม 19 แต่ผลทางยุทธศาสตร์เราก็เห็นชัดเจนแล้วว่าผิดพลาดอย่างแรง

ส่งผลต่อมาอันที่สองคือ อภิสิทธิ์ยุบสภาคิดว่าชนะ แต่แพ้ขาดลอย พรรคเพื่อไทย+เสื้อแดงชนะเลือกตั้งเกินครึ่ง

นี่คือการ "ถอยร่นอย่างรุนแรงของฝ่ายอำมาตย์" เรียกว่า เมืองหน้าด่านแตกแล้วก็ว่าได้

พวกเสื้อแดงล้อมเมืองหลวงสำเร็จแล้ว

กระแสที่รุนแรงอันล่าสุดคือ เรื่อง 112

นี่ในทางสงครามแทบเหมือนกับการโจมตีเหมืองหลวงเลยทีเดียว
แม้ว่า แกนนำพรรคเพื่อไทยและรัฐบาลจะโดดหลบ

แต่ เราก็ประเมินทางยุทธศาสตร์ได้ว่า กระแสไม่ได้ลดความรุนแรงลง เพราะแนวรุกกลับเป็นนักวิชาการอิสระ และเป็นแนวรุกทางด้านความคิด ฝ่ายอำมาตย์หาแนวคิดและอุดมการณ์ต้านไว้ไม่ได้

เลยต้องรวมพลแบบนักเลงออกมายัน แม้ดูเหมือนจะยันอยู่ แต่วิเคราะห์จริงๆ คือ ยันได้ชั่วคราว

แต่นี่คือการถอยร่นทางอุดมการณ์ครั้งใหญ่ มันไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนตลอดครึ่งศตวรรษที่ผ่านมา

แม้พยายามสร้างกระแส แต่เราเห็น "ประชาชนจริงๆ กับเงียบจนหน้ากลัว"
มี แต่หน้าม้าคือ กองทัพ และฝ่ายบริหารของมหาวิทยาลัยออกมาสู้ ที่ดูเหมือนใหญ่โต แต่จริงๆ จำนวนคนไม่เกิน 100 คน แล้วจะสรุปได้อย่างไรว่ามหาชนจำนวนมากที่เงียบ ไม่เหมือนสมัย 2519 ที่มวลชนขยับมากมาย

ผมยังไม่สรุปว่าการออกมาเคลื่อนไหวของ พล.อ.เปรมคืออะไร
เป็นการรุกทางยุทธศาสตร์ เพื่อทำรัฐประหาร ? ในที่สุด

หรือ

การถอยร่นทางยุทธศาสตร์
เลยใช้กล ขงเบ้งตายแล้วแต่งตัวขึ้นรถ หลอกสุมาอี้ไม่ให้บุกตลุยถล่มกองทัพที่รับการรุกไม่ไหวแล้ว

ผมยังไม่มั่นใจนะครับ ขอเวลาไตร่ตรองให้รอบคอบ ให้จิตใต้สำนึกเป็นตัวสรุป

ข่าวส่งเสริมคนดี

จำนวนผู้เข้าเยี่มมชม

link to affordable web hosting
Powered by web hosting provider .

สถิติการเข้าชม DMNEWS

eXTReMe Tracker