ชาวไทยพุทธที่บ้านในเนื้อ อำเภอปะนาเระ จังหวัดปัตตานี เหลือเพียง 17 คน หลังจากสองสามีภรรยาถูกยิงเสียชีวิต ยันไม่คิดย้ายหนี แม้ต้องอยู่อย่างหวาดกลัว
บ้านของชาวไทยพุทธหนึ่งใน 5 หลังที่บ้านในเนื้อ หมู่ที่ 2 ตำบลน้ำบ่อ อำเภอปะนาเระ จังหวัดปัตตานี ปัจจุบันเหลือสมาชิกเพียง 17 คน หลังจากนายอนันต์ แซ่เอี้ยว และนางลักขณา แซ่เอี้ยว สองสามีภรรยาจากหมู่บ้านนี้ถูกยิงเสียชีวิต เมื่อเวลา 11.30 น.วันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2555
วานนี้ (14 ก.พ.) มีเหตุยิงกันมีผู้เสียชีวิตบริเวณ หมู่ที่ 3 ตำบลน้ำบ่อ อำเภอปะนาเระ จึงนำกำลังไปตรวจสอบ พบผู้เสียชีวิต 2 ราย ทราบชื่อนายอนันต์ แซ่เอี้ยว และนางลักขณา แซ่เอี้ยว สองสามีภรรยา อยู่บ้านเลขที่ 201 หมู่ที่ 2 บ้านในเนื้อ ตำบลน้ำบ่อ มีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนหลายนัด
พ.ต.อ. มานิตย์ ยิ้มซ้าย ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรปะนาเระ จังหวัดปัตตานี สอบสวนทราบว่า ขณะที่ผู้ตายทั้งสองคนขับขี่จักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้าออกจากบ้านพักเพื่อหา ของป่า เมื่อถึงที่เกิดเหตุถูกคนร้าย 2 คน ขับรถจักรยานยนต์ตามประกบยิงจนเสียชีวิต เจ้าหน้าที่เชื่อเป็นฝีมือแนวร่วมในพื้นที่สร้างสถานการณ์
ใน ช่วงเย็นวันเดียวกัน ที่บ้านในเนื้อ ซึ่งเป็นหมู่บ้านของผู้เสียชีวิตมีบรรยากาศค่อนข้างเงียบเหงา เนื่องจากชาวบ้านได้เดินทางไปร่วมงานศพของผู้เสียชีวิตทั้งสองที่วัด คอกกระบือ อำเภอปะนาเระ
หมู่บ้านในเนื้อมีเส้นทางเข้าออกสองทางและค่อนข้างเปลี่ยว มีบ้านรวมกัน 5 หลัง ปลูกเป็นกลุ่มใกล้ๆ กัน โดยมีฐานปฏิบัติการทหารพรานตั้งอยู่ตรงกลาง
จ.ส.อ.อุดร คงคืน ผู้บังคับการชุดปฏิบัติการทหารพรานบ้านในเนื้อ เปิดเผยว่า หมู่บ้านในเนื้อมีชาวไทยพุทธอาศัยอยู่ 5 ครอบครับ รวม 19 คน เสียชีวิตไปอีก 2 คน เหลือ 17 คน เมื่อก่อนมีสิบกว่าครอบครัว แต่หลังเกิดเหตุไม่สงบจึงย้ายออกไปอยู่ที่อื่น
จ.ส.อ.อุดร เปิดเผยว่า หลังเกิดเหตุครั้งนี้ เจ้าหน้าที่ทหารพรานต้องเพิ่มการดูแลชาวบ้านมากขึ้นไปอีก ส่วนกรณีที่ชาวบ้านประสบเหตุ เนื่องจากออกเดินทางไปไหนมาไหน โดยไม่ได้แจ้งให้เจ้าหน้าที่ทราบ
นาย ประกอบ พี่เขยของนายอนันต์ เปิดเผยด้วยภาษามลายูท้องถิ่นว่า ตนปลูกบ้านอยู่ใกล้กับบ้านของนายอนันต์ ซึ่งนายอนันต์ เป็นอดีตทหารพราน บ้านนายอนันต์ มีทั้งหมด 3 คน เมื่อนายอนันต์กับภรรยาเสียชีวิต จึงเหลือแม่ของนายอนันต์ อายุ 60 ปี คนเดียว หลังจากนี้ ตนคงต้องเป็นคนดูแล
นายประกอบ เปิดเผยว่า ชาวบ้านที่นี่เคยประสบเหตุไม่สงบมาแล้วครั้งแรกเมื่อปี 2549 ถูกยิงได้รับบาดเจ็บที่บ้านท่าสู ส่วนครั้งนี้เป็นครั้งที่สอง โดยนายอนันต์ มักชอบออกเดินทางไปหาของป่าตามลำพังเป็นประจำ
นายประกอบ เปิดเผยด้วยว่า ชาวไทยพุทธทั้ง 5 ครอบครัว ประกอบอาชีพทำสวนมะพร้าว และรับจ้างเลี้ยงเป็ดไก่จากนายจ้างที่เป็นชาวมุสลิม และมีการไปมาหาสู่กับชาวมุสลิมที่อยู่รอบๆ ทั้ง 5 ครอบครัว เป็นชาวไทยพุทธที่อาศัยอยู่ดั้งเดิมตั้งแต่รุ่นปูย่าตายาย จึงไม่คิดจะย้ายออกไปไหน ส่วนคนที่ย้ายออกไป ส่วนมากเป็นคนมาจากที่อื่น เมื่อเกิดเหตุไม่สงบจึงไม่กล้าอาศัยอยู่ต่อ
“อยู่ ที่นี่ กลัวก็กลัว แต่ต้องอยู่เพราะไม่รู้จะย้ายไปอยู่ที่ไหน ถ้าย้ายไปแล้วก็ต้องเริ่มต้นชีวิตใหม่ ตอนนี้ยังไม่ได้คุยกับชาวบ้านที่เหลืออยู่ว่าจะตัดสินใจอย่างไรต่อไป” นายประกอบ กล่าว