ผู้บริหารมธ.ออกแถลงการณ์อย่างเป็นทางการ ชี้แจงเหตุผลการสั่งห้ามใช้พื้นที่มหาวิทยาลัยเคลื่อนเรื่องม. 112 ยัน ธรรมศาสตร์ยังมีเสรีภาพทุกตารางนี้ว และแสดงออกทางการเมืองอย่างอื่นได้ แต่ขอห้ามเรื่องม. 112 ไว้เพราะกลัวสร้างความแตกแยกในสังคม
วันที่ 1 ก.พ. 55 คณะกรรมการบริหารมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เผยแพร่แถลงการณ์อย่างเป็นทางการ ต่อเรื่องมติการไม่อนุญาตให้กลุ่มบุคคลเข้ามาใช้สถานที่ภายในมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์เพื่อทำ "กิจกรรมเคลื่อนไหวชี้นำมวลชน"
แถลงการณ์ดังกล่าวระบุว่าไม่ต้องการให้สาธารณชนเข้าใจผิดว่ามหาวิทยาลัย ธรรมศาสตร์สนับสนุนการเคลื่อนไหวที่สร้างความแตกแยก และย้ำว่า มติดังกล่าวมิได้เป็นไปเพื่อการจำกัดสิทธิและเสรีภาพทางวิชาการ เนื่องจากมหาวิทยาลัยยังสนับสนุนการแสดงออกทางการเมืองเรื่องอื่นๆ แต่เรื่องมาตรา 112 จำเป็นต้องห้ามเพราะอาจเป็นการขยายความขัดแย้ง
ในวันเดียวกัน ผู้บริหารคณะวารสารศาสตร์และสื่อสารมวลชน ได้เผยแพร่แถลงการณ์ผ่านเว็บไซต์ www.jc.tu.ac.th เรื่อง จุดยืนในการใช้พื้นที่ในมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์และการแสดงออกทางความคิดเห็น เกี่ยวกับกฎหมายมาตรา 112 โดยย้ำว่า จะปฏิบัติตามคำสั่งมหาวิทยาลัยที่ห้ามกลุ่มบุคคลใช้พื้นที่เพื่อเคลื่อนไหว กรณีม.112 พร้อมสนับสนุนเสรีภาพในการแสดงออกเชิงวิชาการ ตราบใดที่ไม่รุนแรงและละเมิดสิทธิ
ทั้งนี้ แถลงการณ์ดังกล่าวออกมาภายหลังจากการประกาศของสมคิด เลิศไพฑูรย์เมื่อวันที่ 30 มกราคมว่า ที่ประชุมกรรมการมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์มีมติห้ามกลุ่มบุคคลใช้พื้นที่ใน มหาวิทยาลัยเพื่อเคลื่อนไหวเกี่ยวกับ ม.112 และเมื่อเร็วๆ นี้ กลุ่ม "วารสารฯ ต้านนิติราษฎร์" ซึ่งเป็นกลุ่มศิษย์เก่าคณะวารสารฯ มธ. ได้ประกาศว่าจะชุมนุมต่อต้านกลุ่มนิติราษฎร์ที่หน้าคณะวารสารศาสตร์ มธ. ท่าพระจันทร์ในวันที่ 2 ก.พ. นี้ เวลา 14.00 ด้วย
0000
ประกาศมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
เรื่อง การไม่อนุญาตให้ใช้พื้นที่ของมหาวิทยาลัยเพื่อจัดกิจกรรมเคลื่อนไหวชี้นำมวลชน
ในเรื่องที่เกี่ยวกับการเสนอให้มีการแก้ไขบทบัญญัติในประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๑๑๒
--------------------------
ตามที่ได้มีคณะบุคคลขออนุญาตใช้ห้องประชุมในมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์จัด
กิจกรรมทางการเมืองเคลื่อนไหวมวลชนหลายครั้งต่อเนื่องกัน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเรียกร้องให้
สาธารณชนเห็นชอบ และร่วมกันเข้าชื่อเสนอให้มีการแก้ไขประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๑๑๒
ซึ่งในช่วงเวลาที่ผ่านมา มหาวิทยาลัยและหน่วยงานที่รับผิดชอบได้อนุมัติให้ใช้สถานที่มาโดยตลอด
ทำให้ในปัจจุบันได้ก่อให้เกิดการวิพากษ์วิจารณ์จากฝ่ายต่าง ๆ ทั้งในภาครัฐและในหมู่ประชาชน
ทั่วไปว่า การจัดกิจกรรมของคณะบุคคลในลักษณะดังกล่าวเป็นการเปิดช่องให้มีการแสดงความ
คิดเห็นที่เป็นการล่วงละเมิดให้ร้ายต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ จนทำให้เกิดข้อขัดแย้งอย่างรุนแรง
ในระหว่างกลุ่มบุคคลที่มีความคิดเห็นแตกต่างกัน ปัญหาความขัดแย้งที่เกิดขึ้นได้สร้างความ
แตกแยกในหมู่ประชาชนเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ ดังที่ปรากฏชัดเจนในรายงานข่าวของสื่อต่าง ๆ อยู่
ในขณะนี้
ที่ประชุมคณะกรรมการบริหารมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (ก.บ.ม.) ในการประชุม
ครั้งที่ ๒/๒๕๕๕ เมื่อวันที่ ๓๐ มกราคม ๒๕๕๕ ได้พิจารณาสถานการณ์ที่น่าเป็นห่วงดังกล่าวแล้ว
มีความเห็นร่วมกันว่า การอนุญาตให้มีการใช้สถานที่ของมหาวิทยาลัยซึ่งเป็นสถานที่ราชการ เพื่อ
จัดกิจกรรมทางการเมืองเคลื่อนไหวชี้นำมวลชนในประเด็นที่ทำให้มีการวิพากษ์วิจารณ์บทบาทและ
พระราชอำนาจของสถาบันพระมหากษัตริย์ไปในทางที่เสียหายนั้น อาจทำให้สาธารณชนเกิดความ
เข้าใจผิดว่า มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ซึ่งเป็นส่วนราชการเป็นผู้ดำเนินการจัดให้มีการเคลื่อนไหว
เช่นนั้นขึ้น หรือมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์เห็นด้วยกับการดำเนินการดังกล่าว และโดยที่การจัด
กิจกรรมที่มีเนื้อหากระทบต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ อันเป็นที่เคารพเทิดทูนของประชาชน อาจนำ
มาซึ่งความขัดแย้งในระหว่างกลุ่มบุคคลที่แสดงตัวเป็นปฏิปักษ์ต่อกัน จนถึงขั้นมีการใช้ความรุนแรง
ภายในบริเวณมหาวิทยาลัย จนมหาวิทยาลัยไม่อาจดูแลความปลอดภัยของบุคคลและทรัพย์สินของ
มหาวิทยาลัยได้ ที่ประชุม ก.บ.ม. จึงมีมติเอกฉันท์ให้ทุกหน่วยงานในมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ถือ
ปฏิบัติว่า จะไม่อนุญาตให้คณะบุคคลใดใช้พื้นที่ของมหาวิทยาลัยเพื่อจัดกิจกรรมเคลื่อนไหวชี้นำ
มวลชนในเรื่องที่เกี่ยวกับการเสนอให้มีการแก้ไขบทบัญญัติในประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๑๑๒
เช่นที่ผ่านมาอีก
อนึ่ง มหาวิทยาลัยขอยืนยันว่า มติ ก.บ.ม. ข้างต้น ไม่ใช่การจำกัดเสรีภาพของอาจารย์
เจ้าหน้าที่ หรือนักศึกษาของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ หรือบุคคลใด ในอันที่จะใช้เสรีภาพในการแสดง
ความคิดเห็น หรือใช้เสรีภาพในทางวิชาการ อันเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานของแต่ละบุคคล มหาวิทยาลัย
มิได้ห้ามการใช้เสรีภาพทั้งสองประการของบุคคลใด ไม่ว่าจะเป็นการคิด การเขียน เพื่อแสดงออก
ซึ่งความคิดเห็นต่อสาธารณะผ่านสื่อ หรือผ่านวิธีการอื่นใด อันเป็นสิ่งที่แต่ละบุคคลจะกระทำได้
ภายใต้ความรับผิดชอบตามกฎหมายในการใช้เสรีภาพของตนเอง มติดังกล่าวจึงเป็นเพียงการไม่
สนับสนุนการจัดกิจกรรมเคลื่อนไหวทางการเมืองที่เสี่ยงต่อการขยายความขัดแย้งในหมู่ประชาชน
และนำมาซึ่งความเสียหายต่อมหาวิทยาลัยและกระทบต่อความสงบเรียบร้อยของชาติบ้านเมือง
โดยเฉพาะในส่วนที่เกี่ยวกับการเคลื่อนไหวเพื่อแก้ไขประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๑๑๒ เท่านั้น
ส่วนการดำเนินการใช้สิทธิและเสรีภาพในประเด็นอื่น ๆ ไม่เว้นแม้จะเป็นประเด็นทางการเมือง
มหาวิทยาลัยก็ยังคงสนับสนุนให้ดำเนินการได้ อันสอดคล้องกับปรัชญาของการก่อตั้งมหาวิทยาลัย
และสอดคล้องกับหลักการที่เป็นมหาวิทยาลัยที่มีเสรีภาพทุกตารางนิ้ว
จึงประกาศมาเพื่อทราบโดยทั่วกัน
มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
๑ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๕
0000
แถลงการณ์คณะวารสารศาสตร์และสื่อสารมวชน มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ สืบ เนื่องจากสถานการณ์ปัจจุบันที่มีการนำเสนอความเห็นทางวิชาการของกลุ่มนิติ ราษฎร์เพื่อแก้ไขกฎหมายมาตรา 112 ให้สังคมทั่วไปได้แสดงความคิดเห็น พบว่าจากข้อเสนอดังกล่าวได้มีกลุ่มประชาชนในแวดวงต่างๆ ที่มีความ เห็นสนับสนุนและคัดค้านข้อเสนอทางวิชาการดังกล่าวเป็นจำนวนมาก
ใน การนี้ เพื่อให้เกิดความเข้าใจที่ตรงกันกับสาธารณชน ผู้บริหารคณะวารสารศาสตร์และสื่อสารมวลชน มหาวิทยาลัย ธรรมศาสตร์ ขอชี้แจงถึงจุดยืนในเรื่องดังกล่าว ดังนี้
ประการที่หนึ่ง เรื่องการใช้พื้นที่ในการแสดงความคิดเห็นเรื่องกฎหมายมาตรา 112 ในมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
ผู้ บริหารคณะวารสารศาสตร์และสื่อสารมวลชน มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ จะปฏิบัติตามมติจากที่ประชุมคณะ กรรมการบริหารมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์เมื่อวันที่ 30 มกราคม 2555 ในการไม่อนุญาตให้บุคคล/กลุ่มบุคคลต่างๆใช้พื้นที่ของมหาวิทยาลัยเพื่อ เคลื่อนไหวในกรณีที่อาจก่อให้เกิดความขัดแย้งอย่างรุนแรงภายในมหาวิทยาลัย จนอาจดูแลความปลอดภัยของบุคคลและทรัพย์สินของมหาวิทยาลัยไม่ได้ เนื่องจากมหาวิทยาลัยเป็นสถานที่ราชการ อีกทั้งการอนุญาตต่อไปอาจทำให้เกิดการเข้าใจผิดว่าเป็นการดำเนินการ ของมหาวิทยาลัยหรือมหาวิทยาลัยเห็นด้วยกับการดำเนินการดังกล่าวข้างต้น
ประการที่สอง จุดยืนเรื่องการแสดงออกทางความคิดเห็นคณะวารสารศาสตร์และสื่อสารมวลชน
มหาวิทยาลัย ธรรมศาสตร์ เป็นสถาบันการศึกษาทางด้านวารสารศาสตร์และสื่อสารมวลชน ที่มุ่งเน้นการส่งเสริมเสรีภาพในการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเชิงวิชาการ ตราบใดที่ความคิดเห็นนั้นๆเป็นการแลกเปลี่ยนในเชิงสร้างสรรค์ ไม่ละเมิดสิทธิของผู้อื่น ไม่ใช้ความรุนแรง อยู่ภายใต้รัฐธรรมนูญ และไม่ขัดต่อหลักการของสังคมประชาธิปไตย
ผู้ บริหารคณะวารสารศาสตร์และสื่อสารมวลชน ขอแสดงจุดยืนทั้ง 2 ประการข้างต้น และขอทำความเข้าใจว่า คณะวารสารศาสตร์และสื่อสารมวลชน มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ มิได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการสนับสนุนและคัดค้านการแสดงความคิดเห็นในเรื่อง ดังกล่าวที่ปรากฏในสื่อต่างๆ
ทั้ง นี้คณะวารสารศาสตร์และสื่อสารมวลชนในฐานะที่เป็นสถาบันการศึกษาด้านวารสาร ศาสตร์และสื่อสารมวลชน มุ่งให้เกิดสังคมที่มีความเข้าใจ ใช้ตรรกะและเหตุผลในการแสดงความคิดเห็นเพื่อนำไปสู่การสื่อสารที่สมานฉันท์ ในระยะยาว
|