ไม่ได้เหนือความคาดหมายของผมแต่อย่างใด เกี่ยวกับคดีของคุณหญิงอ้อ เพราะมันมีสัญญาณก่อนหน้านี้ตั้งนานแล้วว่า ฝ่ายตรงข้ามไม่วางมือหรือมีเมตตาปรานีแน่
การปล่อยชีวิตให้ขึ้นอยู่กับ "เมตตาของคนอื่นนั้น" ผลมันก็เป็นอย่างที่เห็น
ตอนนี้ก็ขึ้นอยู่กับคุณทักษิณเองแล้วว่าจะสู้หรือจะถอย หากถอยก็เตรียมตัวรับอีกหลายฉาดได้เลย เพราะไม่มีศัตรูที่ไหนจะไว้ใจ "ให้เราเป็นหอกข้างแคร่" ได้อีก หากเขาจัดการ เข้าก็ต้องจัดการไม่ให้เหลือซาก ซึ่งผลของการทำรัฐประหารครั้งที่แล้ว พวกเขาสรุปบทเรียนแล้วว่า "หากไม่ทำให้สะเด็ดน้ำ" ก็อาจเป็นเภทภัยภายหลัง
ประวัติ ศาสตร์ก็มีอยู่ในสมัยการเปลี่ยนแผ่นดินในสมัยกรุงธนบุรี ที่สมเด็จเจ้าพระยามหากษัตริย์ศึกปราบดาพิเษก (ทำรัฐประหารนั่นแหละ) ขึ้นมา กรมพระราชวังบวราสถานมงคลมหาสุรสีหนาท ที่เป็นน้องของ ร.1 ก็ได้จับเชื้อสายของสมเด็จพระเจ้ากรุงธนฯ สำเร็จโทษจนหมดสิ้น เพื่อไม่เห็นเป็นเภทภัยในภายหลัง เหลือไว้องค์เดียวคือ กรมขุนกษัตรานุชิต หลานคนแรกของ ร.1 ที่เกิดจากธิดาองค์ใหญ่ที่ยกให้เป็นพระสนมของพระเจ้ากรุงธนฯ ที่ ร.1 ทรงขอเอาไว้ืเพราะเป็นหลานคนแรก แต่ในสมัย ร.2 ก็ได้ประหารเจ้าชายองค์นี้ ข้อหากบฏ โดยมีอีกาคาบหนังสืิอสนเท่ห์มาให้ (เข้าใจว่าคงมีคนผูกไว้ที่อีกาที่กินข้าวตอน ร.2 ตักบาตรทุกวัน)
ดังนั้น การรอความเมตตาของคนอื่นนั้น ผลก็คือ "ตายสถานเดียว”
เรื่องการเมือง ไม่ใช่เรื่องที่จะเมตตากันได้ ดังนั้น หากไม่สู้ คุณทักษิณ ก็ต้อง "ยอมตายอย่างน่าเวทนา" และข้อดีคือไม่ต้องดิ้นรนให้เหนื่อย
แต่โอกาสรอดคงยาก
แต่หากสู้ จนฝ่ายตรงข้ามไม่อาจปราบได้ หรือพ่ายแพ้ เกียรติยศทั้งหลายก็ได้กลับคืนมา โดยไม่ต้องรอ "ความเมตตาของฝ่ายตรงข้าม"
สู้ก็อาจตาย แต่ไม่สู้นั้นตายอย่างน่าอนาถแน่นอน และตายอย่างคนขี้แพ้
เลือกเอาก็แล้วกัน
หากเลือกจะสู้ จะต้องไม่มีความเมตตาต่อศัตรู เพราะการเมตตาต่อศัตรูคือ การทำร้ายตนเอง หรืออัตวิบาตกรรมตนเอง
ผมเป็นคนนอก ก็ได้แต่ประเมินอย่างนี้
ผมเห็นคุณทักษิณแพ้ครั้งแล้วครั้งเล่าในช่วงหลังนี้ "เพราะหูเบา" เชื่อการหลอกลวงของคนอื่น หากตอนโดนทำรัฐประหารใหม่ๆ ตั้ง "รัฐบาลพลัดถิ่นขึ้นมาสู้" ก็ต้องไม่มีวันนี้แน่นอน และต่อๆ มาก็ยังหลงเชื่อคนอื่นอีกหลายครั้ง ทำให้การเดินเกมไม่เด็ดขาดพอ สุดท้ายก็ต้องเป็นอย่างนี้
แต่ถึงอย่างไรคุณทักษิณ ก็ยังมีต้นทุนทางการเมืองสูง "แม้จะติดคุก" (ซึ่งโง่ที่สุด หากยอมอย่างนั้น) หรือต้องไปอยู่ต่างแดน ก็สามารถต่อสู้มาจากจุดนั้นได้ และจงอย่ามีความปรานี หรือ "นับถือผู้ใหญ่คนใดอีกต่อไป" หากจะรุกก็ต้องทำให้เขายอมจำนน โดยไม่มีทางเลือกได้อีก และสิ่งที่ต้องทำคือ "ต้องให้พวกเขาเหล่านั้น ยอมรับเงื่อนไขของเรา" ไม่ใช่เราไปยอมรับเงื่อนไขของเขา
หากยอมตายแบบ ปรีดี ก็คงไม่มีดินกลบหน้า
แต่ ต้นทุนทางการเมืองคุณทักษิณสูงกว่าปรีดีมาก เพราะมีฐานประชาชนที่แท้จริงสนับสนุน ดังนั้น แม้ต้องลงจากอำนาจไปแล้วก็ยังถือว่ามี "ต้นทุนทางการเมืองสูงอยู่"
ศัตรูต่างก็แก่ชราแล้ว พวกเขาไม่มีทางที่จะรบอยู่ได้นาน ต้องทำให้พวกเขาเห็นว่า หากพวกเขาไปแล้ว "ปราสาททรายของพวกเขาต้องพังพินาศ"
การรบใช้สงครามยืดเยื้อได้ แต่ศัตรูไม่อาจใช้ได้ เพราะแก่ชราแล้ว ลูกหลานศัตรูไม่มีพลังเพียงพอ
และอย่าปรานีต่อ "ตุลาการภิวัฒน์" ทั้งหลายด้วย คนพวกนี้ทำให้ “หลักนิติธรรม” ของไทยเสื่อมสลายและสั่นคลอน”
ผมไม่คิดว่าเรื่องนี้เป็น "ผลกรรมของคุณทักษิณ" แต่มันเป็นการกระทำของคน เพราะมันขึ้นกับคนล้วนๆ และผลที่ได้รับ ก็เกิดจากคนที่มีการวางแผนกันเอาไว้ หากเกิดจากกรรม ก็ต้องคิดว่า กรรมนั้นเพราะเราอ่อนแอไม่เด็ดขาดเอง
ลูกหลานของพระเจ้ากรุงธนฯ มีึความผิดอะไรจึงต้องตายหมด เป็นกรรมของพวกเขาหรือ ผมว่าเป็นเพราะ "พวกเขาแพ้" มากกว่าครับ
และหากมันเป็นกรรมจริงๆ มันก็ยังไม่จบ เพราะกรรมอาจจะตามมายังฝ่ายตรงข้ามอีก เชื่อผมเถอะว่า ตอนนี้ พระอาทิตย์ใกล้อัสดงแล้ว
แต่ "จักรวรรดิที่เสื่อมโทรมก็ยังมีพลังอยู่"
ผมเชื่อว่า หากพระเจ้ากรุงธนฯ ไม่เห็นว่าจะต้องฆ่ากัน และต่อสู้ก็อาจไม่แพ้ แต่การ "เมตตาต่อศัีตรู" ลูกหลานกฌต้องรับกรรมไป
ผมไม่สนใจว่าทักษิณจะสู้ด้วยวิธีไหนนะครับ แต่ผมประเมินได้เลยว่า "หากทักษิณยอมจำนน ขอความเมตตาจากศัตรู" ผมว่าเขาตายแน่นอน มันไม่ต่างอะไรกับการกำจัดเสี้ยนหนามในอนาคตหรอกครับ พวกเขาไม่เอาไว้แน่นอนครับ
หากเขาตัดสินใจสู้ ด้วยวิธีไหนก็ตาม นั่นคือการลุกขึ้นสู้ ซึ่งสามารถประเมินสถานการณ์และเปลี่ยนยุทธวิธีไปได้เรื่อยๆ หากใจสู้เสียอย่าง
หาก ใครดูหนังเรื่อง Brave heart คนที่เป็นพระรอง คือ Robert Bruce ที่ในตอนท้ายของเรื่อง นำทหารสก็อตเข้ารบกับอังกฤษและได้เอกราชในที่ิสุด และก็ได้เป็นพระเจ้าแผ่นดินของสก็อตแลนด์
ข้อเท็จจริงในประัวัติศาสตร์คือ หลังจาก William Wallace ตายแล้ว Robert Bruce ก็ได้รบต่อสู้อีกหลายปี และแพ้แล้วแพ้อีก จนเหลือทหารไม่กี่คนและหนีไปซ่อนตัวที่เกาะแห่งหนึ่ง และกำลังจะหมดกำลังใจอยู่แล้ว ก็เห็นแมงมุมตัวหนึ่งปีนขึ้นไปผนังถ้ำ และก็ตกแล้วตกอีก แต่แมงมุมตัวนั้นก็ปีนขึ้นไปใหม่ หลายสิบครั้งจนสำเร็จ โรเบิร์ตบรูส เลยได้คติแรงบันดาลใจว่า "ถ้าคุณแพ้ ก็จงพยายามใหม่อีก และพยายามอีก และพยายามอีก”
คุณทักษิณหากแพ้ครั้งนี้ ก็ไม่ได้ล่มสลาย แค่สู้ สู้ และสู้ และสู้อีกครั้ง หากฝ่ายตรงข้ามแพ้ ก็หมายถึงไปเลย
ตอนนี้ถอยก็ตาย สู้็อาจตาย (ซึ่งโลกยุคนี้คงไม่ตายจริง ๆ ดังนั้นจึงไม่้ต้องกลัวว่าจะตาย)
แค่คุณทักษิณ "รักษาชีวิตเอาไว้ ศัตรูโดยสังขารของตนเองย่อมอยู่ไม่ได้นาน" สุดท้ายพวกเขาก็ต้องพ่ายแพ้
แต่อย่ายอมแพ้เด็ดขาดไม่อย่างนั้น ไม่มีแผ่นดินอยู่แน่
สำหรับผมในฐานะประชาชนธรรมดา ผมได้แต่วางอุเบกขากับชะตากรรมของคุณทักษิณ เท่านั้น เพราะผมคงไม่สามารถช่วยอะไรได้ แต่ผมคงไม่ท้อถอยในการต่อสู้เพื่อให้ได้ประชาธิปไตยที่สมบูรณ์ เพราะมันคือ “ภารกิจทางประวัติศาสตร์ของสังคมไทย” ที่ต้องทำให้ลุล่วงไป
ประเทศเราคงเป็นประเทศประชาธิปไตยที่สมบูรณ์ในอนาคต ณ จุดเวลาใด เวลาหนึ่ง แต่วันนี้ มันเป็น “ภารกิจของคนไทยที่เป็นส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์” ที่จะจะต้องต่อสู้ให้ได้ประชาธิปไตยที่สมบูรณ์มา เผด็จการศักดินาอำมาตยาธิปไตยนั้น เป็นสิ่งแปลกปลอมในโลกสมัยใหม่ ถึงอย่างไรพวกเขาก็ไม่อาจดำรงอยู่ได้ในโลกยุคนี้ แม้พวกเขาจะดิ้นอย่างรุนแรงก็ตาม แต่ชะตากรรมของพวกเขามันได้ถูกกำหนดเอาไว้แล้ว
จาก thaifreenews