ที่รัฐสภา นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย (พท.) ในฐานะแกนนำคนเสื้อแดง แถลงว่าเมื่อวันที่ 25 มกราคมที่ผ่านมา มีการประชุมวางแผนการทำรัฐประหารที่เซฟเฮาส์แห่งหนึ่ง มีนายทหารใหญ่นั่งประชุมกัน ซึ่งหากนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี อยากทราบเรื่องดังกล่าวให้ไปถาม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมว่ามีการประชุมวางแผนกันจริง โดยคนที่นำเรื่องมาบอกตนนั้นเป็นนายทหารชั้นผู้ใหญ่ ที่มียศเดียวกันกับนายทหารที่พูดกัน เพราะทหารแตงโมมีเยอะ
นายจตุพรกล่าวว่า วงหารือมีการประเมินสถานการณ์ โดยเห็นว่าน่าจะมีเงื่อนไขให้ทำการรัฐประหาร 4 ข้อ ประกอบด้วย 1.กล่าวอ้างเรื่องความแตกแยกภายในชาติ 2.เรื่องการเสียดินแดนให้กัมพูชาอันมาจากนโยบายทางการทูตที่ล้มเหลวของรัฐบาล 3.ปัญหาความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ และ 4.ที่เกี่ยวข้องกับทหารเองในเรื่องการสลายการชุมนุม 91 ศพ
"ยังมีการพูดคุยกันว่าหลังทำรัฐประหารแล้วจะให้มีรัฐบาลแห่งชาติเกิดขึ้น นอกจากนี้ ยังมีอดีตนายทหารใหญ่เดินสายคุยกับคอลัมนิสต์โดยอธิบายถึงเหตุผลการทำรัฐประหาร ถ้านายอภิสิทธิ์ไปถาม พล.อ.ประวิตร หรือนายทหาร ก็คงปฏิเสธ แต่ได้มีการเตรียมกำลังทหารแล้ว 30 กองร้อย หรือราว 3,000 นาย อ้างว่าเพื่อรักษาความสงบเรียบร้อย ดังนั้น หากมีการสร้างสถานการณ์ให้เกิดการปะทะกันของผู้ชุมนุม 2 กลุ่ม กำลังทหารเหล่านี้ก็แปรสภาพได้ทันที พวกเราถึงแม้จะชิงชังในรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ แต่ก็ยังเห็นว่าการเปลี่ยนแปลงต้องไปตามระบบ รัฐบาลนายอภิสิทธิ์ต้องพ้นไปตามระบอบประชาธิปไตย” นายจตุพรกล่าว
นายจตุพรกล่าวด้วยว่า กรณีการจับกุมอาวุธจำนวนมากบริเวณแยกมิสกวันใกล้การชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยนั้น ถือเป็นครั้งแรกที่ทั้งคนเสื้อเหลืองและเสื้อแดงเห็นตรงกันว่าเป็นการจัดฉากของตำรวจ เพื่อสนองคำสั่งรัฐบาล ตำรวจทั้งนครบาลยังจับกลุ่มนินทาการจัดฉากครั้งนี้ว่าสามานย์ ทำไปเพื่ออะไร ขนาดมอเตอร์ไซค์ที่ยึดได้ยังเป็นการยกลงจากรถกระบะ