บล็อคข่าวส่งเสริมคนดี (รักดีหามจั่ว รักชั่วหามเสา หามจั่วก็หนักนะ)

ข่าวจากสื่อ

บทความจากสื่อ

วันจันทร์ที่ 24 มกราคม พ.ศ. 2554

ใครจุดไฟใต้ ? ปมที่รัฐคิดไม่ออก! บอกไม่ถูก!

ที่มา Thai E-News


“ตุรงแง” คือกลุ่มคนที่มีหน้าที่ในการปฏิบัติการ ก่อความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ เป็นกลุ่มคนกลุ่มหนึ่ง ที่ได้ถูกกำหนดหน้าที่ในการปฏิบัติการ ตามกรอบใหญ่ที่เรียกว่า “เขตงาน” ที่กลุ่มขบวนการ BRN-COORDINATE ได้กำหนดไว้ ตามแผนการ การสร้างมวลชนและบุคลากรเพื่อ “ทับซ้อน” กับการบริหารราชการแผ่นดินของรัฐบาล



โดย ปาแด งา มูกอ
24 มกราคม 2554

ตุรงแง” คืออะไร? ใคร?คือ “ตุรงแง”

“ตุรงแง” เป็นภาษาถิ่นมลายู ที่มีความหมายว่า “ทหารบ้าน”

จากข้อมูล ที่ได้มีการระบุว่า “ตุรงแง” คือกลุ่มคนที่มีหน้าที่ในการปฏิบัติการ ก่อความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้

เป็นกลุ่มคนกลุ่มหนึ่ง ที่ได้ถูกกำหนดหน้าที่ในการปฏิบัติการ ตามกรอบใหญ่ที่เรียกว่า “เขตงาน” ที่กลุ่มขบวนการ BRN-COORDINATE ได้กำหนดไว้ ตามแผนการ การสร้างมวลชนและบุคลากรเพื่อ “ทับซ้อน” กับการบริหารราชการแผ่นดินของรัฐบาล

โดยเฉพาะการทำลายความเชื่อมั่นต่อประชาชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ทุกภาคส่วน ต่อการปฏิบัติงานของหน่วยงานภาครัฐ ในการแก้ไขปัญหาสถานการณ์และเหตุการณ์การก่อความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ (รายวัน) ที่เริ่มรุนแรงมาตั้งแต่ปี พ.ศ.๒๕๔๗ เป็นต้นมาจนถึงปัจจุบัน

โครงสร้าง “ตุรงแง”

ขบวนการ BRN-COORDINATE ได้กำหนดและจัดโครงสร้างเพื่อหลอมรวม งานมวลชนและงานด้านการทหารไว้ที่ตำแหน่ง “ตุรงแง” หรือ “ทหารบ้าน” ในการทำหน้าที่สนับสนุนการเคลื่อนไหวในพื้นที่ทุกรูปแบบ

ส่วนใหญ่บุคลากรในกลุ่มนี้เป็นเด็กหนุ่มที่ร่างกายไม่แข็งแรง ไม่สามารถผ่านขั้นตอนไปเป็นนักรบหลักอย่างคอมมานโด หรือกองกำลังติดอาวุธประจำหมู่บ้านอย่าง RKK ได้

แต่ได้ทำพิธี ซูเปาะ (สาบานตน) มาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว จึงได้รับมอบหมายให้มาทำหน้าที่ในงานโฆษณาชวนเชื่อ เพื่อเบี่ยงเบนข้อเท็จจริงให้เป็นไปตามเจตนารมณ์ ของขบวนการ จัดทำใบปลิว และนำพาตนเองไปอยู่ในร้านน้ำชาประจำหมู่บ้านเพื่อพูดชักจูงใจ และสร้างภาพอันเหี้ยมโหดอำมหิตของเจ้าหน้าที่รัฐ เพื่อให้ชาวบ้านเกิดอาการหวาดกลัวและเกลียดชัง

ในที่สุดนำไปสู่ความร่วมมือกับขบวนการ

บางส่วนของ “ตุรงแง” ที่เข้ามาให้ความร่วมมือช่วยเหลือการปฏิบัติงานกับเจ้าหน้าที่รัฐจนได้รับความไว้เนื้อเชื่อใจ ได้สวมโอกาสดังกล่าว ในการปล่อย ข่าวลวง ชี้นำ บิดเบือน และเบี่ยงเบนข้อมูลที่เป็นจริง

เพื่อให้เจ้าหน้าที่รัฐ เกิดความไขว้เขวหรือเข้าใจผิด อาทิ การใส่ร้ายป้ายสีกลุ่มบุคคล หรือสถาบันทางสังคม เช่น ปอเนาะ มัสยิด หรือกลุ่มประชาชนที่เป็นกลาง

เมื่อเจ้าหน้าที่ (หลงเชื่อ) ใช้กำลังปิดล้อมหรือตรวจค้น,จับกุม,ควบคุมตัวเพื่อซักถาม กลับจะเป็นการผลักกลุ่มบุคคลหรือสถาบันทางสังคมเหล่านี้ ไปสู่ความร่วมมือกับขบวนการและต่อต้านต่อสู้กับอำนาจรัฐในที่สุด

( ณ ปัจจุบันวันนี้ ยังไม่มีใครหรือหน่วยงานรัฐใดในพื้นที่ จะสามารถล่วงรู้ว่าบุคคลใดหรือบุคลากรใดรวมถึง สายข่าวหรือแหล่งข่าวคนใด คือ “ตุรงแง” ที่สำคัญที่สุดคือ ไม่รู้ว่า “ตุรงแง” ได้เข้ามาแฝงตัวไว้จำนวนมากมายเท่าใด ?)

“ตุรงแง” ยังมีหน้าที่หลักอีก 3 ประการ ดังนี้

1.สืบข่าวความเคลื่อนไหวของเจ้าหน้าที่รัฐ และสมาชิกใน อาเยาะห์ ทุกคนที่มีพฤติกรรมเชื่อมโยงกับเจ้าหน้าที่รัฐ รวมทั้งพฤติกรรมของกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และผู้นำศาสนาในหมู่บ้านจัดตั้ง (อาเยาะห์)

2.ช่วยเหลือสนับสนุนการปฏิบัติการทางการทหารแก่กลุ่มนักรบ ด้วยการจัดหาอาวุธจากแหล่งซุกซ่อนใน อาเยาะห์ หรือจัดเก็บอาวุธที่ใช้ปฏิบัติการและอาวุธที่ยึดได้จากเจ้าหน้าที่ไปเก็บซุกซ่อนไว้ ณ แหล่งซุกซ่อนอาวุธในพื้นที่ อาเยาะห์

3.ปฏิบัติการขัดขวาง เจ้าหน้าที่รัฐ เพื่อให้การปฏิบัติการของกลุ่มนักรบประสบความสำเร็จ เช่น การตัดต้นไม้ขวางถนน โปรยตะปูเรือใบ ขัดขวางการไล่ติดตามหรือส่งกำลังมาสนับสนุนของ เจ้าหน้าที่รัฐ

นี่คือบทบาทหน้าที่อันสำคัญของ “ตุรงแง” ที่สร้างปัญหาให้กับเจ้าหน้าที่รัฐมาโดยตลอด

จากข้อมูลของที่ได้มีการระบุว่า “ตุรงแง” คือกลุ่มคนที่มีหน้าที่ในการปฏิบัติการ ก่อความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ เป็นกลุ่มคนกลุ่มหนึ่ง ที่ได้ถูกกำหนดหน้าที่ในการปฏิบัติการ ตามกรอบใหญ่ที่เรียกว่า “เขตงาน” ที่กลุ่มขบวนการ BRN-COORDINATE ได้กำหนดไว้ ตามแผนการ การสร้างมวลชนและบุคลากรเพื่อ “ทับซ้อน” กับการบริหารราชการแผ่นดินของรัฐบาลนั้น

รัฐบาลและหน่วยงานภาครัฐที่ปฏิบัติงานอยู่ในพื้นที่ มีการดำเนินการหรือแก้ไขปัญหาที่สำคัญเช่นนี้อย่างไร จึงทำให้เกิดความสงสัยและคลางแคลงใจว่า ปัญหาการก่อความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้นั้น ประเทศมหาอำนาจอย่าง สหรัฐอเมริกา ก็มีความเป็นห่วงเป็นใยประเทศไทยอย่างสุดซึ้งเช่นเดียวกัน

โดยได้ประสานความร่วมมือมายังรัฐบาลไทย และได้กำหนดให้พื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ เป็นพื้นที่ก่อการร้าย เพื่อร่วมมือในการปราบปราม กลุ่มก่อการร้าย ที่สหรัฐฯ กำหนดเป็นแผนนโยบายไว้ ซึ่งนอกจากจะใช้ในประเทศของตนเองแล้ว ยังเผื่อแผ่ไปยังประเทศพันธมิตรและประเทศในกลุ่มเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ด้วย

แต่รัฐบาลไทย ต้องการสงวนไว้เป็นเพียง กลุ่มก่อความไม่สงบ (กลัวคำว่า กลุ่มก่อการร้าย เพราะว่าคำนี้ เก็บไว้ใช้ใน กทม.และกลุ่มเสื้อแดงโดยเฉพาะ)ไว้เท่านั้น


แต่จากข้อมูลความเป็นจริงที่มีการระบุว่า การก่อการร้าย ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (TERRORISM IN SOUTHEAST ASIA) เป็นปัญหาที่สำคัญอีกปัญหาหนึ่งของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้(Southeast Asia) ซึ่งมีอยู่ 11 ประเทศ คือ บรูไน กัมพูชา ติมอร์ตะวันออก อินโดนีเซีย ลาว มาเลเซีย พม่า ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ ไทย เวียดนาม

โดยเฉพาะปัญหา การก่อการร้าย ในฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย จะมีความรุนแรงกว่าประเทศอื่นในภูมิภาคแห่งนี้ ได้แก่ กลุ่มอาบูไซยาฟในฟิลิปปินส์ และกลุ่มเจไอของ ญะมาอะห์ อิสลามียะห์(Jama ah Islamiyah)ในอินโดนีเซีย ที่มีความชัดเจนมากที่สุด

สำหรับเหตุการณ์ความรุนแรงในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ของไทยนั้น ยังไม่มีผู้ชี้ชัดว่ามีการเชื่อมโยงโดยตรงกับกลุ่มก่อการร้ายทั้งสองกลุ่ม

เมื่อเป็นเช่นนี้ จึงมีคำถามว่าแล้วทำไม สหรัฐอเมริกา จึงต้องให้รัฐบาลไทยร่วมมือในการปราบปราบกลุ่ม ก่อการร้าย ในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ทั้งๆที่ไม่มีความชัดเจนของกลุ่ม ก่อการร้าย ไม่มีความชัดเจนของกลุ่มที่ต้องการ แบ่งแยกดินแดน

สรุปแล้ว ในเมื่อความไม่ชัดเจนไม่ว่าจะเป็น กลุ่มก่อการร้ายหรือกลุ่มก่อความไม่สงบและกลุ่มแบ่งแยกดินแดนในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่ไม่เคยปรากฏตัวเหมือนดังเช่น กลุ่มก่อการร้าย,กลุ่มก่อความไม่สงบ,กลุ่มแบ่งแยกดินแดนในประเทศอื่นๆ ที่เขาปฏิบัติกัน จนกลายเป็นระดับก่อการร้ายสากล

ตรงกันข้ามกลับมีแต่ความว่างเปล่า ไร้ตัวตน ไร้ร่องรอย แต่ศักยภาพในการก่อความไม่สงบกลับรุนแรงและอันตรายร้ายแรงอย่างยิ่ง หรือว่า ทหารตำรวจและหน่วยงานภาครัฐของเรา กำลังต่อสู้อยู่กับ “ผี”

แล้วหน่วยกำลัง “ผี” เหล่านี้ (ไม่ว่าจะมีชื่อเรียกว่าอย่างไรก็ตาม) ใคร? เป็นคนสร้างมันขึ้นมา และเพื่อวัตถุประสงค์อะไร? ในการสร้างสถานการณ์,เหตุการณ์ความรุนแรง จนสร้างความเสียหายต่อชีวิตทรัพย์สินทั้ง จนท.รัฐและประชาชนไปเป็นจำนวนมาก

*******
เรื่องเกี่ยวเนื่อง:

-ไฟใต้่ที่รัฐไม่กล้ามอง ไม่กล้าแก้ และไม่กล้าพูด! ..นโยบายที่จะให้ “ทำงานแข่งกัน” เพื่อแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยมี ยศ,ตำแหน่ง,เงินเดือน ที่สูงขึ้น เป็นเดิมพัน จึงกลายเป็น “ทำงานปัดแข้งปัดขากัน” ท้ายสุดกลายเป็น “การทำลายล้างกัน”ในที่สุด มิฉะนั้นแล้วจะมีคำว่า “เกลือเป็นหนอน,หนอนบ่อนใส้ หรือ มีใส้ศึก ” เกิดขึ้นในเหตุการณ์บุกทะลวงฐานปฏิบัติการพระองค์ดำ ในครั้งนี้

ข่าวส่งเสริมคนดี

จำนวนผู้เข้าเยี่มมชม

link to affordable web hosting
Powered by web hosting provider .

สถิติการเข้าชม DMNEWS

eXTReMe Tracker