คอลัมน์ เหล็กใน
สมิงสามผลัด
หลังศาลกัมพูชาตัดสินจำคุก 9 เดือน 5 คนไทยในข้อหารุกล้ำเขตแดนเขมร
โดยให้รอลงอาญาและส่งตัวทั้งหมดกลับเมืองไทย
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ พยายามชูว่าเป็นผลงานรัฐบาลเจรจาจนช่วยเหลือคนไทยทั้ง 5 พ้นเรือนจำเปรซอว์ได้
ก่อนเปิดแถลงออกทีวีเป็นเรื่องเป็นราว
ตอบโต้กรณีทหารเขมรระบุว่าจับ 7 คนไทยหน้าวัดโจ๊กเจีย อยู่ในเขตแดนกัมพูชา
นายกฯอภิสิทธิ์ระบุว่าหลังโดนจับ 2 วัน เจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยไปวัดพิกัด ทั้งที่เป็นจุดสิ้นสุดในวิดีโอที่คณะของนายพนิชถ่ายไว้ กับจุดที่ฝ่ายกัมพูชากล่าวอ้าง
ปรากฏว่าทั้ง 2 จุดอยู่ในพื้นที่ ซึ่งเรื่องเขตแดนยังไม่ชัดเจน มีเพียงเส้นประที่เป็นเส้นแนวปฏิบัติเท่านั้น
ที่สำคัญนายอภิสิทธิ์ยืนยันว่ารัฐบาลไม่เคยบอกว่า 7 คนไทยรุกล้ำเข้าไปในเขตแดนของกัมพูชา!
ตรงนี้ขัดแย้งกับถ้อยแถลงของนายพนิช วิกิตเศรษฐ์ ที่โรงพยาบาลสมิติเวช
นายพนิชบอกว่าคิดในแง่ดี การเดินทางเข้าไปถูกเขมรจับ อาจส่งผลประโยชน์ต่อฝ่ายไทย
ทำให้ทั้งไทยและเขมรต้องมาเจรจาเรื่องปัญหาเขตแดนกันใหม่
ฟังตรงนี้ก็ถึงบางอ้อ
เข้าใจแล้วว่าทำไมนายพนิชต้องโทรศัพท์รายงานนายกฯ ตลอดเวลา
ทำไมต้องบอกด้วยว่านายกฯ รู้คนเดียว !?
แต่จะเข้าไปด้วยเหตุผลใดก็ตาม
นายกฯ และนายพนิชไม่ควรหยิบยกเรื่องนี้มาเป็นความดีความชอบของรัฐบาล หรือของตัวเอง
เพราะมันเกิดผลเสียต่อประเทศไทยที่ค่อนข้างรุนแรง !!
ประการแรกยังมีคนไทยอีก 2 คนยังถูกจองจำอยู่ในคุกเปรซอว์
ยังไม่รู้ว่าจะโชคดีแบบ 5 คนไทยหรือเปล่า
เพราะโดนข้อหาหนักโจรกรรมข้อมูลด้านความมั่นคง
อีกประการ คดีพิพากษา 5 คนไทยนั้น
ทางการเขมรระบุว่าคนไทยทั้ง 5 ให้การสารภาพผิดในชั้นศาล
รับว่าเดินข้ามเข้าไปในดินแดนกัมพูชาโดยไม่ตั้งใจ
ตรงนี้แหละที่เป็นปัญหา !?
นายกฯ ไทยส่งส.ส.คนสนิทเดินดุ่มๆ เข้าไปให้เขมรจับ
เพื่อหวังผลให้เกิดการเจรจาเรื่องแนวเขตแดนที่ยังมีปัญหา
ยกระดับไปเจรจากันในเวทีโลก
นายกฯ เขมรก็ฉวยโอกาส จับยัดเรือนจำ ทำขึงขังขู่ขังลืม 7 คนไทย
สุดท้าย 5 คนไทยก็ต้องยอมสารภาพผิด
กลายเป็นหลักฐานสำคัญให้ฮุนเซนไปโชว์ในเวทีโลกว่าไทยรุกล้ำเขมรจริงๆ
นายอภิสิทธิ์จะอ้างว่าคำพิพากษาศาลเขมรเป็นเรื่องเฉพาะตัว
ไม่ผูกพันกับการเจรจาเขตแดนก็คงฟังไม่ขึ้นแล้ว
เจอความเขี้ยวลากดินของนายกฯ เขมร
นายกฯ ไทยกลายเป็นเด็กอมมือไปเลย!?