“สนธิ” อัดอภิสิทธิ์ ปล่อยให้ พ.อ.ร่มเกล้าเสียชีวิตช่วงเสื้อแดงชุมนุมปี 53 แถมบ้านเมืองลุกเป็นไฟ ตัวเองหลบในราบ 11 แล้วให้ทหารออกมารับมือ แล้ววันนี้ให้ดีเอสไอส่งฟ้องทหาร โวยคดีลอบยิงตนเงียบ เพราะคนสั่งการอยู่ในรัฐบาล ชี้ พธม. ชุมนุม 25 ม.ค. ไม่มีครั้งไหนยิ่งใหญ่เท่าครั้งนี้ สู้ทักษิณเรื่องเล็กไปแล้ว ลั่นถึงไหนถึงกัน เอาทหารมายิงก็จะให้ยิง
ในรายการ "เมืองไทยรายสัปดาห์" ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ ASTV เมื่อคืนวานนี้ (21 ม.ค.) นางจินดารัตน์ เจริญชัยชนะ ผู้ดำเนินรายการ กล่าวถึงกรณีที่โจรใต้ยิงถล่มฐานทหารที่ นราธิวาส ทำให้ ร.อ.กฤช คัมภีรญาณ และทหารอีก 3 นายเสียชีวิต และได้รับบาดเจ็บอีก 6 นาย ทำให้นึกถึงเหตุการณ์เดือนเมษายน 2553 ที่มีทหารเสียชีวิต “ถามว่าวันนี้ คุณอภิสิทธิ์คุณเป็นผู้บริหารประเทศ คุณดูแลทหารกล้าอย่างผู้กองบอย หรืออีกหลายๆ คนที่เสียชีวิตไปอย่างไร ที่สำคัญมันอดคิดไม่ได้ว่า ย้อนกลับไปถึงเดือนเมษายนที่แดงเผาบ้านเผาเมือง เรามีทหารกล้าต้องเสียชีวิตไปกี่นาย คุณอภิสิทธิ์ ทหารออกไปรับมือกับเสื้อแดงที่มีอาวุธครบมือ” นางจินดารัตน์ ตั้งคำถาม
สนธิอัดอภิสิทธิ์ให้คนอื่นตายได้ ขอให้ภาพกูดี
นายสนธิ ตอบว่า “ถือ กระบองไป ถือโล่ไป สั่งไม่ให้ติดอาวุธ ถือกระบอง ถือโล่ โดนเสื้อแดงไล่ยิงจนกระทั่ง พ.อ.ร่มเกล้า เสียชีวิต เสร็จเรียบร้อยตัวเองขี้ขลาดตาขาวหลบไปอยู่ในราบ 11 นอนอยู่กับศิริโชค โสภา สองคน หลบอยู่ที่นั่น แล้วปล่อยให้คนซึ่งมีอาวุธร้าย อาวุธหนักไล่ยิง จนกระทั่งบ้านเมืองลุกเป็นไฟ”
“ไม่อยากให้คนอื่นมอง หรือต่างชาติมองว่าตัวเองไม่รักสันติ ตัวเองนั้นต้องการแก้ปัญหา คือคนอื่นตายได้ขอให้ภาพกูดี”
นางจินดารัตน์ กล่าวเสริมว่า “ที่มันน่าเศร้า เมื่อวานนี้ DSI คุณธาริต หอบเอกสารหลักฐานไปให้ตำรวจนครบาล กรณีที่เสื้อแดงร้องเรียนไปว่า ตำรวจ ทหารฆ่าประชาชน ในการชุมนุมของคนเสื้อแดง คุณธาริตหอบหลักฐานไปให้ตำรวจนครบาล ดูซิว่าตำรวจจะว่าอย่างไรเราต้องรอดูกันต่อเรื่องนี้”
ชี้สลายเสื้อแดงคือการปราบจลาจล ต้องมีการเสียชีวิต เป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้
นายสนธิ กล่าวว่า “อภิสิทธิ์ไม่ใช่ลูกผู้ชาย ถ้าคุณอภิสิทธิ์เป็นลูกผู้ชาย มีภาวะผู้นำ คุณอภิสิทธิ์จะต้องไม่มีการตรวจสอบว่าใครตาย ทหารยิงใครบ้าง เพราะว่าเหตุการณ์วันนั้นเป็นเหตุจลาจล การเข้าปราบปรามจลาจลโดยที่มีเสียงปืน มีระเบิด มีไฟ มันต้องมีการเสียชีวิต ภาษาอังกฤษเขาเรียก Collateral damage ก็คือมันเป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้ ต้องมีการเสียชีวิตอย่างแน่นอนที่สุด คุณอภิสิทธิ์ต้องออกมาแล้วแอ่นอกรับ บอกเสื้อแดงเลย บอกก็เพราะวันนั้นมีการยิงกัน มีกลุ่มคนเสื้อแดงใช้อาวุธ มีภาพให้เห็นชัดเจน เพราะฉะนั้นการปราบปรามย่อมมีการเสียชีวิต ลูกปืนย่อมหลงได้ของธรรมดา เพราะว่า พ.อ.ร่มเกล้า ยังตายเลย เพราะฉะนั้นการตายครั้งนี้ตายเพราะว่าความวุ่นวายในการปราบจลาจลนั้นย่อมมี การพลั้งพลาดได้ เพราะฉะนั้นแล้วไม่ต้องสอบอะไรทั้งสิ้น ผมขอรับผิดชอบแต่ผู้เดียว แต่คุณอภิสิทธิ์ไม่กล้ารับผิดชอบ คุณอภิสิทธิ์ต้องการให้โลกเห็นว่าผมแฟร์ ตรวจสอบเลยถ้าทหารทำก็ทหาร แต่เวลาคุณใช้ทหารไปตาย คุณเคยไหมออกมารับผิดชอบ คุณใช้เขาไปด้วยมือเปล่า พ.อ.ร่มเกล้า โดนยิงเข้าหัวตาย อีกหลายคนพิการ เพราะความขี้ขลาดตาขาวของคุณ เพราะความที่คุณอยากจะโด่งดัง”
อัดอภิสิทธิ์เอาใจฮุน เซน มอบอำนาจอธิปไตยผ่านศาลกัมพูชา
นายสนธิ กล่าวต่อว่า “เหมือนคุณกับฮุน เซน คุณเอาใจฮุน เซน เพราะคุณต้องการให้นานาชาติเห็นว่า คุณรักสันติ ทั้งๆ ที่คุณกำลังมอบอำนาจอธิปไตยบนพื้นที่ประเทศให้เขมร โดยเขมรใช้ผ่านทางศาล ซึ่งคุณทำผิดมาตรา 120 อยู่แล้ว ซึ่งโทษจำคุกตลอดชีวิต หรือโทษประหารชีวิต และพรรคพวกคุณก็ออกมาดาหน้า พูดกันเป็นเสียงเดียวกันว่าคนไทยล้ำแดน คนไทยล้ำแดน คนไทยล้ำแดน คนไทยล้ำแดน ทั้งๆ ที่ประชาชนชาวบ้านเขามายืนยันว่าที่นั้นเป็นที่ของคนไทย เอาล่ะ ถึงแม้ว่าจะเป็นที่ของใครก็ตาม ในเมื่อมันเป็นที่ที่ยังตกลงกันไม่ได้ มันเป็นที่ๆ ยังทับซ้อนกันอยู่ คุณไม่มีสิทธิ์ที่จะเอาคนไทย 7 คน ไปขึ้นศาลเขมร เพราะเป็นการยกอำนาจอธิปไตยของแผ่นดินไทยไปให้เขมร เข้าข่ายมาตรา 120 ไม่ว่าคุณอภิสิทธิ์ คุณสุเทพ คุณกษิต คุณชวนนท์ คุณศิริโชค โสภา พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ โดนทั้งนั้น แล้วคุณเพียงต้องการที่จะเอาใจฮุน เซน คุณเอาใจฮุน เซน เรื่องอะไร คุณไม่ได้รักประเทศไทยเลยเหรอ คุณไม่ได้รักคนไทยเหรอ คุณไม่รักคนไทย 7 คน เพราะคุณเกลียดวีระ สมความคิด ใช่ไหม พวกคุณเกลียดวีระ ใช่ไหม พวกคุณก็เลยสมรู้ร่วมคิดให้จัดการซะ แล้วเวลาประกันตัว คุณก็เอาคนของคุณออกมาก่อน คือพนิช แล้วหลังจากนั้นค่อยเอาออกมาทีหลัง วันนี้คุณได้ยกอธิปไตยของประเทศไทยมอบให้กับเขมรไปเรียบร้อยแล้ว แล้วก็เป็นตัวอย่างที่พิสูจน์ให้ชัด ผมยังไม่รู้ว่าการกระทำแบบนี้เป็นการกระทำแบบขายชาติหรือเปล่า แต่ว่าเข้าข่ายมาตรา 120 แน่นอนที่สุด ผมหวังว่าผลกรรมอันนี้จะต้องกลับเข้ามาหาพวกคุณ ไม่วันใดก็วันหนึ่ง เหมือนผลกรรมที่กลับมาหาทักษิณ ชินวัตร อีกหน่อยผลกรรมมันต้องกลับมาหาพวกคุณ” นายสนธิกล่าว
อัดอภิสิทธิ์ให้ทหารสลายการชุมนุม ตัวเองหลบในราบ 11 ถึงวันนี้ให้ดีเอสไอดำเนินคดีทหาร
“ใครก็ตามที่เชียร์คุณอภิสิทธิ์ ขอให้รู้ นี่คือตัวตนที่แท้จริงของคุณอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ตัวตนที่แท้จริง สั่งทหารไป ดูแลการจลาจลที่ราชประสงค์ ไม่ให้ติดอาวุธ กลัวว่าเดี๋ยวจะหาว่านายกรัฐมนตรีสั่งฆ่าประชาชน แล้วฝ่ายที่ก่อจลาจล ยิงทหารตาย ตัวเองนอนหลบอยู่ในราบ 11 หายเงียบไปเลย ไม่โผล่หน้ามาเลย กลัวจนตัวสั่นงันงก แล้วพอมาวันนี้ทำเป็นเก่งกล้า สาหัสสากรรจ์ แสดงออกว่าตัวเองนั้นยุติธรรม ตัวเองนั้นแฟร์ เอ้า ดีเอสไอตรวจสอบ ดีเอสไอก็บอกว่าทหารยิงคนตาย 13 คน เอ้า จัดการดำเนินคดีซะ คุณบ้าหรือเปล่า มีนายกฯ อย่างนี้อย่ามีเลยดีกว่า ประเทศไทยไม่จำเป็นต้องมีนักการเมือง นักการเมืองไม่ว่าจะเป็นทักษิณ ชินวัตร สมชาย วงศ์สวัสดิ์ สมัคร สุนทรเวช หรืออภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ใช้ไม่ได้ทั้งสิ้น ประเทศไทยฉิบหายมาเพราะนักการเมือง ไม่ว่าหน้าไหนก็ตาม ไม่ว่าจะจบจากแซม ฮูสตัน หรือจะจบจากออกซ์ฟอร์ด เหมือนกันหมด เอาตัวรอด เอาหน้าเอาตาตัวเอง เอาภาพลักษณ์ตัวเอง
แล้ววันที่ 16 มกราคม คุณออกรายการเชื่อมั่นประเทศไทยกับนายกฯ อภิสิทธิ์ คุณก็ยังพูดชัดเจน คุณพูดชัดเจนว่าเอกสารสิทธิ์พี่น้องประชาชนมาแสดงให้ดูนั้น ถ้าดูจากแผนที่ลากเส้นนี้ๆ แสดงว่ายังมีลากเส้นปัจจุบัน แสดงว่าที่เหล่านั้นเป็นที่อยู่ในประเทศไทยทั้งสิ้น ก็คุณเองทำไมมายอมรับว่าที่เหล่านั้นอยู่ในที่ประเทศไทย แล้วคุณไปยกอำนาจอธิปไตยของเราให้กับศาลเขมร คำพูดอันนี้ของคุณนี่ละ จะล็อกคุณตายสักวันหนึ่ง ผมภาวนาต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ใครก็ตามทำอะไรผิดต่อดินแดนไทย ขอให้มันจงมีอันเป็นไป”
แนะอภิสิทธิ์ลาออกไปสอนหนังสือ ต่อสู้เพื่อสันติภาพโลก
นางจินดารัตน์กล่าวด้วยว่า “นอกจากทหารที่เสียชีวิตแล้ว คุณอภิสิทธิ์เคยรู้บ้างไหมว่า ทหารที่ทำหน้าที่อยู่ชายแดนไทย-กัมพูชา เขาโดนเหยียบย่ำมากๆ เลยนะคะ จากทหารโจรใส่รองเท้าแตะของฮุน เซน เขา ถึงขั้นกระทั่งว่า สลักชื่อเอาไว้ สลักเอาไว้เลยว่า ทหารเขมร 1 ต่อทหารไทย 3 คน มันยังแพ้เรา คุณรู้ไหมว่าทหารที่ทำหน้าที่นั้นเขารู้สึกอย่างไรกันบ้าง”
นายสนธิตอบว่า “เขาพูดไม่ออก เพราะเขามีผู้บังคับบัญชา” และกล่าวต่อไปว่า “ผู้บังคับบัญชาก็พูดไม่ออก เพราะว่าดันทะลึ่งมีรัฐมนตรีกลาโหมแบบนี้ แล้วก็ทะลึ่งมีนายกรัฐมนตรี และรองนายกรัฐมนตรีแบบนี้ เขาพูดไม่ออก เขาจะกระอักเลือดตายกันอยู่แล้ว ทหารไทยวันนี้ศักดิ์ศรีอยู่ที่ไหน โดนเขมรเอารองเท้าแตะลูบหน้า”
“ทางใต้ โดนบุกเข้ามาฆ่าหน้าตาเฉย ทางตะวันตก พม่าจับตัว พม่าจับตัวไปพอเราเรียกตัวคืน พม่าสั่งปิดพรมแดนเลย เห็นไหม คุณจะรักษาหน้าคุณไปถึงไหน ถ้าคุณต้องการที่จะได้รางวัลโนเบล ในสาขาสันติภาพ คุณลาออกจากการเป็นนักการเมือง นายกฯ แล้วคุณไปสอนหนังสือดีกว่า แล้วคุณมาเป็น NGO ต่อสู้เพื่อสันติภาพของโลก”
ปัญหาใต้เกิดจากทักษิณเลิก ศอ.บต. ปัญหาไทยกัมพูชาเกิดเพราะนักการเมือง
นายสนธิกล่าวด้วยว่า “ศพแล้วศพเล่าเกิดจากความไม่สงบในบ้านเมือง แต่ที่น่าสนใจอย่างไม่มีใครรู้ ปัญหาภาคใต้ที่เกิดขึ้นนั้นเกิดจากนักการเมืองทั้งหมดเลย ครั้งแรกสุดเกิดจาก พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ที่สั่งยุบ ศอ.บต. โดยไปเชื่อคำพูดของ พล.ต.อ.สันต์ ศรุตานนท์ แล้วจากวันนั้นมาภาคใต้พินาศฉิบหายมาตลอด ฝีมือนักการเมืองทั้งสิ้น พอมีการเมืองมาทีไร มีรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง โครงการไปลงภาคใต้ สร้างความขัดแย้งเพิ่มเติม ไม่สามารถจะแก้ปัญหาที่มันถูกต้อง ตรงจุดได้ นักการเมืองเพียงต้องการงบประมาณ ต้องการโครงการลงไป โครงสร้างของความปลอดภัยเป็นอย่างไรไม่สนใจ ขอให้เงินไปถึงที่นั่น พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน หลุดปากออกมาว่า ปัญหาทางใต้ที่เกิดขึ้นนั้นเกิดเพราะนักการเมือง
ปัญหาพรมแดนทางไทย-เขมร เกิดขึ้นเพราะนักการเมือง ปัญหาไทยที่รบกับลาวที่สมรภูมิร่มเกล้า เกิดเพราะนักธุรกิจการเมือง ที่ต้องการไปตัดไม้ในลาว การเมืองทั้งสิ้น วันนี้การเมืองไม่ได้คิดอะไร คิดแต่สูตรของการรวมกัน ผสมพันธุ์กัน สูตรเพื่อไทย ภูมิใจไทย+ชาติไทย+ประชาธิปัตย์ หรือว่าสูตรประชาธิปัตย์+เพื่อไทย สูตรไหนก็ได้ขอให้อภิสิทธิ์เป็นนายกฯ ได้ทั้งนั้น”
โวยคดีลอบยิงตนเงียบ เพราะคนสั่งการอยู่ในรัฐบาลอภิสิทธิ์
นายสนธิกล่าวถึงกรณีที่ตนถูกลอบยิงว่า ตอนนี้คนที่สั่งการก็อยู่ในรัฐบาลอภิสิทธิ์ อยู่ในคณะรัฐมนตรีชุดอภิสิทธิ์ การดำเนินคดีถึงได้เงียบไป มีการออกหมายจับผู้ต้องสงสัย 2 คน แต่ตอนนี้ก็ยังลอยนวลอยู่ ไม่มีการดำเนินคดีต่อแต่อย่างใด เพราะคดีนี้ถือเป็นคดีการเมือง
“แอนดูนี่ซิ เกือบ 200 นัด วันที่ 17 เมษายน อภิสิทธิ์ เป็นคนพูดว่าจะดำเนินคดีไปถึงที่สุด รับรองจะจับตัวผู้ต้องหาได้ ออกหมายจับ 2 ใบแล้วเงียบหาย เพราะอะไร เพราะคนทำมันอยู่ในรัฐบาลอภิสิทธิ์” นายสนธิกล่าว นางจินดารัตน์ ถามว่า “อะไรมันท่วมปากอยู่รึเปล่าคะ”
นายสนธิกล่าวต่อว่า “อะไร มันท่วมปากอยู่รึเปล่า คุณหยุดพูดถึงความยุติธรรมกับผมซะทีได้ไหมเหม็นขี้ฟัน คุณหยุดพูดถึงภาพลักษณ์ที่ดีของคุณได้ไหม คุณเอาคนยิงผมกลับมาก่อนซิ คุณก็รู้อยู่แล้ว นั่งอยู่ใน ครม.คุณนั่นแหละ ใครๆ เขาก็รู้กัน คุณก็รู้ ทุกคนก็รู้ เรื่องผมถึงเงียบไง แหมมันน่าจะตายนะไอ้สนธิเสือกไม่ตาย แล้วจะไงพอไม่ตายแล้วทำไงดี ไม่แน่จริงนี่ คนถ้ารักความยุติธรรม ถ้าจริงจัง นิติรัฐ จะเป็นหน้าไหนใครไหนถ้าสืบคดีถึงก็ลากคอเข้ามาให้เข้าตาราง แล้วไอ้ 2 คนที่ถูกหมายจับก็ยังลอยนวลอยู่ เหมือนเดิม นี่หรอ จำได้ไหมที่ให้สัมภาษณ์ ทันทีที่ถูกยิง ตั้งธานี สมบูรณ์ทรัพย์ มาดำเนินการ พอหมดธานีไปแล้วเงียบสนิท ไม่มีอะไรเกิดขึ้น เป็นคดีที่น่าเกลียดที่สุด เงียบสนิทไปเลย เห็นชัดคดีการเมืองงานนี้”
“แล้วคุณมาโม้อะไรเรื่องเกี่ยวกับ แหมอย่างโน้นอย่างนี้ ผมต้องทำบ้านเมืองให้โปร่งใส คุณโปร่งใสเรื่องคนยิงผมก่อนดีกว่า คุณแน่จริง เขาโกงกันโครมๆ ทุกกระทรวง คุณนั่งเฉย แล้วคุณไปจ้างโพลล์ออกมา แอบตั้งคำถามถามประชาชน ถามว่าคุณนี่ซื่อสัตย์สุจริต รัฐบาลคุณซื่อสัตย์สุจริต ซื่อสัตย์สุจริตอะไร กระทรวงการคลังส่งอีเมล์พิเศษสุดไปหาสรรพากรทุกจังหวัดให้รีดภาษีประชาชนเพิ่ม”
“เพราะว่ารัฐบาลถังแตกแล้ว ทำไมรัฐบาลถังแตก เอาเงินภาษีเราไปทุ่มประชานิยมเหมือนทักษิณทำ มากกว่าทักษิณอีก เพื่ออะไร เพื่อหาเสียง ไม่ใช่เพื่ออะไรเลยเพื่อหาเสียงอย่างเดียว”
ลั่นพันธมิตรฯ วันที่ 25 นี้ต้องถึงไหนถึงกัน เอาทหารมายิงก็จะให้ยิง
โดยนายสนธิ ยังได้กล่าวเชิญชวนให้ผู้สนับสนุนออกมาชุมนุมในวันที่ 25 ม.ค. นี้ด้วย โดยกล่าวว่า “พี่น้องต้องออกมาทำหน้าที่ ผมทราบจากพี่ลองแล้วว่า อย่างไรก็ไม่เลิก พี่ลองพูดชัดเลยตายเป็นตายถ้าไม่ไล่รัฐบาลชุดนี้ออกไปให้ได้แกไม่ยอม ถึงไหนถึงกันเลยงานนี้ ถ้าจะเอาตำรวจ ทหารมายิงก็มาพร้อมจะให้ยิง”
นางจินดารัตน์ ถามนายสนธิว่า “มี วลีหนึ่งที่คนในสังคมบางกลุ่มที่บอก ธุระไม่ใช่ มักจะถามว่า ถ้าไม่ใช่อภิสิทธิ์แล้วเอาใครล่ะ ก็มีคนตอบแล้วนะคะว่า นี่มันเป็นวลีของโลกใต้กะลา ของคนที่อยู่โลกใต้กะลา” นายสนธิกล่าวต่อว่า “คนเขาถามผม คุณสนธิจะสู้ไปทำไมเรื่องเขมร ผมตอบเขาสั้นๆ สู้เพื่อไม่ให้เสียชาติเกิด พี่น้อง 25 ม.ค.นี้ ต่อเนื่องไปเราสู้เพื่อไม่ให้เสียชาติเกิด พวกที่นั่งอยู่ในสภาส่วนใหญ่เสียชาติเกิดทั้งนั้น ไม่ได้สู้เพื่อประเทศไทย มันสู้เพื่อตัวมันเอง บางคนสู้เพื่อภาพลักษณ์ตัวเองดูดี ใครจะตาย ใครจะฉิบหายกูไม่ว่า ปากก็บอกว่าอยากจะอย่างโน้นอย่างนี้ ลึกๆ แอบไปจับมือกัน เหยียบเท้ากัน มีตัวกลางเดินประสานงานระหว่างทักษิณกับพรรคประชาธิปัตย์ คุยกันเรียบร้อยแล้ว โธ่ไอ้พรรคของปลอม”
โดยนางจินดารัตน์ ได้นัดหมายให้มาชุมนุมในวันที่ 25 วันอังคาร ที่สะพานมัฆวานฯ ตั้งแต่บ่ายสองเป็นต้นไป โดยนายสนธิ กล่าวว่า “ไม่ให้เสียชาติเกิด สู้เพื่อไม่ให้เสียชาติเกิด”
ยกกรณีชาติอาเซียนและจีนเสือแย่งเกาะสแปรตลีย์เพราะมีทรัพยากร ไม่เหมือนรัฐบาลไทย
นอกจากนี้ นายสนธิ ได้กล่าวถึง หมู่เกาะสแปรตลีย์ ว่า เป็นหมู่เกาะในทะเลจีนใต้ เป็นเกาะเล็กเกาะน้อย มีปะการัง ไม่มีอะไรน่าท่องเที่ยว ไม่มีอะไรเลย เป็นเกาะเล็กๆ ประมาณ 190 เกาะ ไม่มีมนุษย์อยู่ แต่เข้าใจว่ามีแหล่งพลังงานธรรมชาติ ทรัพยากรธรรมชาติสูงมาก จีนสำรวจแล้วว่าน่าจะมีปิโตรเลียมถึง 17.7 ล้านล้านตัน สูงมาก มี 6 ประเทศที่อ้างสิทธิในหมู่เกาะนี้ ไม่ว่าจะเป็นบรูไน ก็เอากับเขาด้วยนะ
ประเทศ เล็กๆ มาเลเซีย จีน ไต้หวัน ญี่ปุ่น ฟิลิปปินส์ เวียดนาม เพราะฉะนั้นทุกคนอ้างสิทธิ์หมดเลย แล้วเวียดนามเคยเข้าไปสร้างป้อมทหาร จีนในปี 2517 ยกกองทัพไปขับไล่ออก ขับไล่เวียดนามออกไปเลย แต่ตัวป้อมตังอยู่ เวียดนามแก้เผ็ดด้วยการจัดทัวร์ มาทุกๆ 8 วัน พาทัวร์มาดูป้อม ฟิลิปปินส์ก็ต้องการ จีนก็ไปไล่ทหารฟิลิปปินส์ออก ฟิลิปปินส์ก็ประกาศ บอกถ้าล้ำเขตเข้ามาฟิลิปปินส์สู้ ถึงแม้ว่าจีนจะเป็นประเทศที่มีแสนยานุภาพที่ใหญ่ที่สุดหนึ่งในโลก และฟิลิปปินส์มีแสนยานุภาพที่อ่อนแอที่สุด เราก็จะสู้ ฟิลิปปินส์ใจใช้ได้นะหัน หน้าไปพึ่งพาสหรัฐฯ เวียดนามไปพึ่งพาสหรัฐฯ เวียดนามถึงเปิดซ้อมรบกับสหรัฐฯ แล้วฮิลลารี คลินตัน ถึงกับออกมาประกาศว่า ทะเลจีนตอนใต้ ไม่ใช่พื้นที่ของใครคนใดคนหนึ่ง จีนก็สวนกลับเหมือนกัน ว่า คุณไม่ได้อยู่ทะเลจีนตอนใต้ อย่า ส ใส่ เกือก เพราะฉะนั้นแล้ว พูดถึงพรมแดนที่ดินแล้ว ทุกคนใจเสือ มีประเทศไทยใจหมา รัฐบาลใจสุนัข ใจหมาจริงๆ นี่ผมพูดอย่างลูกผู้ชาย อย่างนักเลงเลย รัฐบาลชุดนี้ใจหมา หมาขี้เรื้อนด้วย เพราะฉะนั้นแล้ว ผมคิดว่าใช้ไม่ได้ ขนาดหมู่เกาะสแปรตลีย์ 6 ประเทศนี่เขาฟัดกัน จนกระทั่งไม่หยุดไม่หย่อน
นายสนธิกล่าวต่อว่า รัฐบาลจีน ไม่มีใครยอมใคร ญี่ปุ่นจับลูกเรือจีน 16 คน พร้อมกัปตัน ข้อหาขับเรือไปชนเรือญี่ปุ่น ในเรื่องกรณีพิพาทหมู่เกาะสแปรตลีย์ จะเอาขึ้นศาล จีนยื่นโนติสเลยว่า ถ้าเอาลูกเรือจีนขึ้นศาล มีเรื่องทันที ญี่ปุ่นปล่อยทันทีเลย ปล่อยลูกเรือหมด ยกเว้นกัปตัน จีนบอก ถ้าไม่ปล่อยกัปตันก็มีเรื่อง หลังจากนั้น ญี่ปุ่นปล่อยกัปตัน เพราะจีนเขาไม่ยอม เพราะว่าถ้าญี่ปุ่นเอาลูกเรือเขาไปขึ้นศาลที่ญี่ปุ่น แสดงว่า ญี่ปุ่นมีอำนาจอธิปไตยเหนือเกาะ เขายังคิดเป็นเลย แล้วพื้นที่หมู่เกาะสแปรตลีย์ มีบริษัทเชฟรอน ไปได้สัมปทานกับประเทศไหนไม่รู้ กำลังขุดเจาะน้ำมัน จีนเอาเรือรบไล่เลยนะ มาจอด แล้วบอกว่า ให้ออกจากแท่นขุดเจาะเดี๋ยวนี้ เพราะนี่คือพื้นที่ของจีน ถ้าไม่งั้น เรือปืนจะยิงถล่มแท่นเจาะ ฝรั่งเก็บข้าวของไปหมดเลย แล้วฝรั่งก็บอกว่า ให้มันตกลงกันเสร็จเรียบร้อยก่อน ทั้ง 6 ประเทศแล้วกูค่อยมาขุดเจาะน้ำมัน
ฉุนนักวิชาการโปรข้ามพรมแดนเป็นพวกหลงเงิน กราบตีนฝรั่ง รับเงินมาอัด พธม. ว่าคลั่งชาติ
นายสนธิกล่าวต่อไปว่า “แล้วใครบอกว่า พื้นที่ประเทศไม่สำคัญ ใครบอก ไอ้นักวิชาการซังกะบ๊วย ที่รับจ้างกระทรวงการต่างประเทศ มาบอกว่า มาพูดทำนอง ที่เรียกว่า ข้ามชาติ ไม่มีพรมแดนแล้ว ไร้พรมแดนแล้ว มีพวกนี้ รับเงินเขามา 7 ล้านกว่า หาว่าพวกเราคลั่งชาติ”
นางจินดารัตน์ กล่าวว่า “อ.ณรงค์ เพ็ชรประเสริฐ ก็ออกมาตอบโต้ว่า มันเป็นวลีที่จ้าวล่าอาณานิคมทั้งหลายพยายามปั้
สนธิ กล่าวต่อไปว่า “ไอ้พวกอาจารย์ที่ใช้คำพูดว่า คลั่งชาติ และก็โลกไร้พรมแดน คือไอ้พวกที่หลงฝรั่ง พวกนี้พวกกราบตีนฝรั่ง หลงเงินแน่นอนที่สุด รับเงินรับทองมา ไอ้ที่น่าเจ็บใจที่สุด คือกระทรวงการต่างประเทศ ซังกะบ๊วย”
นายสนธิกล่าวด้วยว่า ผมนี่อยากให้พวกเราเดินขบวน และเอาป้ายไปปิดหน้ากระทรวงการต่างประเทศ และเขียนเป็นภาษาเขมร กระทรวงการต่างประเทศกัมพูชา มันไม่เคยคิดอะไรเลย ที่จะปกป้องอธิปไตยไทย มันเล่นเป็นดนตรีวงเดียวกันหมดเลยนะ บอกนี่เป็นของเขมร เปลี่ยนป้ายซะเลยดีกว่าว่าเป็นกระทรวงการต่างประเทศของกัมพูชา ไล่มันตั้งแต่ปลัดเลย นอกจากนี้ นายสนธิยังโจมตีข้าราชการกระทรวงการต่างประเทศรายหนึ่งว่า "หน้าหม้อ"
เปรียบพิพาทดินแดน เหมือนเข้าไปสร้างส้วมในที่คนอื่น ย้ำชุมนุม 25 ม.ค. ไม่ต้องใส่สีเหลือง
นายสนธิ ยังเปรียบเทียบเรื่องข้อพิพาทชายแดนไทย-กัมพูชา โดยนางจินดารัตน์ ตั้งต้นว่า มีคนบอกว่าข้อพิพาทมันเป็นเรื่องยาก และไกลตัว เสียดินแดนนิดหน่อยเป็นไรไป โดยนายสนธิตอบว่า “ไอ้คนที่พูด มาพูดให้ผมฟังหน่อยนะ แล้วบอกว่า บ้านคุณอยู่ที่ไหน” นางจินดารัตน์ ถามว่า “ทำไมคะ จะไปทำไรเขาคะ”
นายสนธิตอบว่า “ไม่ ผมจะไปสร้างบ้านไปในพื้นที่บ้านมันไง นิดหน่อย ไม่ต้องมาก ปลูกส้วมอันหนึ่งก็พอ นิดหน่อยไง เสียดินแดนนิดหน่อย เข้าใจยัง”
โดยนายสนธิกล่าวถึงการชุมนุมวันที่ 25 นี้ว่า งานนี้ไม่มีแกนนำ งานนี้คนรักชาติมาเพื่อไม่ให้เสียชาติเกิด ทุกคนเจ้าภาพหมด ไม่มีแกนนำ ไม่รู้นะส่วนตัวผมคิดอย่างนี้ ทุกคนเป็นแกนนำหมด ชาติบ้านเมืองไม่มีใครคนใดคนหนึ่งเป็นเจ้าของ ทุกคนเป็นเจ้าของหมด
นางจินดารัตน์ กล่าวว่า “ไม่มีสีเสื้อนะคะ คุณผู้ชม” นายสนธิตอบว่า “ไม่มีสีเสื้อ มาเลย”
นางจินดารัตน์ กล่าวว่า “จะใส่เสื้อสีอะไรมาก็ได้ ไม่จำเป็นต้องเป็นสีเหลือง อยากเป็นเสื้อสีอะไรก็ใส่มา วันนั้น จะเป็นวันที่คนไทยทั้งชาติจะออกมาร่วมปกป้องแผ่นดิน เพราะว่า รัฐบาล และคนที่รับผิดชอบเขาไม่ทำ เป็นหน้าที่ของเราแล้ว ออกมากันเยอะๆ คะ แสดงพลังให้คนที่ชอบรักษาหน้าให้รู้ว่า เกิดอะไรขึ้นกับบ้านนี้เมืองนี้ จะอยู่ในตำแหน่งกันไปอีกนานแค่ไหน เพื่อประโยชน์คนกลุ่มเดียว”
เผยสู้กับอภิสิทธิ์เป็นเรื่องเหน็ดเหนื่อย เพราะรูปหล่อหน้าตาดี แม่ยกพ่อหลายคนยังเชื่อ
ในช่วงท้ายรายการ นายสนธิ กล่าวถึงการที่เขาเคยสนับสนุนรัฐบาลทักษิณ รัฐบาลสุรยุทธ์ และรัฐบาลอภิสิทธิ์ และต่อมาเปลี่ยนเป็นคัดค้านว่า
“พล.อ.สุรยุทธ์ ผมก็สนับสนุนเขาตอนแรก จนตอนหลัง ผมเห็นว่าเขามีวาระซ่อนเร้นเรื่องเกี่ยวกับกรณีที่แอบประนีประนอมกับทักษิณ ผมก็เลยสู้เขา คุณอภิสิทธิ์ แรกๆ หลายคน พวกคุณก็ว่าผม คุณประพันธ์ คุณมี ยังว่าผมเลย พี่เชียร์อภิสิทธิ์อยู่เรื่อย บอกผมไม่ได้เชียร์เขา แต่ผมให้โอกาสเขาทำงาน ผมยังเคยพบเขาตั้ง 3-4 ครั้งเป็นการส่วนตัว แล้วแนะนำเขา ตอนหลังถึงรู้ว่าเขาไม่ฟังคำแนะนำเลย เขาเพียงแต่ต้องการแสดงออกว่าเขาคุยกับผมได้เท่านั้นเอง เรื่องอื่นเขาไม่สนใจ เมื่อเรื่องอื่นเขาไม่สนใจแล้วจะทำอย่างไรได้ ผมเห็นว่าไม่ไหวแล้วโดยเฉพาะอย่างยิ่งหลายกรณี การคอร์รัปชั่นของเขา การที่เขาปราบเสื้อแดงที่ราชประสงค์โดยเขาไม่แสดงความกล้าหาญ การที่เขาให้ทหารไปตายแล้วเขาหันกลับมาเล่นงานทหารอีกครั้ง การที่เขาเห็นฮุน เซนเป็นพ่อ แล้วการซึ่ง ส่วนตัวผมยังไม่ถือที่มีคนยิงผมแล้วเขาไม่ทำอะไร ผมยังเฉยๆ ยังเก็บเอาไว้ในใจ
เมื่อผมเห็นอย่างนี้แล้ว เขาไปไม่ได้แล้วงานนี้ เขาจะมาหลอกคนไทยอย่างนี้ต่อไปไม่ได้ แล้วการสู้กับเขานี่เหน็ดเหนื่อย เพราะภาพเขาดี เขารูปหล่อ เขาหน้าตาดี แม่ยกพ่อยกหลายคนยังเชื่อเขาอยู่โดยไม่ดูเนื้อหาสาระที่แท้จริง แรกๆ ทุกคนบอกว่า แหมเห็นใจเขานะเขาต้องอยู่พรรคร่วม ไปๆ มาๆ ผมเห็นการกระทำของเขา การกระทำของคุณสุเทพ เทือกสุบรรณ แล้วผมมีความรู้สึกว่า 2 คนนี้จับมือกัน แบ่งกันเล่นคนละบท สุเทพเล่นบทผู้ร้าย อภิสิทธิ์เล่นบทผู้ดี แต่จบลงที่จุดเดียวกัน เหมือนกันหมด ผมเห็นเขาเริ่มโกหก แล้วจับได้ทีละข้อ จริงๆ แล้วเร็วๆ นี้ผมจะออกคำถาม 30 ข้อให้เขาตอบ เหมือนกับที่ผมออกให้กับคุณทักษิณตอบ แล้วคุณทักษิณไม่กล้าตอบ ผมว่าจะทำเร็วๆ นี้ ผมว่า จะถามคุณประพันธ์เลย ว่าคุณเจิมศักดิ์ เขาทำเรื่องรู้ทันทักษิณได้ แล้วคุณเจิมศักดิ์จะไม่มีวันที่จะทำรู้ทันอภิสิทธิ์หรอก งั้นคุณประพันธ์ กับคุณปานเทพ ช่วยทำให้หน่อยได้ไหม รู้ทันอภิสิทธิ์ ใช่ไหม”
“ประเด็นสำคัญที่สุดที่ผมเห็นคือ ไม่มีใครหรอกที่เป็นที่ คือ รู้จักคน รู้จักหน้า ไม่รู้จักใจ เห็นคนหน้าตาดี พูดเพราะ การศึกษาดี ไม่ได้แปลว่าเขาไม่ได้เป็นคนชั่วร้าย ต้องดูการกระทำของเขา ใช่ไหม ผมพูดตั้งนานแล้วว่า นักการเมือง คือประเทศไทย ปัญหาทุกปัญหาแก้ได้หมด ถ้าเอาส่วนรวมตั้ง เขมร ถ้าเอาประเทศชาติเป็นตัวตั้งแก้ได้หมด เพราะถ้าเรายกเลิก MOU2543 เหตุผลเพราะว่า การจับคนไทย 7 คนนี้เสร็จเรียบร้อยแล้ว เราก็ดำเนินนโยบายยกเลิก MOU2543 เขมรก็จดทะเบียนมรดกโลกไม่ได้ เมื่อจดทะเบียนมรดกโลกไม่ได้ เราก็บอกให้ชุมชนเขมรที่อยู่ออกไปซะ”
สนธิชี้การชุมนุม 25 ม.ค. ไม่มีครั้งไหนยิ่งใหญ่เท่าครั้งนี้ สู้ทักษิณเรื่องเล็กไปแล้ว
โดยนายสนธิ กล่าวท้ายรายการว่า “ก็ 25 นี้ เป็นวันที่ สำหรับผมแล้ว คือการไม่ให้เสียชาติเกิด ผมคิดว่า พี่ลองพูดถูก การต่อสู้ของพวกเรา หลายๆ เรื่อง ลูกเจ๊กลูกจีน คนหัวเกรียนอย่างพี่ลองมาสู้ทำไม แต่ในที่สุดแล้วมันทนไม่ไหว เพราะมันเกิดเป็นคนไทย แต่การต่อสู้ตลอดเวลา ตั้งแต่ต้นจนถึงวันนี้ ไม่มีครั้งไหนยิ่งใหญ่เท่าครั้งนี้ สู้กับทักษิณ ยังไม่ยิ่งใหญ่เท่าสู้เรื่องดินแดนประเทศไทย สู้กับทักษิณเรื่องเล็กไปแล้วนะ สู้วันที่ 25 เป็นการสู้ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิตการต่อสู้ เพราะว่าเราสู้เพื่อประเทศจริงๆ เราสู้เพื่อไม่ให้เสียชาติเกิด เราสู้เพราะเราไม่ยอม ที่จะสยบภายใต้สถุนอย่างฮุน เซน และเราสู้เพื่อไม่ให้คนในรัฐบาลของเราไปสมรู้ร่วมคิดกับกุ๊ยอย่างฮุน เซน ไปแอบขายชาติให้ฮุน เซน เราสู้เพื่อชาติจริงๆ งวดนี้ เลยอยากให้พ่อแม่พี่น้องออกมากันเยอะๆ สู้กันนานๆ งานนี้ ถึงไหนถึงกัน”
โดย นางจินดารัตน์ กล่าวเสริมว่า เราก็จะไปพบกันตอนบ่ายสองที่สะพานมัฆวาน พบกับคุณลุงจำลอง ที่ประกาศแล้วว่า ไม่ถอย ไม่เลิก งานนี้อยู่กันยาว เตรียมตัวมาให้พร้อม อย่าลืมกระเป๋ายังชีพของเราด้วยนะคะ ที่เราเคยมาร่วมชุมนุม โดยนายสนธิ ตอบว่า “แต่ละคนมีประสบการณ์อยู่แล้ว” ส่วนนางจินดารัตน์ ทิ้งท้ายว่า “ใช่ค่ะ คงไม่ต้องบอกว่าต้องเตรียมอะไรมาบ้าง”
ที่มา: เรียบเรียงจาก เอเอสทีวีผู้จัดการออนไลน์