บล็อคข่าวส่งเสริมคนดี (รักดีหามจั่ว รักชั่วหามเสา หามจั่วก็หนักนะ)

ข่าวจากสื่อ

บทความจากสื่อ

วันอังคารที่ 2 กันยายน พ.ศ. 2551

ยุทธการสุดท้าย ของพันธมิตร ทุ่มสรรพกำลังทุกอย่าง หากไม่ชนะก็ละลายทั้งกองทัพ


บทความ โดย ลูกชาวนาไทย

หากใครศึกษาตำราพิชัยสงคราม ของทั้งซุนหวู และเคล้าเชวิตซ์ ที่เป็นตำราพิชัยสงครามชั้นนำของโลก จะพบว่า สถานะการณ์ของ กลุ่มพันธมิตร ในขณะนี้เหมือนกับการ "ติดกับดักสงคราม" ถอยก็ไม่ได้ บุกไปข้างหน้าก็ไม่ได้ รอวันที่กองทัพจะค่อยๆ ถูกละลายไปทีละเล็กละน้อย โดยไม่ได้มีโอกาสรบกับศัตรูเลย

ต้องเผชิญกับสภาพอากาศที่เคี่ยวกรำ จนนักรบที่ฮึกเหิมอย่างนักรบศรีวิชัย ค่อยๆ อ่อนกำลังลงไปเรื่อยๆ เพราะไม่มีวี่แววข้าศึกออกมาให้รบแตกหักสักที ตั้งกระบวนรบรอคอย เมื่อได้ยินเสียงโห่ร้อง หรือกลองศึกจากกองทัพของศัตรู แต่ก็เปล่า ไม่มีศัตรูสักคนโผล่มาให้เห็น สภาพเช่นนี้ จะทำให้กองทัพที่ฮึกเหิม ค่อยๆ อ่อนล้าลงไปเรื่อยๆ เพราะไม่รู้ว่ากำลังรบกับใคร

จะรบแตกหัก ก็ไม่รู้จะรบกับใคร

นายสนธิ ลิ้มทองกุล เคยประกาศในสัปดาห์ที่แล้วว่า "หากพวกเราสามารถยื้อได้จนถึงวันอาทิตย์ พวกเราก็ชนะอย่างแน่นอน" แต่เมื่อถึงวันอาทิตย์ก็ไม่มีวี่แววว่าจะชนะ จนขณะนี้ขึ้นอาทิตย์ใหม่แล้ว ชัยชนะก็ยังมองไม่เห็น หรือมีวี่แววว่าจะมองเห็นเลย

ตอนนี้ทำเนียบรัฐบาล ที่ึิคิดว่าเป็น "ชัยภูมิเผด็จศึก" ก็กลายเป็น "ชัยภูมิมรณะ" ที่เข้าไปยึดแล้่วถอนออกมาไม่ได้ แกนนำ เหมือนกับโดนล่อให้ไปติดกับดัก ในพื้นที่แคบๆ แ้ล้วถูกขังอยู่ในนั้น ออกมาไม่ได้ เพราะโดนชะนักติดหลังเรื่องหมายศาล "ข้อหากบฎในราชอาณาจักร" ที่เป็นข้อหาร้ายแรง มีโทษถึงประหารชีวิต หนักกว่าข้อหาต่างๆ ที่พยายามโยนให้ทักษิณอีก คาดว่าแกนนำทั้งเก้าคนจะลำบากไปอีกหลายปี

ตอนนี้ผมจึงไม่คิดว่ารัฐบาลของนายสมัคร สุนทรเวช จะเพลี้ยงพล้ำทางการเมืองแต่อย่างใด เพราะไม่มีประเด็นใดที่รัฐบาลต้องยอมทำตามข้อเรียกร้องของพันธมิตร ไม่ว่าจะเป็นการลาออกจากตำแหน่งนายกฯ หรือ การยุบสภา

เมื่อทหารไม่ทำรัฐประหาร ทุกอย่างก็ไม่ใช่แรงกดดันต่อรัฐบาล

การยึดทำเนียบของพันธมิตร ไม่ได้สร้างแรงกดดันให้รัฐบาลจนทำงานไม่ได้ ต้องรีบสลายม็อบในทันที

การเปิดสภา เพื่อให้มีการอภิปรายกันเมื่อวานนี้ ก็ทำให้ประชาชนเห็นกันอย่างจะจะว่า ใครบ้างที่สนับสนุนพันธมิตร ให้ก่อความวุ่นวายในบ้านเมือง จนเกิดวิกฤตอยู่ในขณะนี้



ตอนนี้ผมว่า พันธมิตร เร่งระดมสรรพกำลังทุกอย่างเข้าเผด็จศึก ในรูปแบบการกระทำที่แทนจะเรียกได้ว่า ค่อนข้างเสียสติแล้ว การบัญชาการรบเป็นไปอย่างสะเปะสะปะ สภาพเช่นนี้ เหมือนลูกธนูที่ปล่อยออกไปจนสุดกำลังแล้ว มีแต่จะตกลงไป เพราะหมดแรง การระดมกำลังรบอย่างแตกหักอย่างที่เห็นขณะนี้ เปรียบเสมือนว่าจะเป็น การรวบรวมเรี่ยวแรงครั้งสุดท้าย หากไม่ชนะ กองทัพก็ละลายไปเลย

การบุกยึดสนามบินภูเก็ตและหาดใหญ่ รวมทั้งการให้พนักงานรัฐวิสาหกิจ ตัดน้ำตัดไฟหรือหยุดงานประท้วงนับว่าเป็นการกระทำแบบสิ้นคิด ไม่ได้มีผลดีต่อการชักจูงมวลชนได้เลย

การกระทำเช่นนี้ ภายใต้เงื่อนไขที่ยังไม่สุขงอม จะทำให้กระแสตีกลับทันที

เพราะคนที่เดือดร้อนจริงๆ นั้นคือ คนที่สนับสนุนพันธมิตรนั่นเอง

เราจะเห็นได้ว่าการบุกยึดสนามบิน หรือการปิดถนนนั้น พันธมิตรและผู้สนับสนุน ไม่สามารถทำในภาคอื่นได้ เช่น ภาคอีสาน หรือภาคเหนือ เพราะไม่มีฐานมวลชนสนับสนุน หากขืนไปทำ อาจโดนตอบโต้ แบบที่เคยเกิดขึ้นในจังหวัดอุดรธานี กลุ่มพันธมิตรก็เลยต้องระดมมวลชนในพื้นที่ที่สนับสนุนตนเอง เพื่อปิดสนามบิน หรือปิดถนน หรือแม้แต่การหยุดเดินรถไฟ

แต่พันธมิตรคงลืมไปว่า การทำอย่างนั้น คนที่เดือดร้อนส่วนใหญ่คือ ฐานเสียงที่สนับสนุนตัวเองนั่นเอง

การปิดสนามบินนั้นเท่ากับการทำลายการท่องเที่ยวที่เป็นรายได้หลักของภาคใต้โดยตรง คนที่เดือดร้อน ไม่ใช่มวลชนที่เป็นฐานเสียงของพรรคพลังประชาชน แต่เป็นฐานเสียงของกลุ่มพันธมิตร หากพูดตรงๆ ก็คือ ฐานเสียงของพรรคประชาธิปัตย์ นั่นเอง

การประกาศเปิดตัว พล.อ.พัลลภ ปิ่นมณี ที่คิดว่าจะเป็นไม้เด็ด ปลอบใจสมัครพรรคพวกว่า เราได้นักรบอันดับหนึ่ง เข้ามาเป็นพวกแล้ว ต้องสามารถโจมตีรัฐบาลให้แตกกระจายได้แน่

แต่พันธมิตรหาได้ตระหนักไม่ว่า พล.อ.พัลลภ นั้นขึ้นชื่อในการใช้การรบนอกแบบ ซึ่งเหมาะที่จะทำกับศัตรูของประเทศมากกว่า ที่จะมาใช้ในสงครามมวลชน

ดังนั้น หากมีการระเบิด หรือมีการเผาสถานที่ใด แทนที่คนจะโทษรัฐบาลคนก็จะหันไปมอง พล.อ.พัลลภแทน เพราะประชาชนย่อมมีภาพในใจของตนอยู่



หากเราวิเคราะห์ลึกลงไปถึงองค์ประกอบของม็อบพันธมิตรแ้ล้ว แทบทั้งหมดเป็นคนที่สนับสนุนพรรคประชาธิปัตย์ และม็อบส่วนใหญ่ เป็นคนใต้+ฐานเสียง สส.ปชป. ภาคอื่นๆ เล็กน้อย+สาวกสันติอโศก

พูดให้ตรงๆ ความวุ่นวายทางการเมืองครั้งนี้มาจาก "คนภาคใต้ที่สนับสนุนประชาธิปัตย์ทั้งนั้น" มวลชนที่เข้าร่วมส่วนใหญ่ก็เป็นพวกพรรคประชาธิปัตย์ คนเหล่านี้ "เชียร์พรรคการเมืองของตนเอง" เพื่อให้แย่งอำนาจบริหารประเทศมาให้ได้ แต่ไม่สามารถได้มาด้วยวิถีทางประชาธิปไตย เพราะเสียงของ ปชป. ในภาคใต้ไม่พอที่จะชนะเลือกตั้ง คนภาคอื่นก็ไม่เอา ปชป. ดังนั้น อนาคตทางการเมืองของ ปชป. จึงไม่มี เมื่อเกิดความคับข้องใจมากๆ เข้า ก็สร้างความวุ่นวายไปทั่ว

ตอนนี้ ผมว่า ความเดือดร้อนทั้งหลายที่ พันธมิตร ก่อขึ้นจะส่งผลกระทบต่อคนที่สนับสนุน พธม.โดยตรง

เศรษฐกิจ ตกต่ำ "คนชั้นกลางในเมืองหลวง" จะได้รับผลกระทบมากที่สุด" แน่นอนมีบางส่วนที่เป็นจำนวนมากที่ไม่ได้สนับสนุน พธม. แต่ต้องถือว่าคนชั้นกลางกลุ่มใหญ่ทีเดียวที่สนับสนุน พธม.

การปิด สนามบินภาคใต้ ของ พธม. เท่ากับเป็นการ "ทุบหม้อข้าว" ของฐานเสียงพรรคประชาธิปัตย์เอง เพราะได้รับผลกระทบจากการท่้องเที่ยวอย่างเต็มที่ คนใต้ที่อยู่ในภาคธุรกิจการท่องเที่ยวรับไปเต็มๆ และผลเสียจะเกิดขึ้นอย่างยาวนาน คนก็จะไม่กล้าไปเที่ยวภาคใต้

แต่จะขึ้นเชียงใหม่ หรือ อีสานที่สงบสุขแทน

ดัง นั้น ผมจึงคิดว่า "คนเหนือและคนอีสาน" จะต้องปกป้องแหล่งทำมาหากินของตนเอาไว้ ไม่ใ้ห้ พันธมิตรไปก่อกวนให้ได้ หากจำเป็น "อุดรโมเดล" ก็เป็นสิ่งที่จำเป็น ไม่ต้องไปแคร์ฺอะไรกับคนชั้นกลาง และนักวิชาการที่สนับสนุน พันธมิตรทั้งสิ้น เมื่อโดนรุกราน ก็ต้องโจมตีตอบโต้

เศรษฐกิจในปีนี้ ผมคิดว่า "ราคาข้าว" ค่อนข้างดีพอสมควร ทำให้คนรากหญ้าส่วนใหญ่ไม่ได้รับความเืดือดร้อนมากมายนัก ยังพออยู่กันได้

คนยากจนใน กทม. เช่น มอร์เตอไซด์รับจ้างก็ปรับตัวได้ เช่น ไปรับส่งม็อบพันธมิตร ถือโอกาสรับทรัพย์ไป แปรวิกฤตให้เป็นโอกาส

ถึง อย่างไร ทหารก็ไม่ออกมาทำรัฐประหาร การเปลี่ยนแปลงทางการเมืองต้องเกิดขึ้นจากรััฐสภา ซึ่งเสียงส่วนใหญ่ โดนล็อกไว้หมดแล้ว จะยุบสภาอย่างไรมันก็เหมือนเดิม

ทหาร ไม่ใช่ผู้เล่นหลักอีั่กต่อไป แต่เป็นแค่ "ตาอยู่" แบบบรรหาร ที่ใครชนะก็เข้าข้างนั้น ดังนั้น ทหารก็ประเมินได้แล้วว่า ถึงอย่างไร พวกอำมาตยาธิปไตยก็ไม่ชนะ ทหารนั่งเฉยๆ ดีกว่า

การโยกย้ายก็พอใจ แล้ว งบลับ งบซื้ออาวุธก็ได้แล้ว ไม่มีอะไรที่ทหารอยากได้มากกว่านี้ เพราะทำรัฐประหารมา ก็เป็นนายกฯ ไม่ได้ แถมต้องรับบทหนังหน้าไฟอีก รบกับฝ่ายประชาธิปไตย และชาวโลกทั้งหลายอีก

สู้อยู่เฉยๆ ปล่อยให้ตีกันไปดีกว่า

สรุป ตอนนี้ สมัคร แค่รักษาตัวให้รอดไปในช่วงนี้ "อึดเ้ข้าไว้" ก็จะผ่านความโกลาหลไปได้


ปล่อยให้ พธม. แพ้ภัยตัวเองไปดีกว่า

ผมว่าสิ่งที่ฝ่ายประชาธิปไตย ควรทำในขณะนี้ จึงไม่ใช่การเร่งให้รัฐบาลสลายม็อบพันธมิตร แต่ให้ปล่อยไว้อย่างนั้น จนกว่าจะถึงเวลาที่เหมาะสม เพราะการสลายม็อบ ไม่เกิดประโยชน์ หากเงื่อนไขสงครามยังไม่หมด ม็อบก็ก่อตัวขึ้นมาได้เสมอ สู้ปล่อยให้ม็อบทำลายความชอบธรรมของตนจนหมดสิ้น ประชาชนไม่สนับสนุนดีกว่า เพราะจะทำให้ม็อบแพ้อย่างถาวร

ตอนนี้ผมว่าพวกเรา ชุมนุมกันเพื่อให้กำลังใจรัฐบาลดีกว่า เอาดอกไม้ ข้าวปลาอาหารไปให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ หรือชุมนุมตามศาลากลางต่างๆ เพื่อให้กำลังใจรัฐบาล เพื่อให้สังคมโลกเห็นว่า ประชาชนที่สนับสนุนรัฐบาลนั้นมีมากกว่าม็อบพันธมิตรที่ยึดทำเนียบอยู่อย่างผิดกฎหมาย

นี่จึงเป็นการ รุกทางยุทธศาสตร์ต่อกองทัพที่เสียความชอบธรรมอย่างพันธมิตร อย่างแท้จริง

จาก thaifreenews

ข่าวส่งเสริมคนดี

จำนวนผู้เข้าเยี่มมชม

link to affordable web hosting
Powered by web hosting provider .

สถิติการเข้าชม DMNEWS

eXTReMe Tracker